พูดถึงเรื่อง ผัก ผลไม้ ทั้งสด และไม่สด
อยากรักสุขภาพ กินผักผลไม้ = ยาฆ่าแมลง = ล้างน้ำยังไงก็ไม่ออกหรือออกไม่หมด ตกค้างอยู่ดี ต่อให้เบคกิ้งก็ตาม
มีคนบอกว่า เอ้า ก็ปลูกผักกินเองเลย ผลไม้ก็หาเมล็ดพันธ์ุมาปลูกสิ = ผิด = ปุ๋ยนี่ตัวต้นเหตุของสารเลย ซึมลงรากถึงระดับเซลล์
แล้วข้อเสียของมันคืออะไร = โรคร้าย มะเร็ง = หนีไม่พ้นอยู่ดี
คนมีอันจะกินแถวบ้าน สักปีนึงจะทานอาหารนอกบ้าน เพราะลูกหลานกลับมาเยี่ยม พากันออกไปกินข้างนอก ร้านหรูๆแพง อาหารสะอาด
สะอาดจริงหรือเปล่า ถ้าอยากรู้ ต้องเข้าไปเผือกในห้องครัวเชฟและการสั่งซื้อวัตถุดิบของร้านแล้วล่ะ แต่ใครจะกล้าขนาดนั้น
ทำอาหารกินเองด้วย ไม่ชอบกินอาหารนอกบ้าน ทุกอย่างต้องสะอาด ล้างแล้วล้างอีก = เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง
ผักโครงการที่ว่า ปลอดสาร ปลอดยา คุณแน่ใจได้ยังไงว่ามันปลอดสารจริง ยิ่งผักในห้าง เลิกฝันได้เลย โคตะระแหล่งสารพิษแต่ยังติดป้ายว่าปลอดสาร
จะบอกว่าจริงๆ มันมีสารหมด อยู่ที่ว่ามากน้อย อาศัยวิธีล้างผักเอา
ล้างเท่าที่ จะออกได้มากที่สุด หนีไม่พ้น เพราะยังไงก็ต้องกินเพื่อความอยู่รอด
พูดถึงเรื่อง เนื้อสัตว์
เนื้อหมู ไก่ จริงๆ เราว่าทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่ามันอันตรายหรือไม่อันตราย มีสารหรือไม่มีสาร
เมื่อประชากรบนโลกเพิ่มขึ้น (ถึงตอนนี้อัตราการเกิดจะลดลง)
มันก็ยังเยอะอยู่ดี มนุษย์ทั่วทุกมุมโลกกว่าเจ็ดพันล้านคน ต้องกิน
ทรัพยากรก็ต้องเร่งผลิตๆ ให้พอกับความต้องการ
แล้วอะไรล่ะ ที่จะเข้ามาตอบโจทย์ความต้องการนี้ ให้ดีมาน ซัพพลาย บาลานซ์กัน = สารเคมี เร่งการเจริญเติบโต
ง่ายๆ ขนาดประเทศพัฒนาแล้ว อย่าง สหรัฐอเมริกา ยังควบคุมเรื่องพวกนี้ไม่ได้เลย
กินอะไรก็คงต้องกินให้พอดีสินะ ไม่มาก ไม่น้อย ไม่เครียด
ทำอะไรที่ตัวเองอยากทำ ให้มีความสุขกับสิ่งที่ทำ
หลังเลิกงาน หรือหลังจากพักงาน หรือใครที่ทำงานกลางคืน
พาตัวเองไปพักผ่อน ให้ร่างกายได้พัก
หาเวลาออกกำลังกายทุกวัน อย่างน้อย 1 ชม ก็น่าจะดี
สุดแล้ว ร่างกายจะเป็นยังไง ป่วยด้วยโรคอะไร ถึงตอนนั้นทุกคนทำใจได้แน่นอน
รู้สึกว่าเดี๋ยวนี้อะไรก็มีอันตรายไปหมด บางทีก็ปลงบางทีก็กลัว
อยากรักสุขภาพ กินผักผลไม้ = ยาฆ่าแมลง = ล้างน้ำยังไงก็ไม่ออกหรือออกไม่หมด ตกค้างอยู่ดี ต่อให้เบคกิ้งก็ตาม
มีคนบอกว่า เอ้า ก็ปลูกผักกินเองเลย ผลไม้ก็หาเมล็ดพันธ์ุมาปลูกสิ = ผิด = ปุ๋ยนี่ตัวต้นเหตุของสารเลย ซึมลงรากถึงระดับเซลล์
แล้วข้อเสียของมันคืออะไร = โรคร้าย มะเร็ง = หนีไม่พ้นอยู่ดี
คนมีอันจะกินแถวบ้าน สักปีนึงจะทานอาหารนอกบ้าน เพราะลูกหลานกลับมาเยี่ยม พากันออกไปกินข้างนอก ร้านหรูๆแพง อาหารสะอาด
สะอาดจริงหรือเปล่า ถ้าอยากรู้ ต้องเข้าไปเผือกในห้องครัวเชฟและการสั่งซื้อวัตถุดิบของร้านแล้วล่ะ แต่ใครจะกล้าขนาดนั้น
ทำอาหารกินเองด้วย ไม่ชอบกินอาหารนอกบ้าน ทุกอย่างต้องสะอาด ล้างแล้วล้างอีก = เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง
ผักโครงการที่ว่า ปลอดสาร ปลอดยา คุณแน่ใจได้ยังไงว่ามันปลอดสารจริง ยิ่งผักในห้าง เลิกฝันได้เลย โคตะระแหล่งสารพิษแต่ยังติดป้ายว่าปลอดสาร
จะบอกว่าจริงๆ มันมีสารหมด อยู่ที่ว่ามากน้อย อาศัยวิธีล้างผักเอา
ล้างเท่าที่ จะออกได้มากที่สุด หนีไม่พ้น เพราะยังไงก็ต้องกินเพื่อความอยู่รอด
พูดถึงเรื่อง เนื้อสัตว์
เนื้อหมู ไก่ จริงๆ เราว่าทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่ามันอันตรายหรือไม่อันตราย มีสารหรือไม่มีสาร
เมื่อประชากรบนโลกเพิ่มขึ้น (ถึงตอนนี้อัตราการเกิดจะลดลง)
มันก็ยังเยอะอยู่ดี มนุษย์ทั่วทุกมุมโลกกว่าเจ็ดพันล้านคน ต้องกิน
ทรัพยากรก็ต้องเร่งผลิตๆ ให้พอกับความต้องการ
แล้วอะไรล่ะ ที่จะเข้ามาตอบโจทย์ความต้องการนี้ ให้ดีมาน ซัพพลาย บาลานซ์กัน = สารเคมี เร่งการเจริญเติบโต
ง่ายๆ ขนาดประเทศพัฒนาแล้ว อย่าง สหรัฐอเมริกา ยังควบคุมเรื่องพวกนี้ไม่ได้เลย
กินอะไรก็คงต้องกินให้พอดีสินะ ไม่มาก ไม่น้อย ไม่เครียด
ทำอะไรที่ตัวเองอยากทำ ให้มีความสุขกับสิ่งที่ทำ
หลังเลิกงาน หรือหลังจากพักงาน หรือใครที่ทำงานกลางคืน
พาตัวเองไปพักผ่อน ให้ร่างกายได้พัก
หาเวลาออกกำลังกายทุกวัน อย่างน้อย 1 ชม ก็น่าจะดี
สุดแล้ว ร่างกายจะเป็นยังไง ป่วยด้วยโรคอะไร ถึงตอนนั้นทุกคนทำใจได้แน่นอน