แมงกะพรุน - ที่สุดในโลก

By titipan

เคยเห็นไหม!  เข็มพิษแมงกะพรุน ที่หลายคนเคยถูกต่อยปวดแสบปวดร้อน


ใครหลายคนที่ชอบเที่ยวทะเลน่าจะเคยมีประสบการณ์ ปวดแสบปวดร้อน จากการโดน แมงกะพรุน  สัตว์ที่เหมือนวุ้นใสในทะเลทิ่มแทงเข็มพิษเข้าใส่ ความเจ็บปวดนั้นยังคงตราตรึ่งแต่จะมีสักกี่คนที่เคยได้เห็นต้นตอของความเจ็บปวดนั้น วันนี้เราจึงจะพาไปดู เข็มพิษแมงกะพรุน นี่และที่มาของความเจ็บปวด
 
แมงกะพรุนนั้นจริงๆ มันไม่ได้เป็นสัตว์ที่มีใจประสงค์ร้ายกับคนเราเลยแม้แต่น้อย แต่การต่อยปล่อยพิษนั้นเป็นเพียงแค่สัญชาติญานของการป้องกันตัวเท่านั้น และมันก็ใช้สิ่งนี้ล่าอาหารด้วยเช่นกัน พวกมันจะเก็บความร้ายกาจเอาไว้ที่หนวด มันไม่ได้มีพิษที่ผิวหนัง แต่ว่าที่หนวดจะมีเข็มพิษซ่อนอยู่ ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า แถมการปล่อยเข็มออกมาฉีดพิษก็รวดเร็วในเสี้ยววินาทีเท่านั้น จึงไม่ค่อยได้เห็นกัน แต่เมื่อมันถูกนำมาศึกษาเราจึงได้เห็นกันชัดๆ  ด้วยการกระตุ้นหนวดด้วยกระแสไฟฟ้า ก่อให้เกิดปฏิกิริยาตอบสนอง มันจึงปล่อยเข็มพิษออกมาให้เราได้เห็น

หลังจากที่มันรับรู้ถึงอันตราย เซลล์เข็มพิษจะถูกกระตุ้นให้ปล่อยพุ่งออกมาเหมือนกับลูกดอก จากนั้นจึงทำการปล่อยพิษ  Neurotoxin ที่มีผลกับระบบประสาทออกมา ทำให้เหยื่อเป็นอัมพาต สัตว์น้ำขนาดเล็กที่ถูกพิษนี้ต้องจบชีวิต แต่สำหรับมนุษย์ มีเพียงความปวดแสบ ปวดกล้ามเนื้อ และอาจจะมีไข้ด้วยเท่านั้น ไม่เป็นมีอันตรายถึงชีวิต

แต่พิษที่ร้ายแรงขึ้นอยู่กับขนาดและชนิดของแมงกะพรุนด้วยนะครับ ทางทีดีห่างจากเจ้าชนิดที่มีพิษรุนแรงเอาไว้ดีกว่า
ที่มา :  SmarterEveryDay
 

 TURRITOPSIS NUTRICULA แมงกะพรุนที่สามารถย้อนวัยได้


จะดีแค่ไหนหากคนเรานั้นสามารถย้อนวัยของตัวเองให้กลับไปเป็นหนุ่มสาวแรกเริ่มได้  ถ้าทำได้โลกนี้จะไม่มีคนแก่อีกต่อไปแน่นอน  ฟังดูอาจจะเหมือนเพ้อฝัน แต่ว่าบนโลกใบนี้มีสิ่งมีชีวิตที่สามารถทำแบบนั้นได้จริงๆ  ซึ่งมันก็คือ  แมงกะพรุน Turritopsis Nutricula  สายพันธุ์นี้แหละ
 
 แมงกะพรุน  Turritopsis Nutricula นั้นมีชื่อเรียกทั่วไปว่า hydrozoan  มันเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวบนโลกใบนี้ที่สามารถย้อนวัยตัวเองให้กลับไปเป็นหนุ่มสาววัยรุ่นได้ โดยอาศัยวิธีการที่เรียกว่า cell development process of transdifferentiation  โดยนักวิทยาศาสตร์นั้นเชื่อว่า ขึ้นตอนของการย้อนวัยในแมงกะพรุนชนิดนี้จะเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยหากมันไม่ถูกล่า ถูกกินหรือไม่ประสบเคราะห์ร้ายใดๆ พวกมันจะเป็นอมตะ ได้เลย โดยไร้ซึ่งอายุไข เหมือนแมงกะพรุนสายพันธุ์อื่นและสิ่งมีชีวิตอื่นๆ บนโลกใบนี้

ไม่แน่ว่าอนาคตอาจจะมีการศึกษาแมงกะพรุน Turritopsis Nutricula และนำวิธีการย้อนไว้ของมันมาใช้กับคนให้ย้อนวัยได้เหมือนพวกมัน 
ที่มา  : สำรวจโลก
 

 HALITREPHES MAASI แมงกะพรุนแสนสวยแห่งท้องทะเลลึก


ว่ากันว่ามนุษย์เรานั้นรู้จักอวกาศดีกว่าใต้ผืนน้ำอันกว้างใหญ่ของมหาสมุทรเสียอีก ซึ่งคำๆ นี้บอกเลยว่าจริงๆ มนุษย์เราสำรวจใต้ทะเลลึกและศึกษามันได้น้อยมากๆ เมื่อเทียบกับความรู้เกี่ยวกับอวกาศและดวงดาวแล้วถือว่าห่างไกลเหลือเกิน แต่ก็ยังมีความพยายามอยู่เรื่อยๆ  และเชื่อว่าในอนาคตเราจะได้รู้จักทะเลของเรามากยิ่งขึ้นกว่านี้และได้เห็นสัตว์หน้าตาแปลกๆ อีกมาก 
 
เมื่อทางด้านของทีมนักวิจัยจาก EVNautilus ได้ค้นพบ แมงกะพรุนทะเลลึกหายาก บันทึกภาพได้โดยเรือสำรวจ มันมีชื่อว่า Halitrephes maasi  โดยพบที่ระดีบความลึก  1225 เมตร บริเวณนอกชายฝั่งเกาะเรบียาคีเคโด คาบสมุทรบาฮากาลีฟอร์เนีย ในรัฐโกลีมา ของประเทศเม็กซิโก มันเป็นแมงกะพรุนที่มีสีสันสวยงามากๆ ราวกับดอกไม้ไฟหรือพลุไฟที่กำลังเปล่งประกายสีสันบนท้องฟ้าเลยทีเดียว 

 ทั้งนี้แมงกะพรุนโดยทั่วไปจะมีลำตัวเป็นน้ำถึงร้อยละ 94-98  ตัวข้างบนเป็นลักษณะครึ่งวงกลมคล้ายร่ม ด้านล่างเป็นหนวดและอวัยะที่ทำน่าที่กินอาหาร พบได้ทุกๆ ที่ของมหาสมุทรของโลก แต่เจ้าตัวนี้ไม่ค่อยจะมีคนได้เห็นเท่าไหร่นัก
ที่มา : สำรวจโลก

LION’S MANE JELLYFISH หนึ่งในแมงกะพรุนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก


 
นี่คือ Lion’s mane jellyfish หรือ แมงกะพรุนแผงคอสิงโตพวกมันมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Cyanea capillata ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในแมงกะพรุนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยสถิติที่เคยพบนั้นมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 2.3 เมตร หนวดยาวอีกกว่า 37 เมตร  เป็นสายพันธุ์ที่มีความเก่าแก่ อยู่บนโลกของเรามากว่า 650 ล้านปีมาแล้วด้วยน่ะครับ พวกมันมีสีสันตั้งแต่แดงไปจนถึงม่วง 

สถานที่พบ : บริเวณน้ำเย็น เช่น ทะเลอาร์กติก แปซิฟิกเหนือ แอตแลนติกเหนือ
นี่คือสกุลของแมงกะพรุนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เจ้าของหนวดยาวรุงรังนับร้อยเส้น ซึ่งอาจยาวได้ พอๆ กับวาฬสีน้ำเงินเลยทีเดียว
บางชนิดในแอตแลนติกเหนือมีร่มกว้างถึง 3 เมตร แต่แม้ว่ามันจะมีขนาดมหึมาน่าเกรงขาม แต่เจ้าวุ้นสิงโตกลับไม่เป็นอันตรายต่อคนอย่างที่คิด ด้วยพิษที่ไม่แรงมาก (แต่ก็แสบๆ คันๆ เหมือนกัน) ยกเว้นบางชนิดที่พบแถวเกาะอังกฤษ สายพันธุ์ C. capillata ที่สามารถทำให้คนถึงแก่ความตายได้ และเจ้านี่ก็เคยรับบทเป็นฆาตรกรในเรื่องเชอร์ล็อกโฮล์มมาแล้ว

อ้างอิง: หนังสือ Jellyfish: A Natural History (เขียนโดย Lisa-ann Gershwin)Series Navigation
ที่มา : สำรวจโลก

แมงกะพรุนโนะมุระ หนึ่งในสายพันธุ์แมงกะพรุนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก


แมงกะพรุนโนะมุระ (ภาษาญี่ปุ่น) หรือ  Nomura’s jellyfish เจ้าของสถิติความใหญ่จนจัดว่าเป็นหนึ่งในสายพันธุ์แมงกะพรุนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เลยทีเดียว
Nomura’s Jellyfish แมงกะพรุนโนมูร่า เป็นสายพันธุ์ แมงกะพรุนยักษ์ พวกมันท่องอยู่ในทะเลของญี่ปุ่น เกาหลี และประเทศจีน ด้วยขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางกว่า 2 เมตร น้ำหนักกว่า 200 กิโลกรัมเท่ากับสิงโตตัวผู้ อาศัยอยู่ตามชายฝั่งทะเลของจีน เรื่อยไปถึงชายฝั่งทะเลของเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ บางครั้งมันอาจว่ายไปทางตะวันออก คือทะเลญี่ปุ่นบ้าง เพื่อไปกินแพลงตอนอาหารจานโปรดของมัน
 
แมงกะพรุนโมมูร่า จึงเป็น 1 ในสายพันธุ์ แมงกะพรุน ตัว ใหญ่ที่สุดในโลก ร่วมกับ แมงกะพรุน Lion’s mane jellyfish แต่ตอนนี้แมงกะพรุนโนมูร่า กำลังสร้างปัญหาแก่ชาวประมงอย่างมาก  ชาวประมงญี่ปุ่น พบเห็นกะพรุนโนมูระมากกว่าเดิมถึง 100 เท่าอวนหาปลาที่ลากเจ้าโนมูระขึ้นมาต่างขาดเสียหายยับเยินเพราะมันมีน้ำหนักตัวมาก พิษของโนมูระยังทำให้ปลาทูน่าและแซลมอนปลาเศรษฐกิจของชาวประมงเสียหาย

พวกมัน มีพลังชีวิต และความสามารถในการดำรงณ์เผ่าพันธุ์สูงมาก จากการศึกษาพบว่า เมื่อผ่าตัวหรือจับขึ้นมาแล้วแมงกะพรุนตัวเมียจะปล่อยไข่หลายล้านฟอง และตัวผู้มีสเปิร์มหลายล้านตัว เมื่อถูกจู่โจมไข่และสเปิร์มจะถูกปฏิสนธิทันที ไข่ที่สุกแล้วจะจมลงไปสู่พื้นทะเลเพื่อรอการเจริญเติบโตและสามารถอยู่รอดได้หลายสิบปี

ภาพจาก :  Daily Mail
flagfrog.com

แมงกะพรุนไข่ดาว หนึ่งในสัตว์รูปร่างแปลกที่สุดในโลก


นี่คือแมงกะพรุนสายพันธุ์หนึ่งที่มีชื่อเรียกว่า Cotylorhiza tuberculata หรือแมงกะพรุนไข่ดาว เป็นที่รู้จักกันดีในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน สามารถพบได้ทั่วไปในแถบนี้ไปจนถึงทะเลอีเจียนทะเลเอเดรียติก เป็นแมงกะพรุนที่มีรูปร่างประหลาด จัดว่าเป็นหนึ่งในสัตว์รูปร่างแปลกที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ ขนาดค่อนข้างเล็ก รูปร่างดูคล้ายไข่ดาวที่ทำมาจากไข่เค็ม   โดยทั่วไปแล้วแมงกะพรุนสายพันธุ์นี้จะมีขนาดไม่ใหญ่ โดยมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 35 เซนติเมตร บางตัวอาจจะไปถึง 50 เซนติเมตร แต่ว่าดีตรงที่มันไม่เป็นอันตรายต่อคน
 
แมงกะพรุนไข่ดาวมีความสามารถในการว่ายน้ำไปในทิศทางไหนก็ได้ โดยไม่ต้องอาศัยกระแสน้ำในการนำพาเหมือนกับแมงกะพรุนสายพันธุ์อื่นๆ  นอกจากสายพันธุ์ Cotylorhiza tuberculata ที่ว่านี้แล้วยังมี สายพันธุ์ Phacellophora camtschaticaที่มีรูปร่างเหมือนกับไข่ดาวที่มาจากไข่สด และมีหนวดยาวเกือบๆ 6 เมตร เลยทีเดียว

"ฟาเซลโลโฟรา คัมส์ชัทติกา" (Phacellophora camtschatica) ถือว่าเป็นไข่ดาวที่ฟองใหญ่กว่า มีขนาดใหญ่ได้กว่า 60 เซนติเมตร มีขายั้วเยี้ย 16 ขา ซึ่งแต่ละขามีหนวดที่ยาวได้มากถึง 6 เมตรเลยทีเดียว ทำให้หน้าตาอาจจะดูคล้ายไข่ดาวมากกว่าชนิดแรกสักนิด แม้จะมีขนาดที่ใหญ่ แต่มีพิษที่อ่อนมากจนบรรดาครัสตาเชียนอย่างกุ้ง กั้ง ปู ทั้งหลาย สามารถเข้าไปแย่งอาหารจากหนวดของมันได้โดยไม่ได้รับอันตรายใด ๆ ด้วยซ้ำ

http://www.nationtv.tv/main/content/foreign/378483624/
ที่มา : สำรวจโลก

แมงกะพรุนที่ส่องแสง


ทุกคนที่ได้เห็นว่าน้ำทะเลส่องแสงในคืนที่มืดนั้นไม่น่าที่จะลืมภาพนี้ได้: แสงจำนวนมากส่องสว่างในระดับความลึกของทะเลส่องแสงเหมือนเพชร สาเหตุของปรากฏการณ์ที่น่าทึ่งนี้คือสิ่งมีชีวิตที่เล็กที่สุดในแพลงก์ตอนรวมถึงแมงกะพรุน ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งถือเป็นแมงกะพรุนฟอสฟอรัส มันเกิดขึ้นไม่บ่อยนักซึ่งอาศัยอยู่ในโซนด้านล่างนอกชายฝั่งของญี่ปุ่นบราซิลอาร์เจนตินา

  เส้นผ่าศูนย์กลางของร่มแมงกะพรุนส่องสว่างสามารถเข้าถึง 15 เซนติเมตร แมงกะพรุนที่อาศัยอยู่ในที่มืดและลึกถูกบังคับให้ต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมจัดหาอาหารให้ตัวเองเพื่อไม่ให้หายไปเหมือนสายพันธุ์ ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจคือร่างกายแมงกะพรุนไม่มีเส้นใยกล้ามเนื้อและไม่สามารถต้านทานการไหลของน้ำ

ในฐานะที่เป็นแมงกะพรุนช้า ๆ ว่ายน้ำตามความประสงค์เพื่อไม่ให้ทันกับสัตว์จำพวกครัสเตเชียนปลาเล็กปลาน้อยหรือผู้อาศัยแพลงก์ตอนอื่น ๆ มันเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องไปที่เล่ห์เหลี่ยมและบังคับให้พวกเขาว่ายน้ำโดยตรง และเหยื่อที่ดีที่สุดในความมืดของพื้นที่ด้านล่างคือแสง

ร่างกายของแมงกะพรุนที่ส่องสว่างมีเม็ดสี - luciferin ซึ่งถูกออกซิไดซ์ภายใต้อิทธิพลของเอนไซม์พิเศษ - luciferase แสงจ้าดึงดูดเหยื่อเช่นผีเสื้อ 
amikamoda.ru

แมงกะพรุนในทางการแพทย์

ในทางการแพทย์มีการเตรียมการที่มีแมงกะพรุนแปรรูปเพื่อรักษาภาวะมีบุตรยากโรคอ้วนศีรษะล้านและผมหงอก สารพิษที่สกัดจากเซลล์ที่กัดแล้วช่วยจัดการกับโรคของระบบทางเดินหายใจส่วนบนและทำให้ความดันโลหิตเป็นปกติ  นักวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ต่อสู้เพื่อค้นหายาที่สามารถเอาชนะเนื้องอกมะเร็งได้และอาจมีความเป็นไปได้ที่แมงกะพรุนจะช่วยในการต่อสู้ที่ยากลำบากนี้

ขอบคุณข้อมูล amikamoda.ru
www.ที่สุดในโลก.com
THE MATTER.CO
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่