เพราะดูเหมือนขันธ์5ไม่ครอบคลุมสังขารธรรมทั้งหมด ซึ่งคิดๆดูก็น่าจะเป็นตามนั้น ในพระสูตรข้างล่างก็มีข้อชัดเจนตรง
[๓๕] สังขาร คือสังขารขันธ์หรือ?
ยกเว้นสังขารขันธ์เสียแล้ว สังขารที่เหลือนอกนั้น เป็นสังขาร แต่ไม่ใช่สังขารขันธ์ สังขารขันธ์ เป็นสังขารด้วย เป็นสังขารขันธ์ด้วย.
สังขารขันธ์ คือสังขารหรือ?
ถูกแล้ว.
ถ้าเป็นแบบนี้แล้ว สมการข้างบนมันก็ไม่สมเหตุสมผลสิ A=B และ B=C แต่Aไม่=C หรือมีข้อเท็จจริง ข้อเสนอแนะอะไรที่ผมเข้าใจไม่ถูกต้องครับ
******************************************************************************
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๘ พระอภิธรรมปิฎก เล่มที่ ๕
ยมกปกรณ์ ภาค ๑
นิทเทสวาร
ปทโสธนวาร
[๓๒] รูป คือรูปขันธ์หรือ?
ปิยรูป สาตรูป เรียกว่า รูป แต่ไม่ใช่รูปขันธ์ รูปขันธ์เป็นรูปด้วย เป็นรูปขันธ์ด้วย.
รูปขันธ์ คือรูปหรือ?
ถูกแล้ว.
[๓๓] เวทนา คือเวทนาขันธ์?
ถูกแล้ว.
เวทนาขันธ์คือเวทนาหรือ?
ถูกแล้ว.
[๓๔] สัญญา คือสัญญาขันธ์หรือ?
ทิฏฐิสัญญาเป็นสัญญา แต่ไม่ใช่สัญญาขันธ์ สัญญาขันธ์เป็นสัญญาด้วย เป็นสัญญาขันธ์ด้วย.
สัญญาขันธ์ คือสัญญาหรือ?
ถูกแล้ว.
[๓๕] สังขาร คือสังขารขันธ์หรือ?
ยกเว้นสังขารขันธ์เสียแล้ว สังขารที่เหลือนอกนั้น เป็นสังขาร แต่ไม่ใช่สังขารขันธ์ สังขารขันธ์ เป็นสังขารด้วย เป็นสังขารขันธ์ด้วย.
สังขารขันธ์ คือสังขารหรือ?
ถูกแล้ว.
[๓๖] วิญญาณ คือวิญญาณขันธ์หรือ?
ถูกแล้ว.
วิญญาณขันธ์ คือวิญญาณหรือ?
ถูกแล้ว.
[๓๗] ไม่ใช่รูป ไม่ใช่รูปขันธ์หรือ?
ถูกแล้ว.
ไม่ใช่รูปขันธ์ ไม่ใช่รูปหรือ?
ปิยรูป สาตรูป ไม่ใช่รูปขันธ์ แต่เรียกว่า รูป ยกเว้นรูปและรูปขันธ์เสียแล้ว สภาวธรรมที่เหลือนอกนั้น ไม่ใช่รูป และไม่ใช่รูปขันธ์.
[๓๘] ไม่ใช่เวทนา ไม่ใช่เวทนาขันธ์หรือ?
ถูกแล้ว.
ไม่ใช่เวทนาขันธ์ ไม่ใช่เวทนาหรือ?
ถูกแล้ว.
[๓๙] ไม่ใช่สัญญา ไม่ใช่สัญญาขันธ์หรือ?
ถูกแล้ว.
ไม่ใช่สัญญาขันธ์ ไม่ใช่สัญญาหรือ?
ทิฏฐิสัญญา ไม่ใช่สัญญาขันธ์ เป็นแต่สัญญา ยกเว้นสัญญา และสัญญาขันธ์เสียแล้ว สภาวธรรมที่เหลือนอกนั้น ไม่ใช่สัญญา และไม่ใช่สัญญาขันธ์.
[๔๐] ไม่ใช่สังขาร ไม่ใช่สังขารขันธ์หรือ?
ถูกแล้ว.
ไม่ใช่สังขารขันธ์ ไม่ใช่สังขารหรือ?
ยกเว้นสังขารขันธ์เสียแล้ว สังขารที่เหลือนอกนั้น ไม่ใช่สังขารขันธ์ เป็นแต่สังขาร
ยกเว้นสังขารและสังขารขันธ์เสียแล้ว สภาวธรรมที่เหลือนอกนั้น ไม่ใช่สังขาร และไม่ใช่
สังขารขันธ์
[๔๑] ไม่ใช่วิญญาณ ไม่ใช่วิญญาณขันธ์หรือ?
ถูกแล้ว.
ไม่ใช่วิญญาณขันธ์ ไม่ใช่วิญญาณหรือ?
ถูกแล้ว.
**********************************************************************
อรรถกถา ยมกปกรณ์ ภาค ๑
ขันธยมก ปัณณัตติวาร นิทเทสวาร ปทโสธนวาร
อรรถกถาปัณณัติวาระ
ปทโสธนวาระ
บัดนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเริ่มนิทเทสวาระโดยนัยเป็นต้นว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียกว่า รูป ในปัญหาที่ว่า "รูปํ รูปกฺขนฺโธ ธรรมที่ชื่อว่ารูป ชื่อว่ารูปขันธ์ ใช่ไหม?" ดังนี้ รูปเหล่านั้นทั้งหมด พระองค์ตรัสไว้เพื่อทรงชำระคำว่า รูปขันธ์.
คำวิสัชนาที่ว่า ปิยรูปํ สาตรูปํ รูปํ น รูปกฺขนฺโธ ปิยรูป สาตรูป ชื่อว่ารูป ไม่ชื่อว่ารูปขันธ์. อธิบายว่า คำว่า รูปใด พระองค์ตรัสว่า รูป ในคำนี้ว่า ปิยรูปํ สาตรูปํ รูปนั้น ชื่อว่ารูปเท่านั้น ไม่ชื่อว่ารูปขันธ์.
คำวิสัชนาที่ว่า รูปกฺขนฺโธ รูปญเจว รูปกฺขนฺโธ จ รูปขันธ์ชื่อว่ารูปด้วย ชื่อว่ารูปขันธ์ด้วย. อธิบายว่า ก็รูปใดเป็นรูปขันธ์ รูปนั้นย่อมควรเพื่อที่จะกล่าวว่าเป็นรูปด้วย เป็นรูปขันธ์ด้วย.
ในปัญหาที่ว่า รูปกฺขนฺโธ รูปํ รูปขันธ์ชื่อว่ารูปใช่ไหม? ดังนี้ เพราะรูปขันธ์พึงกล่าวว่าเป็นรูปโดยแน่นอนเท่านั้น ฉะนั้น พระองค์จึงตรัสว่า อามนฺตา - ใช่ พึงทราบเนื้อความในวิสัชนาทั้งหมดโดยอุบายนี้ ส่วนความแปลกกันมีอยู่ในที่ใด จักพรรณนาความแปลกกันนั้นในที่นั้น.
ในสัญญายมกก่อน คำว่า ทิฏฐิสญฺญา ได้แก่ ทิฏฐิสัญญาที่มาแล้วในคำเป็นต้นว่า ปปญฺจสญฺญา.
ในสังขารยมก คำว่า อวเสสา สงฺขารา สังขารทั้งหลายที่เหลือ ได้แก่ สังขารที่มาแล้วในคำเป็นต้นว่า อนิจฺจา วต สงฺขารา.
คำว่า สังขารทั้งหลายที่เหลือ ได้แก่ สังขตธรรมที่เหลือจากสังขารขันธ์ แม้ในปฏิโลมวาระก็นัยนี้แล.
อรรถกถาปทโสธนวาระ จบ.
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๘ บรรทัดที่ ๖๔๘-๖๙๕ หน้าที่ ๒๗-๒๙.
http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=38&A=648&Z=695&pagebreak=0
สังขารธรรม=รูปจิตเจตสิก รูปจิตเจตสิก=ขันธ์5 แต่ขันธ์5 ไม่เท่ากับ สังขารธรรม?
[๓๕] สังขาร คือสังขารขันธ์หรือ?
ยกเว้นสังขารขันธ์เสียแล้ว สังขารที่เหลือนอกนั้น เป็นสังขาร แต่ไม่ใช่สังขารขันธ์ สังขารขันธ์ เป็นสังขารด้วย เป็นสังขารขันธ์ด้วย.
สังขารขันธ์ คือสังขารหรือ?
ถูกแล้ว.
ถ้าเป็นแบบนี้แล้ว สมการข้างบนมันก็ไม่สมเหตุสมผลสิ A=B และ B=C แต่Aไม่=C หรือมีข้อเท็จจริง ข้อเสนอแนะอะไรที่ผมเข้าใจไม่ถูกต้องครับ
******************************************************************************
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๘ พระอภิธรรมปิฎก เล่มที่ ๕
ยมกปกรณ์ ภาค ๑
นิทเทสวาร
ปทโสธนวาร
[๓๒] รูป คือรูปขันธ์หรือ?
ปิยรูป สาตรูป เรียกว่า รูป แต่ไม่ใช่รูปขันธ์ รูปขันธ์เป็นรูปด้วย เป็นรูปขันธ์ด้วย.
รูปขันธ์ คือรูปหรือ?
ถูกแล้ว.
[๓๓] เวทนา คือเวทนาขันธ์?
ถูกแล้ว.
เวทนาขันธ์คือเวทนาหรือ?
ถูกแล้ว.
[๓๔] สัญญา คือสัญญาขันธ์หรือ?
ทิฏฐิสัญญาเป็นสัญญา แต่ไม่ใช่สัญญาขันธ์ สัญญาขันธ์เป็นสัญญาด้วย เป็นสัญญาขันธ์ด้วย.
สัญญาขันธ์ คือสัญญาหรือ?
ถูกแล้ว.
[๓๕] สังขาร คือสังขารขันธ์หรือ?
ยกเว้นสังขารขันธ์เสียแล้ว สังขารที่เหลือนอกนั้น เป็นสังขาร แต่ไม่ใช่สังขารขันธ์ สังขารขันธ์ เป็นสังขารด้วย เป็นสังขารขันธ์ด้วย.
สังขารขันธ์ คือสังขารหรือ?
ถูกแล้ว.
[๓๖] วิญญาณ คือวิญญาณขันธ์หรือ?
ถูกแล้ว.
วิญญาณขันธ์ คือวิญญาณหรือ?
ถูกแล้ว.
[๓๗] ไม่ใช่รูป ไม่ใช่รูปขันธ์หรือ?
ถูกแล้ว.
ไม่ใช่รูปขันธ์ ไม่ใช่รูปหรือ?
ปิยรูป สาตรูป ไม่ใช่รูปขันธ์ แต่เรียกว่า รูป ยกเว้นรูปและรูปขันธ์เสียแล้ว สภาวธรรมที่เหลือนอกนั้น ไม่ใช่รูป และไม่ใช่รูปขันธ์.
[๓๘] ไม่ใช่เวทนา ไม่ใช่เวทนาขันธ์หรือ?
ถูกแล้ว.
ไม่ใช่เวทนาขันธ์ ไม่ใช่เวทนาหรือ?
ถูกแล้ว.
[๓๙] ไม่ใช่สัญญา ไม่ใช่สัญญาขันธ์หรือ?
ถูกแล้ว.
ไม่ใช่สัญญาขันธ์ ไม่ใช่สัญญาหรือ?
ทิฏฐิสัญญา ไม่ใช่สัญญาขันธ์ เป็นแต่สัญญา ยกเว้นสัญญา และสัญญาขันธ์เสียแล้ว สภาวธรรมที่เหลือนอกนั้น ไม่ใช่สัญญา และไม่ใช่สัญญาขันธ์.
[๔๐] ไม่ใช่สังขาร ไม่ใช่สังขารขันธ์หรือ?
ถูกแล้ว.
ไม่ใช่สังขารขันธ์ ไม่ใช่สังขารหรือ?
ยกเว้นสังขารขันธ์เสียแล้ว สังขารที่เหลือนอกนั้น ไม่ใช่สังขารขันธ์ เป็นแต่สังขาร
ยกเว้นสังขารและสังขารขันธ์เสียแล้ว สภาวธรรมที่เหลือนอกนั้น ไม่ใช่สังขาร และไม่ใช่
สังขารขันธ์
[๔๑] ไม่ใช่วิญญาณ ไม่ใช่วิญญาณขันธ์หรือ?
ถูกแล้ว.
ไม่ใช่วิญญาณขันธ์ ไม่ใช่วิญญาณหรือ?
ถูกแล้ว.
**********************************************************************
อรรถกถา ยมกปกรณ์ ภาค ๑
ขันธยมก ปัณณัตติวาร นิทเทสวาร ปทโสธนวาร
อรรถกถาปัณณัติวาระ
ปทโสธนวาระ
บัดนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเริ่มนิทเทสวาระโดยนัยเป็นต้นว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียกว่า รูป ในปัญหาที่ว่า "รูปํ รูปกฺขนฺโธ ธรรมที่ชื่อว่ารูป ชื่อว่ารูปขันธ์ ใช่ไหม?" ดังนี้ รูปเหล่านั้นทั้งหมด พระองค์ตรัสไว้เพื่อทรงชำระคำว่า รูปขันธ์.
คำวิสัชนาที่ว่า ปิยรูปํ สาตรูปํ รูปํ น รูปกฺขนฺโธ ปิยรูป สาตรูป ชื่อว่ารูป ไม่ชื่อว่ารูปขันธ์. อธิบายว่า คำว่า รูปใด พระองค์ตรัสว่า รูป ในคำนี้ว่า ปิยรูปํ สาตรูปํ รูปนั้น ชื่อว่ารูปเท่านั้น ไม่ชื่อว่ารูปขันธ์.
คำวิสัชนาที่ว่า รูปกฺขนฺโธ รูปญเจว รูปกฺขนฺโธ จ รูปขันธ์ชื่อว่ารูปด้วย ชื่อว่ารูปขันธ์ด้วย. อธิบายว่า ก็รูปใดเป็นรูปขันธ์ รูปนั้นย่อมควรเพื่อที่จะกล่าวว่าเป็นรูปด้วย เป็นรูปขันธ์ด้วย.
ในปัญหาที่ว่า รูปกฺขนฺโธ รูปํ รูปขันธ์ชื่อว่ารูปใช่ไหม? ดังนี้ เพราะรูปขันธ์พึงกล่าวว่าเป็นรูปโดยแน่นอนเท่านั้น ฉะนั้น พระองค์จึงตรัสว่า อามนฺตา - ใช่ พึงทราบเนื้อความในวิสัชนาทั้งหมดโดยอุบายนี้ ส่วนความแปลกกันมีอยู่ในที่ใด จักพรรณนาความแปลกกันนั้นในที่นั้น.
ในสัญญายมกก่อน คำว่า ทิฏฐิสญฺญา ได้แก่ ทิฏฐิสัญญาที่มาแล้วในคำเป็นต้นว่า ปปญฺจสญฺญา.
ในสังขารยมก คำว่า อวเสสา สงฺขารา สังขารทั้งหลายที่เหลือ ได้แก่ สังขารที่มาแล้วในคำเป็นต้นว่า อนิจฺจา วต สงฺขารา.
คำว่า สังขารทั้งหลายที่เหลือ ได้แก่ สังขตธรรมที่เหลือจากสังขารขันธ์ แม้ในปฏิโลมวาระก็นัยนี้แล.
อรรถกถาปทโสธนวาระ จบ.
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๘ บรรทัดที่ ๖๔๘-๖๙๕ หน้าที่ ๒๗-๒๙.
http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=38&A=648&Z=695&pagebreak=0