รีวิวสอบTocfl แบบเข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน 💯
TOCFL ย่อมาจาก Test of Chinese as a Foreign Language เป็นการสอบวัดระดับภาษาจีนของไต้หวันสำหรับต่างชาติที่ไม่ได้ใช้ภาษาจีนเป็นหลัก หลักๆแล้วก็คล้ายๆกับ HSK แต่ HSK จะใช้แพร่หลายมากกว่า
ข้อดีของTOCFL
✅ใช้ในการสมัครทุนการศึกษาของรัฐบาลไต้หวัน
✅ใช้ในการสมัครเข้าศึกษามหาวิทยาลัยในไต้หวัน
✅ใช้ในการสมัครงานงานที่ต้องใช้หลักฐานรับรองความสามารถทางภาษาจีน
พอเห็นประโยชน์ของเจ้าตัวนี้แล้ว ก็ไปกันต่อ
🔷 รูปแบบของข้อสอบ มีอยู่ 2 แบบ
1 Listening and Reading
Listening ตอนที่เราทำแรกๆมันก็ยังง่ายอยู่นะ เพราะเป็นข้อสอบฟังละก็ตอบเป็นข้อๆไป แต่พอช่วงหลังๆเป็นพวกบทความ เรื่องเล่ายาวๆหน่อยต้องเน้นจับใจความเอา **ไม่ต้องกดดันตัวเองให้ฟังออกทุกคำ** มันจะทำให้เราเสียสมาธิ รน สติแตก ฟังไปไม่ได้ก็เดาเอา ไม่ได้อีกก็มั่วเลยจ้าจะได้มีเราตั้งสติทำข้อต่อไป
Reading เป็นพาร์ทที่ถือว่ายากเพราะสำหรับเรามีคำศัพท์หลายคำที่ไม่รู้ ถ้าไม่รู้จริงๆให้ข้ามไปก่อน แต่ถ้าข้ามไม่ได้ก็มั่วไปเลย เพราะโปรแกรมคอมมันจับเวลา ทำไม่ทันก็ยุ่งเลย
2 Speaking and Writing
เกณฑ์การสอบของแต่ละเลเวลไม่เหมือนกัน
Speaking ไม่ต้องกังวลเรื่องสำเนียง ขอแค่พูดให้ถูกโทนเสียง
Writing สิ่งสำคัญคือต้องพิมพ์ไว ฝึกพิมพ์ให้แป้นพิมพ์ให้ไว
สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่เว็บนี้
Writing:
https://www.sc-top.org.tw/download/TOCFL_writing.pdf
Speaking:
https://www.sc-top.org.tw/download/TOCFL_speaking.pdf
🔷 รูปแบบการสอบ จะมี 3 แบบ (สนามสอบไต้หวันจะมีแต่แบบ1กับ2เท่านั้น)
1 Computerized Adaptive Test (CAT) (Listening and Reading)
เป็นการสอบโดยใช้คอมพิวเตอร์ทำ ข้อสอบจะถูกปรับเปลี่ยนตามความสามารถของผู้ทำ ถ้าเราทำข้อสอบตอบได้ถูกเยอะ โปรแกรมก็จะสุ่มข้อสอบที่ยากขึ้นให้เราทำ แต่ถ้าเราทำข้อสอบผิดเยอะ โปรแกรมก็จะสุ่มข้อสอบที่ง่ายขึ้น
😃ข้อดี
ข้อสอบจะถูกปรับเปลี่ยนตามความสามารถของผู้ทำ
สามารถรู้ผลสอบได้ทันที ที่ทำข้อสอบเสร็จ
ลดความเครียดระหว่างทำ (ไม่จริงงงง555)
😩ข้อเสีย
ไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้
ทำให้เสียคะแนนได้ง่าย ถ้าคลิกเลยข้อนั้นก็เสียคะแนนไปเลย
ทำให้ล้าตาได้ง่าย และเวลาทำพาร์ทอ่านยาวๆ อ่านไม่ค่อยถนัด เสียเวลา
2 Computer Based Test CBT (Listening and Reading) เป็นการสอบโดยใช้คอมพิวเตอร์ทำ ข้อสอบจะจัดให้ตามเลเวลที่เราลงสอบ
😃ข้อดี
สามารถกลับไปแก้ไขได้
รู้ผลสอบทันทีที่สอบเสร็จ
😩ข้อเสีย
ทำให้ล้าตาได้ง่าย และเวลาทำพาร์ทอ่านยาวๆ อ่านไม่ค่อยถนัด เสียเวลา
3 Paper ทำข้อสอบจากกระดาษ
ที่ไทยสนามสอบส่วนใหญ่ยังคงเป็นกระดาษอยู่ ส่วนตัวเรายังไม่เคยสอบวิธีนี้ แต่คิดว่าน่าจะดีกว่า เพราะเราสามารถกลับไปแก้ไขได้ และเวลาทำพาร์ทอ่านก็สะดวกกว่า สามารถพลิกไปพลิกมาได้ น่าจะทำได้ดีกว่า
🔷 การสมัครสอบ
สามารถสอบได้ทั้งในประเทศไทยหรือที่ไต้หวัน
รับสมัครสอบผ่านทางเว็บไซต์เท่านั้น
https://reg.sc-top.org.tw/
ค่าสมัครสอบComputerized Adaptive Test 2,000
ค่าสมัครสอบComputer-Based Test (ฟัง+อ่าน) 1,600
ค่าสมัครสอบพูด 1,400
ค่าสมัครสอบเขียน 1,400
********** นักเรียน MTC ได้ส่วนลด 10%**********
เว็บนี้เช็คตารางสอบในไต้หวัน
https://www.sc-top.org.tw/download/2019_Schedule_1018.pdf
เข้าเว็บนี้ไปเช็คสนามสอบในประเทศไทยได้เลยจ้า
https://www.roc-taiwan.org/uploads/sites/231/2018/01/โครงการสอบวัดระดับภาจีนประจำปี_2561_TOCFL_更新版.xls
ตรงนี้คงตอบคำถามหลายๆคนที่ว่าแล้วฉันต้องสอบระดับไหน??? ส่วนเรื่องเทียบระดับHskจะอยู่ข้างล่างนะจ้ะ
ถ้าใครเรียนที่ซือต้าก็วัดกันเป็นเล่มไปเลย (เฉพาะคนเรียนแบบIntensive)
เล่ม1 (3เดือน), เล่ม2 (6เดือน), เล่ม3 (9เดือน), เล่ม4 (12 เดือน)
แต่ละเลเวลรูปแบบข้อสอบก็จะไม่เหมือนกันแต่หลักๆแล้ว band B กับ Band C จะคล้ายกัน แต่ความยากไม่เหมือนกัน!!!
ตรงนี้เป็นตารางเทียบดูคะแนนว่าต้องผ่านเท่าไหร่จะได้ระดับไหน???
✅ ตารางเทียบ TOCFL กับ HSK
อ้างอิงจากเว็บไซต์ของศูนย์สอบ Tocfl
https://www.sc-top.org.tw/chinese/LS/test5.php#area1
วิธีการเตรียมตัว
✅ Mock Test แนวข้อสอบตัวอย่าง สามารถเข้าไปฝึกทำได้ แต่อย่าเพิ่งดีใจกับคะแนนที่ได้ เพราะของจริงโหดกว่าหลายเท่า เราเคยทำก่อนสอบเลเวลบี ตอนทำmock test คะแนนได้ดีเกินคาด คำศัพท์ 90%ฟังอ่านออกเกือบหมด แต่ของจริง 70%เท่านั้น
แต่ไม่ควรละเลย ควรฝึกทำจะทำให้เราคุ้นเคยกับตัวโปรแกรมก่อนลงสนามสอบจริงๆ
https://cbt.sc-top.org.tw/sctopj/ChangeOrder0619.aspx
✅ลิงค์สำหรับดาวน์โหลดคำศัพท์ 8,000คำ
https://www.sc-top.org.tw/download/8000zhuyin.zip
✅ หนังสือแนะนำที่เราใช้ฝึกทำข้อสอบเราในเล่มนี้ (ซ้ายมือ Level3)จะเน้นฝึกทำแบบทดสอบListenting กับ Reading มีเล่มมีประมาณ 10บท เราใช้เล่มนี้ฝึกทำเสริมจากที่เรียนปกติ ใช้แค่ตอนสอบครั้งแรก สอบครั้งสองไม่อ่านอะไรทั้งสิ้น เอาความรู้ที่มีไปสอบเลย หนังสือนี้ซื้อได้ที่ไต้หวัน Lucky book store (หน้ามอซือต้า)
สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:
https://www.sc-top.org.tw/download/TOCFL_lsrd.pdf
ทีนี้เรามาพูดถึงประสบการณ์กันบ้าง
สอบTocfl ครั้งแรก
เราเรียนภาษาจีนที่ซือต้ามาประมาณ 7เดือน ตอนนั้นความรู้จะอยู่ที่Level A แต่อยากได้Level B ด้วยความบ้าบิ่นเลยลงสอบLevel B จริงๆก็อยากสอบไว้เพื่อเอาไว้ไปสมัครงานนั้นแหละ ก็เลยต้องฝึกทำข้อสอบเสริมเอาเอง เราฝึกทำข้อสอบ1เดือนก่อนสอบ คำศัพท์ที่ได้จากในเล่มนั้นเยอะมาก เยอะจนจำไม่หมด555 ตอนนั้นจำได้ว่าเคร่งมาก จริงๆก็ไม่อยากให้ 2,000เสียเปล่า ต้องได้อะไรมาสักอย่าง รอบที่เปิดตอนนั้นจะเป็น Computerized Adaptive Test ก็ศึกษามาคร่าวๆว่าเป็นการสอบแบบใช้คอมพิวเตอร์ ข้อสอบจะปรับตามความสามารถข้อผู้ทำข้อสอบ แต่ไม่มีใครบอกกว่า ไม่สามารถกลับไปแก้ไขข้อสอบได้ คือไม่มีปุ่ม BACK มีแต่ปุ่ม NEXT กับ FINISH เท่านั้นนนน!!!
อุปกรณ์เตรียมสอบมีแค่ความรู้กับบัตรARCหรือ Passportก็พอ ปากกาดินสอไม่ต้องใช้แค่เม้าคลิกอย่างเดียวจ้าา
ตอนสอบตื่นเต้นมากก ช่วงข้อแรกๆยังไหวง่าย ฟังออก ชมเชยตัวเองได้แปปเดียวหน้าเริ่มตึง แล้วถามถามตัวเองในใจว่า เรามาทำอะไรที่นี่ว่ะเนี่ย?? หมดกัน 2000 ของฉันนนน มั่วบ้างเดาบ้างเพราะทำไม่ได้ อ่านเริ่มไม่รู้เรื่อง เน้นจับใจความถูกไม่ถูกว่ากันอีกที รีบทำรีบมั่วก็เผลอไปดับเบิ้ลก็ข้ามไปละ1ข้อก็ได้แต่บอกตัวเองว่า Keep going เท่าไหนเท่านั้นน พอทำข้อสอบเสร็จลุ้นกันตัวโก่งกันเลยทีเดียว สรุปผลออกมาได้เท่าไหร่ไม่รู้ จำได้ว่าดีกว่าที่คิด แต่พอคะแนนออกทางเว็บไซต์เท่านั้นแหละ Readingได้Level A2 Listeningได้Level B1 ผลสรุปเลยปัดตกมาที่เลเวล A2 พลาดไปแค่คะแนนเดียวเท่านั้น T_Tเศร้าไปสัก5นาทีแล้วก็ทำใจได้ เอาค่ะรอบหน้าค่อยไปใหม่ พอผ่านไปสักเดือนทางศูนย์สอบก็ส่งเมล์มาแจ้งว่าข้อสอบรอบนั้นเกิความผิดพลาด ให้ตรวจคะแนนใหม่แล้วไปรับผลคะแนนสอบใหม่ อ้าววว ตอนนั้นทั้งตื่นเต้นดีใจมีความหวังใหม่แต่ก็แอบกังวลจะน้อยลงมั้ยเนี่ยย เอาค่ะไหนๆก็ไหนๆๆละรีบ log in เข้าระบบเข้าอย่างไม่รีรอแล้วก็ค้นพบบว่าา…. คะแนนฉันผ่านนLevel Bทั้งสองอันจ้า 🎊🎉🥰
🔸🔸🔸🔸🔸🔸🔸🔸🔸🔸🔸🔸🔸🔸🔸🔸🔸🔸
สอบครั้งที่2
รอบนี้ไปแบบชิวกว่าเดิม ตั้งใจไม่อ่านหนังสือเพิ่มด้วยเพราะอยากเอาความรู้ที่ร่ำเรียนมาจากซือต้ามาสอบเลย สอบรองนี้เป็นแบบ CBT ทุกอย่างเกือบจะราบรื่นแล้วเชียว บอกคำว่าเดียวช่วง Reading บทความหลังๆยากมากจ้า เริ่มกังวลในใจ แต่ก็Keep goingทำไปจนจบผลปรากฏว่า Listening - L4, Reading -(อีก4คะแนนจะผ่าน L4 เศร้าไปงดเลี้ยงฉลอง😂) ผลรวมเราจะอยู่แค่ L3 เท่านี่ก็ดีแล้ว เพราะข้อสอบเป็นการวัดผลการเรียน และเป็นใบเบิกทาง ยืนยันกับบริษัทว่าเรารู้ภาษาจีนจริงๆนะ แต่สิ่งสำคัญคือการพูดสื่อสารกับเจ้าของภาษารู้เรื่องก็พอ☺️
ใครที่ยังลังเลจะสอบไม่สอบ ยังไม่พร้อม ให้ออกไปเริ่มลงมือทำอย่ารอจนตัวเองพร้อม เพราะเราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เราจะพร้อม เมื่อไหร่โอกาสจะมาหาเรา สิ่งสำคัญคือเราต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับทุกโอกาสที่จะเข้ามา
สู้ๆเพื่อวันข้างหน้าของตัวเอง🧡
มีอะไรสอบถามได้น๊าา เดี๋ยวจะมีรีวิวเพิ่มเติมเรียนภาษาจีนไต้หวัน 1 ปีเร็วๆๆนี้นะคะ
ฝากติดตามด้วยนะ
อยากรู้เรื่องข่าวสาร รีวิวต่างๆเกี่ยวกับไต้หวันสามารถติดตามได้ที่
Facebook Page: 365intaiwan
[CR] รีวิวสอบวัดระดับภาษาจีน Tocfl (ไต้หวัน) ฉบับเข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน ใครๆก็ทำได้
🔷 รูปแบบของข้อสอบ มีอยู่ 2 แบบ
1 Listening and Reading
Listening ตอนที่เราทำแรกๆมันก็ยังง่ายอยู่นะ เพราะเป็นข้อสอบฟังละก็ตอบเป็นข้อๆไป แต่พอช่วงหลังๆเป็นพวกบทความ เรื่องเล่ายาวๆหน่อยต้องเน้นจับใจความเอา **ไม่ต้องกดดันตัวเองให้ฟังออกทุกคำ** มันจะทำให้เราเสียสมาธิ รน สติแตก ฟังไปไม่ได้ก็เดาเอา ไม่ได้อีกก็มั่วเลยจ้าจะได้มีเราตั้งสติทำข้อต่อไป
Reading เป็นพาร์ทที่ถือว่ายากเพราะสำหรับเรามีคำศัพท์หลายคำที่ไม่รู้ ถ้าไม่รู้จริงๆให้ข้ามไปก่อน แต่ถ้าข้ามไม่ได้ก็มั่วไปเลย เพราะโปรแกรมคอมมันจับเวลา ทำไม่ทันก็ยุ่งเลย
2 Speaking and Writing
เกณฑ์การสอบของแต่ละเลเวลไม่เหมือนกัน
Speaking ไม่ต้องกังวลเรื่องสำเนียง ขอแค่พูดให้ถูกโทนเสียง
Writing สิ่งสำคัญคือต้องพิมพ์ไว ฝึกพิมพ์ให้แป้นพิมพ์ให้ไว
สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่เว็บนี้
Writing:
https://www.sc-top.org.tw/download/TOCFL_writing.pdf
Speaking:
https://www.sc-top.org.tw/download/TOCFL_speaking.pdf
🔷 รูปแบบการสอบ จะมี 3 แบบ (สนามสอบไต้หวันจะมีแต่แบบ1กับ2เท่านั้น)
1 Computerized Adaptive Test (CAT) (Listening and Reading)
เป็นการสอบโดยใช้คอมพิวเตอร์ทำ ข้อสอบจะถูกปรับเปลี่ยนตามความสามารถของผู้ทำ ถ้าเราทำข้อสอบตอบได้ถูกเยอะ โปรแกรมก็จะสุ่มข้อสอบที่ยากขึ้นให้เราทำ แต่ถ้าเราทำข้อสอบผิดเยอะ โปรแกรมก็จะสุ่มข้อสอบที่ง่ายขึ้น
😃ข้อดี
ข้อสอบจะถูกปรับเปลี่ยนตามความสามารถของผู้ทำ
สามารถรู้ผลสอบได้ทันที ที่ทำข้อสอบเสร็จ
ลดความเครียดระหว่างทำ (ไม่จริงงงง555)
😩ข้อเสีย
ไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้
ทำให้เสียคะแนนได้ง่าย ถ้าคลิกเลยข้อนั้นก็เสียคะแนนไปเลย
ทำให้ล้าตาได้ง่าย และเวลาทำพาร์ทอ่านยาวๆ อ่านไม่ค่อยถนัด เสียเวลา
2 Computer Based Test CBT (Listening and Reading) เป็นการสอบโดยใช้คอมพิวเตอร์ทำ ข้อสอบจะจัดให้ตามเลเวลที่เราลงสอบ
😃ข้อดี
สามารถกลับไปแก้ไขได้
รู้ผลสอบทันทีที่สอบเสร็จ
😩ข้อเสีย
ทำให้ล้าตาได้ง่าย และเวลาทำพาร์ทอ่านยาวๆ อ่านไม่ค่อยถนัด เสียเวลา
3 Paper ทำข้อสอบจากกระดาษ
ที่ไทยสนามสอบส่วนใหญ่ยังคงเป็นกระดาษอยู่ ส่วนตัวเรายังไม่เคยสอบวิธีนี้ แต่คิดว่าน่าจะดีกว่า เพราะเราสามารถกลับไปแก้ไขได้ และเวลาทำพาร์ทอ่านก็สะดวกกว่า สามารถพลิกไปพลิกมาได้ น่าจะทำได้ดีกว่า
🔷 การสมัครสอบ
สามารถสอบได้ทั้งในประเทศไทยหรือที่ไต้หวัน
รับสมัครสอบผ่านทางเว็บไซต์เท่านั้น
https://reg.sc-top.org.tw/
ค่าสมัครสอบComputerized Adaptive Test 2,000
ค่าสมัครสอบComputer-Based Test (ฟัง+อ่าน) 1,600
ค่าสมัครสอบพูด 1,400
ค่าสมัครสอบเขียน 1,400
********** นักเรียน MTC ได้ส่วนลด 10%**********
เว็บนี้เช็คตารางสอบในไต้หวัน
https://www.sc-top.org.tw/download/2019_Schedule_1018.pdf
เข้าเว็บนี้ไปเช็คสนามสอบในประเทศไทยได้เลยจ้า
https://www.roc-taiwan.org/uploads/sites/231/2018/01/โครงการสอบวัดระดับภาจีนประจำปี_2561_TOCFL_更新版.xls
ตรงนี้คงตอบคำถามหลายๆคนที่ว่าแล้วฉันต้องสอบระดับไหน??? ส่วนเรื่องเทียบระดับHskจะอยู่ข้างล่างนะจ้ะ
ถ้าใครเรียนที่ซือต้าก็วัดกันเป็นเล่มไปเลย (เฉพาะคนเรียนแบบIntensive)
เล่ม1 (3เดือน), เล่ม2 (6เดือน), เล่ม3 (9เดือน), เล่ม4 (12 เดือน)
แต่ละเลเวลรูปแบบข้อสอบก็จะไม่เหมือนกันแต่หลักๆแล้ว band B กับ Band C จะคล้ายกัน แต่ความยากไม่เหมือนกัน!!!
ตรงนี้เป็นตารางเทียบดูคะแนนว่าต้องผ่านเท่าไหร่จะได้ระดับไหน???
✅ ตารางเทียบ TOCFL กับ HSK
อ้างอิงจากเว็บไซต์ของศูนย์สอบ Tocfl
https://www.sc-top.org.tw/chinese/LS/test5.php#area1
วิธีการเตรียมตัว
✅ Mock Test แนวข้อสอบตัวอย่าง สามารถเข้าไปฝึกทำได้ แต่อย่าเพิ่งดีใจกับคะแนนที่ได้ เพราะของจริงโหดกว่าหลายเท่า เราเคยทำก่อนสอบเลเวลบี ตอนทำmock test คะแนนได้ดีเกินคาด คำศัพท์ 90%ฟังอ่านออกเกือบหมด แต่ของจริง 70%เท่านั้น
แต่ไม่ควรละเลย ควรฝึกทำจะทำให้เราคุ้นเคยกับตัวโปรแกรมก่อนลงสนามสอบจริงๆ
https://cbt.sc-top.org.tw/sctopj/ChangeOrder0619.aspx
✅ลิงค์สำหรับดาวน์โหลดคำศัพท์ 8,000คำ
https://www.sc-top.org.tw/download/8000zhuyin.zip
✅ หนังสือแนะนำที่เราใช้ฝึกทำข้อสอบเราในเล่มนี้ (ซ้ายมือ Level3)จะเน้นฝึกทำแบบทดสอบListenting กับ Reading มีเล่มมีประมาณ 10บท เราใช้เล่มนี้ฝึกทำเสริมจากที่เรียนปกติ ใช้แค่ตอนสอบครั้งแรก สอบครั้งสองไม่อ่านอะไรทั้งสิ้น เอาความรู้ที่มีไปสอบเลย หนังสือนี้ซื้อได้ที่ไต้หวัน Lucky book store (หน้ามอซือต้า)
สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: https://www.sc-top.org.tw/download/TOCFL_lsrd.pdf
ทีนี้เรามาพูดถึงประสบการณ์กันบ้าง
สอบTocfl ครั้งแรก
เราเรียนภาษาจีนที่ซือต้ามาประมาณ 7เดือน ตอนนั้นความรู้จะอยู่ที่Level A แต่อยากได้Level B ด้วยความบ้าบิ่นเลยลงสอบLevel B จริงๆก็อยากสอบไว้เพื่อเอาไว้ไปสมัครงานนั้นแหละ ก็เลยต้องฝึกทำข้อสอบเสริมเอาเอง เราฝึกทำข้อสอบ1เดือนก่อนสอบ คำศัพท์ที่ได้จากในเล่มนั้นเยอะมาก เยอะจนจำไม่หมด555 ตอนนั้นจำได้ว่าเคร่งมาก จริงๆก็ไม่อยากให้ 2,000เสียเปล่า ต้องได้อะไรมาสักอย่าง รอบที่เปิดตอนนั้นจะเป็น Computerized Adaptive Test ก็ศึกษามาคร่าวๆว่าเป็นการสอบแบบใช้คอมพิวเตอร์ ข้อสอบจะปรับตามความสามารถข้อผู้ทำข้อสอบ แต่ไม่มีใครบอกกว่า ไม่สามารถกลับไปแก้ไขข้อสอบได้ คือไม่มีปุ่ม BACK มีแต่ปุ่ม NEXT กับ FINISH เท่านั้นนนน!!!
อุปกรณ์เตรียมสอบมีแค่ความรู้กับบัตรARCหรือ Passportก็พอ ปากกาดินสอไม่ต้องใช้แค่เม้าคลิกอย่างเดียวจ้าา
ตอนสอบตื่นเต้นมากก ช่วงข้อแรกๆยังไหวง่าย ฟังออก ชมเชยตัวเองได้แปปเดียวหน้าเริ่มตึง แล้วถามถามตัวเองในใจว่า เรามาทำอะไรที่นี่ว่ะเนี่ย?? หมดกัน 2000 ของฉันนนน มั่วบ้างเดาบ้างเพราะทำไม่ได้ อ่านเริ่มไม่รู้เรื่อง เน้นจับใจความถูกไม่ถูกว่ากันอีกที รีบทำรีบมั่วก็เผลอไปดับเบิ้ลก็ข้ามไปละ1ข้อก็ได้แต่บอกตัวเองว่า Keep going เท่าไหนเท่านั้นน พอทำข้อสอบเสร็จลุ้นกันตัวโก่งกันเลยทีเดียว สรุปผลออกมาได้เท่าไหร่ไม่รู้ จำได้ว่าดีกว่าที่คิด แต่พอคะแนนออกทางเว็บไซต์เท่านั้นแหละ Readingได้Level A2 Listeningได้Level B1 ผลสรุปเลยปัดตกมาที่เลเวล A2 พลาดไปแค่คะแนนเดียวเท่านั้น T_Tเศร้าไปสัก5นาทีแล้วก็ทำใจได้ เอาค่ะรอบหน้าค่อยไปใหม่ พอผ่านไปสักเดือนทางศูนย์สอบก็ส่งเมล์มาแจ้งว่าข้อสอบรอบนั้นเกิความผิดพลาด ให้ตรวจคะแนนใหม่แล้วไปรับผลคะแนนสอบใหม่ อ้าววว ตอนนั้นทั้งตื่นเต้นดีใจมีความหวังใหม่แต่ก็แอบกังวลจะน้อยลงมั้ยเนี่ยย เอาค่ะไหนๆก็ไหนๆๆละรีบ log in เข้าระบบเข้าอย่างไม่รีรอแล้วก็ค้นพบบว่าา…. คะแนนฉันผ่านนLevel Bทั้งสองอันจ้า 🎊🎉🥰
🔸🔸🔸🔸🔸🔸🔸🔸🔸🔸🔸🔸🔸🔸🔸🔸🔸🔸
สอบครั้งที่2
รอบนี้ไปแบบชิวกว่าเดิม ตั้งใจไม่อ่านหนังสือเพิ่มด้วยเพราะอยากเอาความรู้ที่ร่ำเรียนมาจากซือต้ามาสอบเลย สอบรองนี้เป็นแบบ CBT ทุกอย่างเกือบจะราบรื่นแล้วเชียว บอกคำว่าเดียวช่วง Reading บทความหลังๆยากมากจ้า เริ่มกังวลในใจ แต่ก็Keep goingทำไปจนจบผลปรากฏว่า Listening - L4, Reading -(อีก4คะแนนจะผ่าน L4 เศร้าไปงดเลี้ยงฉลอง😂) ผลรวมเราจะอยู่แค่ L3 เท่านี่ก็ดีแล้ว เพราะข้อสอบเป็นการวัดผลการเรียน และเป็นใบเบิกทาง ยืนยันกับบริษัทว่าเรารู้ภาษาจีนจริงๆนะ แต่สิ่งสำคัญคือการพูดสื่อสารกับเจ้าของภาษารู้เรื่องก็พอ☺️
ใครที่ยังลังเลจะสอบไม่สอบ ยังไม่พร้อม ให้ออกไปเริ่มลงมือทำอย่ารอจนตัวเองพร้อม เพราะเราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เราจะพร้อม เมื่อไหร่โอกาสจะมาหาเรา สิ่งสำคัญคือเราต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับทุกโอกาสที่จะเข้ามา
สู้ๆเพื่อวันข้างหน้าของตัวเอง🧡
มีอะไรสอบถามได้น๊าา เดี๋ยวจะมีรีวิวเพิ่มเติมเรียนภาษาจีนไต้หวัน 1 ปีเร็วๆๆนี้นะคะ
ฝากติดตามด้วยนะ
อยากรู้เรื่องข่าวสาร รีวิวต่างๆเกี่ยวกับไต้หวันสามารถติดตามได้ที่
Facebook Page: 365intaiwan
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้