สรรพสิ่งเมื่อชัดด้านใดด้านตรงข้ามก็จะจาง
อย่างการแสดงความคิดเห็นเมื่อเราต้องการมีตัวตนเราแสดงความชัดในความคิดเห็นออกมา
แน่นอนเมื่อเราชัดฝั่งใด ฝั่งตรงข้ามอีกฝั่งเราก็จะจางอัตโนมัติ
เรามิมีทางที่จะชัดได้ทั้งสองฝั่ง เมื่อเรายืนอีกฝั่ง อีกฝั่งเราย่อมไม่มีที่ยืน
ในทางการเมืองมันเป็นอะไรที่แบ่งฝักแบ่งฝ่ายแบ่งข้างอย่างชัดเจน
ประชาชนจึงแตกเป็นสองข้างเช่นกัน
ดังนั้นจะเล่นการเมืองคุณต้องชัด แล้วมาวัดกันที่ฐานเสียง
:
:
:
ผลึกหินพบว่า สรรพสิ่งมิมีความเป็นกลางเพราะเมื่อเป็นกลางจะไร้ตัวตน
สรรพสิ่งมันต้องรวมกันชัดด้านใดด้านหนึ่งเพื่อแสดงตัวตนออกมาเสมอ
อย่างเช่น ก้อนหินมันต้องแสดงความแข็ง มันจึงจางในด้านอ่อน มันจึงเป็นก้อนหิน
ดังนั้น สรรพสิ่งแสดงความชัดด้านใดออกมาจึงเป็นสิ่งนั้น
ความเป็นกลางในความคิดผลึกหิน คือความว่างเปล่าไร้ตัวตน
:
:
:
—-ผลึกหิน—-
ปล. ความรักก็เช่นกัน คุณต้องชัดกับใครคนนั้น เพื่อแสดงให้เขาเห็นตัวตนของคุณ
วางเพลงเพราะๆ…ให้ฟังครับ
@@@ความเป็นกลางคือความว่างเปล่า@@@ —-ผลึกหิน—-
อย่างการแสดงความคิดเห็นเมื่อเราต้องการมีตัวตนเราแสดงความชัดในความคิดเห็นออกมา
แน่นอนเมื่อเราชัดฝั่งใด ฝั่งตรงข้ามอีกฝั่งเราก็จะจางอัตโนมัติ
เรามิมีทางที่จะชัดได้ทั้งสองฝั่ง เมื่อเรายืนอีกฝั่ง อีกฝั่งเราย่อมไม่มีที่ยืน
ในทางการเมืองมันเป็นอะไรที่แบ่งฝักแบ่งฝ่ายแบ่งข้างอย่างชัดเจน
ประชาชนจึงแตกเป็นสองข้างเช่นกัน
ดังนั้นจะเล่นการเมืองคุณต้องชัด แล้วมาวัดกันที่ฐานเสียง
:
:
:
ผลึกหินพบว่า สรรพสิ่งมิมีความเป็นกลางเพราะเมื่อเป็นกลางจะไร้ตัวตน
สรรพสิ่งมันต้องรวมกันชัดด้านใดด้านหนึ่งเพื่อแสดงตัวตนออกมาเสมอ
อย่างเช่น ก้อนหินมันต้องแสดงความแข็ง มันจึงจางในด้านอ่อน มันจึงเป็นก้อนหิน
ดังนั้น สรรพสิ่งแสดงความชัดด้านใดออกมาจึงเป็นสิ่งนั้น
ความเป็นกลางในความคิดผลึกหิน คือความว่างเปล่าไร้ตัวตน
:
:
:
—-ผลึกหิน—-
ปล. ความรักก็เช่นกัน คุณต้องชัดกับใครคนนั้น เพื่อแสดงให้เขาเห็นตัวตนของคุณ
วางเพลงเพราะๆ…ให้ฟังครับ