เดี๋ยวนี้ยุคสมัยเปลี่ยนไป เมื่อชีวิตเรายุ่งๆทำงานนอกบ้าน อยู่กับงานมากกว่าอยู่บ้านอีก
การทำอาหารเองที่บ้านก็จะน้อยลง และจะต้องทานอาหารข้างนอกบ่อยกว่า
ปกติถ้าทำเองก็จะ ไม่ใส่น้ำมัน ไม่ใส่ผงปรุงเยอะและไม่มีน้ำปลา มีแต่ซีอิ้วเหยาะขวดเล็กๆนิดหน่อยใช้ได้เป็นเดือนๆ
คือทำกับข้าวก็จะเฉยๆไม่ได้อร่อยเหาะ เพราะกินสุขภาพก็จะจืดๆหน่อย
ไม่มีน้ำตาล มีแต่เกลือขวดบิดให้เป็นผง หรือทำกับซอสมะเขือเทศหรือซอสญี่ปุ่นสลับกันไป ถ้าเบื่อก็อาหารสำเร็จรูป
และเวลาสั่งอาหารตามสั่งร้านไหนก็ตาม เวลากินก็จะเค็มนำ หวานๆ หน่อยโอเครับได้ แต่บางทีผัดผัก เค็มมาก
ยิ่งร้านส้มตำทั่วๆไป ส้มตำ หวานมาก เผ็ดมาก จัดจ้าน กินไม่ได้ ยิ่งผงชูรสเยอะคือหายใจไม่ออก
ต้องเน้นยำเขาเสมอว่าส้มตำไม่ใส่พริก เอาจืดๆไม่เค็มไม่หวาน ผงชูรสไม่ต้องใส่ ไม่อร่อยก็กิน
ยิ่งลาบต่างๆบอกเขาเลยว่าทำให้สุกพอ ทำจืดๆ กินอร่อยกว่าอีก
น้ำหวานต่างๆกินไม่ได้เลย ถ้ากินต้องบอกหวานน้อย หรือเลี่ยงสั่งแต่โซดาขวด ถ้ากาแฟก็ไม่ใส่น้ำตาลเลย
เราจึงคิดกลับไปว่าคนเดี๋ยวนี้หลายๆคนติดหวาน เค็ม รสจัด เขาถ้าทำจืดก็จะขายไม่ได้ ทำไม่จัดจ้านคนก็ไม่กิน ผงชูรสไม่ใส่ก็ไม่ได้อีก
แล้วคนรักสุขภาพจะกินอะไรเลือกแต่ร้านสุขภาพก็กินนะ แต่ทุกวันก็เบื่อ กินแต่ผักสลัดก็ไม่ดีค่ะ เพราะผักดิบทุกอย่างที่ไม่ผ่านความร้อน
มีสารเคมีตกค้างมากกว่าอีก ออแกนิคจริงไม่จริงไม่ทราบแต่จะเลี่ยงทานแต่ผักต้ม ผักย่างแทนค่ะ
แล้วคนเป็นโรคเยอะมากเดี๋ยวนี้ ทั้งโรคไต ความดัน ต่างๆ เพราะอาหารที่กินนี่แหละ
คือเข้าใจว่าการเปิดร้านอาหารมันต้องอาหารที่อร่อย ถึงเครื่อง ลูกค้ากินแล้วรับได้
บางทีเขากินก็เค็ม หวาน มัน รสจัดเกิน เขากินได้ไง ตั้งคำถามตัวเองมาตลอดค่ะ
อาหารไทย ซีอิ้วเยอะเกิน น้ำปลาเยอะ ผงปรุงเยอะทุกอย่าง มันก็ไม่ไหวจริงๆ
อาหารตามสั่งหรือตามร้านอาหารทั่วไป ส่วนใหญ่จะทำเค็มและเน้นรสชาดจัดจ้านมาก
การทำอาหารเองที่บ้านก็จะน้อยลง และจะต้องทานอาหารข้างนอกบ่อยกว่า
ปกติถ้าทำเองก็จะ ไม่ใส่น้ำมัน ไม่ใส่ผงปรุงเยอะและไม่มีน้ำปลา มีแต่ซีอิ้วเหยาะขวดเล็กๆนิดหน่อยใช้ได้เป็นเดือนๆ
คือทำกับข้าวก็จะเฉยๆไม่ได้อร่อยเหาะ เพราะกินสุขภาพก็จะจืดๆหน่อย
ไม่มีน้ำตาล มีแต่เกลือขวดบิดให้เป็นผง หรือทำกับซอสมะเขือเทศหรือซอสญี่ปุ่นสลับกันไป ถ้าเบื่อก็อาหารสำเร็จรูป
และเวลาสั่งอาหารตามสั่งร้านไหนก็ตาม เวลากินก็จะเค็มนำ หวานๆ หน่อยโอเครับได้ แต่บางทีผัดผัก เค็มมาก
ยิ่งร้านส้มตำทั่วๆไป ส้มตำ หวานมาก เผ็ดมาก จัดจ้าน กินไม่ได้ ยิ่งผงชูรสเยอะคือหายใจไม่ออก
ต้องเน้นยำเขาเสมอว่าส้มตำไม่ใส่พริก เอาจืดๆไม่เค็มไม่หวาน ผงชูรสไม่ต้องใส่ ไม่อร่อยก็กิน
ยิ่งลาบต่างๆบอกเขาเลยว่าทำให้สุกพอ ทำจืดๆ กินอร่อยกว่าอีก
น้ำหวานต่างๆกินไม่ได้เลย ถ้ากินต้องบอกหวานน้อย หรือเลี่ยงสั่งแต่โซดาขวด ถ้ากาแฟก็ไม่ใส่น้ำตาลเลย
เราจึงคิดกลับไปว่าคนเดี๋ยวนี้หลายๆคนติดหวาน เค็ม รสจัด เขาถ้าทำจืดก็จะขายไม่ได้ ทำไม่จัดจ้านคนก็ไม่กิน ผงชูรสไม่ใส่ก็ไม่ได้อีก
แล้วคนรักสุขภาพจะกินอะไรเลือกแต่ร้านสุขภาพก็กินนะ แต่ทุกวันก็เบื่อ กินแต่ผักสลัดก็ไม่ดีค่ะ เพราะผักดิบทุกอย่างที่ไม่ผ่านความร้อน
มีสารเคมีตกค้างมากกว่าอีก ออแกนิคจริงไม่จริงไม่ทราบแต่จะเลี่ยงทานแต่ผักต้ม ผักย่างแทนค่ะ
แล้วคนเป็นโรคเยอะมากเดี๋ยวนี้ ทั้งโรคไต ความดัน ต่างๆ เพราะอาหารที่กินนี่แหละ
คือเข้าใจว่าการเปิดร้านอาหารมันต้องอาหารที่อร่อย ถึงเครื่อง ลูกค้ากินแล้วรับได้
บางทีเขากินก็เค็ม หวาน มัน รสจัดเกิน เขากินได้ไง ตั้งคำถามตัวเองมาตลอดค่ะ
อาหารไทย ซีอิ้วเยอะเกิน น้ำปลาเยอะ ผงปรุงเยอะทุกอย่าง มันก็ไม่ไหวจริงๆ