สวัสดีครับ เนื่องด้วยความตั้งใจและสัญญากับตัวเองไว้ว่าหากได้คะแนนIELTS ตามที่ต้องการก็จะมาแชร์ประสบการณ์เพื่อเป็นประโยชน์ให้คนที่ติดอยู่กับ IELTS journey และยังไม่สามารถผ่านไปได้
จขกท ได้คะแนน Overall band8 Listening 8 Reading 8 Speaking 8 และ Writing 7ครับ ใช้พลังกายและพลังใจไปไม่น้อยเลย 5555
ก่อนอื่นเลยต้องบอกก่อนว่าบทความนี้จะรีวิวเทคนิค แหล่งข้อมูล แหล่งส่งตรวจที่เป็นประโยชน์มากโดยเฉพาะคนที่ติดอยู่กับ writing band6-6.5 และต้องการให้ band scoreทุกอันเกิน7 ซึ่งที่ยากที่สุดคงเป็น writing ช่องว่างระหว่าง writing band 6และ 7 กว้างมากครับ
Band score ที่ผมต้องการคือ overall band 7.5 และ all band scoreต้องมากกว่า 7 เดิมทีก็คิดว่าคงไม่ยากเท่าไหร่เพราะพื้นฐานภาษาอังกฤษเราค่อนข้างดี(คะแนนภาษาอังกฤษสมัย entrance(บอกวัยเลย) 95/100 ตอนเรียนก็อ่านแต่ตำราภาษาอังกฤษ ) แต่ปรากฏว่าการสอบIELTS ซึ่งเป็น Academic English นี่คนละเรื่องเลยครับ ยากกว่ากันมาก part listening กับ reading ผมอยู่ที่ 8-9 ส่วน speaking 7-8 มีแต่writing นี่แหละครับที่หืดขึ้นคอทีเดียว ติดที่ 6 อยู่ ครึ่งปี 6.5 อีกครึ่งปี เกือบจะถอดใจไปหลายรอบ แต่ในที่สุดก็ผ่านมาได้ หลายๆคนคงวนอยู่ในอ่าง writing 6-6.5อยู่นาน บทความนี้จะเริ่มที่เทคนิค part writing แล้วตามด้วย partอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย review การสอบ computer base ความแตกต่างระหว่าง BCและ IDP สอบมาหลายรอบก็พอรู้สึกถึงความแตกต่างของทั้งสองที่ครับ
เริ่มกันเลยนะครับที่ writing โดยภาพรวม แบ่งเป็น 2 Task ให้เวลา 60นาที เทคนิคต่างๆที่จะกล่าวถึงคือ aim 7 นะครับ ตั้งเป้าให้สูงไว้ครับ แล้วเราจะไปถึง ข้อมูลเทคนิคต่างๆผมได้จากที่เรียนและส่งตรวจ ผมส่งตรวจหลายที่ต่อ 1essay เพื่อ compareครับ
Task 1 เป็น graph and chartแบบต่างๆให้เราเขียน report at least 150 words บางทีอาจได้ map หรือ diagram ซึ่งโอกาสน้อยมาก แต่ก็ควรซ้อมไว้ทุกแบบ การ aim ที่6-6.5 ไม่ยากครับ เขียนเป็น patternได้เลย แต่ถ้าจะเอา 7 นี่คนละเรื่อง ผมแนะนำว่า aim highครับ ถึงพลาดคะแนนก็ยังน่าพอใจ
Tips: paraphrasing คือหัวใจสำคัญใน Introduction มีคำหลักๆที่ใช้ได้ง่ายๆ
หนังสือหรือ youtubeบางอัน บอกให้สลับคำว่า Chartกับ graph!!! อันนี้ใช้ไม่ได้ทุกครั้งนะครับ
Line graph is line graph
Bar chart or bar graph
Pie chart is pie chart
Map or diagram ไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนคำ การใช้ illustration แทน examiner บางคนไม่ชอบเท่าไหร่
ระวัง subject-verb agreement ว่าเป็น chart or charts ใช้ verb ให้สอดคล้อง
Verb ใช้อะไรบ้าง illustrate, provide, จำไว้ไม่กี่อันพอครับ
คำว่า depict ผมเคยคุยกับ examiner หลายคน บางคนบอกได้ บางคนบอกไม่ได้ มันไม่make senseในgraph ส่วนตัวถ้าอะไรที่เป็นที่ถกเถียงอย่าไปใช้ครับ มีคำอีกเยอะให้ใช้
เปลี่ยน percentage เป็น proportion อันนี้ใช้ได้เสมอ ratio ใช้ได้เป็นบางที แต่ ratioคือการเปรียบเทียบผมว่าไม่น่าใช้ครับ
หากนึกคำที่จะใช้แทนไม่ออกให้เปลี่ยน part of speech ครับ v to n เป็นต้น
สิ่งสำคัญคือ detail ต้องครบ แผนภูมิอะไร แสดงข้อมูลอะไร ช่วงเวลา ต่างๆ
ต่อไป Overview มีความสำคัญมากๆๆๆๆๆๆ การเขียนดีมีชัยไปกว่าครึ่งครับ เป็นส่วนนึงของ task response ที่จะทำให้เราได้7++
ที่ๆผมเคยเรียนมามีหลายที่ครับที่บอกว่า overviewกับ detail paragraph ต้องเขียนคนละเรื่องกัน(ส่วนใหญ่ที่สอนแบบนี่เป็นติวเตอร์ไทย) ผมได้ discuss กับ examiner หลายคนที่เป็น examiner ในส่วน writing เค้าบอกชัดเลยครับว่าคิดแบบนี้มันไม่ logic
Overview เป็นภาพรวม แล้วเราลง detail ใน paragraph ต่อไปโดยมี ตัวเลยเป็นตัว support ข้อเท็จจริง
Key features ต่างๆต้องถูกเอ่ยถึงให้ครบในส่วนนี้ถึงจะทำให้ได้7ในส่วน task response ครับ
Key features ดูอย่างไร?
ไม่ใช่แค่อะไรมากสุด อะไรน้อยสุด แต่ควรดูภาพรวมครับ เช่น overall trend, gap ความต่างที่เปลี่ยนแปลง และความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกันของข้อมูลแต่ละชุดครับ
วิธีที่ผมใช้ในการเขียนคือ List key features ประมาณ4 ข้อ จากนั้นรวม 2 key features ที่เป็น simple sentencesเข้าด้วยกันเป็น complex or compound sentence ในการเขียนOverall ที่ดีอยู่ที่2ประโยคครับ 4key features รวมได้ 2 complex sentences
การขึ้นต้องประโยค Overview ไม่ต้องลีลามากครับ จริงอยู่มันมีหลายคำที่ใช้ได้ เช่น At a glance, As an overview blah blah blahแต่ที่ผมแนะนำคือใช้แค่ Overall, พอแล้วครับ เป็นการบอกว่านี่คือ overviewเรานะ คะแนนมันอยู่ที่เนื้อหาครับ
Detail paragraph ต้องนี้สำคัญที่การแบ่งข้อมูลครับ ใน keyการให้คะแนนจะเขียนเลยว่าต้อง logically ครับ จำไว้ว่าไม่ได้มีการแบ่งแบบเดียว มีวิธีเขียนมากมายครับ การเขียนที่ดีคืออธิบายประโยคแล้วต่อด้วยตัวเลขครับ task นี้คือการสื่อ factครับ No opinion!!!
ในส่วนนี้เป็นส่วนที่เราจะโชว์เทพในการใส่ compound & complex sentences ให้เต็มที่
verb ของ trending language ที่ใช้ควรมีทั้ง verb ธรรมดา+ adv เช่น rise dramatically และ strong verb เช่น plunge, plummated , soar, surge ครับ เนื่องจาก task 1สั้นจึงไม่ควรใช้คำซ้ำเลย หากจะใช้ซ้ำให้เปลี่ยนชนิดคำ เช่น increase as v กับ a slight increase
Linker ต่างๆใช้ได้แต่ต้องเหมาะสม การใช้มากเกินอาจโดนตัดคะแนนหากความหมายเพี้ยน
อีกอย่างที่สำคัญคือเราต้องมี comparison ของข้อมูลให้เพียงพอไม่ใช่แค่อธิบายข้อมูลครับ
จำเป็นไหมที่ต้อง paraphrase คำที่เป็นข้อมูล Data ถ้าทำได้ก็ดีแต่ถ้านึกคำแทนไม่ออก ให้ใช้วิธีเปลี่ยนรูปประโยคครับ อาทิเช่น A increase dramatically to B. 15% of A was observed in B year. B experience a slight decrease ให้ประโยคมีความหลากหลายอะไรแบบนี้ครับ
บางคนสงสัยว่าจำเป็นต้องมี Conclusionไหม ตอบเลยว่า No!!!! ครับ represent data+ conpare ครับแค่นั้น หนังสือบางเล่มเช่น Barron จะบอกให้มี conclusion examiner บางคนยอม บางคนบอกว่าผิดร้ายแรง เพราะฉะนั้น อย่าเสี่ยงครับ ไม่ต้องเขียน
ต่อด้วย Task2 นะครับ
ส่วนใหญ่แล้วจะเป็น statement เกี่ยวกับอะไรบางอย่าง แล้วจะมีคำถามซึ่งมีหลากหลาย เช่น discuss both views, advantages outweigh disadvantages, 2 question, etc ซึ่งหาอ่านได้ทั่วไปตามที่สอนIELTS จะขอข้ามไปนะครับเรื่องว่ามีกี่แบบนะครับ ผมจะลงรายละเอียดที่งานเขียนนะครับ
ส่วนแรก Introduction
Introduction ที่ดีควรมี 3ส่วน
อันแรก กล่าวถึงภาพกว้างๆของ statement
ส่วนที่สองคือการ paraphrase คำถาม
ส่วนที่สามคือตอบคำถามครับ เป็นการทำให้คนอ่านรู้ว่าเราจะเขียนอะไรบ้าง
หลายคนชอบลงท้ายว่า The reasons supporting my view will be discuss on the following paragraphs. บลาๆๆๆ อะไรแบบนี้ ถ้าจะaim 6ก็ใช้ได้ครับ เพิ่ม word count แต่ถ้าต้องการ 7 ลักษณะแบบนี้คือ memorised patternเพราะไม่มี vocabอะไรที่สื่อถึงคำถามเราเลย ซึ่งจะโดนหักได้ หากจะใช้ต้องเพิ่มคำที่สื่อถึงเรื่องที่เขียนครับ
ส่วนต่อมา body paragraph
จำเป็นไหมต้องมี 2 paragraphs และแต่ละ paragraph ประกอบด้วย 2 ideas อันนี้เป็น patternที่ รร กวดวิชาIELTS ชอบสอน
บอกเลยว่าไม่จำเป็นครับ กี่bodyก็ได้
การเขียน one paragraph one ideaเป็นวิธีที่ดี เพื่อให้คนตรวจอ่านง่ายและทำให้ topic sentence ชัดเจนครับ
รายละเอียดในแต่ละ ideaควรมี structure ดังนี้
Topic statement ตามด้วย explanation and extend idea ต่อด้วย การยกตัวอย่าง support หรือบอกถึงผลครับ จะทำให้ flow เรื่องดี เพิ่มคะแนน coherence and cohesion
การใส่ counter argument ช่วยเพิ่มคะแนนและแสดงชั้นเชิงที่สูงขึ้นในการเขียนครับ
Memorised pattern ไม่ทำให้เราได้ถึง 7 in writing ครับ เพราะมีช่องหักคะแนนที่จำมา
เส้นทางสู่ IELTS writing 7 แชร์ประสบการณ์และเทคนิค IELTS ต่างๆเพื่อคนที่ต้องการ all bandมากกว่า7ครับ
จขกท ได้คะแนน Overall band8 Listening 8 Reading 8 Speaking 8 และ Writing 7ครับ ใช้พลังกายและพลังใจไปไม่น้อยเลย 5555
ก่อนอื่นเลยต้องบอกก่อนว่าบทความนี้จะรีวิวเทคนิค แหล่งข้อมูล แหล่งส่งตรวจที่เป็นประโยชน์มากโดยเฉพาะคนที่ติดอยู่กับ writing band6-6.5 และต้องการให้ band scoreทุกอันเกิน7 ซึ่งที่ยากที่สุดคงเป็น writing ช่องว่างระหว่าง writing band 6และ 7 กว้างมากครับ
Band score ที่ผมต้องการคือ overall band 7.5 และ all band scoreต้องมากกว่า 7 เดิมทีก็คิดว่าคงไม่ยากเท่าไหร่เพราะพื้นฐานภาษาอังกฤษเราค่อนข้างดี(คะแนนภาษาอังกฤษสมัย entrance(บอกวัยเลย) 95/100 ตอนเรียนก็อ่านแต่ตำราภาษาอังกฤษ ) แต่ปรากฏว่าการสอบIELTS ซึ่งเป็น Academic English นี่คนละเรื่องเลยครับ ยากกว่ากันมาก part listening กับ reading ผมอยู่ที่ 8-9 ส่วน speaking 7-8 มีแต่writing นี่แหละครับที่หืดขึ้นคอทีเดียว ติดที่ 6 อยู่ ครึ่งปี 6.5 อีกครึ่งปี เกือบจะถอดใจไปหลายรอบ แต่ในที่สุดก็ผ่านมาได้ หลายๆคนคงวนอยู่ในอ่าง writing 6-6.5อยู่นาน บทความนี้จะเริ่มที่เทคนิค part writing แล้วตามด้วย partอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย review การสอบ computer base ความแตกต่างระหว่าง BCและ IDP สอบมาหลายรอบก็พอรู้สึกถึงความแตกต่างของทั้งสองที่ครับ
เริ่มกันเลยนะครับที่ writing โดยภาพรวม แบ่งเป็น 2 Task ให้เวลา 60นาที เทคนิคต่างๆที่จะกล่าวถึงคือ aim 7 นะครับ ตั้งเป้าให้สูงไว้ครับ แล้วเราจะไปถึง ข้อมูลเทคนิคต่างๆผมได้จากที่เรียนและส่งตรวจ ผมส่งตรวจหลายที่ต่อ 1essay เพื่อ compareครับ
Task 1 เป็น graph and chartแบบต่างๆให้เราเขียน report at least 150 words บางทีอาจได้ map หรือ diagram ซึ่งโอกาสน้อยมาก แต่ก็ควรซ้อมไว้ทุกแบบ การ aim ที่6-6.5 ไม่ยากครับ เขียนเป็น patternได้เลย แต่ถ้าจะเอา 7 นี่คนละเรื่อง ผมแนะนำว่า aim highครับ ถึงพลาดคะแนนก็ยังน่าพอใจ
Tips: paraphrasing คือหัวใจสำคัญใน Introduction มีคำหลักๆที่ใช้ได้ง่ายๆ
หนังสือหรือ youtubeบางอัน บอกให้สลับคำว่า Chartกับ graph!!! อันนี้ใช้ไม่ได้ทุกครั้งนะครับ
Line graph is line graph
Bar chart or bar graph
Pie chart is pie chart
Map or diagram ไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนคำ การใช้ illustration แทน examiner บางคนไม่ชอบเท่าไหร่
ระวัง subject-verb agreement ว่าเป็น chart or charts ใช้ verb ให้สอดคล้อง
Verb ใช้อะไรบ้าง illustrate, provide, จำไว้ไม่กี่อันพอครับ
คำว่า depict ผมเคยคุยกับ examiner หลายคน บางคนบอกได้ บางคนบอกไม่ได้ มันไม่make senseในgraph ส่วนตัวถ้าอะไรที่เป็นที่ถกเถียงอย่าไปใช้ครับ มีคำอีกเยอะให้ใช้
เปลี่ยน percentage เป็น proportion อันนี้ใช้ได้เสมอ ratio ใช้ได้เป็นบางที แต่ ratioคือการเปรียบเทียบผมว่าไม่น่าใช้ครับ
หากนึกคำที่จะใช้แทนไม่ออกให้เปลี่ยน part of speech ครับ v to n เป็นต้น
สิ่งสำคัญคือ detail ต้องครบ แผนภูมิอะไร แสดงข้อมูลอะไร ช่วงเวลา ต่างๆ
ต่อไป Overview มีความสำคัญมากๆๆๆๆๆๆ การเขียนดีมีชัยไปกว่าครึ่งครับ เป็นส่วนนึงของ task response ที่จะทำให้เราได้7++
ที่ๆผมเคยเรียนมามีหลายที่ครับที่บอกว่า overviewกับ detail paragraph ต้องเขียนคนละเรื่องกัน(ส่วนใหญ่ที่สอนแบบนี่เป็นติวเตอร์ไทย) ผมได้ discuss กับ examiner หลายคนที่เป็น examiner ในส่วน writing เค้าบอกชัดเลยครับว่าคิดแบบนี้มันไม่ logic
Overview เป็นภาพรวม แล้วเราลง detail ใน paragraph ต่อไปโดยมี ตัวเลยเป็นตัว support ข้อเท็จจริง
Key features ต่างๆต้องถูกเอ่ยถึงให้ครบในส่วนนี้ถึงจะทำให้ได้7ในส่วน task response ครับ
Key features ดูอย่างไร?
ไม่ใช่แค่อะไรมากสุด อะไรน้อยสุด แต่ควรดูภาพรวมครับ เช่น overall trend, gap ความต่างที่เปลี่ยนแปลง และความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกันของข้อมูลแต่ละชุดครับ
วิธีที่ผมใช้ในการเขียนคือ List key features ประมาณ4 ข้อ จากนั้นรวม 2 key features ที่เป็น simple sentencesเข้าด้วยกันเป็น complex or compound sentence ในการเขียนOverall ที่ดีอยู่ที่2ประโยคครับ 4key features รวมได้ 2 complex sentences
การขึ้นต้องประโยค Overview ไม่ต้องลีลามากครับ จริงอยู่มันมีหลายคำที่ใช้ได้ เช่น At a glance, As an overview blah blah blahแต่ที่ผมแนะนำคือใช้แค่ Overall, พอแล้วครับ เป็นการบอกว่านี่คือ overviewเรานะ คะแนนมันอยู่ที่เนื้อหาครับ
Detail paragraph ต้องนี้สำคัญที่การแบ่งข้อมูลครับ ใน keyการให้คะแนนจะเขียนเลยว่าต้อง logically ครับ จำไว้ว่าไม่ได้มีการแบ่งแบบเดียว มีวิธีเขียนมากมายครับ การเขียนที่ดีคืออธิบายประโยคแล้วต่อด้วยตัวเลขครับ task นี้คือการสื่อ factครับ No opinion!!!
ในส่วนนี้เป็นส่วนที่เราจะโชว์เทพในการใส่ compound & complex sentences ให้เต็มที่
verb ของ trending language ที่ใช้ควรมีทั้ง verb ธรรมดา+ adv เช่น rise dramatically และ strong verb เช่น plunge, plummated , soar, surge ครับ เนื่องจาก task 1สั้นจึงไม่ควรใช้คำซ้ำเลย หากจะใช้ซ้ำให้เปลี่ยนชนิดคำ เช่น increase as v กับ a slight increase
Linker ต่างๆใช้ได้แต่ต้องเหมาะสม การใช้มากเกินอาจโดนตัดคะแนนหากความหมายเพี้ยน
อีกอย่างที่สำคัญคือเราต้องมี comparison ของข้อมูลให้เพียงพอไม่ใช่แค่อธิบายข้อมูลครับ
จำเป็นไหมที่ต้อง paraphrase คำที่เป็นข้อมูล Data ถ้าทำได้ก็ดีแต่ถ้านึกคำแทนไม่ออก ให้ใช้วิธีเปลี่ยนรูปประโยคครับ อาทิเช่น A increase dramatically to B. 15% of A was observed in B year. B experience a slight decrease ให้ประโยคมีความหลากหลายอะไรแบบนี้ครับ
บางคนสงสัยว่าจำเป็นต้องมี Conclusionไหม ตอบเลยว่า No!!!! ครับ represent data+ conpare ครับแค่นั้น หนังสือบางเล่มเช่น Barron จะบอกให้มี conclusion examiner บางคนยอม บางคนบอกว่าผิดร้ายแรง เพราะฉะนั้น อย่าเสี่ยงครับ ไม่ต้องเขียน
ต่อด้วย Task2 นะครับ
ส่วนใหญ่แล้วจะเป็น statement เกี่ยวกับอะไรบางอย่าง แล้วจะมีคำถามซึ่งมีหลากหลาย เช่น discuss both views, advantages outweigh disadvantages, 2 question, etc ซึ่งหาอ่านได้ทั่วไปตามที่สอนIELTS จะขอข้ามไปนะครับเรื่องว่ามีกี่แบบนะครับ ผมจะลงรายละเอียดที่งานเขียนนะครับ
ส่วนแรก Introduction
Introduction ที่ดีควรมี 3ส่วน
อันแรก กล่าวถึงภาพกว้างๆของ statement
ส่วนที่สองคือการ paraphrase คำถาม
ส่วนที่สามคือตอบคำถามครับ เป็นการทำให้คนอ่านรู้ว่าเราจะเขียนอะไรบ้าง
หลายคนชอบลงท้ายว่า The reasons supporting my view will be discuss on the following paragraphs. บลาๆๆๆ อะไรแบบนี้ ถ้าจะaim 6ก็ใช้ได้ครับ เพิ่ม word count แต่ถ้าต้องการ 7 ลักษณะแบบนี้คือ memorised patternเพราะไม่มี vocabอะไรที่สื่อถึงคำถามเราเลย ซึ่งจะโดนหักได้ หากจะใช้ต้องเพิ่มคำที่สื่อถึงเรื่องที่เขียนครับ
ส่วนต่อมา body paragraph
จำเป็นไหมต้องมี 2 paragraphs และแต่ละ paragraph ประกอบด้วย 2 ideas อันนี้เป็น patternที่ รร กวดวิชาIELTS ชอบสอน
บอกเลยว่าไม่จำเป็นครับ กี่bodyก็ได้
การเขียน one paragraph one ideaเป็นวิธีที่ดี เพื่อให้คนตรวจอ่านง่ายและทำให้ topic sentence ชัดเจนครับ
รายละเอียดในแต่ละ ideaควรมี structure ดังนี้
Topic statement ตามด้วย explanation and extend idea ต่อด้วย การยกตัวอย่าง support หรือบอกถึงผลครับ จะทำให้ flow เรื่องดี เพิ่มคะแนน coherence and cohesion
การใส่ counter argument ช่วยเพิ่มคะแนนและแสดงชั้นเชิงที่สูงขึ้นในการเขียนครับ
Memorised pattern ไม่ทำให้เราได้ถึง 7 in writing ครับ เพราะมีช่องหักคะแนนที่จำมา