ก็ตามชื่อกระทู้เลยค่ะ เราไปสอบ IELTS มา ครั้งเเรกในชีวิตเลย เลยตั้งใจไว้ว่าถ้าสอบเสร็จจะมาเขียนกระทู้รีวิวการสอบ เผื่อเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆ เหมือนที่เราก็ได้ประโยชน์มากๆเช่นกัน กับการอ่านกระทู้ต่างๆก่อนการไปสอบ เราเป็นคนไม่เก่งอังกฤษ เเต่ก็พยายามขวนขวายนะ เลยมาถึงจุดที่หาทุนไปเรียนต่อ เป็นนักเรียนเเลกเปลี่ยนสักปีนึง คิดว่ากลับมามันต้องได้เเหละภาษาเนี่ย เพราะเรียนอังกฤษมาทั้งชีวิตยั้นปี 3 เเล้วก็ยังพูดไม่ได้ 55555 เเต่อาจเป็นเพราะตัวเราด้วย บางคนไม่ได้ไปต่างประเทศก็สามารถพูดได้นะคะ เเต่ในความคิดเราคือ ถ้าไปเนี่ยเราต้องได้เเน่ๆ + เบื่อสังคมการเรียนที่ไทย เลยอยากไปลองเรียนที่ต่างประเทศดูบ้างค่ะ  เเต่ปี 3 เเล้วอ่ะเนอะ งานคือหนักมากเเบบไม่คิดว่าจะหนักขนาดนี้ เลยทำให้ไม่มีเวลาอ่านหนังสือเลย ลังเลอยู่ว่าจะเอาไงดี เพราะถ้าจะลองสมัครโครงการเเลกเปลี่ยน ต้องเป็นโครงการนี้เท่านั้น(อายุปีจะเกินค่ะ 555) เเละได้เเค่โครงการนี้อันเดียว (เป็นโครงการสุดท้ายของปีที่เปิดรับ) เเละ ถ้าจะไปต้องรอผล IELTS เเล้วยื่นภายในวันที่เค้ากำหนดซึ่งสามารถสอบได้เเค่รอบนี้เท่านั้น เราสอบรอบ 5 มกราคม 2019 (ไม่ได้ฉลองปีใหม่อะไรทั้งนั้นเลย มันเครียดมาก TT) ทุกอย่างดูเป็นเเบบ The last one ไปหมด สุดท้ายก็ตัดสินใจว่า เอาวะ! ไม่ลองไม่รู้ ไม่สมัครคือไม่มีโอกาสเลย ถ้าลองอาจจะติดก็ได้ เลยสมัครสอบไป เเละมีเวลาอ่านหนังสือ 2 อาทิตย์ถ้วน ตัดวันที่ติดธุระ วันต้องเดินทาง วันปีใหม่ที่ข้างบ้านเปิดเพลงตั้งวง ตั่งต่าง เหมือนอ่านได้เเค่ 1 อาทิตย์เท่านั้นค่า เยี่ยมจริง 55555

          อันนี้จะเป็น Source ต่างๆของเรา ที่เราดูมาทั้งหมดนะคะ เผื่อบางคน ขี้เกียจอ่านรีวิว ก็สามารถเอาเนื้อหาตรงนี้ไปก่อนได้เลยค่ะ
- รีวิวความต่าง IDP กับ British Council (ส่วนตัวเราสอบ IDP ค่ะ เดี๋ยวรีวิวข้างล่างนะ)
http://www.oxbridge.in.th/ความแตกต่าง-ielts-bc-idp
- ขอบคุณกระทู้รีวิว (อย่างที่บอกไปว่าเพราะกระทู้ต่างๆ ทำให้เรารู้อะไรมากมาย เลยอยากทำบ้างเผื่อเป็นประโยชน์กับคนอื่นเเละขอบคุณเจ้าของกระทู้ข้างล่างเหล่านี้ด้วยค่ะ )
https://ppantip.com/topic/36239956
https://ppantip.com/topic/32254089
https://ppantip.com/topic/37637890
https://ppantip.com/topic/31599194
https://ppantip.com/topic/30886439
https://www.dek-d.com/board/view/3805302/
https://ppantip.com/topic/32492363
https://ppantip.com/topic/32574430
https://ppantip.com/topic/31797727
https://ppantip.com/topic/37774771
https://ppantip.com/topic/30643169
http://blog.vzmart.com/แชร์ประสบการณ์และเทคนิคสอบ-ielts-ครั้งเดียวได้-band-7-5-แบบลุยอ่านหนังสือเอง/
https://ppantip.com/topic/32400789
- writing
https://www.ieltsteetak.com/daily-tips/ielts-writing-70-5-writing-1
http://www.oxbridge.in.th/ielts-writing-task-1/5-ielts-writing-task-1-tips
https://www.youtube.com/watch?v=cYlN6itBnJc
https://www.ielts-mentor.com/48-ielts-vocabulary/vocabulary-for-academic-ielts-writing-task-1/528-vocabulary-for-academic-ielts-writing-task-1-part-1
https://www.ielts-mentor.com/49-ielts-vocabulary/vocabulary-for-academic-ielts-writing-task-2/530-vocabulary-for-academic-ielts-writing-task-2-part-1
https://www.ielts-exam.net/ielts_writing_samples_task_2/
- listening
https://www.esl-lab.com
http://www.oxbridge.in.th/ielts-listening/เทคนิค-ielts-listening
- Reading
https://www.ieltsadvantage.com/reading/
http://www.oxbridge.in.th/ielts-reading/อ่าน-ielts-ให้สนุก
http://www.oxbridge.in.th/ielts-reading/เทคนิคอ่านเร็วielts
- สอนภาษาอังกฤษเเละเทคนิคต่างๆ
https://www.engvid.com
https://www.chulatutor.com/blog/category/ielts/#.XDMEeS2B1Sy
https://ieltsmaterial.com
https://ppantip.com/topic/35623201
https://www.youtube.com/channel/UCxv6hvEE96eDD1wlAd_OJmg/videos
- ลองทำโจทย์ (ส่วนตัวทำไปครั้งเดียวเองค่ะ เพราะเวลาน้อยเเละเราสอบเเบบ Paper เลยอยากลองทำเเบบในกระดาษมากกว่าจะได้ชิน)
https://ieltsonlinetests.com

สถานที่สอบเเละวันสอบ
          เราเลือกสอบของ IDP นะคะ เราไปสมัครที่สำนักงานใหญ่เลยอยู่ตรงศาลาเเดงค่ะ ตึก CP เพราะเรางงกับเว็บสมัคร 5555 เเล้วก็ต้องการความชัวร์ค่ะ กลัวกรอกผิด เพราะอย่างที่บอกเรามีโอกาสครั้งเดียวจริงๆ TT เเล้วก็เลือกสถานที่สอบเป็น MUIC ค่ะ มหิดล ศาลายา เป็นสถานที่สอบใหม่ เพิ่งมาเปิด เเละใกล้บ้านเรา เลยเลือกที่นี่ค่ะ โดยรวมประทับใจมากจริงๆ สำหรับห้องสอบ มีดินสอยางลบให้(มีทุกที่ของIDP) เเอร์หนาวนะคะ ใครไปสอบควรติดเสื้อกันหนาวไปด้วย เเละสิ่งที่เรากังวลสุดคือ นาฬิกาค่ะ เพราะเราเป็นคนทำข้อสอบช้ามากๆ ถ้าไม่ดูนาฬิกาจะเเบ่งเวลาทำไม่ได้เลย เเล้วสอบ IELTS ห้ามเอานาฬิกาเข้าไป ถามพี่มาเค้าบอกคนคุมจะเเจ้งเวลาเป็นช่วงๆ เช่นเหลือ 20 นาที อะไรเเบบนี้ ซึ่งเราว่ามันไม่พอสำหรับเรา ก็ลุ้นว่าจะมีนาฬิกาเเปะผนังไหม สรุปคือมีค่ะ เเปะผนังตรงกลาง อันไม่ใหญ่มาก เเต่มองเห็นได้ (เรานั่งเเถวกลางๆ) ก็คิดว่า โอเค อุ่นใจขึ้นมานิดนึง เเต่สรุปคือ ที่นี่เค้าเปิดนาฬิกาดิจิตัล ฉายขึ้นจอมอนิเตอร์ นับถอยหลังให้เลย ดีมากๆ เห็นชัดดี (เคยไปอ่านรีวิวมาบางที่เค้าไม่มีให้อะค่ะ) ที่เรารีวิวที่นี่เพราะ เท่าที่เราหารีวิวอ่านมา ไม่เจอรีวิวของ MUIC เลย น่าจะเพราะใหม่อยู่หรือเราหาไม่เจอก็ไม่รู้ 5555 เอาเป็นว่าดีเลยค่ะ การสอบ Listening Reading Writing สอบในห้องเดิม ติดกันเลย เเล้วก็พักเที่ยง สอบ Speaking ต่อตอนบ่ายค่ะ (เราเลือกสอบวันเดียวกัน ที่เดียวกันค่ะ)

**เรียนพิเศษ VS อ่านเอง (เเนะนำอ่านให้จบนะหัวข้อนี้ 555)
          สำหรับเราที่เวลาน้อยนิด เลยเลือกเรียนพิเศษ เพราะคิดว่าตัวเองทำไม่ได้หรอก ก็เรียนพิเศษมาตลอดชีวิต ไม่คิดจะอ่านเองเลย (ไม่ดีนะ บางคนเค้าอ่านเองก้ได้ผลค่ะ อยู่ที่ตัวเราเเละมุมมองต่างๆ) เลยเอาเงินเเก้ปัญหา 5555 ค่าเรียนเเพงมากก คือสมัยก่อนเรียนในตึกวรรณสรณ์จ่ายหลายพันก็ว่าเยอะเเล้ว นี่เป็นหมื่นเเล้วเรียนนับเป็นชั่วโมง เเต่ก็คิดว่าเอาวะเราสอบได้ครั้งเดียวนี่ไปให้สุด ก็สมัครเรียนไปเเล้วสรุปคือ เข้ากับคนสอนไม่ได้ เรียนไปสามครั้งไม่โอเคเลย ยิ่งกว่าเศร้าก็คือเสียดายเงินถ้าจะเลิกเรียนเเต่ถ้าเรียนต่อคือไม่ได้เเน่ๆ ใจไม่เอาเเล้ว พี่ที่สอนคือ ไปสอนเราที่ร้านกาเเฟชั้นบนซึ่งไม่ต้องสั่งนํ้าก็ได้ เเต่ต้องจ่ายค่านั่งเป็นรายชั่วโมงอยู่เเถวสยาม ตอนนั้นคิดว่าเราจ่ายค่าเรียนเป็นหมื่น เเต่ไม่มีสถานที่ให้ให้มานั่งนี่เเล้วเราต้องเป็นคนจ่ายค่าชั่วโมง เรานั่งรถมาเรียนสองชั่วโมงเเต่ให้เราเรียนเเค่วันละ2 ชั่วโมงเพราะเวลาลงเรียนไม่พอ เคยนั่งเรียน3 ชั่วโมงพี่คนสอนคือหาวเลยบอกเราว่าไม่ค่อยได้สอน private ติดกัน 3ชม. เเล้วคนเดินผ่านไปมาคือพี่เเกมองทุกคนไม่มีสมาธิสอนเราเลย เราก็ไม่ค่อยมีสมาธิเรียน พีคสุดที่ทำให้เราไม่อยากเรียนเเล้วคือเราถามเค้าว่า เวลาเท่านี้เราอยากได้คะเเนนเท่านี้พี่ว่าจะได้ไหม มันมีหวังไหม คือในใจเนี่ยอยากให้เค้าบอกว่าถ้าพยายามก็อาจได้หรือพอมีหวังนะเเต่เค้าบอกเราว่า ไม่ได้หรอก ไม่ทันหรอก เราเเบบคิดในใจว่าเฮ้ยถ้าเค้าบอกขนาดนี้คือ เค้าไม่สู้ไปกับเราเลยอะ ไม่ให้หวังกันเลย เเล้วเราจะเรียนต่อไปทำไม เรียนก็ไม่ได้ เสียเวลา เสียดายตังค่าอื่นๆอย่างค่ารถไปกลับ ค่าbts ค่าสถานที่ ค่าข้าว ที่ไม่รวมกับค่าเรียน เราเลยเลิกไปเรียน (เสียดายเงินนะ ไม่ได้รวยเเบบเอาเงินทิ้งขว้างได้ เงินที่เรียนก็เงินเก็บเราเอง เเต่ลองคิดดูเเล้ว เรียนต่อมันเสี่ยงกว่ามาอ่านเอง อ่านเองเราว่าเรายังมีหวังกว่าเลย ) ***ตรงนี้คือ เป็นเเค่มุมมองของเรานะคะ เเค่เราคนเดียวเลย คนอื่นอาจมองบวกเเละคิดต่างจากเราไป เราจะไม่โทษว่าเค้าผิดเลย คนเรียนกับเค้าเยอะเเยะ เเต่ผิดที่เราเองที่เข้ากับเค้าไม่ได้ เเละไม่รู้มาก่อนว่าการเรียนเเบบนี้จะไม่มีสถานที่ จะต้องจ่ายค่าที่เอง (รึป่าวไม่รู้ 555) หรืออื่นๆ เราผิดทั้งหมดค่ะ เราจะโทษตัวเองไม่โทษคนอื่นเลย ที่เล่าให้ฟังคืออยากบอกไว้ค่ะว่าถ้าจะเรียน เเนะนำให้คุยรายละเอียดให้เเน่ชัด เงินไม่ได้หาได้ง่ายๆเนอะ เเล้วก็ลองทดลองเรียนก่อนสักครั้ง ถ้าไม่ชอบก็อย่าไปเรียนค่ะ เราเลือกได้ เเต่ถ้าจ่ายเงินเเล้วเนี่ย เลือกไม่ได้เเล้วนะ 555 จะได้ไม่เกิดปัญหาเเบบเราค่ะ*** จะเรียนหรืออ่านเอง อันนี้ขึ้นกับเเต่ละคนเนอะ เพราะมีคนทำได้มาเเล้วจากทั้งสองเเบบค่ะ

Listening
           สำหรับสอบฟังอย่างเเรกเลย คือเราเตรียมตัวสอบโดยการพยายามฟังเยอะค่ะ เเต่จะมาฟังเพลง ฟัง podcast ไม่ทันเเล้ว ก็อาศัยฟังเเล้วลองจากข้อสอบเก่าๆเลย เเล้วก็ตรวจ เเล้วดูว่าข้อไหนผิด ก็ลองฟังอีกรอบพร้อมดู Subtitle ไปด้วย : ตอนสอบฟังก็มีหลุดค่ะ  มี 4 Parts เเละอันเเรกจะง่ายสุด เเต่เราก็หลุดนะ ฟังไม่ทันเค้าพูดไปถึงอันอื่นเเล้ว ดังนั้น บอกได้อย่างเดียวก็คือมีสตินะคะ ตอนเค้าเเจกข้อสอบมา กวาดตาดูโจทย์คร่าวๆ วงหรือขีดคำศัพท์ที่คิดว่าเป็น Keyword เเบบว่าต้องเจอเเน่ๆ จะได้รู้ว่าพูดถึงไหนเเล้ว เเล้วพอ เค้าบอกว่า Now we shall begin คือเราต้องพร้อมเเล้ว อย่าจดจ่อเเค่คำใดคำหนึ่ง เเบบว่าต้องเจอคำนี้ๆ มันจะทำให้เสียสมาธิ สำหรับเรานะ เเล้วก็ถ้ามันข้ามข้อไหนไปเเล้วก็คือ ปล่อยเลย เพราะเค้าเปิดรอบเดียว ถ้ามัวมาคิดว่าจะทำยังไงดี คือ กระทบข้ออื่นๆต่อไปจะเเย่เอาค่ะ ปล่อยไปเลยเดี๋ยวมาใส่ทีหลังเอา พอเสร็จทั้งหมด เค้าจะให้เราเขียนคำตอบ 10 นาที ก่อนเริ่ม Reading ต่อ

Reading
          ก็อย่างที่บอกไป ไม่ทันค่ะ อ่านขงอ่านข่าว ไม่ทันเเล้วก็ลองข้อสอบเลย ง่วงมากตอนเเรกๆที่หัดทำ หลับตลอดเลย555 เค้าให้ 3 บทความ 60 นาที รวมเวลาตอบเเล้ว เเละบทความจะเรียงจากง่ายไปยาก เราเเบ่งเป็น 20 นาทีต่อบทความ (ส่วนใหญ่เค้าจะทำบทความเเรกเเค่ 15 นาทีค่ะเเล้วเอาเวลาไปทดให้บทความสุดท้ายที่ยากสุด เเต่เราว่ายากง่ายมันก็ยากหมดสำหรับเรา เราเลยให้20นาทีเท่ากันหมดเลย 555) ตอนซ้อมเอาจริงๆ ใช้เกิน 1 ชั่วโมงตลอดเลย น่าจะเพราะยังทำไม่มากพอ เลยยังไม่คล่อง : ตอนสอบเราเลือกทำส่วนที่เราชอบก่อน (บางคนก็จะมีส่วนที่ชอบหรือถนัดต่างกันเนอะ) เราทำพวกหา Heading อะไรเเบบนี้ก่อนรู้สึกชอบสุด เเล้วถ้าสุดท้ายไม่ทันก็มั่วไปค่ะ อย่าเว้นว่างนะคะ มั่วไปยังอาจถูก ที่สำคัญคือ อ่านโจทย์ดีๆนะคะ เค้าให้เติมอะไร อย่าสับสนระหว่าง True False กับ Yes No นะ มันมีสองเเบบต้องดูดีๆ เราเคยทำผิดไปเเล้ว

Writing
          ตอนเตรียมตัวคือ ไปหาเเนวข้อสอบที่เค้าทำมาเเล้วเเล้วก็ลองเขียนตามค่ะ ให้พอรู้ว่าอันนี้เป็นเเบบนี้ พูดตามจริงเลยคือ จำไม่ค่อยได้เลย เเนะนำให้จำศัพท์ไปเลยค่ะถ้าเวลาน้อยๆ ว่าคำเชื่อมมีอะไร ศัพท์เฉพาะในการอธิภายพวก การขึ้น-ลง การเปลี่ยนเเปลงต่างๆ ของ Task 1 เราทำเเบบนั้นเพราะเราไม่มีเวลาจริงๆค่ะ ลองทำโจทย์ได้เเค่ข้อเดียวเอง น้อยมาก 5555 ไม่ดีนะคะ ควรทำโจทย์มากๆ ถ้ามีเวลานะ จะได้คล่องๆตอนเขียนตอบ : ตอนสอบเราก็เขียนไปเรื่อยๆ grammar เด็กๆ เท่าที่เราทำได้ค่ะ คิดเเค่ว่า เขียนไปยังพอได้คะเเนนมั้ง ไม่เขียนคือไม่ได้เลย

Speaking
          การเตรียมตัวคือไม่มีใดๆทั้งสิ้น ไม่ใช่พูดได้นะ เเต่ไม่รู้จะเตรียมยังไง เวลาน้อยมาก ส่วนอื่นก็ต้องทำฟังก็ต้องฟัง เขียนก็ต้องจำศัพท์ พูดก็ไม่รู้จะพูดกับใคร สองวันก่อนสอบคือ panic สุด ไม่อยากสอบเลยไม่พร้อม 555 เเต่ก็ลองหาคลิปในยูทูปดูนะที่เค้าสอบพูดเเล้วได้คะเเนนสูงๆเเล้วลองพูดตาม : ตอนสอบคือ เราได้คนเเรก ตื่นเต้นมากๆ สรุปคือ เละเลย ฟังโจทย์ออกทั้งหมด เเต่พูดไม่ออก ไม่รู้จะตอบเป็นภาษาอังกฤษยังไงดี มือสั่นไปหมด พูดอึกๆอักๆ ไม่ดีมากๆค่ะ ควรเตรียมตัวก่อนเนอะ หัดพูดกับตัวเองหน้ากระจกก็ได้ จะได้ไม่ลนเเบบเรา

สุดท้ายก็เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่จะสอบนะคะ เขียนผิดพลาดยังไงต้องขอโทษด้วย หวังว่าจะเป็นประโยชน์เเละขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ
ปล. อย่าลืมวางเเผนการสอบดีๆ อย่ากระชั้นชิดเเบบเราเลยค่ะ เตรียมตัวไม่ทันจริงๆ ตอนนี้ก็รอลุ้นคะเเนนอยู่