พึ่งสอบมาวันนี้สดๆร้อนๆเลย ตกดึกขอรีวิวซักหน่อย
ที่กะจะมารีวิวนี่ก็เพราะส่วนหนึ่งอยากระบายอะไรซักอย่างในใจ และอีกอย่างก็อยากให้เป็นความรู้สำหรับผู้อื่น และเป็นความทรงจำของจขกท.ด้วย
เราก็เป็นคนหนึ่งที่อยากไปต่างประเทศอ่ะ เหมือนกับเพื่อนๆคนอื่นๆ แต่ติดตรงที่ภาษาอังกฤษนี่แหละ เอาจริงๆคงไม่มีใครห่วยได้เท่านี้อีกแล้ว คือเราเรียนคณะวิทยาศาสตร์ไง ถ้าใครเรียนคณะนี้ด้วยคงรู้ว่าภาษาอังกฤษคือปัญหาหลักของเรา ก็เราอาศัยสมองคนละซีกนี่ ช้านถนัดวิทยาศาสตร์เรียนจนสมองซีกซ้ายใหญ่ไปเบียดสมองซีกขวา ทำให้เรียนภาษาอังกฤษได้นิดเดียว (มันก็แค่ข้ออ้างของเราคนเดียวมั้ง)
เอาหล่ะ เริ่มจากการที่เราสนใจมากๆกับการไปทำวิจัยต่างประเทศ และทุนมันรีไควแค่ Overall 6 ทำไมถึงบอกว่าแค่..ก็เพราะว่าเคยเห็นเพื่อนบางคนต้องการตั้ง 7 up แถมต้องทุกอันมากกว่าเท่านั้นเท่านี้อีกต่างหาก ดังนั้นเราจึงสนใจเป็นพิเศษ และก็โชคดีมากที่อาจารย์คอยช่วยเหลือ คือได้อาจารย์นี่แหละสอนการเขียนอิอิ เอ่อ ต้องขอบอกเพื่อนๆนิดหนึ่งว่าเราเรียนสถิติ ดังนั้นพาร์ทอธิบายกราฟนี่หมูๆเลย สำหรับการอธิบายเป็นภาษาไทยนะ - -"
คือความจริงเรามีเวลาเตรียมตัวนานมาก เกินครึ่งปีอ่ะ คือสามารถไปเข้าคอร์สเรียนที่เขารับรองได้สบายๆ แต่เราไม่เคยคิดว่าจะได้อยู่แล้ว คือใจหนึ่งอยากไป ใจหนึ่งเสียดายตังนึกออกป่ะ แบบดูถูกตัวเองมากๆ ไอ้เราก้ไม่ได้รวยอะไร ก้เลยอ่านบ้างไม่อ่านบ้าง จนเราคิดว่าไม่ส่งไม่สอบมันและ แพงก้แพง จนหนึ่งเดือนก่อนdead line เพื่อนคนหนึ่งบอกว่าเราอยากไปลองสอบอ่ะ ไปด้วยสิ คือจากที่ตั้งใจว่าจะไม่สอบพอมีเพื่อนแล้วมันก้ ..เอาวะ สักครั้งช่างมัน55 แต่คือมีเวลาหนึ่งเดือนป่ะ
แล้วเวลาหนึ่งเดือนให้หลังนี่แหละที่เริ่มมาอ่านนู่นอ่านนี่ เริ่มให้อาจารย์สอน แต่อย่า อย่าคิดว่าจะได้อ่าน 24/7 นะจ๊ะ เรียนมหาลัยแล้วคือสอบตัวในภาคทุกอาทิตย์ การบ้านสั่งทุกวิชา วิจัยเอย เรียงความเอย ดันมารับน้องเดือนมกราด้วย อีเว้นเยอะจิงๆ แต่เราไม่วายที่จะดันทุรัง สุดท้ายเวลาก็ผ่านพ้นจนมาถึงวันที่ 24 มกราคม เอาแล้วไงที่ว่าจะสอบ 1 กพ ต้องสมัครแล้วนี่หว่า คือต้องบอกก่อนว่าเข้ากรุงเทพไม่เป็นจ้า บัตรเครดิตไม่มีจ้า มี internet banking อย่างเดียว เราก็เลยฝากความหวังไว้ที่เพื่อน เพราะเพื่อนมีทุกอย่าง คือเอาง่ายๆ มันสวย รวย เก่ง บอกให้สมัครให้ มันก้ไม่กระตือรือร้นเอาเสียเลย(ไปๆมาๆเหมือนเราอยากสอบอยู่คนเดียวแล้วไปบังคับเขาให้สอบด้วยยังไงก้ไม่รู้TT^TT) สุดท้ายเราต้องมาสมัครเองอยู่ดี แถมมันมาถามเราอีกต่างหาก...ข้อนี้ต้องขอบอกเพื่อนๆไว้เลยนะว่าอย่าฝากความหวังไว้ที่คนอื่นเด็ดขาด..ตอนสมัครใช้แค่บัตรประชาชนที่แสกนไว้ กรอกข้อมูล แล้วก้โอนเงิน แล้วก็ส่งแฟกสลิปไปที่IDP แล้วก็โทรบอก แล้วก็เสร็จ.. ดูเหมือนง่ายเนอะ แต่จริงๆแล้วโทรไป 6 รอบจนเขาจำได้แล้วค่ะ ก็เราไม่เข้าใจนี่นา เอาจริงๆแล้วเราก็อ่านรีวิวว่าสมัครยังไงมาเหมือนกัน แต่พอเอาเข้าจริงแล้วมันก็งงอยู่ดี ขอแนะนำว่าให่โทรถามไปเลยค่ะ เอาให้รู้เรื่อง
หนึ่งอาทิตย์ก่อนสอบ IELTS สะพรึงมาก ยุ่งไปหมด เพราะวันพุธสอบ Operations research(ตัวในภาค) ไม่เป็นอันได้อ่านอยู่ดี วันศุกร์มีงานบายเนียร์ อ่าวปีเราจัดงานนี่หว่า จะไม่ไปช่วยเพื่อนก็กลัวเดี๋ยวมันว่าเอา ก็เลยเลือกทำเฉพาะอย่าง คืออย่างน้อยต้องลองทำข้อสอบจริงแบบจับเวลา 1 ครั้ง ก่อนสอบ คือเราไม่ได้อัลไลจากการอ่านด้วยเวลาอันสั้นหรอก แต่ต้องลองทำเพราะจะได้ไม่ตื่นเต้นตอนเจอของจริง(อาจารย์บอกมา) และทำให้เรารู้ด้วยว่าควรทำเร็วแค่ไหน จำคำศัพท์ที่สำคัญๆที่เราจะใช้ในการเขียน ส่วนการพูดก็อาศัยพูดกับรูมเมทเอา ให้เมทตั้งtopic ให้บ้างไรบ้าง listening นี่ฟังทุกวัน ฟังมันเข้าไป ลองฟังของจริงและทำข้อสอบด้วย คือเราก็หาฟังเอาตามyoutube เพราะหนังสือที่ยืมมาจากห้องสมุดมันไม่มีซีดีให้ เรายืมของ barron's มา แต่ขอโทษ ยืมมาหนึ่งอาทิตย์ก่อนสอบนั่นแหละ อยู่มาตั้งนานเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามหาลัยตัวเองมีหอสมุดด้วยนี่หว่า อยากยืมอันอื่นมาด้วย คือมันมีเยอะแยะเต็มไปหมด แต่อาทิตย์เดียวเอาเล่มเดียวละกัน จะได้อ่านรึเปล่ายังไม่รู้เลย หนักด้วย55 แต่เราไม่รู้หรอกนะว่าอันไหนดี แค่เห็นชื่อเล่มนี้บ่อยก็เลยเอามาอ่ะ
เพื่อนๆคนไหนที่มีเวลาเยอะอย่าทำอย่างเรานะ บอกเลย คือค่าสมัคร 5900 บาทอ่ะ เสียตังไปปล่าวๆชะมัดเลย แค่ได้ไปดูมวลมหาประชาชนเท่านั้น อุ๊ปป..
คืนวันศุกร์เราไปนอนบ้านพี่ และคืนนั้นแหละเป็นครั้งแรกที่ข้าพเจ้าได้ลองทำข้อสอบครั้งแรก พระเจ้า เวลามันหายไปไหนหมด ทำไมเราไม่ทำซะตั้งนานแล้ว คือเริ่มทำตั้งแต่ 11.00 ไปจนถึง 2.00 ของวันสอบคร้า ไม่สนุกเลยนะ คือเช้าวันนี้ต้องไปสอบแล้วไม่ใช่หรอ ตัดสินใจได้ดังนั้นเลยนอนค่ะ ได้เวลานอนแล้ว ZzZ เช้าวันนั้นเราตื่น 5.45 เช้าที่สุดในปีนี้แล้วมั้ง คือตื่นเต้นไง ตื่นมาเตรียมของให้เรียบร้อย ขอยืมเสื้อกันหนาวพี่สาวด้วย เอาตัวที่พี่ใช้ไปต่างประเทศเลยจ้า คือกลัวหนาวไง(สอบเสร็จเราถามเพื่อน เป็นไงหนาวไม๊ คือเรานั่งเหงื่อออก แต่เพื่อนบอกมันหนาว มันใส่เสื้อกันหนาวแล้วนะ) รอพี่สาวทำกับข้าวไป เราก็อ่านไฟล์ที่เขาแนบมาในเมลไปพลางๆ ในนั้นมีแผนที่ไรไม่รู้ดูงงๆ ไอเราก็บ้านนอกเข้ากรุงนี่หว่า นั่งBTSเป็นก็บุญแล้ว ก็อ่านๆไปก่อนเตรียมพร้อมๆ เสร็จแล้วออกจากบ้านเจ็ดโมงครึ่งกว่าๆ พี่ไปส่งขึ้นBTS เราก็ใช้วิชามั่วไปลงศาลาแดงจนได้ ฮี่ๆๆ
ที่โรงแรมมณเทียรแค่จะหาทางที่ไปสอบ เจ้าหน้าที่ยังยืนอธิบายเรานานสองนาน คือตรูไม่เข้าใจนี่หว่า พอเข้าไปได้ ยิ้มไว้ตลอดเวลา ไม่ได้ข่มขวัญใครนะ คือข้าพเจ้ามึนจนบ้าไปแล้ว..ดูที่นั่งสอบ ฝากของเสร็จไรเสร็จก็ไปเข้าห้องน้ำ และก็ไปต่อแถวถ่ายรูป แสกนลายนิ้วมือ เราพึ่งอ่อตอนนี้แหละว่าทำไมสมัครออนไลน์ง่ายจัง ใช้บัตรปชช.อย่างเดียว มันเอามาทำหน้าห้องสอบนี่เอง และแล้วก็เข้าไปรอในห้องสอบ รอประมาณ 20 นาทีก็ถึงเวลาสอบ
อันแรกเป็น listening เราฟังแล้วมันนิ่งจริงๆเลยจ้า ไม่ได้โม้ ข้อแรกๆมันก็ทำได้อยู่หรอก แต่มันจะยากขึ้นโดยไม่รู้ตัว คือตายไม่รู้ตัวเลย อันที่จริงก็รู้มาจากบ้านแล้วแหละว่าตายแน่ตายแน่ แต่มันยากจริงๆนะ แต่ความจริงเราก็ไม่เคยทำข้อสอบออนไลน์listeningได้อยู่แล้ว 55 ก้เลยรู้สึกว่ายากมาแต่ไหนแต่ไร.. คือแต่ละหน้ามันจะเป็นหยุดให้เราคิดสามสิบวินาทีก่อนเริ่มอันต่อไป แต่สองหน้าสุดท้ายนี่จะรู้เลยว่าใครทำได้ทำไม่ได้ ของเราที่ได้สองหน้าสุดท้ายเป็นแผ่นเดียวกัน แล้วทีนี้มันไม่หยุดทีละหน้าให้รู้ตัวอีกแล้วว่า ฟังแค่นี้ก็ตอบหน้านี้ได้แล้วนะ คือทุกคนต้องรู้เอาว่าต้องพลิกไปหน้าสุดท้ายตอนไหน หึหึ ข้าพเจ้าก็พลิกๆตามเขาไป อันที่จริงแล้วหน้าเมื่อกี้ยังไม่ได้ตอบซักข้อ มีเวลาสิบนาทีให้ลอกคำตอบลงกระดาษคำตอบ นานอยู่นะสิบนาที แต่มันน้อยไปสำหรับคนที่อยากจะมั่วอย่างมีเซนต์ พอกรรมการบอกเหลือห้านาที เซ้นเซิ้นไม่สนแล้ว ตอบให้ครบก่อนละกัน
ต่อไปเป็นReading อันนี้เราทำไม่ทันจริงๆ ทั้งๆที่ฝึกมาแล้วนะ(เมื่อคืน) แบ่งเป็น 3 เรื่องใหญ่ คือจะบอกว่าใหญ่มาก เราอ่านรู้เรื่องแค่สองเรื่องอ่ะ เรื่องสุดท้ายก็เหลือเวลาประมาณยี่สิบนาทีนะแต่มันลนไปหมดแล้วอ่ะ มันไม่มีสมาธิจะอ่านอีกต่อไป ก็เลยเสียดายอ่ะ เอาเป็นว่าเรื่องสุดท้ายนี่มั่วทั้งดุ้นจ้า ^^ ยังดีนะที่มันมีให้มั่ว คือให้เราเติม A B C ไรงี้ จบพาร์ทReading อันนี้Readแล้วดิ่งจริงๆนะ ดิ่ง A บ้าง B บ้างไม่เป็นไรช่างมัน แต่มันรู้สึกปวดฉิ่งฉ่องขึ้นมาซะงั้น แล้วมันก้ห้ามเข้าช่วงพักด้วย เอาว่ะ เดี๋ยวWriting เขียนกราฟเสร็จแล้วเข้าก็ได้ คิดว่าเขียนไวแน่ๆ
พาร์ทสุดท้ายของช่วงเช้า Writing อันนี้เราคิดเลยว่าหมูแน่นอนกับอธิบายกราฟ ปุ๊ป เปิดมา กราฟเส้นซะด้วยง่ายเลยละ ปรากฏว่า 20 นาทีผ่านไปยังทำไม่เสร็จจ้า ไม่ฉ่งไม่ฉี่มันแล้ว เราต้องตัดใจเริ่มเขียนอันที่สองเพราะมันมีคะแนนเยอะกว่า แหม่ เรื่องมันก้ไม่ได้ยากเย็นอะไรนะ แต่รู้ตัวเลยว่าเป็นคนที่แถเก่ง ยิ่งใครชอบปั้นน้ำเป็นตัวนะคงทำอันนี้ได้เต็มอ่ะ เขียนไปเรื่อยๆ กะว่าเกือบ250คำแล้วมั้ง ก็เลยเขียนบทสรุป มีเวลาเหลือมาเขียนกราฟให้ครบ150คำต่อหมดเวลาพอดี เฮ้อ
ตอนบ่ายเราสอบ 4.20 พระเจ้า..ก็ยังดีกว่าคนที่สอบ 6.00 นิดนึง เรากับเพื่อนเลยไปหาไรกิน เราไปนั่งที่ แมคโดนัล เฟรนฟรายลด 50% เย้ๆๆ นั่งไปดูม๊อบเดินขบวนไป เช็คอินว่ามาดูม๊อบกับกินเฟรนฟรายราคา 5900 บาท นั่งไปจนก่อนเวลาสอบซักพักก็ขึ้นไปเลย เพราะแมคอยู่ตึกเดียวกันกับที่สอบ(ตึกCP) ขึ้นไปชั้นสี่ ไปรอซักพัก รอซักพัก รีวิวที่อ่านมาบอกว่ามันจะเร็ว แต่เราก็รอจนเข้าห้องน้ำรอบที่สอง รอๆๆ จนได้เวลาสอบ ช่างตรงต่อเวลาเสียจริง จริงๆเราก็ว่าไรไม่ได้ เพราะมันบอกเราแล้วว่าสอบตอนนี้ ไม่ได้บอกให้มาก่อนนี่
Speaking นี่เป็นพาร์ทที่คิดว่าจะง่ายสุด เพราะเราซ้อมมาเยอะสุด เราพูดแทบทุกวัน พูดมาเป็นสิบๆtopic มันต้องคลับคล้ายคลับคลาบ้างแหละ พระเจ้า ราวกับรู้ว่าเราเคยพูดไรมาบ้าง มันไม่มีเค้าโครงของที่เคยพูดแม้แต่น้อย มันรู้ได้ไงว่าข้าพเจ้าไม่เคยพูดเรื่องนี้มาก่อน ก็เลยตะกุกตะกักไปตามระเบียบ เราตอนพูดภาษาไทยนี่คล่องปรื๋อๆ แต่ภาษาอังกฤษนี่ใบ้-จริงๆ เอิ่ม อ่า อืม Examiner คงจะรู้เรื่องสินะ- -"
เอาหล่ะ แล้วสุดท้ายมันก็ผ่านไปแล้ว รอลุ้นผลกันวันวาเลนไทน์นี้
เพื่อนๆคนไหนมีประสบการณ์อย่างไรเอามาบอกกันบ้างเน้อ
[CR] Review สอบ IELTS IDP แชร์ประสบการณ์สอบ
ที่กะจะมารีวิวนี่ก็เพราะส่วนหนึ่งอยากระบายอะไรซักอย่างในใจ และอีกอย่างก็อยากให้เป็นความรู้สำหรับผู้อื่น และเป็นความทรงจำของจขกท.ด้วย
เราก็เป็นคนหนึ่งที่อยากไปต่างประเทศอ่ะ เหมือนกับเพื่อนๆคนอื่นๆ แต่ติดตรงที่ภาษาอังกฤษนี่แหละ เอาจริงๆคงไม่มีใครห่วยได้เท่านี้อีกแล้ว คือเราเรียนคณะวิทยาศาสตร์ไง ถ้าใครเรียนคณะนี้ด้วยคงรู้ว่าภาษาอังกฤษคือปัญหาหลักของเรา ก็เราอาศัยสมองคนละซีกนี่ ช้านถนัดวิทยาศาสตร์เรียนจนสมองซีกซ้ายใหญ่ไปเบียดสมองซีกขวา ทำให้เรียนภาษาอังกฤษได้นิดเดียว (มันก็แค่ข้ออ้างของเราคนเดียวมั้ง)
เอาหล่ะ เริ่มจากการที่เราสนใจมากๆกับการไปทำวิจัยต่างประเทศ และทุนมันรีไควแค่ Overall 6 ทำไมถึงบอกว่าแค่..ก็เพราะว่าเคยเห็นเพื่อนบางคนต้องการตั้ง 7 up แถมต้องทุกอันมากกว่าเท่านั้นเท่านี้อีกต่างหาก ดังนั้นเราจึงสนใจเป็นพิเศษ และก็โชคดีมากที่อาจารย์คอยช่วยเหลือ คือได้อาจารย์นี่แหละสอนการเขียนอิอิ เอ่อ ต้องขอบอกเพื่อนๆนิดหนึ่งว่าเราเรียนสถิติ ดังนั้นพาร์ทอธิบายกราฟนี่หมูๆเลย สำหรับการอธิบายเป็นภาษาไทยนะ - -"
คือความจริงเรามีเวลาเตรียมตัวนานมาก เกินครึ่งปีอ่ะ คือสามารถไปเข้าคอร์สเรียนที่เขารับรองได้สบายๆ แต่เราไม่เคยคิดว่าจะได้อยู่แล้ว คือใจหนึ่งอยากไป ใจหนึ่งเสียดายตังนึกออกป่ะ แบบดูถูกตัวเองมากๆ ไอ้เราก้ไม่ได้รวยอะไร ก้เลยอ่านบ้างไม่อ่านบ้าง จนเราคิดว่าไม่ส่งไม่สอบมันและ แพงก้แพง จนหนึ่งเดือนก่อนdead line เพื่อนคนหนึ่งบอกว่าเราอยากไปลองสอบอ่ะ ไปด้วยสิ คือจากที่ตั้งใจว่าจะไม่สอบพอมีเพื่อนแล้วมันก้ ..เอาวะ สักครั้งช่างมัน55 แต่คือมีเวลาหนึ่งเดือนป่ะ
แล้วเวลาหนึ่งเดือนให้หลังนี่แหละที่เริ่มมาอ่านนู่นอ่านนี่ เริ่มให้อาจารย์สอน แต่อย่า อย่าคิดว่าจะได้อ่าน 24/7 นะจ๊ะ เรียนมหาลัยแล้วคือสอบตัวในภาคทุกอาทิตย์ การบ้านสั่งทุกวิชา วิจัยเอย เรียงความเอย ดันมารับน้องเดือนมกราด้วย อีเว้นเยอะจิงๆ แต่เราไม่วายที่จะดันทุรัง สุดท้ายเวลาก็ผ่านพ้นจนมาถึงวันที่ 24 มกราคม เอาแล้วไงที่ว่าจะสอบ 1 กพ ต้องสมัครแล้วนี่หว่า คือต้องบอกก่อนว่าเข้ากรุงเทพไม่เป็นจ้า บัตรเครดิตไม่มีจ้า มี internet banking อย่างเดียว เราก็เลยฝากความหวังไว้ที่เพื่อน เพราะเพื่อนมีทุกอย่าง คือเอาง่ายๆ มันสวย รวย เก่ง บอกให้สมัครให้ มันก้ไม่กระตือรือร้นเอาเสียเลย(ไปๆมาๆเหมือนเราอยากสอบอยู่คนเดียวแล้วไปบังคับเขาให้สอบด้วยยังไงก้ไม่รู้TT^TT) สุดท้ายเราต้องมาสมัครเองอยู่ดี แถมมันมาถามเราอีกต่างหาก...ข้อนี้ต้องขอบอกเพื่อนๆไว้เลยนะว่าอย่าฝากความหวังไว้ที่คนอื่นเด็ดขาด..ตอนสมัครใช้แค่บัตรประชาชนที่แสกนไว้ กรอกข้อมูล แล้วก้โอนเงิน แล้วก็ส่งแฟกสลิปไปที่IDP แล้วก็โทรบอก แล้วก็เสร็จ.. ดูเหมือนง่ายเนอะ แต่จริงๆแล้วโทรไป 6 รอบจนเขาจำได้แล้วค่ะ ก็เราไม่เข้าใจนี่นา เอาจริงๆแล้วเราก็อ่านรีวิวว่าสมัครยังไงมาเหมือนกัน แต่พอเอาเข้าจริงแล้วมันก็งงอยู่ดี ขอแนะนำว่าให่โทรถามไปเลยค่ะ เอาให้รู้เรื่อง
หนึ่งอาทิตย์ก่อนสอบ IELTS สะพรึงมาก ยุ่งไปหมด เพราะวันพุธสอบ Operations research(ตัวในภาค) ไม่เป็นอันได้อ่านอยู่ดี วันศุกร์มีงานบายเนียร์ อ่าวปีเราจัดงานนี่หว่า จะไม่ไปช่วยเพื่อนก็กลัวเดี๋ยวมันว่าเอา ก็เลยเลือกทำเฉพาะอย่าง คืออย่างน้อยต้องลองทำข้อสอบจริงแบบจับเวลา 1 ครั้ง ก่อนสอบ คือเราไม่ได้อัลไลจากการอ่านด้วยเวลาอันสั้นหรอก แต่ต้องลองทำเพราะจะได้ไม่ตื่นเต้นตอนเจอของจริง(อาจารย์บอกมา) และทำให้เรารู้ด้วยว่าควรทำเร็วแค่ไหน จำคำศัพท์ที่สำคัญๆที่เราจะใช้ในการเขียน ส่วนการพูดก็อาศัยพูดกับรูมเมทเอา ให้เมทตั้งtopic ให้บ้างไรบ้าง listening นี่ฟังทุกวัน ฟังมันเข้าไป ลองฟังของจริงและทำข้อสอบด้วย คือเราก็หาฟังเอาตามyoutube เพราะหนังสือที่ยืมมาจากห้องสมุดมันไม่มีซีดีให้ เรายืมของ barron's มา แต่ขอโทษ ยืมมาหนึ่งอาทิตย์ก่อนสอบนั่นแหละ อยู่มาตั้งนานเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามหาลัยตัวเองมีหอสมุดด้วยนี่หว่า อยากยืมอันอื่นมาด้วย คือมันมีเยอะแยะเต็มไปหมด แต่อาทิตย์เดียวเอาเล่มเดียวละกัน จะได้อ่านรึเปล่ายังไม่รู้เลย หนักด้วย55 แต่เราไม่รู้หรอกนะว่าอันไหนดี แค่เห็นชื่อเล่มนี้บ่อยก็เลยเอามาอ่ะ
เพื่อนๆคนไหนที่มีเวลาเยอะอย่าทำอย่างเรานะ บอกเลย คือค่าสมัคร 5900 บาทอ่ะ เสียตังไปปล่าวๆชะมัดเลย แค่ได้ไปดูมวลมหาประชาชนเท่านั้น อุ๊ปป..
คืนวันศุกร์เราไปนอนบ้านพี่ และคืนนั้นแหละเป็นครั้งแรกที่ข้าพเจ้าได้ลองทำข้อสอบครั้งแรก พระเจ้า เวลามันหายไปไหนหมด ทำไมเราไม่ทำซะตั้งนานแล้ว คือเริ่มทำตั้งแต่ 11.00 ไปจนถึง 2.00 ของวันสอบคร้า ไม่สนุกเลยนะ คือเช้าวันนี้ต้องไปสอบแล้วไม่ใช่หรอ ตัดสินใจได้ดังนั้นเลยนอนค่ะ ได้เวลานอนแล้ว ZzZ เช้าวันนั้นเราตื่น 5.45 เช้าที่สุดในปีนี้แล้วมั้ง คือตื่นเต้นไง ตื่นมาเตรียมของให้เรียบร้อย ขอยืมเสื้อกันหนาวพี่สาวด้วย เอาตัวที่พี่ใช้ไปต่างประเทศเลยจ้า คือกลัวหนาวไง(สอบเสร็จเราถามเพื่อน เป็นไงหนาวไม๊ คือเรานั่งเหงื่อออก แต่เพื่อนบอกมันหนาว มันใส่เสื้อกันหนาวแล้วนะ) รอพี่สาวทำกับข้าวไป เราก็อ่านไฟล์ที่เขาแนบมาในเมลไปพลางๆ ในนั้นมีแผนที่ไรไม่รู้ดูงงๆ ไอเราก็บ้านนอกเข้ากรุงนี่หว่า นั่งBTSเป็นก็บุญแล้ว ก็อ่านๆไปก่อนเตรียมพร้อมๆ เสร็จแล้วออกจากบ้านเจ็ดโมงครึ่งกว่าๆ พี่ไปส่งขึ้นBTS เราก็ใช้วิชามั่วไปลงศาลาแดงจนได้ ฮี่ๆๆ
ที่โรงแรมมณเทียรแค่จะหาทางที่ไปสอบ เจ้าหน้าที่ยังยืนอธิบายเรานานสองนาน คือตรูไม่เข้าใจนี่หว่า พอเข้าไปได้ ยิ้มไว้ตลอดเวลา ไม่ได้ข่มขวัญใครนะ คือข้าพเจ้ามึนจนบ้าไปแล้ว..ดูที่นั่งสอบ ฝากของเสร็จไรเสร็จก็ไปเข้าห้องน้ำ และก็ไปต่อแถวถ่ายรูป แสกนลายนิ้วมือ เราพึ่งอ่อตอนนี้แหละว่าทำไมสมัครออนไลน์ง่ายจัง ใช้บัตรปชช.อย่างเดียว มันเอามาทำหน้าห้องสอบนี่เอง และแล้วก็เข้าไปรอในห้องสอบ รอประมาณ 20 นาทีก็ถึงเวลาสอบ
อันแรกเป็น listening เราฟังแล้วมันนิ่งจริงๆเลยจ้า ไม่ได้โม้ ข้อแรกๆมันก็ทำได้อยู่หรอก แต่มันจะยากขึ้นโดยไม่รู้ตัว คือตายไม่รู้ตัวเลย อันที่จริงก็รู้มาจากบ้านแล้วแหละว่าตายแน่ตายแน่ แต่มันยากจริงๆนะ แต่ความจริงเราก็ไม่เคยทำข้อสอบออนไลน์listeningได้อยู่แล้ว 55 ก้เลยรู้สึกว่ายากมาแต่ไหนแต่ไร.. คือแต่ละหน้ามันจะเป็นหยุดให้เราคิดสามสิบวินาทีก่อนเริ่มอันต่อไป แต่สองหน้าสุดท้ายนี่จะรู้เลยว่าใครทำได้ทำไม่ได้ ของเราที่ได้สองหน้าสุดท้ายเป็นแผ่นเดียวกัน แล้วทีนี้มันไม่หยุดทีละหน้าให้รู้ตัวอีกแล้วว่า ฟังแค่นี้ก็ตอบหน้านี้ได้แล้วนะ คือทุกคนต้องรู้เอาว่าต้องพลิกไปหน้าสุดท้ายตอนไหน หึหึ ข้าพเจ้าก็พลิกๆตามเขาไป อันที่จริงแล้วหน้าเมื่อกี้ยังไม่ได้ตอบซักข้อ มีเวลาสิบนาทีให้ลอกคำตอบลงกระดาษคำตอบ นานอยู่นะสิบนาที แต่มันน้อยไปสำหรับคนที่อยากจะมั่วอย่างมีเซนต์ พอกรรมการบอกเหลือห้านาที เซ้นเซิ้นไม่สนแล้ว ตอบให้ครบก่อนละกัน
ต่อไปเป็นReading อันนี้เราทำไม่ทันจริงๆ ทั้งๆที่ฝึกมาแล้วนะ(เมื่อคืน) แบ่งเป็น 3 เรื่องใหญ่ คือจะบอกว่าใหญ่มาก เราอ่านรู้เรื่องแค่สองเรื่องอ่ะ เรื่องสุดท้ายก็เหลือเวลาประมาณยี่สิบนาทีนะแต่มันลนไปหมดแล้วอ่ะ มันไม่มีสมาธิจะอ่านอีกต่อไป ก็เลยเสียดายอ่ะ เอาเป็นว่าเรื่องสุดท้ายนี่มั่วทั้งดุ้นจ้า ^^ ยังดีนะที่มันมีให้มั่ว คือให้เราเติม A B C ไรงี้ จบพาร์ทReading อันนี้Readแล้วดิ่งจริงๆนะ ดิ่ง A บ้าง B บ้างไม่เป็นไรช่างมัน แต่มันรู้สึกปวดฉิ่งฉ่องขึ้นมาซะงั้น แล้วมันก้ห้ามเข้าช่วงพักด้วย เอาว่ะ เดี๋ยวWriting เขียนกราฟเสร็จแล้วเข้าก็ได้ คิดว่าเขียนไวแน่ๆ
พาร์ทสุดท้ายของช่วงเช้า Writing อันนี้เราคิดเลยว่าหมูแน่นอนกับอธิบายกราฟ ปุ๊ป เปิดมา กราฟเส้นซะด้วยง่ายเลยละ ปรากฏว่า 20 นาทีผ่านไปยังทำไม่เสร็จจ้า ไม่ฉ่งไม่ฉี่มันแล้ว เราต้องตัดใจเริ่มเขียนอันที่สองเพราะมันมีคะแนนเยอะกว่า แหม่ เรื่องมันก้ไม่ได้ยากเย็นอะไรนะ แต่รู้ตัวเลยว่าเป็นคนที่แถเก่ง ยิ่งใครชอบปั้นน้ำเป็นตัวนะคงทำอันนี้ได้เต็มอ่ะ เขียนไปเรื่อยๆ กะว่าเกือบ250คำแล้วมั้ง ก็เลยเขียนบทสรุป มีเวลาเหลือมาเขียนกราฟให้ครบ150คำต่อหมดเวลาพอดี เฮ้อ
ตอนบ่ายเราสอบ 4.20 พระเจ้า..ก็ยังดีกว่าคนที่สอบ 6.00 นิดนึง เรากับเพื่อนเลยไปหาไรกิน เราไปนั่งที่ แมคโดนัล เฟรนฟรายลด 50% เย้ๆๆ นั่งไปดูม๊อบเดินขบวนไป เช็คอินว่ามาดูม๊อบกับกินเฟรนฟรายราคา 5900 บาท นั่งไปจนก่อนเวลาสอบซักพักก็ขึ้นไปเลย เพราะแมคอยู่ตึกเดียวกันกับที่สอบ(ตึกCP) ขึ้นไปชั้นสี่ ไปรอซักพัก รอซักพัก รีวิวที่อ่านมาบอกว่ามันจะเร็ว แต่เราก็รอจนเข้าห้องน้ำรอบที่สอง รอๆๆ จนได้เวลาสอบ ช่างตรงต่อเวลาเสียจริง จริงๆเราก็ว่าไรไม่ได้ เพราะมันบอกเราแล้วว่าสอบตอนนี้ ไม่ได้บอกให้มาก่อนนี่
Speaking นี่เป็นพาร์ทที่คิดว่าจะง่ายสุด เพราะเราซ้อมมาเยอะสุด เราพูดแทบทุกวัน พูดมาเป็นสิบๆtopic มันต้องคลับคล้ายคลับคลาบ้างแหละ พระเจ้า ราวกับรู้ว่าเราเคยพูดไรมาบ้าง มันไม่มีเค้าโครงของที่เคยพูดแม้แต่น้อย มันรู้ได้ไงว่าข้าพเจ้าไม่เคยพูดเรื่องนี้มาก่อน ก็เลยตะกุกตะกักไปตามระเบียบ เราตอนพูดภาษาไทยนี่คล่องปรื๋อๆ แต่ภาษาอังกฤษนี่ใบ้-จริงๆ เอิ่ม อ่า อืม Examiner คงจะรู้เรื่องสินะ- -"
เอาหล่ะ แล้วสุดท้ายมันก็ผ่านไปแล้ว รอลุ้นผลกันวันวาเลนไทน์นี้
เพื่อนๆคนไหนมีประสบการณ์อย่างไรเอามาบอกกันบ้างเน้อ