สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิพย์ทุกคนนะคะกระทู้นี้เป็นกระทู้แรกผิดพลาดส่วนไหนขออภัยณที่นี้ด้วยนะคะ 🙏🏻
เราแค่ต้องการเล่าถึงความรักครั้งนึงที่มันดีมากจิงๆสำหรับเราเป็นความรักในวัยเรียนตอนนี้ก็ผ่านมาเกือบ10 ปีแล้วแต่มันลืมไม่ลงจริงๆ
ขอเริ่มเลยแล้วกันนะคะ 😁
เราชื่อนิ(นามสมมุติ) เราเป็นเด็กนักเรียนม.3 รูปร่างสูงขาวและผอมไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไรแต่ก็ไม่ได้อยู่ในหมวดหมู่ที่เรียกว่าสวยเพราะเราเฉิ่มแต่งตัวไม่เป็นแต่งหน้าไม่เป็น(เอาจิงๆตอนนั้นยังแอบไม่อาบน้ำไปโรงเรียนอยู่บ่อยๆ😂) แต่เราเรียนเก่งนะได้อันดับท็อปต้นๆของห้องเสมอเรากำลังจะจบม.3 และอยู่ในช่วงหาที่เรียนใหม่ตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่าเรียนที่ไหนก็ได้ขอแค่ให้เราได้ไว้ผมยาวอยากสวยอยากแรดเหมือนคนอื่นบ้านเราอยู่ไกลจากตัวเมืองเกือบ100 กม. ดังนั้นการที่เราจะหาที่เรียนใหม่คือต้องเข้าตัวเมืองอย่างเดียวหรือหาที่เรียนในจังหวัดอื่นแต่นะเฉิ่มๆอย่างเราถนนในตัวเมืองยังข้ามไม่ได้เลยไปเรียนไกลถึงจังหวัดอื่นคงเอาตัวไม่รอด
เราไปสมัครเรียนในตัวจังหวัดโดยไม่คิดว่าจะมีเพื่อนไปกับเรามั้ยเราไปสมัครเรียนสายอาชีพเพราะแน่นอนมันตรงวัตถุประสงค์ของเราสายอาชีพไว้ผมยาวได้แน่นอนเริ่มจากการเลือกแผนกที่คิดว่าเหมาะกับเรา(ตอนนั้นคืออาศัยดวงล้วนๆเพราะเราไม่รู้จักอะไรเลยไม่มีใครแนะนำGoogle ก้อใช้ไม่เป็น) เราลงสมัครและสอบเข้าประกาศผลสอบเราได้ห้อง1 พอได้ที่เรียนเราก็ทำการหาหอพักซื้อเสื้อผ้าเตรียมทุกอย่างเรียบร้อย(บอกก่อนโรงเรียนที่เราเรียนผู้ชายน้อยมากกกกกกกก.ไก่ล้านตัวสินค้าหายากเลยก็ว่าได้555 ทั้งโรงเรียนมีผู้ชาย20 คนได้ผู้หญิง2000 อัตราส่วนแบบนี้เลย)
วันแรกของการเรียนเราตื่นเช้าแต่งตัวมัดผมตามระเบียบที่โรงเรียนกำหนดเป๊ะๆใส่รองเท้าคัทชูส้นหนาสูง1 นิ้วกระโปรงกับเสื้อตัวใหญ่(เหมือนซื้อไว้ใส่3 ปีข้างหน้า) มัดผมติดกิ๊บผูกโบว์สีดำเรียบน้อยไปไหน🤣🤣🤣
เราเข้าเรียนแบบไม่รู้จักใครในแผนกเลยสักคนเริ่มจากยืนรอข้ามถนนหน้าโรงเรียนวันละ15 นาทีเพราะรถเยอะมากช่วงเช้าต้องอาศัยจังหวะดีๆวิ่งตามคนอื่นเข้าเรียนก็เดินตามตารางสอนตามแผนที่ที่วาดไว้ด้วยตัวเอง(โรงเรียนไม่ได้ใหญ่นะแต่เราเฉิ่งไง555) พยายามจำหน้าเพื่อนในห้องแล้วหาเพื่อนสนิทไว้คนนึงกันหลงเราไม่กล้าเล่นโทรศัพท์ในโรงเรียนไม่ว่าจะช่วงพักหรือช่วงไหนไม่กล้าออกไปนอกโรงเรียนไม่ว่าจะพักเที่ยงหรือคาบว่าง(ติดนิสัยจากโรงเรียนมัธยม) เช้าเข้าเรียนเย็นกลับหอไม่เคยออกไปไหนไกลเพราะเราไม่มีรถมอไซ(จะมีได้ไงถนนยังเดินข้ามไม่ได้😅😅) เราใช้ชีวิตแบบนี้มา1 เทอมเต็มๆ
ผ่านมา1 เทอมสิ่งที่มีเพิ่มขึ้นคือเพื่อนสิ่งที่มีน้อยลงคือผู้ชาย(อีพวกหน้าตาดีคาบไปครึ่งนึงแระ) ตอนนั้นเรามีเพื่อนสนิทคนนึงชื่อปลา(นามสมมุติ) มันเองก้อเป็นคนหน้าตาจิ้มลิ้มขาวๆหมวยๆอีปลาก้อทำมิชชั่นสำเร็จได้รุ่นพี่มาเป็นแฟน1คนชื่อพี่เน(พี่เนคนนี้หล่อระดับ1 ใน3 เลยนะแกรรรร) ตอนนั้นเราทำการบ้านที่หออีปลาก็มาทำด้วยแต่มีพี่เนมานั่งเฝ้าเป็นบอดี้การ์ด(อิจฉาตาร้อนนนน🔥🔥) สักพักอีปลาก็ส่งโทรศัพท์มาให้เราซึ่งก้อไม่รู้ว่าปลายสายคือใคร
เรา: ฮัลโหล
ปลายสาย: สวัสดีครับ
เรา: อือใครหรอ?
ปลายสาย: คุยด้วยได้ป่าว?
เราหันไปถามอีปลาใครวะมันก้อส่งซิกให้เราคุยต่อ
ปลายสาย: มีแฟนยังอะ?
เรา: (เงียบ) หน้าเหวอเลยแล้วก้อวางคือตกใจใครจู่โจมเรา555🤣🤣
จากเหตุการณ์วันนั้นผ่านไปอีปลาไม่ยอมบอกว่าปลายสายคือใครเราก้อลืมๆไปแล้วเพราะมันเป็นเดือนแล้วกิจวัตรประจำวันของเรายังคงเหมือนเดิมไปเรียนกลับหอซึ่งมันเริ่มเบื่อแล้วอยากรู้แล้วว่าในเมืองแบบนี้มันมีอะไรบ้างเราเลยบ่นๆกับอีปลาว่าอยากไปดูหนังหวะอีปลาก้อชวนเราคุยเรื่องอื่นเฉยจนตกเย็นเรานอนเล่นอยู่ที่หออีปลาโทมาจ่ะ
เรา: ว่าไง
อีปลา: ไปดูหนังกัน
เรา: 😱กำลังว๊อนเลย🎉
อีปลา: เอออาบน้ำรอเลยเดี๋ยวไปรับทุ่มนึง
จบบทสนทนากับอีปลาอยู่ทำไรแล้วละเต้นรำเข้าห้องน้ำเลยจ้าตั้งแต่อยู่มาจะ1 ปีแล้วนี่คือวันแรกที่เราได้เที่ยววิ่งผ่านน้ำ5 นาทีได้รีบออกมาแต่งตัวกางเกงยีนส์ขาสั้นเสื้อยืดสีชมพูพรมน้ำหอม(สวยสุดแระตอนนั้นหน้าไม่ต้องแต่ง555) เรานอนรออีปลาแล้วมันก็โทรมาอีก
เรา: ถึงยัง
อีปลา: กูให้พี่โปเต้ไปรับนะกูกับพี่เนรอที่โรงหนัง
*พี่โปเต้(พี่แกชอบโปเตโต้เราเรียกว่าพี่โปเต้แล้วกันเป็นเพื่อนสนิทพี่เนพี่แกก็หล่อระดับ1 ใน3 ของโรงเรียนจ้า
เรา: ห๊ะไม่ได้!!!
อีปลาวางสายไปแบบไม่ใยดีเรารีบวิ่งไปที่หน้าต่างหอมองลงไปด้านล่างจ่ะพี่โปเต้นั่งรออยู่บนมอไซพร้อมกับยิ้มอ่อนมาบอกเลยว่าชิบ...แระคือคิดในใจเอาวะยังไงพี่เค้าก้อหล่อโรงหนังก็ไม่ไกลไม่เป็นไรมีไรค่อยกระโดด555 ตอนนั่งซ้อนท้ายพี่แกเราสองคนเงียบไม่คุยอะไรกันคือแบบไม่เคยคุยกันมาก่อนทำตัวไม่ถูกพอไปถึงโรงหนังอีปลากับพี่เนยืนรออยู่อยากจะด่าอีปลามากเลยแต่ก็ทำไม่ได้เราก็ซื้อตั๋วซื้อขนมกับน้ำเข้าไปด้านในอีปลานั่งริมสุดเลยจ้า(นี่นะ) แล้วพี่เนก็นั่งต่อกลายเป็นเรานั่งกับพี่โปเต้เราก็กินขนมกินน้ำไปเรื่อยๆแก้เขินพอเราวางแก้วน้ำลงพี่โปเต้หยิบแก้วน้ำเราไปกินคือ!!!....คือแอบจูบปากเราทางอ้อมหรอออคืออัลไลลลลใจนี่เต้นแทบจะหลุดออกมาแต่เราก็ทำเป็นดูหนังไม่สนใจ หนังจบอีปลาหิวเลยจ้าชวนกันไปกินเตี๋ยวร้านหน้าเซเว่นทางออกนอกเมืองกินเสร็จอีปลาบอกพี่โปเต้ฝากส่งเราด้วยนะมันกับพี่เนจะกลับบ้านทางนั้นเลยเราก้อหันไปเห้ยอีปลาก็บอกไม่เป็นไรพี่โปเต้ไว้ใจได้พี่แกก้อยิ้มอ่อนอีกแล้ว🙂ผู้ชายอะไรเนี่ยขี้อ่อยจิงๆเออไหนๆก็ไหนๆแล้วเราก็ขึ้นรถพี่โปเต้ระหว่างขับกลับหอพี่แกก็มีชวนคุยบ้างพี่แกก้อน่ารักดี
ผ่านเหตการณ์วันนั้นมาไม่นานหลังเลิกเรียนเรานอนเล่นที่หอเสียงโทรศัพท์ดังอีปลาเจ้าเก่าเจ้าเดิม
เรา: เออว่าไง
อีปลา: ไปเที่ยวทะเลกัน
เรา: จะมืดแล้วเนี่ยนะ
อีปลา: เออมีที่นึงมืดนี่แหละสวยเดี๋ยวพาไป
เรา: เออให้สวยนะเดี๋ยวอาบน้ำรอ
จบบทสนทนาเราก็อาบน้ำแต่งตัวสไตล์เดิมเลยจ้าเสื้อยืดกับยีนขาสั้นมีแค่นั้นจิงๆ555 พออีปลายิงมาตู๊ดนึงเราก็ลงไปหามันด้านล่างหอเจอจังๆเลยจ่ะไม่ใช่อีปลานะแต่เป็นพี่โปเต้😱
เรา: อีปลาละพี่
พี่โปเต้: บ้านพี่เนอยู่ใกล้ทะเลเราแหละต้องไปไกลพี่เลยมารับ(คือบ้านพี่โปเต้อยู่ในเมือง)
เราก็ซ้อนท้ายมอไซพี่แกไประหว่างทางก็ไม่ได้คุยอะไรกันบ้านพี่เนไกลจากตัวเมืองเกือบ10 กม. ไปถึงสองคนนี้ก็รออยู่แล้วขับรถจากบ้านพี่เนไปทะเลอีกประมาณ4-5 กม. ไปถึงทะเลอีปลาก็เล่นเราเลยจ้ามันพาพี่เนไปเดินเล่นไกลๆที่นี้จะยังไงละเราก็อยู่กับพี่โปเต้2 คนบรรยากาศเงียบมากได้ยินแต่เสียงคลื่นพี่โปเต้ก็ชวนเราคุยถามกันไปถามกันมาเวลาผ่านไป3 ชม. จ่ะรู้จักถึงพ่อถึงแม่เลยจ่ะเพราะคุยจนไม่มีอะไรจะคุยแล้วตอนนั้นก็เที่ยงคืนกว่าแล้วเลยชวนกันกลับพอขับรถใกล้ถึงบ้านพี่เนยางรถพี่โปเต้รั่วแม่เจ้าาาาWTF คือพี่ก็ไม่ได้เตี๊ยมกับรถมอไซด้วยใช่มั้ยเป็นใจเหลือเกินเราก็ไปที่บ้านพี่เนกันดึกมากแล้วทางเปลี่ยวด้วยพี่เนเลยชวนเรากับพี่โปเต้นอนที่นั่นเราก็คิดว่าไหนๆก็ไหนๆละนอนห้องเดียวกันตั้ง4 คนทำอะไรกันก็บ้าแล้วเราก็เข้าไปนอนพี่เนเปิดหนังให้ดูอีปลากับพี่เนนอนด้วยกันแล้วก็เว้นมาหน่อยเป็นเรา(เราไม่กล้านอนใกล้อีปลาพี่เนนอนกอดมันเดี๋ยวมือจะยาวมาโดนเรา) พอปิดไฟเหลือแต่แสงจากทีวีพี่โปเต้มานอนใกล้เราเราก็ไม่กล้าพูดอะไรคิดแต่ว่าคนเยอะแยะคงไม่มีอะไรหลังจากนั้นครึ่งชม. อีปลาหลับไปแล้วพี่เนก็เรียกชื่อเราถามว่าหลับยังเราก็แกล้งหลับพี่เนก็ลุกขึ้นมาปิดทีวีทุกอย่างมืดสนิทใจเรานี่เต้นแร็วจนจะทะลุออกมาแล้ว
ในความมืดนั้นเราก็รู้สึกได้ว่าพี่โปเต้เขยิบมาใกล้เราแล้วก็ใกล้จนตัวพี่แกติดกับด้านหลังเรา(เรานอนหันหลังให้) แค่ตัวมาชิดเราหัวใจก็เต้นไม่เป็นจังหวะแล้วอยู่ๆมือพี่แกก็กอดเอวเรานอนกอดเอวเราแม่เจ้า!! คือไม่ไหวหัวใจจะหลุดออกมาแล้วทำไงละในหัวก็คิดว่าเพิ่งคุยกันเองในความเงียบนั้นเราเอามือไปยกแขนพี่โปเต้ออก แล้วพี่แกก็กลับมากอดเราอีกเป็นแบบนี้อยู่3-4 ครั้ง
เรา: พี่อย่าทำแบบนี้เลยเพิ่งคุยกันเอง
พี่โปเต้เงียบแล้วก็ดึงมือออกแล้วนอนหันหลังให้เราทำไมเรารู้สึกผิดรู้สึกเหมือนโดนงอนนอนคิดอยู่สักพักแล้วคิดในใจว่าเอาก็เอาวะแค่กอดเองเราหันกลับไปดึงมือพี่โปเต้มากอดเอวเรา(เรานอนหันหลังให้เหมือนเดิม) นอนอยู่แบบนั้นจนหลับไปรู้สึกตัวอีกทีเหมือนมีปากใครกำลังจูบปากเราแบบเบาๆแอบลืมตาดูพี่โปเต้!! เราตกใจมากแต่แอบจิกหมอนหน่อยๆ555 ทำไงดีละแกล้งหลับซะเลยทำเป็นไม่รู้เรื่องเดี๋ยวตอนเช้าทำตัวไม่ถูก
ตกลงคืนนั้นพี่โปเต้นอนกอดเราจูบเราแบบนั้นทั้งคืน(แอบฟินคะคุณขา555) ตอนใกล้เช้าพี่โปเต้มาปลุกเราบอกเราว่าเดี๋ยวกลับบ้านไปเปลี่ยนรถก่อนนะเดี๋ยวมารับเราด้วยความที่หลับๆตื่นๆก็ยักคอพี่โปเต้ออกไปเราได้หลับสนิทหน่อยรู้สึกตัวอีกทีพี่แกมาแระมาหอมแก้มเราเราก็สะดุ้งคือแบบถึงขั้นนั้นแล้วหรอเนี่ยพี่โปเต้ซื้อแปรงสีฟันมาให้เราแล้วพาเราออกไปกินข้าววันนั้นเป็นวันหยุดเลยนอนดูหนังอยู่บ้านพี่เนจนเย็นไม่ต้องถามนะว่ายังไงพี่โปเต้จูบเราทั้งวันจนปากจะหลุดแล้วจ้า🤣ขากลับกลับรถยนต์พอถึงหอเราจะลงจากรถพี่โปเต้ดึงมือเราไว้แล้วขอเบอร์เราตอนนั้นคิดแล้วว่ายังไงก็ไม่ปล่อยพี่โปเต้ไปนัวเราแล้วจะไม่ให้เบอร์ได้ไงละ555
หลังจากวันนั้นเราก็โทรคุยกันทุกวันพี่โปเต้มารับเราออกไปเที่ยว2 ต่อ2 เกือบทุกคืนพาไปขับรถเล่นหาอะไรกินกันนั่งคุยกันเรื่องกอดเรื่องหอมกลายเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเรา2 คนนานวันเข้าพี่โปเต้ก็พาเราไปรู้จักกับที่บ้านเราก็พาพี่โปเต้มารู้จักกับที่บ้านพี่โปเต้เป็นคนหล่ออัธยาศัยดีฉลาดเข้ากับคนอื่นง่ายจนคนที่บ้านเรารักพี่โปเต้เราเองก็เริ่มไปบ้านพี่โปเต้บ่อยขึ้นไปนั่งดูหนังเล่นเกมส์ที่ห้องพี่โปเต้
คืนนี้ก็เป็นอีกคืนนึงที่เรามานอนดูหนังที่ห้องพี่โปเต้ดูหนังจบเราหันไปพี่โปเต้หลับแล้วแล้วมันก็ดึกมากแล้วด้วยเราเลยปิดไฟปิดหนังนอนมันที่นี่แหละมาหลายครั้งไม่มีอะไรให้เราต้องกลัว(เรากับพี่โปเต้ยังไม่เคยมีอะไรกันแค่กอดๆหอมๆ) เราล้มตัวลงนอนยังไม่ทันหลับพี่โปเต้หันมากอดเราจูบเราจูบสักพักนึง
พี่โปเต้: ขอลองได้มั้ย? (พี่โปเต้ผู้ไม่เคยผ่านศึก)
เรา: จะดีหรอ
พี่โปเต้เริ้มเล้าโลมเราแล้วก้ออ้อนขออยู่แบบบนั้น
เรา: ลองก็ได้
จบคำนั้นพี่โปเต้ลุกขึ้นเลยจากนั้นคงไม่ต้องอธิบายว่าเป็นยังไง555 เราสองคนมีอะไรกันแล้วก็ยังคงไปๆมาๆห้องพี่โปเต้แบบนั้นแต่ไม่ได้มีอะไรกันบ่อยนะ เราก็ศึกษาเกี่ยวกับการคุมกำเนิดแล้วก็ระมัดระวังมาเรื่อยๆ
เหมือนจะไปได้ด้วยดีแต่นี่แค่จุดเริ่มต้น เดี๋ยวมาต่อนะคะ...
รักกันครั้งนึง...คิดถึงกันตลอดไป (จากคนรักเก่า)
เราแค่ต้องการเล่าถึงความรักครั้งนึงที่มันดีมากจิงๆสำหรับเราเป็นความรักในวัยเรียนตอนนี้ก็ผ่านมาเกือบ10 ปีแล้วแต่มันลืมไม่ลงจริงๆ
ขอเริ่มเลยแล้วกันนะคะ 😁
เราชื่อนิ(นามสมมุติ) เราเป็นเด็กนักเรียนม.3 รูปร่างสูงขาวและผอมไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไรแต่ก็ไม่ได้อยู่ในหมวดหมู่ที่เรียกว่าสวยเพราะเราเฉิ่มแต่งตัวไม่เป็นแต่งหน้าไม่เป็น(เอาจิงๆตอนนั้นยังแอบไม่อาบน้ำไปโรงเรียนอยู่บ่อยๆ😂) แต่เราเรียนเก่งนะได้อันดับท็อปต้นๆของห้องเสมอเรากำลังจะจบม.3 และอยู่ในช่วงหาที่เรียนใหม่ตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่าเรียนที่ไหนก็ได้ขอแค่ให้เราได้ไว้ผมยาวอยากสวยอยากแรดเหมือนคนอื่นบ้านเราอยู่ไกลจากตัวเมืองเกือบ100 กม. ดังนั้นการที่เราจะหาที่เรียนใหม่คือต้องเข้าตัวเมืองอย่างเดียวหรือหาที่เรียนในจังหวัดอื่นแต่นะเฉิ่มๆอย่างเราถนนในตัวเมืองยังข้ามไม่ได้เลยไปเรียนไกลถึงจังหวัดอื่นคงเอาตัวไม่รอด
เราไปสมัครเรียนในตัวจังหวัดโดยไม่คิดว่าจะมีเพื่อนไปกับเรามั้ยเราไปสมัครเรียนสายอาชีพเพราะแน่นอนมันตรงวัตถุประสงค์ของเราสายอาชีพไว้ผมยาวได้แน่นอนเริ่มจากการเลือกแผนกที่คิดว่าเหมาะกับเรา(ตอนนั้นคืออาศัยดวงล้วนๆเพราะเราไม่รู้จักอะไรเลยไม่มีใครแนะนำGoogle ก้อใช้ไม่เป็น) เราลงสมัครและสอบเข้าประกาศผลสอบเราได้ห้อง1 พอได้ที่เรียนเราก็ทำการหาหอพักซื้อเสื้อผ้าเตรียมทุกอย่างเรียบร้อย(บอกก่อนโรงเรียนที่เราเรียนผู้ชายน้อยมากกกกกกกก.ไก่ล้านตัวสินค้าหายากเลยก็ว่าได้555 ทั้งโรงเรียนมีผู้ชาย20 คนได้ผู้หญิง2000 อัตราส่วนแบบนี้เลย)
วันแรกของการเรียนเราตื่นเช้าแต่งตัวมัดผมตามระเบียบที่โรงเรียนกำหนดเป๊ะๆใส่รองเท้าคัทชูส้นหนาสูง1 นิ้วกระโปรงกับเสื้อตัวใหญ่(เหมือนซื้อไว้ใส่3 ปีข้างหน้า) มัดผมติดกิ๊บผูกโบว์สีดำเรียบน้อยไปไหน🤣🤣🤣
เราเข้าเรียนแบบไม่รู้จักใครในแผนกเลยสักคนเริ่มจากยืนรอข้ามถนนหน้าโรงเรียนวันละ15 นาทีเพราะรถเยอะมากช่วงเช้าต้องอาศัยจังหวะดีๆวิ่งตามคนอื่นเข้าเรียนก็เดินตามตารางสอนตามแผนที่ที่วาดไว้ด้วยตัวเอง(โรงเรียนไม่ได้ใหญ่นะแต่เราเฉิ่งไง555) พยายามจำหน้าเพื่อนในห้องแล้วหาเพื่อนสนิทไว้คนนึงกันหลงเราไม่กล้าเล่นโทรศัพท์ในโรงเรียนไม่ว่าจะช่วงพักหรือช่วงไหนไม่กล้าออกไปนอกโรงเรียนไม่ว่าจะพักเที่ยงหรือคาบว่าง(ติดนิสัยจากโรงเรียนมัธยม) เช้าเข้าเรียนเย็นกลับหอไม่เคยออกไปไหนไกลเพราะเราไม่มีรถมอไซ(จะมีได้ไงถนนยังเดินข้ามไม่ได้😅😅) เราใช้ชีวิตแบบนี้มา1 เทอมเต็มๆ
ผ่านมา1 เทอมสิ่งที่มีเพิ่มขึ้นคือเพื่อนสิ่งที่มีน้อยลงคือผู้ชาย(อีพวกหน้าตาดีคาบไปครึ่งนึงแระ) ตอนนั้นเรามีเพื่อนสนิทคนนึงชื่อปลา(นามสมมุติ) มันเองก้อเป็นคนหน้าตาจิ้มลิ้มขาวๆหมวยๆอีปลาก้อทำมิชชั่นสำเร็จได้รุ่นพี่มาเป็นแฟน1คนชื่อพี่เน(พี่เนคนนี้หล่อระดับ1 ใน3 เลยนะแกรรรร) ตอนนั้นเราทำการบ้านที่หออีปลาก็มาทำด้วยแต่มีพี่เนมานั่งเฝ้าเป็นบอดี้การ์ด(อิจฉาตาร้อนนนน🔥🔥) สักพักอีปลาก็ส่งโทรศัพท์มาให้เราซึ่งก้อไม่รู้ว่าปลายสายคือใคร
เรา: ฮัลโหล
ปลายสาย: สวัสดีครับ
เรา: อือใครหรอ?
ปลายสาย: คุยด้วยได้ป่าว?
เราหันไปถามอีปลาใครวะมันก้อส่งซิกให้เราคุยต่อ
ปลายสาย: มีแฟนยังอะ?
เรา: (เงียบ) หน้าเหวอเลยแล้วก้อวางคือตกใจใครจู่โจมเรา555🤣🤣
จากเหตุการณ์วันนั้นผ่านไปอีปลาไม่ยอมบอกว่าปลายสายคือใครเราก้อลืมๆไปแล้วเพราะมันเป็นเดือนแล้วกิจวัตรประจำวันของเรายังคงเหมือนเดิมไปเรียนกลับหอซึ่งมันเริ่มเบื่อแล้วอยากรู้แล้วว่าในเมืองแบบนี้มันมีอะไรบ้างเราเลยบ่นๆกับอีปลาว่าอยากไปดูหนังหวะอีปลาก้อชวนเราคุยเรื่องอื่นเฉยจนตกเย็นเรานอนเล่นอยู่ที่หออีปลาโทมาจ่ะ
เรา: ว่าไง
อีปลา: ไปดูหนังกัน
เรา: 😱กำลังว๊อนเลย🎉
อีปลา: เอออาบน้ำรอเลยเดี๋ยวไปรับทุ่มนึง
จบบทสนทนากับอีปลาอยู่ทำไรแล้วละเต้นรำเข้าห้องน้ำเลยจ้าตั้งแต่อยู่มาจะ1 ปีแล้วนี่คือวันแรกที่เราได้เที่ยววิ่งผ่านน้ำ5 นาทีได้รีบออกมาแต่งตัวกางเกงยีนส์ขาสั้นเสื้อยืดสีชมพูพรมน้ำหอม(สวยสุดแระตอนนั้นหน้าไม่ต้องแต่ง555) เรานอนรออีปลาแล้วมันก็โทรมาอีก
เรา: ถึงยัง
อีปลา: กูให้พี่โปเต้ไปรับนะกูกับพี่เนรอที่โรงหนัง
*พี่โปเต้(พี่แกชอบโปเตโต้เราเรียกว่าพี่โปเต้แล้วกันเป็นเพื่อนสนิทพี่เนพี่แกก็หล่อระดับ1 ใน3 ของโรงเรียนจ้า
เรา: ห๊ะไม่ได้!!!
อีปลาวางสายไปแบบไม่ใยดีเรารีบวิ่งไปที่หน้าต่างหอมองลงไปด้านล่างจ่ะพี่โปเต้นั่งรออยู่บนมอไซพร้อมกับยิ้มอ่อนมาบอกเลยว่าชิบ...แระคือคิดในใจเอาวะยังไงพี่เค้าก้อหล่อโรงหนังก็ไม่ไกลไม่เป็นไรมีไรค่อยกระโดด555 ตอนนั่งซ้อนท้ายพี่แกเราสองคนเงียบไม่คุยอะไรกันคือแบบไม่เคยคุยกันมาก่อนทำตัวไม่ถูกพอไปถึงโรงหนังอีปลากับพี่เนยืนรออยู่อยากจะด่าอีปลามากเลยแต่ก็ทำไม่ได้เราก็ซื้อตั๋วซื้อขนมกับน้ำเข้าไปด้านในอีปลานั่งริมสุดเลยจ้า(นี่นะ) แล้วพี่เนก็นั่งต่อกลายเป็นเรานั่งกับพี่โปเต้เราก็กินขนมกินน้ำไปเรื่อยๆแก้เขินพอเราวางแก้วน้ำลงพี่โปเต้หยิบแก้วน้ำเราไปกินคือ!!!....คือแอบจูบปากเราทางอ้อมหรอออคืออัลไลลลลใจนี่เต้นแทบจะหลุดออกมาแต่เราก็ทำเป็นดูหนังไม่สนใจ หนังจบอีปลาหิวเลยจ้าชวนกันไปกินเตี๋ยวร้านหน้าเซเว่นทางออกนอกเมืองกินเสร็จอีปลาบอกพี่โปเต้ฝากส่งเราด้วยนะมันกับพี่เนจะกลับบ้านทางนั้นเลยเราก้อหันไปเห้ยอีปลาก็บอกไม่เป็นไรพี่โปเต้ไว้ใจได้พี่แกก้อยิ้มอ่อนอีกแล้ว🙂ผู้ชายอะไรเนี่ยขี้อ่อยจิงๆเออไหนๆก็ไหนๆแล้วเราก็ขึ้นรถพี่โปเต้ระหว่างขับกลับหอพี่แกก็มีชวนคุยบ้างพี่แกก้อน่ารักดี
ผ่านเหตการณ์วันนั้นมาไม่นานหลังเลิกเรียนเรานอนเล่นที่หอเสียงโทรศัพท์ดังอีปลาเจ้าเก่าเจ้าเดิม
เรา: เออว่าไง
อีปลา: ไปเที่ยวทะเลกัน
เรา: จะมืดแล้วเนี่ยนะ
อีปลา: เออมีที่นึงมืดนี่แหละสวยเดี๋ยวพาไป
เรา: เออให้สวยนะเดี๋ยวอาบน้ำรอ
จบบทสนทนาเราก็อาบน้ำแต่งตัวสไตล์เดิมเลยจ้าเสื้อยืดกับยีนขาสั้นมีแค่นั้นจิงๆ555 พออีปลายิงมาตู๊ดนึงเราก็ลงไปหามันด้านล่างหอเจอจังๆเลยจ่ะไม่ใช่อีปลานะแต่เป็นพี่โปเต้😱
เรา: อีปลาละพี่
พี่โปเต้: บ้านพี่เนอยู่ใกล้ทะเลเราแหละต้องไปไกลพี่เลยมารับ(คือบ้านพี่โปเต้อยู่ในเมือง)
เราก็ซ้อนท้ายมอไซพี่แกไประหว่างทางก็ไม่ได้คุยอะไรกันบ้านพี่เนไกลจากตัวเมืองเกือบ10 กม. ไปถึงสองคนนี้ก็รออยู่แล้วขับรถจากบ้านพี่เนไปทะเลอีกประมาณ4-5 กม. ไปถึงทะเลอีปลาก็เล่นเราเลยจ้ามันพาพี่เนไปเดินเล่นไกลๆที่นี้จะยังไงละเราก็อยู่กับพี่โปเต้2 คนบรรยากาศเงียบมากได้ยินแต่เสียงคลื่นพี่โปเต้ก็ชวนเราคุยถามกันไปถามกันมาเวลาผ่านไป3 ชม. จ่ะรู้จักถึงพ่อถึงแม่เลยจ่ะเพราะคุยจนไม่มีอะไรจะคุยแล้วตอนนั้นก็เที่ยงคืนกว่าแล้วเลยชวนกันกลับพอขับรถใกล้ถึงบ้านพี่เนยางรถพี่โปเต้รั่วแม่เจ้าาาาWTF คือพี่ก็ไม่ได้เตี๊ยมกับรถมอไซด้วยใช่มั้ยเป็นใจเหลือเกินเราก็ไปที่บ้านพี่เนกันดึกมากแล้วทางเปลี่ยวด้วยพี่เนเลยชวนเรากับพี่โปเต้นอนที่นั่นเราก็คิดว่าไหนๆก็ไหนๆละนอนห้องเดียวกันตั้ง4 คนทำอะไรกันก็บ้าแล้วเราก็เข้าไปนอนพี่เนเปิดหนังให้ดูอีปลากับพี่เนนอนด้วยกันแล้วก็เว้นมาหน่อยเป็นเรา(เราไม่กล้านอนใกล้อีปลาพี่เนนอนกอดมันเดี๋ยวมือจะยาวมาโดนเรา) พอปิดไฟเหลือแต่แสงจากทีวีพี่โปเต้มานอนใกล้เราเราก็ไม่กล้าพูดอะไรคิดแต่ว่าคนเยอะแยะคงไม่มีอะไรหลังจากนั้นครึ่งชม. อีปลาหลับไปแล้วพี่เนก็เรียกชื่อเราถามว่าหลับยังเราก็แกล้งหลับพี่เนก็ลุกขึ้นมาปิดทีวีทุกอย่างมืดสนิทใจเรานี่เต้นแร็วจนจะทะลุออกมาแล้ว
ในความมืดนั้นเราก็รู้สึกได้ว่าพี่โปเต้เขยิบมาใกล้เราแล้วก็ใกล้จนตัวพี่แกติดกับด้านหลังเรา(เรานอนหันหลังให้) แค่ตัวมาชิดเราหัวใจก็เต้นไม่เป็นจังหวะแล้วอยู่ๆมือพี่แกก็กอดเอวเรานอนกอดเอวเราแม่เจ้า!! คือไม่ไหวหัวใจจะหลุดออกมาแล้วทำไงละในหัวก็คิดว่าเพิ่งคุยกันเองในความเงียบนั้นเราเอามือไปยกแขนพี่โปเต้ออก แล้วพี่แกก็กลับมากอดเราอีกเป็นแบบนี้อยู่3-4 ครั้ง
เรา: พี่อย่าทำแบบนี้เลยเพิ่งคุยกันเอง
พี่โปเต้เงียบแล้วก็ดึงมือออกแล้วนอนหันหลังให้เราทำไมเรารู้สึกผิดรู้สึกเหมือนโดนงอนนอนคิดอยู่สักพักแล้วคิดในใจว่าเอาก็เอาวะแค่กอดเองเราหันกลับไปดึงมือพี่โปเต้มากอดเอวเรา(เรานอนหันหลังให้เหมือนเดิม) นอนอยู่แบบนั้นจนหลับไปรู้สึกตัวอีกทีเหมือนมีปากใครกำลังจูบปากเราแบบเบาๆแอบลืมตาดูพี่โปเต้!! เราตกใจมากแต่แอบจิกหมอนหน่อยๆ555 ทำไงดีละแกล้งหลับซะเลยทำเป็นไม่รู้เรื่องเดี๋ยวตอนเช้าทำตัวไม่ถูก
ตกลงคืนนั้นพี่โปเต้นอนกอดเราจูบเราแบบนั้นทั้งคืน(แอบฟินคะคุณขา555) ตอนใกล้เช้าพี่โปเต้มาปลุกเราบอกเราว่าเดี๋ยวกลับบ้านไปเปลี่ยนรถก่อนนะเดี๋ยวมารับเราด้วยความที่หลับๆตื่นๆก็ยักคอพี่โปเต้ออกไปเราได้หลับสนิทหน่อยรู้สึกตัวอีกทีพี่แกมาแระมาหอมแก้มเราเราก็สะดุ้งคือแบบถึงขั้นนั้นแล้วหรอเนี่ยพี่โปเต้ซื้อแปรงสีฟันมาให้เราแล้วพาเราออกไปกินข้าววันนั้นเป็นวันหยุดเลยนอนดูหนังอยู่บ้านพี่เนจนเย็นไม่ต้องถามนะว่ายังไงพี่โปเต้จูบเราทั้งวันจนปากจะหลุดแล้วจ้า🤣ขากลับกลับรถยนต์พอถึงหอเราจะลงจากรถพี่โปเต้ดึงมือเราไว้แล้วขอเบอร์เราตอนนั้นคิดแล้วว่ายังไงก็ไม่ปล่อยพี่โปเต้ไปนัวเราแล้วจะไม่ให้เบอร์ได้ไงละ555
หลังจากวันนั้นเราก็โทรคุยกันทุกวันพี่โปเต้มารับเราออกไปเที่ยว2 ต่อ2 เกือบทุกคืนพาไปขับรถเล่นหาอะไรกินกันนั่งคุยกันเรื่องกอดเรื่องหอมกลายเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเรา2 คนนานวันเข้าพี่โปเต้ก็พาเราไปรู้จักกับที่บ้านเราก็พาพี่โปเต้มารู้จักกับที่บ้านพี่โปเต้เป็นคนหล่ออัธยาศัยดีฉลาดเข้ากับคนอื่นง่ายจนคนที่บ้านเรารักพี่โปเต้เราเองก็เริ่มไปบ้านพี่โปเต้บ่อยขึ้นไปนั่งดูหนังเล่นเกมส์ที่ห้องพี่โปเต้
คืนนี้ก็เป็นอีกคืนนึงที่เรามานอนดูหนังที่ห้องพี่โปเต้ดูหนังจบเราหันไปพี่โปเต้หลับแล้วแล้วมันก็ดึกมากแล้วด้วยเราเลยปิดไฟปิดหนังนอนมันที่นี่แหละมาหลายครั้งไม่มีอะไรให้เราต้องกลัว(เรากับพี่โปเต้ยังไม่เคยมีอะไรกันแค่กอดๆหอมๆ) เราล้มตัวลงนอนยังไม่ทันหลับพี่โปเต้หันมากอดเราจูบเราจูบสักพักนึง
พี่โปเต้: ขอลองได้มั้ย? (พี่โปเต้ผู้ไม่เคยผ่านศึก)
เรา: จะดีหรอ
พี่โปเต้เริ้มเล้าโลมเราแล้วก้ออ้อนขออยู่แบบบนั้น
เรา: ลองก็ได้
จบคำนั้นพี่โปเต้ลุกขึ้นเลยจากนั้นคงไม่ต้องอธิบายว่าเป็นยังไง555 เราสองคนมีอะไรกันแล้วก็ยังคงไปๆมาๆห้องพี่โปเต้แบบนั้นแต่ไม่ได้มีอะไรกันบ่อยนะ เราก็ศึกษาเกี่ยวกับการคุมกำเนิดแล้วก็ระมัดระวังมาเรื่อยๆ
เหมือนจะไปได้ด้วยดีแต่นี่แค่จุดเริ่มต้น เดี๋ยวมาต่อนะคะ...