แชร์ประสบการณ์ การทำธรรกิจของคนอายุ 27ปีค่ะ

สวัสดีค่ะ วันนี้เราอยากมาแชร์ประสบการณ์ การทำธุรกิจเล็กๆของเรานะคะ เรารู้ว่ามีหลายคนในพันทิปสามารถหารายได้ได้มากกว่าเรา แต่เราก็หวังว่ากระทู้นี้จะพอมีประโยชน์กับเพื่อนๆบ้างนะคะ


ตอนนี้ เราอายุ 27ปี จบมหาวิทยาลัยแถวสามย่านค่ะ จบมาก็มาช่วยงานที่บ้าน ได้เงินเดือนเท่ากับค่าแรงขั้นต่ำ ฮ่าๆๆ
(ที่ตัดสินใจไม่ทำงาน ไม่ใช่เพราะที่บ้านฐานะดีนะคะ แต่ตอนนั้นเคยฝึกงานแล้วไม่ชอบ บวกกับกระแสเป็นนายตัวเองมาแรงมาก เลยอยากออกมาทำธุรกิจเอง)


ต่อมาที่บ้านก็ยกกิจการให้ สมัยที่ที่บ้านทำเองได้กำไรประมาณ ปีละ 350-550K แต่เขาก็อยู่ได้เพราะเขามีงานประจำทำควบคู่ไปด้วย ส่วนเราไม่มีงานอื่นทำ นอกจากกิจการที่เขายกให้


หลังจากที่เราเข้ามาทำต่อได้ประมาณปี
กว่า พบว่าลูกค้าเก่าเริ่มหายไปเรื่อยๆ ลูกค้าหน้าใหม่ก็ไม่มี ทำให้เรารู้สึกเครียดมาก เพราะกลัวว่าวันนึงเราจะไม่มีลูกค้าเลย แถมตอนนั้นเราก็มีเงินหมุนไม่พอ ต้องขอยืมเงินจากแม่มาแสนกว่าบาทเพื่อมาหมุนธุรกิจ มาจ่ายเงินลูกน้อง ไปสมัครบัตรเครดิตที่ไหนก็ไม่ผ่าน จนวันนึงได้คุยกับผจก.ธนาคารแห่งหนึ่งเรื่องสมัครบัตร เราจำได้แม่นเลยว่าผจก. หัวเราะ แล้วพูดว่า "ยังสมัครไม่ผ่านอีกเหรอคะ"


- วันนั้นเราคิดในใจว่า ถ้าวันไหนที่เรามีเงินมากๆ เราจะมาถอนเงินจากธนาคารสาขานี้ ให้ผจก.ออกมาต้อนรับเราเอง (แต่ปัจจุบันก็ยังมีไม่มากพอ ที่เวลาถอนแล้วผจก.จะมาต้อนรับนะคะ ฮ่าๆๆ)

ตอนนี้ยังมีแค่7หลักต้นๆเกือบถึงกลางๆค่ะ และทำบัตรเครดิตได้แล้วนะคะ ฮ่าๆๆ)

แต่เสียงหัวเราะของผู้การคนนั้นก็ยังฝังในใจเราอยู่ถึงทุกวันนี้


ช่วงนั้นเราเลยฮึดมากๆ พยายามจะหากลุ่มลูกค้าเพิ่ม หาวิธีทำการตลาดใหม่ๆ หาหนังสือมาอ่าน ฟังคลิปสร้างแรงบันดาลใจในยูทูป รวมถึงคิดหาสินค้าใหม่ๆว่าจะขายอะไรดี จนสุดท้ายเราก็เลยตัดสินใจที่จะลงมือทำธุรกิจที่มีอยู่ให้ดีขึ้น แทนการหาสินค้าใหม่มาขาย เราจึงเริ่มทำการตลาดออนไลน์


ต่อจากนี้ เราจะขอยกตัวอย่างสิ่งที่เราต้องเจอในการทำธุรกิจ โดยขอเปรียบเป็นด่านๆนะคะ

------‐---------------

ด่านแรก  ใจต้องสู้ อย่าท้อ อย่าถอย

    นี่คือบททดสอบด่านแรกที่คนทำธุรกิจทุกคนต้องเจอ หลังจากที่เราเริ่มทำการตลาดออนไลน์ได้ประมาณ 1 เดือน ด้วยความหวังที่ว่า งานฉันต้องเยอะ ลูกค้าต้องโทรมาหาจนสายไหม้ ....

แต่ความจริงแล้ว...เงียบมากๆค่ะ ไม่มีลูกค้าโทรมาสักคน ท้อมาก เครียดมากแต่ยังไม่ยอมถอย เลยลองซื้อโฆษณาออนไลน์ดู ผลก็คือ มีคนโทรมาสอบถามบ้าง แต่ยังไม่มีใครสั่ง จนผ่านไปอีก 2สัปดาห์ เริ่มได้ออเดอร์แรก เป็นเงินไม่มาก แต่ก็ทำให้เราเริ่มมีกำลังใจค่ะ


------‐---------------

ด่านสอง  จัดการรับมือกับความกดดัน และความผิดพลาด

    การทำธุรกิจต้องมีความชัดเจน และมีความรอบคอบ (ทุกวันนี้เราก็ยังไม่รอบคอบเท่าไหร่) ช่วงที่ทำธุรกิจแรกๆ เรากับลูกค้าคุยกันยังไม่ชัดเจน แต่เราอยากให้งานเสร็จไว จึงเริ่มลงมือทำเลย  คิดว่าลูกค้ากับเราจะคิดตรงกัน แต่ปรากฎว่า ลูกค้าคิดอีกอย่าง เราคิดอีกอย่าง เมื่อถึงตอนจะส่งงาน...ลูกค้าโวยวายไม่ยอมรับงาน สั่งให้เราแก้งานใหม่ ซึ่งมันไม่สามารถแก้ได้จริงๆ

    สุดท้ายลูกค้าบอกว่าเขาจะจ่ายเงินแค่ครึ่งเดียว แต่จะเอาของทั้งหมดไป .... เราเครียดมากๆ ไม่รู้จะทำยังไง ลูกค้าก็โวยวายไม่หยุด ... เราเลยตัดสินใจยอมค่ะ เพื่อที่จะได้จบปัญหา คืนนั้นเรานั่งร้องไห้ทั้งคืน เสียใจมาก รู้สึกแย่กับตัวเองและท้อจนตัดสินใจจะเลิกทำกิจการ แต่คนในครอบครัวก็มาให้กำลังใจ และพูดกับเราว่า "เราจะหยุดทำ เพราะลูกค้าเพียงคนเดียว เพราะงานเพียงงานเดียว หรือว่าเราจะปล่อยผ่าน ก้าวข้ามมันไป และเรียนรู้ที่จะป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก" เมื่อเราได้ยินดังนั้นก็ทำให้เราได้สติ และเปลี่ยนใจที่จะไม่ล้มเลิกค่ะ


------‐---------------

ด่านที่ 3  ต้องมีความน่าเชื่อถือ

    การทำการตลาดออนไลน์ สิ่งที่สำคัญเลยคือความน่าเชื่อถือ เพราะลูกค้าไม่เห็นหน้าเรา ไม่รู้ว่าราจะส่งของจริงไหม หรือจะโกงเงินเขาหรือเปล่า เราเลยต้องแสดงหลักฐานการมีอยู่ของร้านเราให้ลูกค้ารับรู้ ไม่ว่าจะเป็นหลักฐานการจดทะเบียน ใบเสร็จเสียภาษีที่ถูกต้อง รวมถึงการพูดจาและการใช้ภาษาที่ถูกต้องและน่าเชื่อถือ (สำหรับเรา คุยเป็นกันเองกับลูกค้าได้ แต่ต้องไม่ใช้ภาษาวัยรุ่นค่ะ)


------‐---------------

ด่านที่ 4  ต้องมีการควบคุมบัญชีรับ-จ่าย และการสั่งซื้อของจาก Supplier

    ช่วงแรกๆเราไม่เคยจดเลยค่ะ ว่าเราได้สั่งซื้ออะไรไปบ้าง ทำให้บางอย่างเกิดการสั่งซื้อซ้ำซ้อน เสียเงินทิ้งไปเป็นหมื่น หรือบางครั้งได้ใบส่งของมาก็ไม่เก็บไว้ให้ดี ครบกำหนดจ่ายก็ไม่ได้จ่าย ทำให้เราเสียเครดิตค่ะ ต่อมาเราจึงแก้ปัญหาด้วยการทำตางรางในคอม แล้วแบ่งเป็นช่องๆ คอยจดว่า ของชิ้นนี้เราสั่งหรือยังไม่สั่ง ได้รับของจากSupplier หรือยัง แล้วจ่ายเงินหรือยังไม่จ่าย ผลก็คือ...ความผิดพลาดที่เคยมี ลดลงอย่างมากค่ะ แต่ก็ยังไม่ถึงกับ Perfect 100%


    ปัจจุบันนี้เราได้กำไรประมาณ เดือนละ 80-100k ค่ะ แต่กำไรก็ยังไม่นิ่ง มีขึ้นลงเป็นช่วงๆ และเสียภาษีถูกต้องนะคะ

เรายังไม่คิดว่าเราประสบความสำเร็จแล้ว เพราะเรายังกังวลเหมือนเดิมว่าวันนึงลูกค้าจะหายไป ตอนนี้เรานึกสิ่งที่อยากจะแชร์ออกเพียงเท่านี้ หากนึกอะไรได้จะมาเพิ่มเติมที่หลังนะคะ เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ


*แก้ไขคำผิด เพราะพิมพ์ในมือถือค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่