กลุ่มธุรกิจควรเลี่ยง แนวโน้มในอนาคตเหนื่อยแน่ !!! [2|2]

ต่อจากกระทู้ที่แล้ว https://ppantip.com/topic/38952088/comment19
คราวนี้มาต่อกันที่ข้อ 6-10 ครับ
6. ถุงพลาสติกไม่ลดโลกร้อน ควรเลี่ยงภายใน 5 ปี
เริ่มมีบางประเทศดำเนินนโยบายการลดถุงพลาสติกแล้ว หากใครต้องการถุงจะต้องเสียเงินเพิ่มเป็นราคาต่อใบอีกด้วย มีแนวโน้มว่าอีกหลายประเทศจะเริ่มทำตามเหมือนกัน อย่างไทยเรา 7-eleven เริ่มใช้นโยบายเบาๆแล้ว #ขอบคุณที่ไม่รับถุงค่ะ หรือ กลุ่มเซ็นทรัลก็พึ่งประกาศงดใช้เช่นกัน

7. น้ำมันรถยนต์ ควรเลี่ยงภายใน 10 ปี
หลายๆประเทศมีแผนการเลิกใช้น้ำมันในรถอีก 10 ปีข้างหน้า เริ่มจากแบรนด์เยอรมันเริ่มออกโปรเจคใช้รถไฟฟ้าทั้งหมดแทนรถน้ำมันภายในปี ค.ศ.2030 ตอนนี้รถยนต์ไฟฟ้ายังมีต้นทุนที่แพงกว่าลดน้ำมัน แต่คาดว่าในอนาคตอันใกล้ราคาจะถูกปรับลดลงมาให้เหลือไม่ห่างกันมาก(ผลจากeconomy of scale) คนจะหันไปใช้รถไฟฟ้ามากขึ้นเพราะประหยัดกว่า น้ำมันจะค่อยๆลดบทบาทลง

8. ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่ไม่อยู่ในรถไฟฟ้า ควรเลี่ยงภายใน 10 ปี
รถไฟฟ้าใช้ชิ้นส่วนในการประกอบน้อยมากๆ หลักๆ คือ มอเตอร์ไฟฟ้า สายไฟฟ้า ตัวถังรถ อุปกรณ์ในรถน้ำมัน เช่น เครื่องยนต์ ท่อไอเสีย คาร์บูเรเตอร์ หัวฉีด ฯลฯ จะหายไป ดังนั้นบริษัทไหนผลิตชิ้นส่วนที่ไม่ใช้ในรถไฟฟ้าอนาคตถ้าไม่รีบปรับตัวจะเหนื่อยแน่ครับ

9. นายหน้า/ตัวแทน/ตัวกลาง/ผู้รับสินค้าหลายๆแบรนด์มาจำหน่าย 
แนวๆtrading company(ซื้อมาขายไป) ควรเลี่ยงภายใน 10 ปี เดี๋ยวนี้มีช่องทางการขายหลากหลายทางมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน Platform ออนไลน์ บทบาทของตัวกลางจะเริ่มน้อยลงเพราะราคาที่ได้ไปยังไงก็สูงกว่าผู้ผลิตต้นน้ำที่หันมาขายเอง ตัวกลางที่อยู่ได้ต้องเป็นตัวกลางที่เอื้อประโยชน์ต่อบริษัทต้นน้ำยกตัวอย่างเช่น ธุรกิจ โลจิสติกส์ขนาดกลาง-ใหญ่ จะยังคงอยู่ได้เนื่องจากมี volume การสั่งซื้อที่ใหญ่พอในการเหมาล็อต container ของตนเองทำให้ได้ต้นทุนถูกและอำนวยความสะดวกต่อบริษัทเดินเรือ หรือtrading companyที่ scale sizeใหญ่ๆอำนาจต่อรองกับคู่ค้าสูงยังสามารถไปต่อได้ครับ (ที่สื่อในข้อนี้คือบริษัทที่สเกลยังไม่ใหญ่พออย่างมาก9หลักต้นๆและมีผู้ที่ขายสินค้าเดียวกันหลายเจ้าครับ)

10. เกี่ยวกับเด็ก ควรเลี่ยงภายใน 10 ปี
เมื่อ20-30ปีที่แล้ว เด็กเกิดในแต่ละปีกว่า 1,000,000 คนต่อปี แต่ใน 5 ปีหลังสุดนี้เฉลี่ยเพียง 700,000 คนต่อปี ลดลงกว่า 30% และกราฟการลดลงยังหันหัวลงไปเรื่อยๆดังนั้นใครทำธุรกิจเกี่ยวกับเด็กในช่วง 10 ปีข้างหน้าจะเหนื่อยขึ้นครับ

ปล. เป็นการแชร์มุมมองส่วนตัวของ Zood เท่านั้น เชื่อว่าแม้จะไม่ตายจากไปแต่ภาพรวมของธุรกิจก็โตยากแล้วครับ อาจมีบางท่านไม่เห็นด้วยไม่ว่ากันครับจะได้เปิดมุมมองมากขึ้นด้วย

หากชอบบทความช่วยกด like ติดตามเพจ https://www.facebook.com/zoodinvester/ กันด้วยนะครับเพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนมีกำลังใจในการผลิต Content ขึ้นอีกครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่