กระทู้นี้เขียนมาเพื่อบอกเล่า แชร์ประสบการณ์ และเตือนผู้หญิง
ยาวหน่อยนะคะ เลือกอ่านเป็นตอนๆ ได้
จุดเริ่มต้น
เริ่มด้วยการปวดท้องอย่างหนักจนทนไม่ไหว เลยไปหาหมอ รู้ตัวเองว่ากระเพาะแน่ๆ
เข้าฉุกเฉินเลย เพราะเป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว หมอมาตรวจถามอาการ ก็ได้นอนให้ยา
แต่ตอนที่หมอตรวจเสร็จแล้วกำลังเดินออกไป หมอพูดกับพยาบาลว่า
"ท้องใหญ่มาก"
สักพัก พยาบาลมาบอกว่าเดี๊ยวไปตรวจภายในนะคะ !!!! อึ้งเลยคะ โรคกระเพาะ ตรวจภายในเพื่อ ???
กลัวสิ่คะเกิดมา 26 ปีไม่เคยตรวจเลย ได้ตรวจภายใน ได้ซาวด์หน้าท้อง หมอบอกเจอก้อนเนื้อนะคะ
ขนาด 10 ซม. เดี๊ยวจะนัดพบหมอนารีเวช *** อยากบอกคุณผู้หญิงนะคะ ตรวจภายในไม่เจ็บ ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ***
พบหมอครั้งที่ 1
ถึงวันพบหมอนารีเวช โดนตรวจภายในและซาวด์หน้าท้องอีกรอบ
หมอทำหน้าตกใจ บอกว่า "ก้อนใหญ่มากนะ ไม่ใช่ 10 ซม. นะ แต่เป็น 14 ซม."
เอ้าหนักกว่าเดิมอีก 555. หมอก็เช็คประวัติ เช็คอาการ เราปกติทุกอย่างคะ
มีแค่ปวดท้องบ่อยๆ แค่นั้น หมอบอกว่าบางรายไม่แสดงอาการ ต้องตรวจเท่านั้นถึงจะรู้
หมอได้นัดทำ CT SCAN หมอได้นัดทำ CT SCAN ในครั้งต่อไปในครั้งต่อไป
**หลงนึกว่าตัวเองอ้วนลงพุงมาตั้งนาน เพราะปกติแล้วคนกินเก่ง
ยังงงตัวเองอยู่ว่าทำไมส่วนอื่นไม่ใหญ่ ใหญ่แต่พุง ใหญ่เหมือนคนท้อง
ซึ่งโดนทักเยอะมากว่าท้องหรือเปล่า ใหญ่จนแฟนทักว่าท้องต้วเองใหญ่มากเลยนะ **
ทำ CT SCAN ตอนแรกไอ้เราก็นึกว่าชิวๆ คงเหมือเอ็กซเรย์ แต่ไม่เลยจ้า 555.
ขั้นตอนแรกๆ ก็ปกติดีอยู่หรอก ขั้นตอนต่อไปเริ่มไม่ปกติ จนท. ฉีดอะไรให้ไม่รู้
รู้สึกร้อนวูบวาบ ข้างใน หลังจากนั้นมีสวนก้นอีก โอ้ยยยยย หลังจากสวนซักพัก
ปวดอึมาก ถึงมากที่สุดก็ยังไม่เสร็จซักที อั้นแล้ว อั้นอีก พอเสร็จเท่านั้นแหละ
วิ่งเข้าห้องน้ำอย่างไว หมอใส้หมดพุง
พบหมอครั้งที่ 2
หลังจากทำ CT SCAN ผลออกเรียบร้อย ถึงวันพบหมอ
หมอบอกว่าผลไม่ดีเท่าไหร่
"หน้าตาคล้ายมะเร็ง" จะส่งต่อให้หมอเฉพาะทาง
น้ำตาซึมเลยคะ เครียด จิตตกเลย แอบร้องไห้คนเดียวทุกวัน
รู้ดีว่าถ้าเกิดเป็นขึ้นมาจริงๆ จะทรมาน และลำบากแค่ไหน
เพราะเราเห็นและรับรู้ ย่าเราเป็นมะเร็งทั้งปากมดลูกและเต้านม แถมปู่เป็นมะเร็งต่อมน้ำลายอีก
เราอยู่ทุกช่วงเวลาการรักษาของท่านทั้งสอง เป็นคนพาไปหาหมอเองทุกครั้ง จนกระทั้งย่าจากไป
ด้วยโรคนี้
พบหมอเฉพาะทาง
โดนอีกแล้วคะ โดนตรวจภายในและซาวด์หน้าท้องอีกแล้ว
แล้วก็มาคุยแนวทางกัน หมอบอกอย่าเพิ่งเครียดผล CT SCAN ไม่ชัดเจน 100%
ชัดเจนที่สุดคือต้องเอาชิ้นเนื้อไปตรวจ หมอบอกไม่เคยเจอเคสแบบนี้
อายุน้อย แต่ก้อนใหญ่มาก ตำแหน่งที่ก้อนอยู่ คือ ระหว่างมดลูกกับรังไข่
จะนัดคิวผ่าตัดให้เร็วที่สุด เนื่องจากก้อนใหญ่ และการผ่าตัดอาจจะต้องเอามดลูกหรือรังไข่ออก
ในกรณีที่มีก้อนเนื้อไปติดอยู่ จำเป็นต้องเอาเพื่อความปลอดภัยในการผ่าตัดและถ้าหากผลเป็นเนื้อร้าย
จะได้กำจัดก้อนเนื้อออกให้มากที่สุด เครียดหนักกว่าเดิมอีกคะ เพราะถ้าเอาออกเราจะไม่สามารถมีลูกได้อีก
อายุเพิ่ง 26 ยังไม่ทันมีลูก ก็จะหมดสิทธิมีแล้วหรอ
วันผ่าตัด
ก่อนผ่าตัดต้องแอดมิทก่อน 1 คืนเผื่อเตรียมลำใส้ คืนนั้นได้กินยาถ่าย
รสชาตนี่แบบโอ้โห้ T__T พอตอนเช้าได้กินอาหาร นี่คืออาหาร จ้าาาาาา เหมือนกินน้ำ 555.
เวลา 17.45 ถึงเวลาผ่าตัด ก่อนเข้าห้องพยาบาลจะถามข้อมูลเยอะแยะ
จำไม่ได้แล้ว เออเร่อแล้วตอนนั้น ทั้งตื่นเต้น ทั้งกลัว นอนน้ำตาไหล
ถามตัวเองว่าเรามาอยู่จุดนี้ได้ไง แอบคิดว่าไม่ต้องไม่ต้องตื่นมาอีกได้ไหม
กลัวไปหมด กลัวเจ็บ กลัวลำบาก กลัวเป็นภาระให้คนรอบข้าง กลัวที่สุดคือมะเร็ง
แต่สิ่งที่กำลังจะมาถึง คือ การบล็อกหลัง ฟังๆ คนอื่นมาบอกว่าเจ็บ
พอโดนจริงๆ สุดจะบรรยาย ความจริงคือไม่มีอะไรเลยฉีดยาปกติเข้าที่กระดูกสันหลัง 555. กลัวไปเอง
หลังผ่าตัด
ออกจากห้องผ่าตัดมาพักฟื้นที่ห้อง อาการหลังผ่าตัดคือ คันมาก เวียนหัว เจ็บคอ แผลไม่เจ็บนะ แต่แอบตกใจสายอะไรเยอะแยะ
อยู่ ร.พ. 3 วันหมอให้กลับบ้านได้ รอนัดฟังผลก้อนเนื้อ 2 อาทิตย์
วันนัดฟังผล
ตื่นเต้นมาก หมอบอกว่า..........มดลูกและรังไข่ยังอยู่ครบ ดีใจไปหนึ่ง
ส่วนผลก้อนเนื้อ..........
.เป็นเนื้องอกปกติไม่ใช่เนื้อร้าย ซึ่งนั้นหมายความว่าไม่ใช่มะเร็ง เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หมอยิ้มและดีใจกับเราด้วย เพราะก่อนหน้านี้ที่คุยที่เจอหมอเราน้ำตาซึมทุกครั้ง
เราโล่งแล้วคะ ได้ตรวจร่างกายทุกอย่าง ซึ่งได้ตรวจก่อนผ่าตัด
น้ำตาล เบาหวาน มะเร็งปากมดลูก ทุกอย่างดีหมด
การผ่าตัดครั้งนี้ เตือนใจ เตือนสติได้หลายอย่างเลยคะ
รักสุขภาพมากขึ้น ใส่ใจในอาหาการกินมากขึ้น
เตือนนะคะ ผู้หญิงเราหมั่นตรวจภายใน อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง
เจ็บป่วยใดๆ ก็ตามหาหมอเถอะคะ อย่าปล่อยแบบเราจนก้อนใหญ่
รู้เร็วรักษาได้คะ
อ้วน ? ลงพุง ? แชร์ประสบการณ์ ผ่าตัดเนื้องอกมดลูก, รังไข่
ยาวหน่อยนะคะ เลือกอ่านเป็นตอนๆ ได้
จุดเริ่มต้น
เริ่มด้วยการปวดท้องอย่างหนักจนทนไม่ไหว เลยไปหาหมอ รู้ตัวเองว่ากระเพาะแน่ๆ
เข้าฉุกเฉินเลย เพราะเป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว หมอมาตรวจถามอาการ ก็ได้นอนให้ยา
แต่ตอนที่หมอตรวจเสร็จแล้วกำลังเดินออกไป หมอพูดกับพยาบาลว่า "ท้องใหญ่มาก"
สักพัก พยาบาลมาบอกว่าเดี๊ยวไปตรวจภายในนะคะ !!!! อึ้งเลยคะ โรคกระเพาะ ตรวจภายในเพื่อ ???
กลัวสิ่คะเกิดมา 26 ปีไม่เคยตรวจเลย ได้ตรวจภายใน ได้ซาวด์หน้าท้อง หมอบอกเจอก้อนเนื้อนะคะ
ขนาด 10 ซม. เดี๊ยวจะนัดพบหมอนารีเวช *** อยากบอกคุณผู้หญิงนะคะ ตรวจภายในไม่เจ็บ ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ***
พบหมอครั้งที่ 1
ถึงวันพบหมอนารีเวช โดนตรวจภายในและซาวด์หน้าท้องอีกรอบ
หมอทำหน้าตกใจ บอกว่า "ก้อนใหญ่มากนะ ไม่ใช่ 10 ซม. นะ แต่เป็น 14 ซม."
เอ้าหนักกว่าเดิมอีก 555. หมอก็เช็คประวัติ เช็คอาการ เราปกติทุกอย่างคะ
มีแค่ปวดท้องบ่อยๆ แค่นั้น หมอบอกว่าบางรายไม่แสดงอาการ ต้องตรวจเท่านั้นถึงจะรู้
หมอได้นัดทำ CT SCAN หมอได้นัดทำ CT SCAN ในครั้งต่อไปในครั้งต่อไป
**หลงนึกว่าตัวเองอ้วนลงพุงมาตั้งนาน เพราะปกติแล้วคนกินเก่ง
ยังงงตัวเองอยู่ว่าทำไมส่วนอื่นไม่ใหญ่ ใหญ่แต่พุง ใหญ่เหมือนคนท้อง
ซึ่งโดนทักเยอะมากว่าท้องหรือเปล่า ใหญ่จนแฟนทักว่าท้องต้วเองใหญ่มากเลยนะ **
ทำ CT SCAN ตอนแรกไอ้เราก็นึกว่าชิวๆ คงเหมือเอ็กซเรย์ แต่ไม่เลยจ้า 555.
ขั้นตอนแรกๆ ก็ปกติดีอยู่หรอก ขั้นตอนต่อไปเริ่มไม่ปกติ จนท. ฉีดอะไรให้ไม่รู้
รู้สึกร้อนวูบวาบ ข้างใน หลังจากนั้นมีสวนก้นอีก โอ้ยยยยย หลังจากสวนซักพัก
ปวดอึมาก ถึงมากที่สุดก็ยังไม่เสร็จซักที อั้นแล้ว อั้นอีก พอเสร็จเท่านั้นแหละ
วิ่งเข้าห้องน้ำอย่างไว หมอใส้หมดพุง
พบหมอครั้งที่ 2
หลังจากทำ CT SCAN ผลออกเรียบร้อย ถึงวันพบหมอ
หมอบอกว่าผลไม่ดีเท่าไหร่ "หน้าตาคล้ายมะเร็ง" จะส่งต่อให้หมอเฉพาะทาง
น้ำตาซึมเลยคะ เครียด จิตตกเลย แอบร้องไห้คนเดียวทุกวัน
รู้ดีว่าถ้าเกิดเป็นขึ้นมาจริงๆ จะทรมาน และลำบากแค่ไหน
เพราะเราเห็นและรับรู้ ย่าเราเป็นมะเร็งทั้งปากมดลูกและเต้านม แถมปู่เป็นมะเร็งต่อมน้ำลายอีก
เราอยู่ทุกช่วงเวลาการรักษาของท่านทั้งสอง เป็นคนพาไปหาหมอเองทุกครั้ง จนกระทั้งย่าจากไป
ด้วยโรคนี้
พบหมอเฉพาะทาง
โดนอีกแล้วคะ โดนตรวจภายในและซาวด์หน้าท้องอีกแล้ว
แล้วก็มาคุยแนวทางกัน หมอบอกอย่าเพิ่งเครียดผล CT SCAN ไม่ชัดเจน 100%
ชัดเจนที่สุดคือต้องเอาชิ้นเนื้อไปตรวจ หมอบอกไม่เคยเจอเคสแบบนี้
อายุน้อย แต่ก้อนใหญ่มาก ตำแหน่งที่ก้อนอยู่ คือ ระหว่างมดลูกกับรังไข่
จะนัดคิวผ่าตัดให้เร็วที่สุด เนื่องจากก้อนใหญ่ และการผ่าตัดอาจจะต้องเอามดลูกหรือรังไข่ออก
ในกรณีที่มีก้อนเนื้อไปติดอยู่ จำเป็นต้องเอาเพื่อความปลอดภัยในการผ่าตัดและถ้าหากผลเป็นเนื้อร้าย
จะได้กำจัดก้อนเนื้อออกให้มากที่สุด เครียดหนักกว่าเดิมอีกคะ เพราะถ้าเอาออกเราจะไม่สามารถมีลูกได้อีก
อายุเพิ่ง 26 ยังไม่ทันมีลูก ก็จะหมดสิทธิมีแล้วหรอ
วันผ่าตัด
ก่อนผ่าตัดต้องแอดมิทก่อน 1 คืนเผื่อเตรียมลำใส้ คืนนั้นได้กินยาถ่าย
รสชาตนี่แบบโอ้โห้ T__T พอตอนเช้าได้กินอาหาร นี่คืออาหาร จ้าาาาาา เหมือนกินน้ำ 555.
เวลา 17.45 ถึงเวลาผ่าตัด ก่อนเข้าห้องพยาบาลจะถามข้อมูลเยอะแยะ
จำไม่ได้แล้ว เออเร่อแล้วตอนนั้น ทั้งตื่นเต้น ทั้งกลัว นอนน้ำตาไหล
ถามตัวเองว่าเรามาอยู่จุดนี้ได้ไง แอบคิดว่าไม่ต้องไม่ต้องตื่นมาอีกได้ไหม
กลัวไปหมด กลัวเจ็บ กลัวลำบาก กลัวเป็นภาระให้คนรอบข้าง กลัวที่สุดคือมะเร็ง
แต่สิ่งที่กำลังจะมาถึง คือ การบล็อกหลัง ฟังๆ คนอื่นมาบอกว่าเจ็บ
พอโดนจริงๆ สุดจะบรรยาย ความจริงคือไม่มีอะไรเลยฉีดยาปกติเข้าที่กระดูกสันหลัง 555. กลัวไปเอง
หลังผ่าตัด
ออกจากห้องผ่าตัดมาพักฟื้นที่ห้อง อาการหลังผ่าตัดคือ คันมาก เวียนหัว เจ็บคอ แผลไม่เจ็บนะ แต่แอบตกใจสายอะไรเยอะแยะ
อยู่ ร.พ. 3 วันหมอให้กลับบ้านได้ รอนัดฟังผลก้อนเนื้อ 2 อาทิตย์
วันนัดฟังผล
ตื่นเต้นมาก หมอบอกว่า..........มดลูกและรังไข่ยังอยู่ครบ ดีใจไปหนึ่ง
ส่วนผลก้อนเนื้อ...........เป็นเนื้องอกปกติไม่ใช่เนื้อร้าย ซึ่งนั้นหมายความว่าไม่ใช่มะเร็ง เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หมอยิ้มและดีใจกับเราด้วย เพราะก่อนหน้านี้ที่คุยที่เจอหมอเราน้ำตาซึมทุกครั้ง
เราโล่งแล้วคะ ได้ตรวจร่างกายทุกอย่าง ซึ่งได้ตรวจก่อนผ่าตัด
น้ำตาล เบาหวาน มะเร็งปากมดลูก ทุกอย่างดีหมด
การผ่าตัดครั้งนี้ เตือนใจ เตือนสติได้หลายอย่างเลยคะ
รักสุขภาพมากขึ้น ใส่ใจในอาหาการกินมากขึ้น
เตือนนะคะ ผู้หญิงเราหมั่นตรวจภายใน อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง
เจ็บป่วยใดๆ ก็ตามหาหมอเถอะคะ อย่าปล่อยแบบเราจนก้อนใหญ่
รู้เร็วรักษาได้คะ