คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
ผมผู้ชายผมก็มาตอบให้ว่า ผู้ชายสมัยนี้ไร้ความเป็นสุภาพบุรุษ ต่างจากรุ่นที่แล้วเยอะ
แล้วยังมีผู้ชายแบบที่ พยายามปลูกฝังความคิดที่ว่า เซ็กเป็นเรื่องธรรมชาติ คบกันก็ต้องเอากัน เป็นเรื่องปกติ
เสร็จแล้วมันก็ฟันแล้วทิ้ง จนผู้หญิงบางคนกร้านโลก ไปเลย กร้านโลกแล้วไง ไม่สนใจร่างกายไง ผลดีตกกับใคร ก็ตกกับผู้ชายพวกนั้นอีกนั่นแหล่ะ
อย่าโง่ให้เขาหลอกฟันเลย
แล้วยังมีผู้ชายแบบที่ พยายามปลูกฝังความคิดที่ว่า เซ็กเป็นเรื่องธรรมชาติ คบกันก็ต้องเอากัน เป็นเรื่องปกติ
เสร็จแล้วมันก็ฟันแล้วทิ้ง จนผู้หญิงบางคนกร้านโลก ไปเลย กร้านโลกแล้วไง ไม่สนใจร่างกายไง ผลดีตกกับใคร ก็ตกกับผู้ชายพวกนั้นอีกนั่นแหล่ะ
อย่าโง่ให้เขาหลอกฟันเลย
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 67
ก่อนอื่นบอกเลยนะ ผมเป็นเกย์ ไม่ได้มีผลประโยชน์อะไรกับความเชื่อเรื่อง Sex ของผู้หญิงในสังคมไทยอยู่แล้ว
แต่สิ่งที่ผมเชื่อ คือ Human Right อิสระ และสิทธิในร่างกายของเรา ความหลากหลายในความเชื่อ ความคิด ใครจะอยากมี Sex ในวัยเรียน หรือใครจะรอจนแต่งงานแล้วค่อยมี ผมมองว่าไม่ได้มีใครถูกหรือผิด มันแค่รูปแบบในการใช้ชีวิตเท่านั้นเอง
ผมไม่เคยตัดสินคนอื่น ที่ไม่ชิงสุกก่อนห่าม เป็นพวกหัวโบราณหรืออะไรเลย แต่ผมอ่านหลายๆ ความเห็นของพวกที่มีความเชื่อเรื่องนี้แล้วรู้สึกแย่แทนผู้หญิงไทยมากๆ เพราะพวกนี้จะมีความเชื่อว่า สิ่งที่ชั้นเชื่อคือถูก คือดี คนอื่นที่เชื่อไม่เหมือนกัน คือผิด คือไม่ดี คือโง่ น่าเสียใจแทนผู้หญิงไทยที่เราโดนตัดสินคุณค่าในตัวเรา เพียงเพราะเรามีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน ถูกตัดสินว่าโง่ โดนผู้ชายหลอก เพราะเรามี sex กับเขา ในเวลาที่คนอื่นมองว่ายังไม่ถึงวัย
ขอโทษนะครับ วัยที่ควรมีเพศสัมพันธ์ลองมองมันดูดีๆ เอากรอบที่เราโดนฝังหัวมาจากสังคมออกไปแล้ว ก็แค่สังคมมนุษย์สร้างกรอบกันไปเองป่าวครับ ตามธรรมชาติ ผู้หญิงมีประจำเดือนก็คือพร้อมจะมีเพศสัมพันธ์แล้ว ทำไมต้องไปห้ามให้มันผิดธรรมชาติล่ะครับ???
สิ่งที่เราควรทำคือ เลิกมองว่าผู้หญิงเป็นฝ่ายเสีย ชายเป็นฝ่ายได้ ได้แล้ว แล้วก็เลิกเก็บเรื่องเพศสัมพันธ์ไว้ในที่ลับให้เด็กๆ ยิ่งอยากรู้อยากเห็น ควรสอน ให้ความรู้เป็นจริง เป็นจัง ให้ได้รู้ถึงความเสี่ยงของเพศสัมพันธ์ การป้องกัน การมีเพศสัมพันธ์ที่ถูกต้อง ส่วนเด็กจะเชื่อยังไง จะเชื่อว่าจะมี sex ครั้งแรกหลังแต่งงาน จะมีครั้งแรกในวัยทำงาน หรืออยากจะมีในวัยเรียน ควรเป็นสิ่งที่เค้าตัดสินใจเอง แล้วสังคมไม่ควรต้องตัดสินเค้า ว่าอย่างไหนถูก หรือผิด เพราะมันไม่ได้มีถูก หรือผิด ไม่ได้มีดี หรือไม่ดี ชีงิตไม่ได้มีสูตรสำเร็จขนาดนั้น แต่เราแค่สอนว่า ถ้ามีในวัยเรียน แล้วไม่ป้องกันให้ดี แล้วพลาดมีลูก ผลคืออะไร ถ้าเรารอไปจนแต่งงาน แล้วค่อยมีครั้งแรกเลย อาจจะมีความเสี่ยงในชีวิตคู่ยังไงบ้างเท่านั้น
สรุปก็คือ ควรสอน แนะนำ ถึงผลและความเสี่ยงที่อาจจะตามมาในแต่ละทางเลือกชีวิตที่เค้าเลือกเอง แต่ไม่ควรตัดสิน ว่าความคิดตัวเองคือสิ่งที่ถูกต้องที่สุด ดีที่สุด แล้วไปชี้หน้าคนอื่นที่คิดไม่เหมือนตัวเองว่า แกผิด แกมันไม่ดี ไม่มีคุณค่าได้แล้ว
แต่สิ่งที่ผมเชื่อ คือ Human Right อิสระ และสิทธิในร่างกายของเรา ความหลากหลายในความเชื่อ ความคิด ใครจะอยากมี Sex ในวัยเรียน หรือใครจะรอจนแต่งงานแล้วค่อยมี ผมมองว่าไม่ได้มีใครถูกหรือผิด มันแค่รูปแบบในการใช้ชีวิตเท่านั้นเอง
ผมไม่เคยตัดสินคนอื่น ที่ไม่ชิงสุกก่อนห่าม เป็นพวกหัวโบราณหรืออะไรเลย แต่ผมอ่านหลายๆ ความเห็นของพวกที่มีความเชื่อเรื่องนี้แล้วรู้สึกแย่แทนผู้หญิงไทยมากๆ เพราะพวกนี้จะมีความเชื่อว่า สิ่งที่ชั้นเชื่อคือถูก คือดี คนอื่นที่เชื่อไม่เหมือนกัน คือผิด คือไม่ดี คือโง่ น่าเสียใจแทนผู้หญิงไทยที่เราโดนตัดสินคุณค่าในตัวเรา เพียงเพราะเรามีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน ถูกตัดสินว่าโง่ โดนผู้ชายหลอก เพราะเรามี sex กับเขา ในเวลาที่คนอื่นมองว่ายังไม่ถึงวัย
ขอโทษนะครับ วัยที่ควรมีเพศสัมพันธ์ลองมองมันดูดีๆ เอากรอบที่เราโดนฝังหัวมาจากสังคมออกไปแล้ว ก็แค่สังคมมนุษย์สร้างกรอบกันไปเองป่าวครับ ตามธรรมชาติ ผู้หญิงมีประจำเดือนก็คือพร้อมจะมีเพศสัมพันธ์แล้ว ทำไมต้องไปห้ามให้มันผิดธรรมชาติล่ะครับ???
สิ่งที่เราควรทำคือ เลิกมองว่าผู้หญิงเป็นฝ่ายเสีย ชายเป็นฝ่ายได้ ได้แล้ว แล้วก็เลิกเก็บเรื่องเพศสัมพันธ์ไว้ในที่ลับให้เด็กๆ ยิ่งอยากรู้อยากเห็น ควรสอน ให้ความรู้เป็นจริง เป็นจัง ให้ได้รู้ถึงความเสี่ยงของเพศสัมพันธ์ การป้องกัน การมีเพศสัมพันธ์ที่ถูกต้อง ส่วนเด็กจะเชื่อยังไง จะเชื่อว่าจะมี sex ครั้งแรกหลังแต่งงาน จะมีครั้งแรกในวัยทำงาน หรืออยากจะมีในวัยเรียน ควรเป็นสิ่งที่เค้าตัดสินใจเอง แล้วสังคมไม่ควรต้องตัดสินเค้า ว่าอย่างไหนถูก หรือผิด เพราะมันไม่ได้มีถูก หรือผิด ไม่ได้มีดี หรือไม่ดี ชีงิตไม่ได้มีสูตรสำเร็จขนาดนั้น แต่เราแค่สอนว่า ถ้ามีในวัยเรียน แล้วไม่ป้องกันให้ดี แล้วพลาดมีลูก ผลคืออะไร ถ้าเรารอไปจนแต่งงาน แล้วค่อยมีครั้งแรกเลย อาจจะมีความเสี่ยงในชีวิตคู่ยังไงบ้างเท่านั้น
สรุปก็คือ ควรสอน แนะนำ ถึงผลและความเสี่ยงที่อาจจะตามมาในแต่ละทางเลือกชีวิตที่เค้าเลือกเอง แต่ไม่ควรตัดสิน ว่าความคิดตัวเองคือสิ่งที่ถูกต้องที่สุด ดีที่สุด แล้วไปชี้หน้าคนอื่นที่คิดไม่เหมือนตัวเองว่า แกผิด แกมันไม่ดี ไม่มีคุณค่าได้แล้ว
แสดงความคิดเห็น
ขอฝากข้อคิด ถึงน้องผู้หญิง ในการเลือกแฟน รวมถึงเรื่องชิงสุกก่อนห่ามในวัยรุ่นวัยเรียน
1. เมื่อเริ่มคบแฟน ควรบอกให้พ่อแม่รู้ค่ะ อย่างน้อยก็ชวนไปบ้าน แนะนำให้ที่บ้านรู้จักในฐานะ "เพื่อน" ก่อน ก็ยังดีค่ะ
เพื่อให้ผู้ใหญ่ได้รับทราบ และช่วยคัดกรองให้ว่าผู้ชายคนนี้ ดีหรือไม่ดีอย่างไร เหมาะสมไหมถ้าหากจะคบเป็นแฟน
และอีกอย่าง เพื่อให้ทางผู้ชายรู้สึกเกรงใจผู้หลักผู้ใหญ่ฝ่ายเราด้วยค่ะ ว่าเราก็มีพ่อมีแม่นะ มีผู้ปกครองคอยดูแลเป็นหูเป็นตานะ
ผู้ชายเขาจะได้ไม่ผลีผลามทำอะไรบุ่มบ่ามย่ามใจโดยไม่ยั้งคิดนะคะ
2. แฟนหรือเพื่อนผู้ชาย ที่เขามาขอมีอะไรด้วย เขาต้องรอเราได้นะคะ ขอให้มีสติยับยั้งชั่งใจ และปฏิเสธเขาไปค่ะ
ผช บางคนชอบใช้คำพูดเกลี้ยกล่อม ตะล่อมว่า "เรารักเธอนะ เธอไม่รักเราเหรอ ถ้าเธอรักเรา เธอต้องพิสูจน์สิ ยอมเราเถอะนะ"
ในทางกลับกัน เราสามารถให้เขารอได้นะคะ "เพื่อพิสูจน์ ว่าเขารักเราจริงด้วยเช่นกัน"
ไม่ใช่ให้เขาใช้คำว่ารัก เพื่อมาหลอกล่อให้เราไปสนองความใคร่ให้เขา
3. เมื่ออยู่ด้วยกันสองต่อสอง ในที่ลับหูลับตาคน เขาไม่ควรฉวยโอกาสนะคะ
เช่น อยู่ในรถ หรืออยู่ในโรงหนัง แล้วฉวยโอกาสจับมือจับขาโอบเอวหอมแก้ม เพื่อหยั่งเชิงดูก่อนว่าเราจะโอเคหรือเปล่า จะโวยวายไหม
หรือว่าเราจะยอมปล่อยตัวปล่อยใจ ให้อารมณ์กระเจิงเตลิดไปตามความอยากความใคร่ของเขา
ในกรณีนี้ ควรจะห้าม หรือบอกให้เขาหยุดค่ะ แล้วบอกว่าเราไม่ชอบ ไม่โอเค ที่โดนล่วงเกินแบบนี้ รักเรา ควรให้เกียรติเราค่ะ
4. แต่ทีนี้ ถ้าหากว่าอะไรต่อมิอะไร เกินเลยไปกว่าที่จะยับยั้งชั่งใจได้แล้ว ขอให้มิสติค่ะ
ควรรู้จักป้องกันไว้ก่อนค่ะ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเด็กที่ท้องไม่พร้อมหรือตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร
เช่น การใช้ถุงยางอนามัย และการทานยาคุมกำเนิด
- อย่าไปเชื่อ อย่าไปฟัง และอย่ายอมนะคะ ถ้าผู้ชายจะไม่ใส่ถุงยาง แล้วบอกเราว่าจะระวัง "น่าาา ไม่ท้องหรอก" <--- อย่ายอมเด็ดขาดนะคะ !!
- ยาคุมกำเนิดแบบธรรมดานะคะ อย่าหวังพึ่งพายาคุมฉุกเฉิน เพราะยาคุมฉุกเฉินมีผลข้างเคียงและเป็นอันตรายต่อสุขภาพมากค่ะ
- อย่ามัวมานับวัน นับรอบเดือน แล้วฟีจเจอริ่งกันโดยไม่ป้องกัน จากนั้นก็มาลุ้นกันว่าจะท้อง-ไม่ท้อง มันเสี่ยงมากนะคะ
และผลที่จะตามมา ปัญหาที่จะตามมานั้น ไม่คุ้มกันเลยค่ะ เมื่อเทียบกับค่าซื้อถุงยางหรือการทานยาคุม
5. หากเกิดผิดพลาด เกิดท้องขึ้นมา โอกาสสูงมากที่ผู้ชายจะทิ้งและไม่รับผิดชอบค่ะ
และการทำแท้งเถื่อน ก็เสี่ยงอันตราย อาจติดเชื้อหรือตกเลือดถึงตายได้เลยนะคะ
ทำแท้ง กำจัดเด็กในท้อง แต่บาปที่ติดตัว จะยังฝังใจกับคนเป็นแม่ไปตลอดค่ะ
6. คำพูดทำนองว่า ยอมเราเถอะนะ เราจะรับผิดชอบเธอเอง เราจะดูแลเธอเอง เราจะรักกันตลอดไป เชื่อถืออะไรไม่ได้หรอกค่ะ
จากประสบการณ์ผ่านร้อนฝนหนาวมาหลายปีของ จขกท มีน้อยคู่น้อยคนมากๆค่ะ ที่จะคบกันยาวนานนับตั้งแต่วัยเรียน จนถึงวัยผู้ใหญ่
อนาคตเรายังอีกยาวไกลค่ะ ยังต้องพบเจอผู้คนอีกมากมาย ยังมีเวลาคัดกรองคนที่จะมาร่วมชีวิต ร่วมทุกข์สุขกับเราได้อีกนานค่ะ
อย่าคว้าใคร แค่เพราะว่าเหงา อย่าเอาตัวเราเข้าแลกกับคำว่ารัก เซ็กส์กับรักนั้นคนละเรื่องกันค่ะ และอนาคตข้างหน้าไม่มีอะไรแน่นอนค่ะ
รักตัวเอง ให้เกียรติตัวเอง และคนที่รักเราก็ควรให้เกียรติและเกรงใจเราด้วย สติปัญญาและเวลา จะช่วยเลือกคนที่ใช่ให้เราค่ะ
ไม่ใช่ว่า จขกท จะหัวโบราณนะคะ ยอมรับค่ะว่าสมัยนี้การที่วัยรุ่นคบเพื่อนต่างเพศเป็นเรื่องปกติค่ะ
แต่การจะคบหาแฟนหรือมีอะไรกัน ควรจะมีเมื่อเรามีความพร้อมค่ะ
เช่น วัยพร้อม ฐานะทางการเงินพร้อม และ ความสามารถในการรับผิดชอบเลี้ยงดูพร้อมค่ะ
และกระทู้นี้ก็ไม่ใช่แต่จะเข้าข้างผู้หญิงว่าเสียเปรียบ หรือโจมตีผู้ชายว่าจ้องจะฟันจ้องจะเอาเปรียบนะคะ
เพราะบางทีวัยรุ่นผู้หญิงเอง ที่ใจแตก อยากรู้ อยากลอง อยากมีประสบการณ์เรื่องอย่างว่านั้นก็มีค่ะ
เพียงแต่กระทู้นี้ จขกท อาศัยมุมมองที่เคยพบเจอมาบอกเล่าแนะนำให้ฟังเท่านั้นเองค่ะ
หากชาวพันทิปคนอื่นๆ มีความเห็นอย่างไร ก็เสนอความคิดเห็นมาได้นะคะ
(แก้ไขคำที่พิมพ์ผิดค่ะ)