สวัสดีครับ ห่างหายไปหลายเพลาวันนี้มีเรื่องเล่ามาฝากกันครับ ใครว่างๆ ห่างธุระปะปังเชิญแวะเวียนมาอ่านกันได้ครับ
ชื่นชอบฝากช่วยแชร์ด้วยนะครับ เผื่อเข้าตา Marvel Studios ^^' เกริ่นเช่นเคยโปรดใช้วิจารณญาณในการรับสาร
ขออนุญาตฝากเพจ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/Krittanont/
ขอบคุณครับ
______________________________
เป็นเรื่องปกติในยุคของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเช่นทุกวันนี้คน Gen Y-Z เรียกว่าไกลจากความเชื่อมากขึ้นเรื่อยๆ หรือให้ความสนใจ
เพียงแค่ความบันเทิง แต่กับคน GEN ก่อนหน้า เขาให้น้ำหนักกับเรื่องนี้มาก เรื่องเล่าท้องถิ่นมีแทบทุกภูมิภาค
ยิ่งไกลความเจริญ... เรื่องยิ่งมีน้ำหนัก เช่นเดียวกับเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ครับ
ย้อนกลับไปสัก 4-5 ปี ในยุคที่บริษัททั้งหลายแหล่กำลังหันมาทำ CSR (Corporate Social Responsibility)
เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อสาธารณะ เช่นเดียวกับบริษัท Pitnap (นามสมมุติ) ซึ่งจัดกิจกรรมพาพนักงานไปทำประโยชน์เพื่อสังคมอยู่เป็นประจำ
เช่น ปลูกป่า สร้างโรงเรียน หรือสร้างห้องน้ำตามวัดวาห่างไกลความเจริญ ทุกครั้งไม่เคยเกิดเรื่องผิดปกติ
ยกเว้นครั้งเดียวที่ไปทำฝายที่จังหวัดหนึ่ง (ภาคกลางตอนบน)
ทุกครั้งจะไปเช้ากลับค่ำ แต่กิจกรรมทำฝายหนล่าสุดต้องใช้เวลามากกว่าที่คิด จึงมีการปรับแผนเล็กน้อยโดยออกบ่ายวันศุกร์กลับเย็นวันอาทิตย์
ซึ่งแน่นอนล่ะไม่ใช่ทุกคนที่แฮปปี้... หลังเคลียร์งานช่วงเช้าเสร็จพนักงานก็มารวมตัวกันหน้าบริษัทโดยมี พี่อ่ำ เป็นคนคอยประสานงานทุกอย่าง
จัดแผนการเดินทาง เช็คชื่อ หาที่พัก ฯลฯ วันนั้นนับหัวพนักงานได้เกือบ 30 เต็มรถบัสพอดี พี่อ่ำแจ้งกำหนดการว่าครั้งนี้จะเดินทาง
ไปทำฝายที่อำเภอ XXX เป็นเวลา 2 วัน 2 คืน... จั๊บ หัวโจกฟากพนักงานชายออกอาการเซ็งทันทีเพราะเท่ากับวีคเอนท์นี้อดพัก
รถออกจากกรุงเทพมุ่งสู่จังหวัด XXX ใช้เวลาเดินทางราว 5 ชั่วโมงกว่าจะไปถึงจุดหมายก็ค่ำพอดี อธิบายสถานที่...
บริเวณนั้นมีโรงเรียนประจำหมู่บ้านซึ่งพี่อ่ำประสานล่วงหน้าเพื่อขอค้างคืน... มีบ้านคนอยู่หรอมแหรม ถัดจากโรงเรียนเป็นป่าโปร่ง
มีศาลาเก่า ท่าน้ำ (ท่าเรือ) ที่ยังใช้งานได้ และสุดท้ายคือแม่น้ำ XXX (ภาพประกอบด้านล่างครับ)
เมื่อไปถึง ตากริ่ง ชาวบ้านในพื้นที่เป็นคนดูแลความสะดวก แกเดินกอดขวดเหล้ากรึ่มได้ที่ไปเปิดห้องหับที่โรงเรียนให้เข้าพัก
โดยแยกพักห้องละ 5-7 คน ดูปลอดภัยดีมีไฟฟ้าใช้ จากนั้นพาไปดูห้องน้ำ + สถานที่อาบน้ำ ไอ้นี่ล่ะไม่โอเค
เพราะเป็นน้ำที่รองใส่อ่างปูนเปลือยยาวๆ หมักหมมไปด้วยใบไม้ เศษตะกอน ขุ่นจนมองไม่เห็นก้น ไอ้กลุ่มผู้ชายน่ะไม่เท่าไหร่
ให้ซักแห้ง 2 วันมันก็เฉยๆ แต่พนักงานหญิงไม่ถูกใจกับสิ่งนี้ จึงถามตากริ่งว่ามีที่อาบน้ำอื่นมั้ย ตากริ่งบอกว่ามี
ก็ไปขออาบตามบ้านชาวบ้านหรือไม่ก็... แกเงียบไป
หัวโจกฝ่ายหญิงชื่อพี่แตน ก็บ่นๆ กับเพื่อนๆ ประมาณว่าให้กรูอาบน้ำสียังกับจับเลี้ยงแบบนี้แม่มก็ไม่ไหวนะ เค้นจนตากริ่งบอกว่ามีที่อาบน้ำอีกจุดหนึ่ง
เดินเลยป่าไปหน่อยจะเจอโค้งน้ำ ตลิ่งต่ำพอเดินลงไปได้สบายๆ แต่ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้อาบที่นี่เพราะมืดแล้ว
พี่แตนไม่สนถามว่าแม่น้ำอะไร คนตอบไม่ตอบชื่อแม่น้ำ เอนไปเอนมาตามประสาคนเฉียดเมาแล้วบอกว่า
“ชาวบ้านเรียกคุ้งตาเวก”
เรียงร้อยเรื่องเล่า ตอน เหตุประหลาดที่คุ้งตาเวก
ชื่นชอบฝากช่วยแชร์ด้วยนะครับ เผื่อเข้าตา Marvel Studios ^^' เกริ่นเช่นเคยโปรดใช้วิจารณญาณในการรับสาร
ขออนุญาตฝากเพจ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ขอบคุณครับ
______________________________
เป็นเรื่องปกติในยุคของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเช่นทุกวันนี้คน Gen Y-Z เรียกว่าไกลจากความเชื่อมากขึ้นเรื่อยๆ หรือให้ความสนใจ
เพียงแค่ความบันเทิง แต่กับคน GEN ก่อนหน้า เขาให้น้ำหนักกับเรื่องนี้มาก เรื่องเล่าท้องถิ่นมีแทบทุกภูมิภาค
ยิ่งไกลความเจริญ... เรื่องยิ่งมีน้ำหนัก เช่นเดียวกับเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ครับ
ย้อนกลับไปสัก 4-5 ปี ในยุคที่บริษัททั้งหลายแหล่กำลังหันมาทำ CSR (Corporate Social Responsibility)
เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อสาธารณะ เช่นเดียวกับบริษัท Pitnap (นามสมมุติ) ซึ่งจัดกิจกรรมพาพนักงานไปทำประโยชน์เพื่อสังคมอยู่เป็นประจำ
เช่น ปลูกป่า สร้างโรงเรียน หรือสร้างห้องน้ำตามวัดวาห่างไกลความเจริญ ทุกครั้งไม่เคยเกิดเรื่องผิดปกติ
ยกเว้นครั้งเดียวที่ไปทำฝายที่จังหวัดหนึ่ง (ภาคกลางตอนบน)
ทุกครั้งจะไปเช้ากลับค่ำ แต่กิจกรรมทำฝายหนล่าสุดต้องใช้เวลามากกว่าที่คิด จึงมีการปรับแผนเล็กน้อยโดยออกบ่ายวันศุกร์กลับเย็นวันอาทิตย์
ซึ่งแน่นอนล่ะไม่ใช่ทุกคนที่แฮปปี้... หลังเคลียร์งานช่วงเช้าเสร็จพนักงานก็มารวมตัวกันหน้าบริษัทโดยมี พี่อ่ำ เป็นคนคอยประสานงานทุกอย่าง
จัดแผนการเดินทาง เช็คชื่อ หาที่พัก ฯลฯ วันนั้นนับหัวพนักงานได้เกือบ 30 เต็มรถบัสพอดี พี่อ่ำแจ้งกำหนดการว่าครั้งนี้จะเดินทาง
ไปทำฝายที่อำเภอ XXX เป็นเวลา 2 วัน 2 คืน... จั๊บ หัวโจกฟากพนักงานชายออกอาการเซ็งทันทีเพราะเท่ากับวีคเอนท์นี้อดพัก
รถออกจากกรุงเทพมุ่งสู่จังหวัด XXX ใช้เวลาเดินทางราว 5 ชั่วโมงกว่าจะไปถึงจุดหมายก็ค่ำพอดี อธิบายสถานที่...
บริเวณนั้นมีโรงเรียนประจำหมู่บ้านซึ่งพี่อ่ำประสานล่วงหน้าเพื่อขอค้างคืน... มีบ้านคนอยู่หรอมแหรม ถัดจากโรงเรียนเป็นป่าโปร่ง
มีศาลาเก่า ท่าน้ำ (ท่าเรือ) ที่ยังใช้งานได้ และสุดท้ายคือแม่น้ำ XXX (ภาพประกอบด้านล่างครับ)
เมื่อไปถึง ตากริ่ง ชาวบ้านในพื้นที่เป็นคนดูแลความสะดวก แกเดินกอดขวดเหล้ากรึ่มได้ที่ไปเปิดห้องหับที่โรงเรียนให้เข้าพัก
โดยแยกพักห้องละ 5-7 คน ดูปลอดภัยดีมีไฟฟ้าใช้ จากนั้นพาไปดูห้องน้ำ + สถานที่อาบน้ำ ไอ้นี่ล่ะไม่โอเค
เพราะเป็นน้ำที่รองใส่อ่างปูนเปลือยยาวๆ หมักหมมไปด้วยใบไม้ เศษตะกอน ขุ่นจนมองไม่เห็นก้น ไอ้กลุ่มผู้ชายน่ะไม่เท่าไหร่
ให้ซักแห้ง 2 วันมันก็เฉยๆ แต่พนักงานหญิงไม่ถูกใจกับสิ่งนี้ จึงถามตากริ่งว่ามีที่อาบน้ำอื่นมั้ย ตากริ่งบอกว่ามี
ก็ไปขออาบตามบ้านชาวบ้านหรือไม่ก็... แกเงียบไป
หัวโจกฝ่ายหญิงชื่อพี่แตน ก็บ่นๆ กับเพื่อนๆ ประมาณว่าให้กรูอาบน้ำสียังกับจับเลี้ยงแบบนี้แม่มก็ไม่ไหวนะ เค้นจนตากริ่งบอกว่ามีที่อาบน้ำอีกจุดหนึ่ง
เดินเลยป่าไปหน่อยจะเจอโค้งน้ำ ตลิ่งต่ำพอเดินลงไปได้สบายๆ แต่ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้อาบที่นี่เพราะมืดแล้ว
พี่แตนไม่สนถามว่าแม่น้ำอะไร คนตอบไม่ตอบชื่อแม่น้ำ เอนไปเอนมาตามประสาคนเฉียดเมาแล้วบอกว่า
“ชาวบ้านเรียกคุ้งตาเวก”