ทริปชิวๆ ที่ไม่ชิวอย่างที่คิด Mt.คินาบารู 2019

จากการแชร์รีวิวเล่นๆ สู่การขึ้นเขาที่ขึ้นชื่อว่าโหด.....”Mt.Kinabalu” แห่งรัฐซาบาห์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะบอร์เนียวบนทะเลจีนใต้ (เกาะนี้ยังมีบูรไน และอินโดนีเซียอาศัยอยู่บนเกาะเดียวกัน)

Mt.Kinabalu” มีความสูง 4,095.2 เมตร ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เมื่อปี 2543 ทำให้แต่ละปีจะมีคนสนใจขึ้นมาชมความสวยงามทางธรรมชาติเป็นจำนวนมาก แต่ก็มากันไม่ใช่ง่ายนะคะ เพราะอุทยานจำกัดจำนวนเพียง 135-140 คนต่อวันเท่านั้น ต้องจองล่วงหน้าหลายเดือนเชียวค่ะ

ขอแนะนำว่าจองวันกับอุทยานให้เรียบร้อยก่อนถึงจองตั๋วเครื่องบินได้ เพราะวันที่เลือกกันในตอนแรกมีสิทธิ์เต็ม และต้องเลือกวันใหม่กับอุทยานค่ะ

อุทยานจะมีแพคเกจให้เลือกหลายแพคเกจ แต่ขอกล่าวถึงคร่าวๆ ประมาณนี้นะคะ

1) 2D1N >> ดูตามตารางจะไม่งงค่ะ
2) 3D2N >> ดูตามตารางเช่นกันนะคะ
3) Via Ferrata >> แพคเกจนี้จะมี 2D1N และ 3D2N ให้เลือกเช่นกัน จะเหมาะสำหรับคนชอบปีนหน้าผา รักความท้าทาย ซึ่งเป็นกิจกรรมต่อเนื่องหลังจากขึ้นยอดคินาบาลูเรียบร้อยแล้ว ใครที่สนใจร่างกายและใจต้องพร้อมมากๆ เพราะในวันแรกต้องถึง Pendant Hut (ที่พักบนเขาสำหรับแพคเกจ Via Ferrata) ก่อน 16.00 น. เพื่อฝึกการใช้อุปกรณ์ปีนหน้าผาและดูเส้นทาง พร้อมเซ็นเอกสารต่างๆ หากขึ้นไปไม่ทัน จะไม่ได้เข้าร่วมการปีนผา และวันที่สองต้องมาจุดเริ่มต้นของการปีนผาแถวๆ กม. 7.5 ใกล้ๆ South Peak ที่เป็นยอดเขาแหลม ในเวลา 7.00 น. หากมาไม่ทันก็อดปีนอีกเช่นกัน เพราะการปีนหน้าผาจะใช้เวลานาน แต่ก็ไม่ควรเกิน 6 ชั่วโมง เนื่องจากจะหิวและเพลียมากๆ อีกอย่างเมื่อปีนหน้าผาเรียบร้อย ต้องเดินลงมาที่อุทยานอีก 6 กม. เส้นทางของ Via Ferrata จะมี 2 เส้นทาง คือ
     -  Walk The Torq เป็นเส้นทางสั้นๆ ไต่ขึ้น ไต่ลง เป็นวงกลม ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงบนหน้าผา
     -  Low’s Peak Circuit เป็นเส้นทางเต็ม วิวจะสวยมากๆ แต่ถ้าฝนตกก็โหดมากๆ 555 และได้ไต่ควบเส้น Walk The Torq ซึ่งควรใช้เวลาไม่เกิน 6  
ชั่วโมงบนหน้าผา

ราคาแพคเกจตามหน้าเวปอุทยานสำหรับ 7 คนขึ้นไป ณ วันที่ 27.05.2019 จะอยู่ที่
-  เดินอย่างเดียวเอาให้รอด 2D1N ราคา 1,990 RM
-  เดินอย่างเดียวเอาให้รอด 3D2N ราคา 2,280 RM แต่ถ้าต้องการที่พักส่วนตัวบนเขา ราคาจะอยู่ที่ 2,690 RM
-  Via Ferrata 2D1N (Walk The Torq) ราคา 2,130 RM
-  Via Ferrata 3D2N (Walk The Torq) ราคา 2,370 RM
-  Via Ferrata 2D1N (The Low’s Peak Circuit) ราคา 2,410 RM
-  Via Ferrata 3D2N (The Low’s Peak Circuit) ราคา 2,650 RM

หากไปน้อยกว่า 7 คน ราคาจะสูงกว่านี้ และราคาจะสูงขึ้นทุกๆ ปี ใครจะไปรีบๆ จองเลยนะคะ โดยต้องจองผ่านเว็บไซต์ของอุทยานนี้ค่ะ http://www.mountkinabalu.com

ขอย้ำนะคะยิ่งไปหลายคนราคายิ่งถูกค่ะ

สำหรับราคาในแพคเกจนี้ จะไม่รวมค่าฝากกระเป๋าและค่าลูกหาบนะคะ 
ค่าฝากกระเป๋า >> ประมาณ 10 ริงกิตประมาณ 80 บาทไทยค่ะ
ค่าแบกของ >> ขึ้น – ลง กก.ละ 13 – 15 ริงกิต / กก. ค่ะ
 
เมื่อจองวันกับอุทยานเรียบร้อยแล้ว ทางอุทยานจะส่งข้อมูลของเราให้เอเจนซี่เป็นผู้ดูแลและประสานงานต่างๆ ต่อ จากนั้นก็เริ่มหาตั๋วเครื่องบินราคาถูกกันค่ะ ซึ่งกลุ่มเราเลือกบินตรงจากดอนเมืองถึงโคตาคินาบาลูเลยค่ะ จะได้ไม่เสียเวลาในการต่อเครื่อง แต่ไฟล์บินตรงจะมีแค่สัปดาห์ละ 3 วัน คือ อังคาร
พฤหัสบดี เสาร์ และบินวันละ 2 เที่ยวบิน คือ จากดอนเมือง เวลา 9.30 น. ถึงโคตาคินาบาลู 13.35 น. (4 ช.ม.) และจากโคตาคินาบาลู เวลา 15.00 น. ถึงดอนเมือง 17.05 น. (2 ช.ม.)...แอบงง ทำไมเวลาเดินทางกลับสั้นจัง 55555

สรุปแล้ว กลุ่มเรามี 13 คน ได้บริษัท Amazing Borneo เป็นผู้ดูแล ซึ่งติดต่อจองทริปตั้งแต่ 12 พ.ย. 61 เลือกแพคเกจ 3D2N ราคาในช่วงนั้นอยู่ที่ 2,180 RM ก็ราวๆ 17,466 บาท ได้วันเดินทางตามแพคเกจเป็นวันที่ 11-13 พ.ค. 62 และเลือกเดินทางกลับไทยในวันที่ 14 พ.ค. 62 ได้ราคาตั๋วเครื่องบินไปกลับเที่ยวละ 1,080 บาท ไม่รวมภาษีเครื่องบิน

ในส่วนของการชำระเงิน Amazing Bomeo จะส่ง Invoice มาทางเมล์ เมื่อตรวจสอบความถูกต้องแล้ว ให้นำ Invoice ไปชำระเงิน ซึ่งแบ่งชำระเป็น 2 งวด โดยชำระมัดจำแรกก่อน 50% ภายใน 3 วันหลังจากได้รับ Invoice และชำระส่วนที่เหลือก่อนวันเดินทางประมาณ 15 วัน เราเลือกชำระผ่านธนาคารกสิกรไทย มีค่าธรรมเนียม 1,300 บาท (ตกคนละ 100 บาทพอดี)

ก่อนวันเดินทางประมาณ 2 อาทิตย์ Amazing Bomeo จะเมล์แจ้งให้เรากรอกรายละเอียดของผู้เดินทางทุกคน ไฟล์บิน และที่พักคืนสุดท้าย แต่ขอบอกว่าครั้งนี้พลาดไม่ได้รับแจ้งว่ามีเมล์เข้ามา (เมล์ไหลไป Junk Mail) จนกระทั้งใกล้วันเดินทางเค้าโทรเข้ามาเพื่อ Confirm ว่าเรายังจะเดินทางอยู่ไหม 5555 เกือบจะอดไปแล้ว

อ้อ! แนะนำว่าโหลด WhatsApp ไว้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ก็ดีนะคะ จะได้ไม่พลาดการติดต่อ อิอิ

เดิมทีเส้นเทรลขึ้น Mt.Kinabalu มี 2 เส้นทาง คือ
Timpohon Gate เส้นทางนี้เป็นเส้นทางหลักในปัจจุบันที่ยังเปิดให้ขึ้นลงอยู่ มีระยะทาง 6 กม. ถึง Laban Rata
Mesilau Gate เส้นทางนี้มีระยะทาง 8 กม. ถึง Laban Rata มีเดินขึ้นเดินลงโหดกว่า Timpohon เยอะ ระยะ 2-3 กม.แรกทางจะไม่สูงชันมากนัก แต่เมื่อผ่านแม่น้ำ Mesilau จะเป็นเส้นทางที่สูงชัน จนกระทั้งเส้นทางไปบรรจบกับเส้น Timpohon (ใน กม.ที่ 4 ของ Timpohon Gate แต่เป็น กม.ที่ 6 ของ Mesilau Gate) ส่วนบรรยากาศจะสวยกว่า มีต้นไม้ใบหญ้าแปลกๆ นกแปลกๆ ให้ดูมากมาย แต่น่าเสียดายเส้นทางนี้ปิดแล้ว และไม่มีวี่แววว่าจะเปิดอีกหรือไม่ แต่หากใครอยากชมเส้นทางนี้ แนะนำให้เดินชมผ่าน Google Earth นะคะ เราไปเดินส่องมาเรียบร้อย เห็นแล้วอยากไปเดินเส้นนี้เลยค่ะ

การเดินขึ้น Mt.Kinabalu แบ่ง 2 ช่วง คือ
วันแรก >> เดินชิวๆ Timpohon Gate ถึง Laban Rata ระยะทาง 6 กม. จะเป็นทางชันสลับกับทางเรียบ โดยส่วนใหญ่จะเป็นมีบันไดกว้างๆ เป็นขั้นๆ และเป็นป่าร่มรื่นสองข้างทาง มีกล้วยไม้ ดอกไม้สวยๆ โดยเฉพาะบอนไซยักษ์ สวยงามระรานตา
วันสอง >> Laban Rata สู่ยอด Low’s Peak Summit ระยะทาง 2.5 กม. จะเป็นภูเขาหินชันจะมีบันไดเป็นบางช่วง และบางช่วงมีเชือกให้จับ 

ทั้งนี้ นอกจากใจพร้อม กายพร้อมแล้วก็มี อุปกรณ์จำเป็นที่ต้องเตรียมไป ดังนี้นะคะ
-  เป้เดินทาง (ควรเตรียม Rain Cover แบบกันน้ำติดไปด้วยค่ะ)
-  เสื้อกันหนาว (สำหรับใส่ขึ้น Summit)
-  Heattech (สำหรับในนอนและเดินขึ้น Summit)
-  ถุงมือ (สำหรับกันหนาว และไตร่เชือก)
-  เสื้อกันฝน (ฝนมักตกในช่วงบ่าย ควรเตรียมไปนะคะ)
-  ไฟฉายคาดหัว (ต้องคาดหัวเท่านั้นนะคะ)
-  Trekking Poles (สำคัญมากช่วยถนอมเข่าได้ดีเลยค่ะ)
-  รองเท้าเดินป่า
-  หมวก แว่นตาดำ
-  ลูกอม (มะขามแก้ว)
-  ขวดน้ำเปล่า (ซื้อขวดใหญ่ไว้เลยก็ดีค่ะ)
-  หัวปลั๊กแปลงไฟ
-  ยาแก้ปวด แก้ท้องอืด (บางคนขึ้นที่สูงจะมีอาการ)

เกริ่นสั้นๆ มายาวแล้ว...มาเริ่มเดินทางกันเลยดีกว่าจ้า
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่