BEYOND MEAT หุ้น 5 เท่าในหนึ่งเดือน - Billionaire VI

หุ้นตัวนี้เพิ่งเข้าตลาด Nasdaq เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2019 ด้วยราคาไอพีโอ $25 ต่อหุ้น

วันนี้หุ้นได้เพิ่มสูงขึ้นเป็น $138.65 ต่อหุ้น ภายในระยะเวลาหนึ่งเดือนหลังจากไอพีโอ

เรามาทำความรู้จักหุ้นร้อนแรงแห่งปีกันว่าทำไมนักลงทุนถึงคาดหวังกับหุ้นตัวนี้ไว้สูงมาก

BEYOND MEAT (BYND) ได้ก่อตั้งในปี 2009 โดยนาย Ethan Brown ซึ่งเคยทำงานในสายพลังงานทดแทนมาก่อน

ต่อมาได้มีความสนใจที่จะสร้างธุรกิจอาหารจากพืชที่ทดแทนเนื้อสัตว์ เพราะมองว่าดีต่อสุขภาพของผู้บริโภค และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

เชื่อหรือไม่ว่าการผลิตเนื้อวัว 1 ปอนด์ต้องใช้น้ำมากถึง 308 แกลลอน (ข้อมูลจาก USDA)

บริษัทมีธุรกิจผลิตอาหารที่คล้ายเนื้อวัว เนื้อไก่ และไส้กรอกจากพืชและผัก เช่น สินค้าชื่อ Beyond Burger เป็นเนื้อเบอร์เกอร์ผลิตหลักๆจากโปรตีนสกัดจากถั่วลันเตา (Pea Protein Isolate)

สามารถหาซื้อได้ตามห้างและร้านขายของชำในอเมริกา รวมทั้งร้านอย่าง A&W และ TGI Fridays ก็ได้นำสินค้ามาทำเป็นเบอร์เกอร์ในร้าน ผมลองค้นหารีวิวพบว่า หน้าตาและรสชาติใกล้เคียงเนื้อวัวมาก

แล้ว BYND มีโอกาสเติบโตมากน้อยแค่ไหน? คู่แข่งคือใคร?

ตลาดเนื้อสัตว์ในทั้งโลกมีมูลค่า $1.4 ล้านล้าน ในอเมริกาก็ใหญ่ถึง $2.7 แสนล้าน บริษัทคาดการณ์ว่าตลาดเนื้อจากพืช (Plant-based meat) จะมีมูลค่าสูงถึง $6.5 พันล้านในปี 2023

คู่แข่งที่สำคัญได้แก่ Impossible Foods, Tyson Foods และ Nestle ที่กำลังพัฒนาสินค้าออกมา

บริษัทมีข้อแตกต่างและจุดแข็งดังนี้

1. เป็นเจ้าแรกๆที่ทำธุรกิจแบบนี้เลยเป็น First Mover ในตลาดจึงสามารถเติบโตรายได้จาก $8.8 ล้านในปี 2015 มาที่ $32.6 ล้าน ในปี 2017 คิดเป็นอัตราเติบโตทบต้นถึง 92% ต่อปี

2.มีทีมวิจัยกว่า 40 คนมาจาก นักวิทยาศาสตร์ วิศวกร ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร และพ่อครัว คุณภาพของสินค้ายอดเยี่ยม รสชาติเบอร์เกอร์ที่มาจากพืชใกล้เคียงกับเนื้อจริงมาก บริษัทให้ข้อมูลว่าตอนมีสินค้าที่อยู่ในการวิจัยที่กำลังทยอยออกมาอยู่อีกหลายตัว

อย่างไรก็ตามแม้ว่ายอดขายจะเติบโตปีละ 100% แต่ปัจจุบันบริษัทก็ยังขาดทุนอยู่

ในไตรมาสล่าสุดบริษัทสามารถทำรายได้สูงถึง $40.2 ล้าน ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 215% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว แต่บริษัทยังขาดทุนเพิ่มมากขึ้นจาก $5.7 ล้านเป็น $6.6 ล้าน เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการวิจัยและการลงทุนสร้างศูนย์วิจัยแห่งใหม่

บริษัทตั้งเป้าว่าจะทำรายได้ถึง $210 ล้านในปี 2019 พร้อมทั้งเริ่มมีกำไรก่อน ดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) เป็นบวกในปีนี้

โดยสรุปบริษัทยังคงมีการเติบโตของรายได้ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในทุกๆปี เนื่องจากเป็นสินค้าที่เป็นเทรนด์รักษาสุขภาพ และเป็นบริษัทแรกๆที่ทำตลาดนี้ นอกจากนี้บริษัทยังมีโอกาสขยายไปตลาดยุโรปและเอเชียมากขึ้น

ในแง่ของการแข่งขัน ผมมองว่าสุดท้ายแล้วคู่แข่งคงทำได้เหมือนกัน ต่างกันแค่รสชาติเท่านั้น

ยิ่งคู่แข่งรายใหญ่เช่น Nestle หรือถ้าร้านอย่าง Mcdonald ลงมาทำเองด้วย การแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดจะยิ่งดุเดือดมาก

อย่างไรก็ตามราคาหุ้นตอนนี้สูงถึง $138.6 ต่อหุ้นและมีมาร์เก็ตแคป $8,000 ล้าน แต่ยังไม่มีกำไร

หุ้นแนวนี้วีไอหลีกเลี่ยงเพราะหาราคาเหมาะสมไม่ได้ คงต้องรอให้บริษัททำกำไรก่อนค่อยมาพิจารณาลงทุน

แม้ว่าอาจจะได้ผลตอบแทนลงทุนน้อยกว่าตอนนี้ แต่ก็มีความปลอดภัยมากกว่าครับ #หุ้นอเมริกา #BeyondMeat #Nasdaq
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่