ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี แต่หลายเดือนที่ผ่านมานี้มีเรื่องให้คิด ให้เครียดมากมาย
ไม่ใช่เรื่องเงินหรือเรื่องหนี้สิน
แต่กลับเป็นเรื่องชีวิต..ที่ตอนนี้เราเริ่มเบื่อการที่จะใช้ชีวิตต่อ
ไม่ใช่แค่เราคนเดียวที่คิดอยากจะทำ แฟนของเราเองก็คิดเช่นเดียวกันและพร้อมที่จะจากโลกนี้ไปพร้อมๆกัน
เราสองคนไม่คิดมีลูกเลย เพราะกลัวเลี้ยงเขาไม่ไหวในสภาพสังคมตอนนี้
กลัวเป็นพ่อแม่ที่ดีไม่ได้ เลยตัดปัญหาที่ว่าหากจากโลกนี้ไปแล้วเราไม่ต้องห่วงใคร
พ่อ..เราไม่ห่วงเพราะพ่อมีครอบครัวใหม่ที่ดูรักกันดี และท่าทางเข้ากันดีกับลูกติดกับแฟนใหม่ เราเองก็ไม่มีปัญหากับความสัมพันธ์ของพ่อและแฟนใหม่พ่อ
แม่..เป็นคนที่เราห่วงมากที่สุด ถึงตอนนี้แม่จะเลิกเหล้าแล้ว แต่ยังมีอาการที่คาดว่าจะเป็นตับแข็ง(รอผลตรวจ)เราจึงยังไม่ได้กำหนดวันที่จะจากไป
พี่ชาย..เราไม่ห่วงเพราะพี่มีครอบครัวที่ดี ถึงจะมีภาระหนี้สินที่มากมาย แต่คิดว่าพี่น่าจะไหว ถึงแม่เราจะน้อยใจที่พ่อรักพี่มากกว่าก็ตาม
หลานชาย..คนนี้เราก็ค่อนข้างห่วง เพราะพี่ชายอย่างที่บอกไปข้างต้น ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับหลานเลยตกมาที่พ่อและเราที่คอยออกค่าต่างๆให้ ส่วนแม่ไม่ได้ทำงาน
ฝ่ายบ้านแฟน..พ่อเสียแล้วส่วนแม่เขาก็ใช้ชีวิตปกติ และมีน้องที่เป็นผู้ชายถึง3คนที่ทำงานหมดแล้ว แฟนเราเลยหมดห่วง
เราเบื่อกับการใช้ชีวิต
กังวลว่าพรุ่งนี้จะเป็นยังไงต่อ ธุรกิจที่ทำพรุ่งนี้จะมีลูกค้าไหม ถึงจะทำมาเกือบ4ปีแล้วและมีลูกค้าทั้งประจำและขาจรมามากมายร แต่ก็กังวลทุกวัน
เราเบื่อการใช้ชีวิตที่ต้องตื่นมาทุกๆวันแล้วพบว่า ที่ที่เราอยู่ตอนนี้ไม่ใช่ที่ของเรา
เงินเก็บมี6หลัก แต่ก็ยังคิดเสมอว่าจะพออนาคตไหมเงินแค่นี้จะใช้ชีวิตอยู่ยังไงต่อ
เคยคิดนะว่าจะทิ้งทุกอย่างไป แล้วไปเริ่มต้นใหม่กับธุระกิจเล็กๆในต่างจังหวัด ชนบท ที่ที่ไม่มีบุคคลพลุกพล่าน
แต่ก็ยังห่วงแม่กับหลาน ไม่กล้าทิ้งสองคนนี้ให้อยู่เพียงลำพังที่บ้านหลังนี้
เป้าหมายสุดท้ายก่อนจะลาโลกคือ ไปเที่ยวพุกามกับแฟนแล้วจะตัดสินใจทำทุกอย่าง
แต่ลึกๆมีสองบุคคลที่เรายังห่วงและยังไม่อยากจากไปไหนนั่นคือ "แม่และหลานชาย"
เคยมีคนบอกว่าเราเป็นโรคซึมเศร้า แต่เราไม่รู้ว่าอาการของโรคเป็นยังไง เรายังยิ้มยังหัวเราะได้ปกติสุขทุกอย่าง
ที่เล่าไปจริงๆมันพูดไม่หมดหรอกค่ะ..แต่มันอธิบายออกมาเป็นตัวหนังสือไม่ได้
เลยอยากปรึกษาว่า..เราควรพบจิตแพทย์ไหม
หรือเราควรไปเริ่มต้นใหม่ที่ไหนซักที่
หรือเราควรจะทิ้งทุกอย่างทั้งหมดดีคะ
ในหัวมีแต่คำถาม..ว่า"จะอยู่หรือจะตายดี"มาหลายเดือนแล้ว แบบนี้ควรปรึกษาจิตแพทย์ดีมั้ยคะ
ไม่ใช่เรื่องเงินหรือเรื่องหนี้สิน
แต่กลับเป็นเรื่องชีวิต..ที่ตอนนี้เราเริ่มเบื่อการที่จะใช้ชีวิตต่อ
ไม่ใช่แค่เราคนเดียวที่คิดอยากจะทำ แฟนของเราเองก็คิดเช่นเดียวกันและพร้อมที่จะจากโลกนี้ไปพร้อมๆกัน
เราสองคนไม่คิดมีลูกเลย เพราะกลัวเลี้ยงเขาไม่ไหวในสภาพสังคมตอนนี้
กลัวเป็นพ่อแม่ที่ดีไม่ได้ เลยตัดปัญหาที่ว่าหากจากโลกนี้ไปแล้วเราไม่ต้องห่วงใคร
พ่อ..เราไม่ห่วงเพราะพ่อมีครอบครัวใหม่ที่ดูรักกันดี และท่าทางเข้ากันดีกับลูกติดกับแฟนใหม่ เราเองก็ไม่มีปัญหากับความสัมพันธ์ของพ่อและแฟนใหม่พ่อ
แม่..เป็นคนที่เราห่วงมากที่สุด ถึงตอนนี้แม่จะเลิกเหล้าแล้ว แต่ยังมีอาการที่คาดว่าจะเป็นตับแข็ง(รอผลตรวจ)เราจึงยังไม่ได้กำหนดวันที่จะจากไป
พี่ชาย..เราไม่ห่วงเพราะพี่มีครอบครัวที่ดี ถึงจะมีภาระหนี้สินที่มากมาย แต่คิดว่าพี่น่าจะไหว ถึงแม่เราจะน้อยใจที่พ่อรักพี่มากกว่าก็ตาม
หลานชาย..คนนี้เราก็ค่อนข้างห่วง เพราะพี่ชายอย่างที่บอกไปข้างต้น ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับหลานเลยตกมาที่พ่อและเราที่คอยออกค่าต่างๆให้ ส่วนแม่ไม่ได้ทำงาน
ฝ่ายบ้านแฟน..พ่อเสียแล้วส่วนแม่เขาก็ใช้ชีวิตปกติ และมีน้องที่เป็นผู้ชายถึง3คนที่ทำงานหมดแล้ว แฟนเราเลยหมดห่วง
เราเบื่อกับการใช้ชีวิต
กังวลว่าพรุ่งนี้จะเป็นยังไงต่อ ธุรกิจที่ทำพรุ่งนี้จะมีลูกค้าไหม ถึงจะทำมาเกือบ4ปีแล้วและมีลูกค้าทั้งประจำและขาจรมามากมายร แต่ก็กังวลทุกวัน
เราเบื่อการใช้ชีวิตที่ต้องตื่นมาทุกๆวันแล้วพบว่า ที่ที่เราอยู่ตอนนี้ไม่ใช่ที่ของเรา
เงินเก็บมี6หลัก แต่ก็ยังคิดเสมอว่าจะพออนาคตไหมเงินแค่นี้จะใช้ชีวิตอยู่ยังไงต่อ
เคยคิดนะว่าจะทิ้งทุกอย่างไป แล้วไปเริ่มต้นใหม่กับธุระกิจเล็กๆในต่างจังหวัด ชนบท ที่ที่ไม่มีบุคคลพลุกพล่าน
แต่ก็ยังห่วงแม่กับหลาน ไม่กล้าทิ้งสองคนนี้ให้อยู่เพียงลำพังที่บ้านหลังนี้
เป้าหมายสุดท้ายก่อนจะลาโลกคือ ไปเที่ยวพุกามกับแฟนแล้วจะตัดสินใจทำทุกอย่าง
แต่ลึกๆมีสองบุคคลที่เรายังห่วงและยังไม่อยากจากไปไหนนั่นคือ "แม่และหลานชาย"
เคยมีคนบอกว่าเราเป็นโรคซึมเศร้า แต่เราไม่รู้ว่าอาการของโรคเป็นยังไง เรายังยิ้มยังหัวเราะได้ปกติสุขทุกอย่าง
ที่เล่าไปจริงๆมันพูดไม่หมดหรอกค่ะ..แต่มันอธิบายออกมาเป็นตัวหนังสือไม่ได้
เลยอยากปรึกษาว่า..เราควรพบจิตแพทย์ไหม
หรือเราควรไปเริ่มต้นใหม่ที่ไหนซักที่
หรือเราควรจะทิ้งทุกอย่างทั้งหมดดีคะ