สวัสดีค่ะ นี่เป็นประเด็นครอบครัวที่เราอยากปรึกษาทุกๆคน ซึ่งเรากับพี่สาวต่อสู้และอดทนกับเรื่องนี้มานานมากแล้วแต่ก็ยังแก้ไม่ได้
เรื่องมีอยู่ว่า แม่เราเป็นแม่บ้าน พ่อเป็นข้าราชการ มีร้านอาหารของครอบครัวอยู่แม่ก็คอยทำอาหารและดูแลร้าน ซึ่งเปิดมาเป็นสิบๆปีแล้วค่ะ จนเมื่อสี่ห้าปีที่ผ่านมาแม่เพิ่งได้เริ่มเล่นโซเชียลมีเดียและเริ่มไปวัดบ่อย จนหลังๆเริ่มงมงายหนักมาก ไปวัดแทบทุกวัน ไปพวกอีเว้นท์ทริปกับทัวร์บุญบ่อยๆ เริ่มทิ้งร้าน เปิดๆปิดๆจนลูกค้าหาย แม้แต่ลูกค้าประจำยังเอือมเลยค่ะที่วันปิดไม่แน่นอน เรากับพี่สาวที่มาเรียนกรุงเทพมักจะกลับบ้านต่างจังหวัดเสาร์อาทิตย์กัน บางเดือนไม่ได้กลับเลย พอกลับทีแทนที่แม่จะอยู่บ้านกับพวกเราก็ออกไปอยู่วัดทั้งคืนบ้าง ไปทำบุญต่างจังหวัดไกลๆกับเพื่อน จนเรากับพี่สาวน้อยใจมาก แล้วเป็นประจำเลยค่ะ จนพี่สาวเราเริ่มกังวลว่าแม่เอาเงินไปทำบุญหมด เพราะออกทัวร์ทริปกับพวกสายบุญก็เสียเยอะนะคะ บางทัวร์ปาไป 5000 ก็มี
นึกว่าหมดไปกับศาสนาแล้วจะพอ แต่ไม่ค่ะ จนกระทั่งวันเกิดเราที่ผ่านมาแม่เราพาเพื่อนคนหนึ่งมาบ้านค่ะ แม่บอกจะให้เขาตรวจไขมันในร่างกายให้ว่าเป็นโรคอ้วนป่าว เราก็โอเค ชั่งน้ำหนักวัดนู่นนี่ตามปกติ สักพักเขาก็เริ่มพูดเชิญชวนเราค่ะ ก็คือขายตรงนั่นแหละ ของ Am... ด้วยความที่เขาเป็นเพื่อนแม่เราเลยยอมทนนั่งฟัง แต่เรารู้ทันพวกขายตรงค่ะเราเลยไม่โดนหลอก วันนั้นเราโกรธแม่มากที่วันเกิดเราแต่พาเพื่อนมาขายของให้เนี่ยนะ แล้วก็เพิ่งได้รู้ด้วยว่าแม่เป็นสมาชิกขายตรงกับพวก Am... ไปแล้ว
เรากับพี่สาวก็รีบเตือนเลยค่ะ ว่ามันหลอกขายนะ แม่ก็ไม่เชื่อค่ะ เชื่อเพื่อนมากกว่าลูก พูดอะไรไปเถียงหมด เรากับพี่ก็โอเค จะขายก็ขายไป ขออย่างเดียวอย่างมาขายกับคนในครอบครัวหรือญาติ เพราะเขาจะพากันเกลียดแล้วหนีหาย จนกระทั่งวันนี้พี่สาวเราโทรมาบอกเราว่าแม่ไปขายกับย่าเราแล้วก็เพื่อนย่าค่ะ พี่เราโกรธมาก เพราะแม่เราใช้คำพูดแนวว่า นี่ก็แก่แล้ว เงินเก็บตายไปก็เอาไปไม่ได้ ทำไมไม่เอามาซื้ออะไรเพื่อสุขภาพให้แข็งแรง ประมาณนี้ค่ะ ถ้าเป็นคนอื่นแม่เราคงโดนตบไปแล้วอ่ะ เรากับพี่พยายามเตือนสุดแล้ว เพราะพี่เราก็เรียนสายวิทย์มา (ทำงานในแลปด้วย) เราก็เรียนนิเทศ เรียนการตลาดมา รู้ทันพวกนี้หมด แต่ทาง Am เค้าก็มีพวกคนมีความรู้มาอธิบาย คอยสอน คอยแนะนำเหมือนกัน กลายเป็นว่าแม่เราเชื่อพวกนั้นมากกว่าอีกเหมือนเดิม
จนเรากับพี่เครียดมาก แม่เริ่มไม่สนใจคนในครอบครัว เงินก็ไม่เก็บไว้รักษาตัว เอาไปทำบุญเอาไปซื้แผลิตภัณฑ์ของแพงๆหมด
พ่อก็กินเหล้าสูบบุหรี่ทุกวัน เรากับพี่ก็เตรียมตัวแล้วว่าต้องเข้าโรงบาลสักวัน แต่ไม่รู้ว่าแม่ได้แยกเงินส่วนเงินเก็บไว้มั้ย เพราะถ้าไม่มีก็...
แถมหลังๆเริ่มทิ้งย่าเราไม่ดูแล ไม่หาข้าวปลาให้กิน ปล่อยย่าอยู่บ้านคนเดียว โทรศัพท์ก็ชอบปิดเครื่องเพราะไปนั่งสมาธิ ย่าเราจะเป็นลมคาบ้านยังติดต่อไม่ได้เลยค่ะ สงสารย่ามาก เพราะเรากับพี่ก็อยู่กรุงเทพ
เลยอยากถาม/ขอคำแนะนำทุกคนว่า เวลาคนงมงายเนี่ย เราจะมีวิธีดึงเขาให้กลับมาได้ยังไงบ้างหรอคะ มันรู้สึกแย่มากที่เรารู้ว่าจุดจบเขาจะเป็นยังไง เตือนแล้วก็ยังไม่เชื่อ แล้วดันเป็นคนในครอบครัวอีก สุดจะทนจริงๆค่ะ โกรธแม่มากจนไม่อยากกตัญญูแล้วค่ะตอนนี้
แม่ งมงายจนกู่ไม่กลับ (ทั้งศาสนาและขายตรง) ทำอย่างไรดีคะ ?
เรื่องมีอยู่ว่า แม่เราเป็นแม่บ้าน พ่อเป็นข้าราชการ มีร้านอาหารของครอบครัวอยู่แม่ก็คอยทำอาหารและดูแลร้าน ซึ่งเปิดมาเป็นสิบๆปีแล้วค่ะ จนเมื่อสี่ห้าปีที่ผ่านมาแม่เพิ่งได้เริ่มเล่นโซเชียลมีเดียและเริ่มไปวัดบ่อย จนหลังๆเริ่มงมงายหนักมาก ไปวัดแทบทุกวัน ไปพวกอีเว้นท์ทริปกับทัวร์บุญบ่อยๆ เริ่มทิ้งร้าน เปิดๆปิดๆจนลูกค้าหาย แม้แต่ลูกค้าประจำยังเอือมเลยค่ะที่วันปิดไม่แน่นอน เรากับพี่สาวที่มาเรียนกรุงเทพมักจะกลับบ้านต่างจังหวัดเสาร์อาทิตย์กัน บางเดือนไม่ได้กลับเลย พอกลับทีแทนที่แม่จะอยู่บ้านกับพวกเราก็ออกไปอยู่วัดทั้งคืนบ้าง ไปทำบุญต่างจังหวัดไกลๆกับเพื่อน จนเรากับพี่สาวน้อยใจมาก แล้วเป็นประจำเลยค่ะ จนพี่สาวเราเริ่มกังวลว่าแม่เอาเงินไปทำบุญหมด เพราะออกทัวร์ทริปกับพวกสายบุญก็เสียเยอะนะคะ บางทัวร์ปาไป 5000 ก็มี
นึกว่าหมดไปกับศาสนาแล้วจะพอ แต่ไม่ค่ะ จนกระทั่งวันเกิดเราที่ผ่านมาแม่เราพาเพื่อนคนหนึ่งมาบ้านค่ะ แม่บอกจะให้เขาตรวจไขมันในร่างกายให้ว่าเป็นโรคอ้วนป่าว เราก็โอเค ชั่งน้ำหนักวัดนู่นนี่ตามปกติ สักพักเขาก็เริ่มพูดเชิญชวนเราค่ะ ก็คือขายตรงนั่นแหละ ของ Am... ด้วยความที่เขาเป็นเพื่อนแม่เราเลยยอมทนนั่งฟัง แต่เรารู้ทันพวกขายตรงค่ะเราเลยไม่โดนหลอก วันนั้นเราโกรธแม่มากที่วันเกิดเราแต่พาเพื่อนมาขายของให้เนี่ยนะ แล้วก็เพิ่งได้รู้ด้วยว่าแม่เป็นสมาชิกขายตรงกับพวก Am... ไปแล้ว
เรากับพี่สาวก็รีบเตือนเลยค่ะ ว่ามันหลอกขายนะ แม่ก็ไม่เชื่อค่ะ เชื่อเพื่อนมากกว่าลูก พูดอะไรไปเถียงหมด เรากับพี่ก็โอเค จะขายก็ขายไป ขออย่างเดียวอย่างมาขายกับคนในครอบครัวหรือญาติ เพราะเขาจะพากันเกลียดแล้วหนีหาย จนกระทั่งวันนี้พี่สาวเราโทรมาบอกเราว่าแม่ไปขายกับย่าเราแล้วก็เพื่อนย่าค่ะ พี่เราโกรธมาก เพราะแม่เราใช้คำพูดแนวว่า นี่ก็แก่แล้ว เงินเก็บตายไปก็เอาไปไม่ได้ ทำไมไม่เอามาซื้ออะไรเพื่อสุขภาพให้แข็งแรง ประมาณนี้ค่ะ ถ้าเป็นคนอื่นแม่เราคงโดนตบไปแล้วอ่ะ เรากับพี่พยายามเตือนสุดแล้ว เพราะพี่เราก็เรียนสายวิทย์มา (ทำงานในแลปด้วย) เราก็เรียนนิเทศ เรียนการตลาดมา รู้ทันพวกนี้หมด แต่ทาง Am เค้าก็มีพวกคนมีความรู้มาอธิบาย คอยสอน คอยแนะนำเหมือนกัน กลายเป็นว่าแม่เราเชื่อพวกนั้นมากกว่าอีกเหมือนเดิม
จนเรากับพี่เครียดมาก แม่เริ่มไม่สนใจคนในครอบครัว เงินก็ไม่เก็บไว้รักษาตัว เอาไปทำบุญเอาไปซื้แผลิตภัณฑ์ของแพงๆหมด
พ่อก็กินเหล้าสูบบุหรี่ทุกวัน เรากับพี่ก็เตรียมตัวแล้วว่าต้องเข้าโรงบาลสักวัน แต่ไม่รู้ว่าแม่ได้แยกเงินส่วนเงินเก็บไว้มั้ย เพราะถ้าไม่มีก็...
แถมหลังๆเริ่มทิ้งย่าเราไม่ดูแล ไม่หาข้าวปลาให้กิน ปล่อยย่าอยู่บ้านคนเดียว โทรศัพท์ก็ชอบปิดเครื่องเพราะไปนั่งสมาธิ ย่าเราจะเป็นลมคาบ้านยังติดต่อไม่ได้เลยค่ะ สงสารย่ามาก เพราะเรากับพี่ก็อยู่กรุงเทพ
เลยอยากถาม/ขอคำแนะนำทุกคนว่า เวลาคนงมงายเนี่ย เราจะมีวิธีดึงเขาให้กลับมาได้ยังไงบ้างหรอคะ มันรู้สึกแย่มากที่เรารู้ว่าจุดจบเขาจะเป็นยังไง เตือนแล้วก็ยังไม่เชื่อ แล้วดันเป็นคนในครอบครัวอีก สุดจะทนจริงๆค่ะ โกรธแม่มากจนไม่อยากกตัญญูแล้วค่ะตอนนี้