จากข่าวนี้
https://www.youtube.com/watch?v=u5oid0DXJpA
คิดว่า ดารานักแสดง คนมีชื่อเสียงในสื่อ หรือแม้แต่คนใจบุญที่ชอบบริจาคทรัพย์สินสร้างองค์พระบูรณะวัดต่างๆ
น่าจะพบเจอสถานการณ์ที่มีคนมา ขอเงิน หลากหลายรูปแบบ แม่เรานี่ก็ชอบตระเวนทำบุญบูรณะวัดชนบทนะ
เดือนละครั้ง ไปกับเพื่อนๆ แม่ แต่หมดเงินไม่มากเต็มทีครั้งละสามสี่พันพอหอมปากหอมคอ แต่เวลาแม่ลงรูปใน
เฟสบุ๊คทีนี่ เหมือนทำมหาบุญมหาทานกันเลย คือรูปออกมาเหมือนแม่เป็นเจ้าภาพงานต่างๆ ฮ่าๆๆๆ เอาหน้าไป
แต่ก็นั่นแหละ การลงรูปทำนองนี้ ทำให้มีคนไม่รู้จักทักแชทมา ขอเงิน จากแม่ อ้างว่าไม่มีเงินรักษาตัวเองแล้ว
สารพัดเรื่องราวที่บอกเล่าถึงความทุกขเวทนาใดๆ ที่เผชิญ จนแม่เราสงสารเห็นใจ ก็ช่วยเหลือไปไม่ได้มากมาย
แต่ก็หลักหมื่นเลยนะ สามารถซื้อไอโฟนเครื่องใหม่ให้เราได้ หรือพาครอบครัวไปกินอาหารหรูหราได้มื้อหนึ่งล่ะ
แต่หลังจากที่แม่เราให้แล้ว เขาก็ยังวนเวียนทักแชทไป ขอเงิน จากเพื่อนแม่เราอีกเยอะแยะ ก็โดนตามกันไป
คนละหมื่นสองหมื่นตามประสาคนแก่ขี้สงสาร จะเตือนก็ไม่ทันเพราะมารู้เรื่องกันเมื่อสายซะแล้ว เลยได้แต่ปลง
ว่าน่าจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรมาทวงคืน คิดแบบชาวพุทธค่อนไปทาง พุทธงมงายหน่อยๆ ก็ ดวงซวย แม่ๆ ป้าๆ
ก็พากันทำบุญล้างซวยกันไป
คนป่วย กับ ขอทาน เราว่าช่วยขอทาน ยังโอเคกว่า อย่างน้อยเขายังลุกจากที่นอนมานั่งตากแดดตากฝนถือขัน
แลกกับเศษเงิน ขอทานบางคนแทบไม่ปริปากพูดเลย อาจจะแกล้งพิการบ้าง แต่อย่างน้อยๆ ก็ออกแรงใช้พลัง
มากกว่า คนที่นอนกับที่แล้วเซลฟี่ตัวเองส่งรูปมาในแชทแล้วยังมีแรงพิมพ์บอกเล่าประวัติให้คนอื่นอ่านแบบยาว
เป็นหน้ากระดาษ คือถ้ามีแรงทำได้ขนาดนั้น ก็ลุกขึ้นมากายภาพตัวเอง กินยากินอาหาร แล้วฟื้นตัวเร็วๆ ดีมั้ย?
จะได้ไม่ป่วยเป็นภาระชาวบ้าน
ขอเงิน เหมือนตัวเองคือคนป่วยคนเดียวบนโลกที่ต้องได้รับการใส่ใจดูแล
คนที่บริจาคเงินให้คุณ เขาไม่ต้องกินต้องใช้ ไม่ต้องเจ็บไข้ได้ป่วยกันหรือไง ถึงคิดว่าเขาต้องทำงานหาเงินมา
เพื่อบริจาคให้คุณ
ป่วยแล้วทำตัวเป็นขอทาน ก็ออกมานั่งถือขันดีกว่าค่ะ อย่างน้องก็ไม่ต้องเอาเปรียบใคร อย่าป่วยแล้วไร้เกียรติ
ถ้ายากไร้ ป่วยแล้วไม่มีเงินรักษา ขั้นแรกคุณต้องลองติดต่อทางโรงพยาบาลที่รักษาคุณ ผ่อนค่าใช้จ่ายได้มั้ย
ติดต่อหน่วยงานราชการด้านการแพทย์ ว่าเขาช่วยอะไรได้บ้าง ก่อนจะมาแบมือขอเงินคนอื่น
ยกตัวอย่าง ครอบครัวเราก็ไม่มีใครร่ำรวยนะ แต่เวลาได้เงินมาจากงานทุกงาน เราก็จะแบ่งไว้สำหรับค่ารักษา
เพราะบางกรณีประกันสังคมไม่ครอบคลุม ก็ต้องสำรองไว้ และเพราะแบ่งไว้สำหรับค่ารักษา เลยทำให้มั่นใจ
ว่าถ้ามีใครเจ็บไข้ได้ป่วย เงินก้อนนี้พอเยียวยาได้ระยะหนึ่ง พอให้มีเวลาหาเงินมาเติม แต่คนที่ป่วยแล้วไม่มี
เงินรักษา ตอนได้เงินมา พวกคุณเอาไปไว้ไหนกันหมด หรือป่วยทีก็วิ่งเข้าโรงพยาบาลแพงๆ ทั้งที่เงินไม่มี?
สวัสดิการจากรัฐบาล เราเชื่อว่าจริงๆ มีให้ประชาชนนะ ถ้าคุณลองติดต่อสอบถามดู รัฐไม่ช่วย ก็ร้องสื่อเลย
บอกสื่อว่ารัฐไม่ช่วย ดูซิ ออกสื่อแล้วจะช่วยหรือไม่ช่วย หัดใช้สิทธิของตัวเองให้เป็นบ้าง ไม่ใช่คิดง่ายๆ ว่า
ขอจากดาราคนดังเพราะเขารวยแล้วมีมากแล้ว กว่าเขาจะรวยมีกินมีใช้ คุณไม่รู้หรอก ว่าเขาลำบากแค่ไหน
ฝากไว้ เตือนภัยสังคม บ้านใครที่มี แม่ ป้า ย่า ยาย ที่ชอบทำบุญหรือขี้เห็นอกเห็นใจ ขี้สงสารคน ก็ดูแลกันดีๆ
คอยระมัดระวัง คอยดึงสติกัน อย่าให้มิจฉาชีพมาในคราบคนป่วย สูบเงินชาวบ้านไปอย่างไม่รู้สึกสำนึกผิดใดๆ
เตือนภัย เดี๋ยวนี้.....ป่วยที ต้องขอทานกันแล้วนะ
คิดว่า ดารานักแสดง คนมีชื่อเสียงในสื่อ หรือแม้แต่คนใจบุญที่ชอบบริจาคทรัพย์สินสร้างองค์พระบูรณะวัดต่างๆ
น่าจะพบเจอสถานการณ์ที่มีคนมา ขอเงิน หลากหลายรูปแบบ แม่เรานี่ก็ชอบตระเวนทำบุญบูรณะวัดชนบทนะ
เดือนละครั้ง ไปกับเพื่อนๆ แม่ แต่หมดเงินไม่มากเต็มทีครั้งละสามสี่พันพอหอมปากหอมคอ แต่เวลาแม่ลงรูปใน
เฟสบุ๊คทีนี่ เหมือนทำมหาบุญมหาทานกันเลย คือรูปออกมาเหมือนแม่เป็นเจ้าภาพงานต่างๆ ฮ่าๆๆๆ เอาหน้าไป
แต่ก็นั่นแหละ การลงรูปทำนองนี้ ทำให้มีคนไม่รู้จักทักแชทมา ขอเงิน จากแม่ อ้างว่าไม่มีเงินรักษาตัวเองแล้ว
สารพัดเรื่องราวที่บอกเล่าถึงความทุกขเวทนาใดๆ ที่เผชิญ จนแม่เราสงสารเห็นใจ ก็ช่วยเหลือไปไม่ได้มากมาย
แต่ก็หลักหมื่นเลยนะ สามารถซื้อไอโฟนเครื่องใหม่ให้เราได้ หรือพาครอบครัวไปกินอาหารหรูหราได้มื้อหนึ่งล่ะ
แต่หลังจากที่แม่เราให้แล้ว เขาก็ยังวนเวียนทักแชทไป ขอเงิน จากเพื่อนแม่เราอีกเยอะแยะ ก็โดนตามกันไป
คนละหมื่นสองหมื่นตามประสาคนแก่ขี้สงสาร จะเตือนก็ไม่ทันเพราะมารู้เรื่องกันเมื่อสายซะแล้ว เลยได้แต่ปลง
ว่าน่าจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรมาทวงคืน คิดแบบชาวพุทธค่อนไปทาง พุทธงมงายหน่อยๆ ก็ ดวงซวย แม่ๆ ป้าๆ
ก็พากันทำบุญล้างซวยกันไป
คนป่วย กับ ขอทาน เราว่าช่วยขอทาน ยังโอเคกว่า อย่างน้อยเขายังลุกจากที่นอนมานั่งตากแดดตากฝนถือขัน
แลกกับเศษเงิน ขอทานบางคนแทบไม่ปริปากพูดเลย อาจจะแกล้งพิการบ้าง แต่อย่างน้อยๆ ก็ออกแรงใช้พลัง
มากกว่า คนที่นอนกับที่แล้วเซลฟี่ตัวเองส่งรูปมาในแชทแล้วยังมีแรงพิมพ์บอกเล่าประวัติให้คนอื่นอ่านแบบยาว
เป็นหน้ากระดาษ คือถ้ามีแรงทำได้ขนาดนั้น ก็ลุกขึ้นมากายภาพตัวเอง กินยากินอาหาร แล้วฟื้นตัวเร็วๆ ดีมั้ย?
จะได้ไม่ป่วยเป็นภาระชาวบ้าน
ขอเงิน เหมือนตัวเองคือคนป่วยคนเดียวบนโลกที่ต้องได้รับการใส่ใจดูแล
คนที่บริจาคเงินให้คุณ เขาไม่ต้องกินต้องใช้ ไม่ต้องเจ็บไข้ได้ป่วยกันหรือไง ถึงคิดว่าเขาต้องทำงานหาเงินมา
เพื่อบริจาคให้คุณ
ป่วยแล้วทำตัวเป็นขอทาน ก็ออกมานั่งถือขันดีกว่าค่ะ อย่างน้องก็ไม่ต้องเอาเปรียบใคร อย่าป่วยแล้วไร้เกียรติ
ถ้ายากไร้ ป่วยแล้วไม่มีเงินรักษา ขั้นแรกคุณต้องลองติดต่อทางโรงพยาบาลที่รักษาคุณ ผ่อนค่าใช้จ่ายได้มั้ย
ติดต่อหน่วยงานราชการด้านการแพทย์ ว่าเขาช่วยอะไรได้บ้าง ก่อนจะมาแบมือขอเงินคนอื่น
ยกตัวอย่าง ครอบครัวเราก็ไม่มีใครร่ำรวยนะ แต่เวลาได้เงินมาจากงานทุกงาน เราก็จะแบ่งไว้สำหรับค่ารักษา
เพราะบางกรณีประกันสังคมไม่ครอบคลุม ก็ต้องสำรองไว้ และเพราะแบ่งไว้สำหรับค่ารักษา เลยทำให้มั่นใจ
ว่าถ้ามีใครเจ็บไข้ได้ป่วย เงินก้อนนี้พอเยียวยาได้ระยะหนึ่ง พอให้มีเวลาหาเงินมาเติม แต่คนที่ป่วยแล้วไม่มี
เงินรักษา ตอนได้เงินมา พวกคุณเอาไปไว้ไหนกันหมด หรือป่วยทีก็วิ่งเข้าโรงพยาบาลแพงๆ ทั้งที่เงินไม่มี?
สวัสดิการจากรัฐบาล เราเชื่อว่าจริงๆ มีให้ประชาชนนะ ถ้าคุณลองติดต่อสอบถามดู รัฐไม่ช่วย ก็ร้องสื่อเลย
บอกสื่อว่ารัฐไม่ช่วย ดูซิ ออกสื่อแล้วจะช่วยหรือไม่ช่วย หัดใช้สิทธิของตัวเองให้เป็นบ้าง ไม่ใช่คิดง่ายๆ ว่า
ขอจากดาราคนดังเพราะเขารวยแล้วมีมากแล้ว กว่าเขาจะรวยมีกินมีใช้ คุณไม่รู้หรอก ว่าเขาลำบากแค่ไหน
ฝากไว้ เตือนภัยสังคม บ้านใครที่มี แม่ ป้า ย่า ยาย ที่ชอบทำบุญหรือขี้เห็นอกเห็นใจ ขี้สงสารคน ก็ดูแลกันดีๆ
คอยระมัดระวัง คอยดึงสติกัน อย่าให้มิจฉาชีพมาในคราบคนป่วย สูบเงินชาวบ้านไปอย่างไม่รู้สึกสำนึกผิดใดๆ