สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
ลูกอายุขวบครึ่ง ใช่ไหมคะ
เราเข้าใจนะว่าทั้งพ่อ ย่า คิดถึงลูกหลานขนาดไหน
แต่ในแง่พัฒนาการเด็ก จิตวิทยาเด็ก เด็กต่ำกว่า 3 ขวบ ยังไม่พร้อมแยกจากแม่ คุณหมอไม่แนะนำให้แยกไปนอนกับคนอื่นโดยเด็ดขาดค่ะ ลองหาอ่านข้อมูลในเพจคุณหมอประเสิรฐ ผลิตผลการพิมพ์ได้ค่ะ
บ้านเรา ลูก 2 ขวบ เราไม่อนุญาตให้ไปนอนค้างบ้านยายเช่นกัน ห้องนอนย่าอยู่บ้านเดียวกัน ก็ไม่ให้นอนค่ะ ลูกต้องนอนกับเราเท่านั้น จนกว่าแกจะโตพอ และขออนุญาตไปเองในกติกาที่ตกลงกันไว้ อาทิตย์นึง เราจะพาไปเยี่ยมตายาย 1 วัน ให้หายคิดถึงค่ะ เหตุผลคือ...
อยู่บ้าน เราเลี้ยงลูกเอง เรามีกฎ กติกา และกิจวัตรประจำวัน ที่ฝึกลูกไว้อยู่ค่ะ เวลากิน 3 มื้อ เวลานอนกลางวัน เวลาเข้านอนตอนกลางคืน และเวลาอาบน้ำ ตรงเวลาทุกวัน
เรางดลูกดูหน้าจอลูกทุกชนิดก่อน 2 ขวบ ให้นั่งกินข้าวบนเก้าอี้ ด้วยตัวเอง ไม่ป้อน กินร่วมโต๊ะพร้อมผู้ใหญ่ กับข้าวเหมือนกันค่ะ หมดเวลา 30 นาทีก็เก็บ งดขนมกรุบกรอบ ลูกอม น้ำหวานทุกชนิด เน้นกินอาหารทำเอง ขนมทำเอง สดใหม่ ไม่มีกันบูด กิจกรรมยามว่าง อ่านหนังสือ ปั้นแป้งโด วาดรูป เล่นขายของ เล่นกระบะทราย เล่นซ่อนหา วิ่งไล่จับกับแม่ ทุกเย็นไปเดินเล่นในหมู่บ้าน หรือไปเล่นสนามเด็กเล่น
บอกตรงๆ ยกลูกไปนอนที่อื่นนานๆ ระเบียบวินัยทื่เคยสอนให้ฝึกทำมาตั้งแต่เกิด จะหายวับในพริบตาค่ะ เด็กจะสับสนดัวย ต้องมาฝึกกันใหม่ เหนื่อยมากกกกกก ยิ่งเจอบ้านที่เปิดทีวีเป็นแบ็คกราวน์ตลอดวัน โยนมือถือให้เด็กเล่น ตามป้อนข้าวรอบบ้าน พาเข้าเซเว่นช็อปขนมได้มากเท่าที่ต้องการ เราจะปรี๊ดแตกมาก 555
ภรรยาคุณก็คงมีวิธีเลี้ยงลูกในแบบของตัวเองเหมือนกัน หรือมีเงื่อนไขชีวิตบางอย่าง ที่ต้องตัดสินใจร่วมกับยาย
รอให้ลูกโตอีกนิดถูกต้องแล้วค่ะ คุณเป็นพ่อ ก็พาย่ามาเยี่ยมสิคะ เอาเท่าที่แม่สะดวกใจค่ะ อย่าไปกดดันมาก เลี้ยงลูกคนเดียวก็เหนื่อยมากแล้วค่ะ
เราเข้าใจนะว่าทั้งพ่อ ย่า คิดถึงลูกหลานขนาดไหน
แต่ในแง่พัฒนาการเด็ก จิตวิทยาเด็ก เด็กต่ำกว่า 3 ขวบ ยังไม่พร้อมแยกจากแม่ คุณหมอไม่แนะนำให้แยกไปนอนกับคนอื่นโดยเด็ดขาดค่ะ ลองหาอ่านข้อมูลในเพจคุณหมอประเสิรฐ ผลิตผลการพิมพ์ได้ค่ะ
บ้านเรา ลูก 2 ขวบ เราไม่อนุญาตให้ไปนอนค้างบ้านยายเช่นกัน ห้องนอนย่าอยู่บ้านเดียวกัน ก็ไม่ให้นอนค่ะ ลูกต้องนอนกับเราเท่านั้น จนกว่าแกจะโตพอ และขออนุญาตไปเองในกติกาที่ตกลงกันไว้ อาทิตย์นึง เราจะพาไปเยี่ยมตายาย 1 วัน ให้หายคิดถึงค่ะ เหตุผลคือ...
อยู่บ้าน เราเลี้ยงลูกเอง เรามีกฎ กติกา และกิจวัตรประจำวัน ที่ฝึกลูกไว้อยู่ค่ะ เวลากิน 3 มื้อ เวลานอนกลางวัน เวลาเข้านอนตอนกลางคืน และเวลาอาบน้ำ ตรงเวลาทุกวัน
เรางดลูกดูหน้าจอลูกทุกชนิดก่อน 2 ขวบ ให้นั่งกินข้าวบนเก้าอี้ ด้วยตัวเอง ไม่ป้อน กินร่วมโต๊ะพร้อมผู้ใหญ่ กับข้าวเหมือนกันค่ะ หมดเวลา 30 นาทีก็เก็บ งดขนมกรุบกรอบ ลูกอม น้ำหวานทุกชนิด เน้นกินอาหารทำเอง ขนมทำเอง สดใหม่ ไม่มีกันบูด กิจกรรมยามว่าง อ่านหนังสือ ปั้นแป้งโด วาดรูป เล่นขายของ เล่นกระบะทราย เล่นซ่อนหา วิ่งไล่จับกับแม่ ทุกเย็นไปเดินเล่นในหมู่บ้าน หรือไปเล่นสนามเด็กเล่น
บอกตรงๆ ยกลูกไปนอนที่อื่นนานๆ ระเบียบวินัยทื่เคยสอนให้ฝึกทำมาตั้งแต่เกิด จะหายวับในพริบตาค่ะ เด็กจะสับสนดัวย ต้องมาฝึกกันใหม่ เหนื่อยมากกกกกก ยิ่งเจอบ้านที่เปิดทีวีเป็นแบ็คกราวน์ตลอดวัน โยนมือถือให้เด็กเล่น ตามป้อนข้าวรอบบ้าน พาเข้าเซเว่นช็อปขนมได้มากเท่าที่ต้องการ เราจะปรี๊ดแตกมาก 555
ภรรยาคุณก็คงมีวิธีเลี้ยงลูกในแบบของตัวเองเหมือนกัน หรือมีเงื่อนไขชีวิตบางอย่าง ที่ต้องตัดสินใจร่วมกับยาย
รอให้ลูกโตอีกนิดถูกต้องแล้วค่ะ คุณเป็นพ่อ ก็พาย่ามาเยี่ยมสิคะ เอาเท่าที่แม่สะดวกใจค่ะ อย่าไปกดดันมาก เลี้ยงลูกคนเดียวก็เหนื่อยมากแล้วค่ะ
ความคิดเห็นที่ 15
อ่านแล้วคุณไม่ได้เลี้ยงเอง เลยเขียนกระทู้แบบอคตินิดนึง คิดว่ายายข้อแม้เยอะ แต่จะบอกว่าเราเลี้ยงลูกเอง ยายพูดถูกทุกอย่างค่ะ
ขออภัยถ้าเห็นต่าง เด็กเคยนอนกับใครเค้าติดนะคะยิ่งวัยนี้กำลังอยู่ระหว่างสร้างตัวตน เค้าต้องวางใจ Trust คนเลี้ยงให้ได้ก่อน อยู่ๆพ่อที่เจอกันอาทิตย์ละครั้งจะมาพาเค้าไปนอนบ้านย่าที่ไม่คุ้นเคย ไม่มีคนเลี้ยงไม่ว่าแม่หรือยายไปด้วย บ้านแตกเพราะเด็กกลัว โยเย อีกหลายอย่างค่ะ
เอาจริงนะ อ่านแล้วคุณมองลูกเป็นตุ๊กตาอ่ะค่ะ จะพาขึ้นรถไปนอนบ้านย่าเดือนละ4-5วันแต่แม่ไม่ได้ไปด้วย ไม่โอเคกับเด็กมากๆค่ะ
ถ้ารักทั้งย่าทั้งลูก แะเกิดผลเสียน้อยที่สุดกับทุกคนก็พาย่ามานอนบ้านยายค่ะน่าจะดีกว่าค่ะ
ขออภัยถ้าเห็นต่าง เด็กเคยนอนกับใครเค้าติดนะคะยิ่งวัยนี้กำลังอยู่ระหว่างสร้างตัวตน เค้าต้องวางใจ Trust คนเลี้ยงให้ได้ก่อน อยู่ๆพ่อที่เจอกันอาทิตย์ละครั้งจะมาพาเค้าไปนอนบ้านย่าที่ไม่คุ้นเคย ไม่มีคนเลี้ยงไม่ว่าแม่หรือยายไปด้วย บ้านแตกเพราะเด็กกลัว โยเย อีกหลายอย่างค่ะ
เอาจริงนะ อ่านแล้วคุณมองลูกเป็นตุ๊กตาอ่ะค่ะ จะพาขึ้นรถไปนอนบ้านย่าเดือนละ4-5วันแต่แม่ไม่ได้ไปด้วย ไม่โอเคกับเด็กมากๆค่ะ
ถ้ารักทั้งย่าทั้งลูก แะเกิดผลเสียน้อยที่สุดกับทุกคนก็พาย่ามานอนบ้านยายค่ะน่าจะดีกว่าค่ะ
ความคิดเห็นที่ 1
ปกติแล้วคนเป็นพ่อแม่จะพาลูกไปไหนก็ได้ ไม่ต้องทำเรื่องขออนุมัติใคร
แต่นี่คุณคงอยู่ในฐานะ "ผู้ช่วยเลี้ยง" หรือ "ผู้มาเยี่ยม" มาตลอด
เพราะคนเลี้ยงตัวจริงคือแม่ยายคุณ
เราเดาว่าถ้าคุณและภรรยามีบทบาทเยอะ ๆ แต่แรก แม่ยายแค่เป็นคนช่วยเลี้ยง
วันหยุดทีคุณก็ไปรับลูกและเมียไปเที่ยวไปค้างที่อื่นประจำ เค้าคงไม่มีปากเสียงเยอะขนาดนี้
เราคงแนะอะไรไม่ได้ เพราะขนาดเมียคุณยังต้องง้อแม่ แสดงว่าทั้งคุณและเมียคงกำลังพึ่งเค้าอยู่
สิ่งเดียวที่ถอดถอนอำนาจของแม่ยาย คือคุณและเมียเอาลูกออกมาอยู่ด้วยกันและเลี้ยงกันเอง
แต่นี่คุณคงอยู่ในฐานะ "ผู้ช่วยเลี้ยง" หรือ "ผู้มาเยี่ยม" มาตลอด
เพราะคนเลี้ยงตัวจริงคือแม่ยายคุณ
เราเดาว่าถ้าคุณและภรรยามีบทบาทเยอะ ๆ แต่แรก แม่ยายแค่เป็นคนช่วยเลี้ยง
วันหยุดทีคุณก็ไปรับลูกและเมียไปเที่ยวไปค้างที่อื่นประจำ เค้าคงไม่มีปากเสียงเยอะขนาดนี้
เราคงแนะอะไรไม่ได้ เพราะขนาดเมียคุณยังต้องง้อแม่ แสดงว่าทั้งคุณและเมียคงกำลังพึ่งเค้าอยู่
สิ่งเดียวที่ถอดถอนอำนาจของแม่ยาย คือคุณและเมียเอาลูกออกมาอยู่ด้วยกันและเลี้ยงกันเอง
แสดงความคิดเห็น
เมื่อคุณยายไม่ให้หลานมาบ้านย่าบ้างเลย ต้องทำไง ปัญหาเล็กๆที่ใหญ่เหลือเกินกับชีวิตผม....