มีครอบครัวไหนเป็นโรค Family syndrome บ้างไหม ?!

หลายคนอาจจะงง ว่าเอ๊ะ Family syndrome ( แฟมิลี่ ซินโดรม) คืออะไร โรคอะไร บอกก่อน ว่าผมเองก็ไม่รู้ ว่ามีโรคนี้ ในศัพท์การแพทย์จริงๆหรือปล่าว แต่มันเกิดขึ้นกับครอบครัวของผม 

ตั้งแต่จำความได้ ผมมักจะเห็น พ่อกับแม่ทะเลาะกัน ถึงขั้นลงไม้ลงมือบ่อยๆ บ่อยจนชิน บ่อยขนาดที่ ทะเลาะกันทุกครั้งที่พระอาทิตย์ตกดิน 

และเมื่อผมมีอายุ 11 ขวบ แม่ผมเลือกที่จะทิ้งพ่อและผมไป ซึ่งผมไม่เคยโกรธเลยแม้แต่นิดเดียว มันเลยทำให้ผม ต้องใช้ชีวิตอยู่กับผู้เป็นพ่อเพียงลำพัง และนั่นคือจุดเริ่มต้นของ Family syndrome ของผม 

ในวัยเพียง 11-12 ปี ผมย้ายโรงเรียน กว่า3ครั้ง เพราะผู้เป็นพ่อ ไม่มีความสามารถพอ ที่จะเลี้ยงผมได้ จึงเอาผมไปให้พี่สาวแท้ๆเลี้ยง ด้วยความที่ผมเปิดลูกชายคนเล็ก มันเลยทำให้ผมได้รับการเลี้ยงดูที่เรียกได้ว่า โชคดี โดยมีพี่สาว ที่ค่อนข้างมีฐานะ ในขณะนั้น และผู้เป็นแม่ ที่ส่งเสียตลอดทุกเดือนไม่เคยขาด มันเลยทำให้พ่อผมปิ้งไอเดียบรรเจิด ว่าถ้าเกิดเค้าเอาผมไปเลี้ยง แม่และพี่สาวผม ต้องส่งตังให้ผมไปโรงเรียนแน่นอน และก็ตามนั้นครับ ในช่วงจบ ป.5 พ่อผมมาเอาตัวผมกลับต่างจังหวัด หลอกว่าไปเที่ยวเฉยๆ 5555 สุดท้ายผมก็มาอยู่กับพ่อ เข้าเรียนโรฃเรียนที่3 ในรอบ1ปีกว่าๆ ในช่วงแรกๆนั้นมันแปลกครับ ผมไม่เคยเห็นพ่อผมในมุมนี้มาก่อน ซักผ้าหุงข้าว ทำกับข้าว แต่หฃังจากที่ผมจบ ป.6 ขึ้น ม.1 เหตุการณ์มันเปลี่ยนไป ทุกๆครั้งที่พระอาทิตย์ตกดิน พ่อผมจะเริ่มโทรศัพท์ หาคนนู้นที คนนี้ที 

หลักๆ ก็จะโทรหาแม่และพี่สาว ขนาดอยู่ในโทรศัพท์ยังด่าแม่ได้ทั้งๆที่เค้าหนีไปตั้ง 2-3ปีแล้ว ด่าๆๆๆ แม่ผมก็มักจะวางสายใส่เสมอ และมักจะจบลงด้วยการทุบโทรศัพท์ โชคดี ที่สมัยนั้น Samsung hero ยิ้มก็ทนเหลือเกิน แต่แล้วนานวันผ่านไป ทุบจนมันพัง ความซวยทั้งหมดมันเลยตกมาที่ผมแต่เพียงผู้เดียว 

กลายเป็นว่า ทุกครั้งที่พระอาทิตย์ตกดิน ผมมักจะโดนด่าในทั้งๆ

ที่ผมไม่ได้ทำอะไรผิด เช่น ผมนอนกระดิกขา ถอนหายใจ หรือบิดขี้เกียจ การด่าจะมี Level ของมันอยู่ ไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆจนกว่าเค้าจะหลับไป 

นานวันไป มันยิ่งทวีคูณ ในช่วงที่ผมอยู่ ม.2 ยอมรับตรงนี้ว่าเกเรสุดๆ และด้วยความที่เราไม่อยากกลับไปโดนด่าทุกวัน เราจึงตัดสินใจหนีไปอยู่กับเพื่อน และนั่นทำให้ผมออกจากโรงเรียนในที่สุด จนกระทั่งผมกลับมาบ้าน ในช่วงกลางวันนั้น ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหมือนผมไม่ได้ทำอะไรผิดมาเลย แต่นั่นมันเป็นความสงบ ก่อนพายุลูกใหญ่ที่ราวกับจะพัดหัวเราให้หลุดออกจากบ่า 

และแล้วในช่วง 6โมงเย็นของวันนั้น เหล้าที่-เข้าไปก็สำริดผล 

มันส่งเสริมให้พ่อผมแปลงร่างได้อย่างสมบูรณ์แบบ เริ่มจากเรียกชื่อผมด้วยเสียงที่แข็งกร้าว และถามผมว่า จะเรียนต่อไหมหนังสือเนี่ย ผมตอบกลับไปว่า ไม่ทันแล้วพ่อถ้าผมเรียน ผมจะซ้ำชั้น ผมอายเพื่อน หลังจากนี้ ขออนุญาตเล่าแบบ you&me นะครับ 

พ่อ : มันไอ้เด็กเ...ี้...ย ไอ้เด็กหัวค....ย 

ผม : มันขนาดนั้นเลยหรอพ่อ ( ช็อคมาก ตกใจสุดขีด ไม่เคยนึกมาก่อน ว่าคนเป็นพ่อ จะเอ่ยคำพวกนี้สาดใส่เรา ) 

พ่อ : ใช่ นี่แม่งูไม่รู้เรื่อง ไอ้ค...าย แม่ก็ทิ้งไปเอาผัวใหม่ ก็ยังมาเ....ี้ี้..ย ตามแม่อีก 

ผม : พูดไม่ออก ได้แต่มองหน้า ว่าคนๆนี้ยิ้มพ่อกูหรอเนี่ย       

พ่อ : มอง ยิ้มไร  และตบเข้ากระบาลผมอย่างแรง ชนิดที่ว่า ผมมืดตึบไปเลยชั่วขณะนึง ผมเลยวิ่งหนีไปที่บ้านป้า และบอกว่าช่วยด้วย พ่อตี นั่งกอดป้าได้ไม่ทันไร พ่อผมก็เดินมา ตีหน้าซื่อๆ ว่ากลับบ้านเถอะลูก เป็นอะไร ทำเหมือนกูเป็นเด็ก 3ขวบ 

ผมเลยบอกไม่กลับ บอกป้าว่าช่วยผมด้วย ผมกลับไปผมตายแน่ 

ป้าผมเลยบอกว่า กลับไปก่อน แล้วเดี๋ยวป้าจะคุยกับแม่ให้เอาผมไปอยู่ด้วย 

สิ้นเสียงพ่อผมก็มาจูงมือผมไป พร้อมกำข้อมือผมแน่น 

ผมรู้ได้ทันที กูโดนอีกแน่ ในช่วงที่พ่อผมกำลังเปิดประตูบ้าน ผมตัดสินใจสลัดมือออก และวิ่งหนีสุดชีวิต เข้าไปในหมู่บ้าน และวิ่งไปหาย่า เล่าทุกอย่างให้ย่าฟัง แต่มันไม่ได้ทำให้ผมสบายใจ หลังจากผมตั้งสติ ผมเลือกที่จะเดินไปบ้านเพื่อน ซึ่งอยู่ไม่ไกลมาก และบอกมันว่ากูขอค้างที่นี่1คืนนะ ไม่งั้นกูตายแน่ 

หลังจากคืนนั้น ผมให้เพื่อนผมไปส่งที่บ้านป้า และป้าบอกว่า จะส่งผมไปอยู่กับแม่ โดยนั่งรถเข้ากรุงเทพฯ คนเดียว ระหว่างเดินทาง ผมได้แต่คิดเคียดแค้นในใจ และบอกกับตัวเองเสมอว่า 

กูจะไม่มีทางกลับมาที่นี่อีกเด็ดขาด ในวัย15ปี ผมคิดแบบนั้น 

วันเวลาผ่าน ล่วงเลยมาจนผมอายุได้ 23ปี ผมขออนุญาต เล่าข้ามบางช่วงเวลาสำคัญไปนะครับ มันยาวมาก 

ในวัย 23 ปี ผมมีภรรยา 1คน ลูกชายวัย1ขวบอีก1คน 

ผมทำงาน เป็นพนักงานขับรถส่งของ บริษัทนึง 

และรับงาน ร้องเพลงไปด้วย ในตอนกลางคืน เป็นการสานฝันเล็กๆที่ตั้งใจไว้ ว่าอยากเป็นนักร้อง 

ทุกๆอย่างกำลังไปได้ดี พี่สาวที่เคยอุ้มชูเลี้ยงดูผม ก็ได้ไปทำงานที่ ต่างประเทศ ผมจึงได้รับหน้าที่ดูแลแม่ที่เริ่มแก่มากแล้วไปด้วย ด้วยความที่แกแก่แล้ว บวกกับกินเหล้า เราก็มักจะทะเลาะกันบ่อยๆ แต่ก็นั่นแหละ อย่าถือคนบ้าอย่าว่าคนเมา 

จนกระทั่ง Covid 19 เข้าสู่ประเทศไทย มันทำให้ทุกอย่างเริ่มแย่ลง 

ในช่วงที่ lock down แม่ผมกินเหล้าอย่างหนัก ผมเองก็ต้องจากงาน ทั้งงานบริษัท และงานร้องเพลง แต่ภรรยาผมยังได้ทำงานต่อ ในข้อแม้เงินเดือน 8,000 จนผมโดนยึดรถยนต์ที่เป็นเครื่องมือทำมาหากินไป และแม่ผมเกิดป่วยหนัก ชนิดที่หมอบอกว่าโอกาสรอด 50% และแม่ผมต้องกลับไปอยู่บ้านกับพ่อ ซึ่งที่นั่นจะมี พ่อผม เมียใหม่พ่อ แม่ผม และก็หลานผม 

พอแม่ผมเริ่มดีขึ้น พี่สาวผมบอกผมว่า ไม่ได้ทำงานใช่มั้ย งั้นกลับไปดูแลแม่ที่บ้าน ถ้ามีผมอยู่ พี่ผมจะสบายใจมากกว่า 

เพราะแกเองก็รู้ ว่าผู้เป็นพ่อ เค้าเป็นยังไง

และแน่นอนครับ อาการ Family syndrome ของผมมันก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง พี่สาวผมจะเป็นคนรับผิดชอบ เรื่องเงินทั้งหมด ส่งให้ที่บ้านได้ใช้กันอย่างไม่ลำบาก เดือนๆนึง 40,000 กว่าบาทเลย ค่าใช้จ่ายทุกอย่าง แกรับจบ ดูไปแล้ว ก็ไม่น่าจะมีปัญหาใช่มะ ใช่ครับ ช่วงแรกมันเป็นแบบนัน แต่ทุกคนอย่าลืมนะครับ ว่าที่ครอบครัวนี้ มีโรคร้าย ที่ชื่อว่า Family syndrome อยู่ 3-4 เดือนผ่านไป การเงินมันเริ่มเยอะขึ้นๆ เพราะอะไรน่ะหรอ พ่อผมและเมียใหม่พ่อผม -เหล้าทั้งคู่ มันจะเป็นเรื่องปรกติ ถ้าเค้ากิน แล้วเค้าซื้อกินเอง แต่นี่ปล่าวเลย เหล้าทุกขวด เงินออกจากกระเป๋าแม่ทั้งนั้น ทั้งๆที่ พี่ผมส่งเงินให้แบบ แยกกระเป๋า พ่อ5,000 แม่ 10,000 เพราะ10,000 ของแม่ นั้นรวมผมและหลานด้วย คุณลองคิดดูนะครับ 5,000 บาท มีรายรับจากการปล่อยที่ให้เช่าอีก เดือนนึงประมาณ 3,000 และไม่มีรายจ่ายอะไรที่จำเป็นต้องจ่าย เลย!! เหตุการณ์ก่อนหน้านี้มันก็คล้ายเดิมครับ เค้าด่าผมว่า ผมมาเกาะเค้ากิน ใช้เงินพี่สาวอย่างหน้าระรื่น โดยไม่สร้างประโยชน์อะไรให้เลย ซึ่ง มันเป็นประนี้ มา2-3ละ 

ผมเริ่มทำใจคิดไว้เสมอ พ่อเราไม่ปรกติ พ่อเราป่วย เพราะตอนกลางวัน เค้าจะเป็นตาลุงแว่นใจดี คนนึง ที่หลานๆต่างก็รัก ทั้งตัวลูกชายผม หรือหลานผมที่เป็นลูกของพี่สาว แต่หลังจากพระอาทิตย์ตกดิน เค้าก็เปลี่ยนไป ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์

เอ้อ ลืมบอกไป กฏของ Family syndrome ในตอนเย็นนั้น บ้านนี้จะไม่กินข้าวพร้อมกัน และกฏเหล็กข้อสำคัญ และเป็นสิ่งต้องห้าม บ้านนี้ห้ามกิน "หมูกระทะ" ถ้ากินเมื่อไหร่ บรรลัยเมื่อนั้น ต่อๆ เมื่อไม่กี่วันมานี้ ผมถูกเค้าวาน ให้ไปซื้อหมูกระทะ ผมก็ออกไปซื้อมาให้ แต่ไม่ร่วมวงกินด้วย ซึ่งมันก็เกิดสงครามจริงๆ แต่ครั้งแต่มันไม่ใช่ผม แต่เป็นเมียใหม่เค้านั้นแหละ ผมลืมบอกไปเมียใหม่เค้าคนนี้ เมื่อก่อนดีมาก ดีจนผมและพี่ๆอีก2 ยอมรับ ให้เป็นญาติผู้ใหญ่คนนึงเลย แต่แล้ววันนั้น หลังจากสองครามสงบลง ภรรยาผมมาบอกกับผมว่า เค้าทะเลาะกันเรื่องเงิน ( เงินไม่เคยนับญาติใครจริงๆ ) แต่ประเด็นมันคือ เค้าเลือกที่จะบอกพี่สาวผมว่า " หนูก็ส่งเงินในน้าบ้างสิ น้าจะได้ไม่ไปขอเงินเค้า " 

ทุกคนครับ ย้ำอีกครั้งนะ ว่านี่คือเมียใหม่พ่อผม แต่สิ่งที่ผมช็อคกว่า คือพี่ผมให้ พี่ผมบอกว่าเดี๋ยวโอนให้3,000 นะ จะได้ไม่ต้องทะเลาะกัน ซึ่งก่อนหน้านั้น พี่ผมก็เคยให้หลายครั้งนะ แต่มันลงขวดเหล้าหมดเลย 

ตัดมาที่ผม ในช่วงที่อยู่บ้าน ผมไม่ได้ทำงาน แต่ผมยังทำตามฝันต่อ ด้วยการทำเพลง หลักๆ ก็ร้อง Cover ลงยูทูป ร้องเพลงคนอื่นมันคืองานถนัดของเราอ่ะนะ 555 ไปตามดูได้

PSK OFFICIAL นี่ช่องผม ไทน์อินแบบเนียนๆ 5555 

ซึ่งมันก็ดั้นนน ไปรบกวนจิตใจที่อาอนไหวของพ่อผมสะเหลือเกิน 

ทำอะไร ร้องเพลง ทำเพลงขาย ไอ้ปัญญาอ่อน จะได้เงินได้ไง ไอ้คา...ย 

ตอนนี้มันไม่ได้ แต่เมื่อก่อนเคยได้นะ คืนนึง2,3 พัน แหน่ะ และอนาคตอาจจะได้ก็ได้ เกิดมีคนมาเห็นและจ้างเรา จริงไหมทุกคน 5555 

เอ้ออ และทุกครั้งที่เค้าแปลงร่าง เค้าจะไม่สนว่ารอบตัวมีเด็กหรือไม่ สบถทุกคำหยาบคายออกมา แสดงท่าทีกิริยาออกมา เห็นเด็กวัย 3ขวบ กับ 6ขวบเห็น ท่ากระทืบพื้น ลูกผมเลียนแบบมาเต็มๆ ครั้งนึงหลานชายเคยเข้าไปห้ามพ่อผม ว่าตา หยุดเถอะ พอแล้วนะ สิ่งที่คนเป็นตา ตอบกลับหลายชายวัยเพียง 6ขวบ ว่า อย่ามายุ่ง ไอ้เด็กเ....ี้...ย ยังเด็ก หลานผมก็พูดแค่ว่า โอเค และเดินออกมา 

จนในวันนี้ มันคือสิ่งที่ผมอดรนทนกลั้นไม่ได้อีกแล้ว คือ...

ลูกชายผมเค้าเป็นหวัด และแม่ยายก็เลยเอายามาให้ ทุกคน เวลาดองมาบ้าน เราต้องทำยังไง ทำกับข้าวเลี้ยง หาอะไรให้กิน หรือชวนคุยเรื่องสนุกๆไหมครับ แต่นี่ไม่ 555 ทำแบบนั้นก็ซ้ำคนอื่นดิวะ เดี๋ยวเค้าจะหาว่าเราใจดี 

พ่อผมเริ่มจากการบ่นๆๆๆ จับใจความไม่ได้ เพราะส่วนตัวผมไม่ฟังอยู่แล้ว และเมียใหม่เค้าก็เดินเข้ามาเติมไฟ เนี่ยเมียมันไม่ทำอะไรเลย วันๆนอนอย่างเดียว xxxxx ภรรยาผมทำทุกวันครับ เพียงแต่วันนี้ลูกชายผมป่วย และแม่เค้ามาหา พ่อผมหลังจากเดินเข้าไปเติมเหล้าขาวหนึ่งโบก ออกมา เนี่ยมันไม่ทำอะไรกันเลย อยู่ใช้เงินพี่สาวมัน ลำพัง2คนมันก็แย่แล้ว นี่ยิ้มเอาลูกมาเกาะเพิ่มอีก เห้ย ไอ้ ยิ้มยย ทุกคน มันใช่หรอวะ นี่คำพูดจากพ่อ ที่พูดใส่ ลูกชาย ลูกสะใภ้ และหลานชายวัย3ขวบ ให้ดองฟัง ต้องเป็นคนแบบไหนวะเห้ยยย ซึ่งแม่ยายผมไม่อฝทนฟังต่อ บอกให้ภรรยาผมไปเก็บของ และกลับบ้าน ถ้าตัวภรรยาผมไม่กลับ เค้าจะเอาหลานกลับ ซึ่งตอนนี้ไปแล้วนะ แต่ภรรยาผมยังอยู่กับผม 

แม่ผมออกจากห้องมาถามภรรยาผมว่า หลานไปไหน ภรรยาผมตอบแม่เอากลับไปแล้ว เพราะพ่อด่าว่าหลานมาเกาะเค้ากิน แม่ผมได้แต่พูดว่าเอ้า ทำไม หลานก็หลานกูเหมือนกัน ทำไมกูจะเลี้ยงไม่ได้  และนี่คือความแตกต่างของผู้เป็น ปู่ กับผู้เป็น ย่า

เอาล่ะ เรื่องราวทั้งหมด เป็นเพียงส่วนนึง ให้เล่าทั้งหมด คงต้องมาเป็นวิดีโอ แต่ขอย้ำ นี่คือเรื่องจริง ที่เกิดขึ้น ณ เวลานี้ ผมต้องการจิตแพทย์ หรือยาสลบ ยานอนหลับ ยาอารมณ์ดี หรืออะไรก็ได้ ที่มาช่วยรักษาอาการ Family syndrome นี่ที ก่อนที่ผมจะไม่มีความเป็นคน และได้ชื่อว่าเป็นลูก ทรพี 

ขอบคุณครับ

*สาเหตุที่ผมไปทำงานที่อื่นไม่ได้ 

   1. แม่ผมป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง 

   2. ครั้งนึงพ่อเคยด่าว่าแม่เป็น ภาระ ถ้าผมไม่อยู่ ไม่อยากจะคิด 

    

ผมหวังเป็นอย่างยิ่ง ขอให้ไม่มีใครประสบพบเจอเหตุการณ์แบบนี้เลย มันแย่มาก แย่มากจริงๆ แย่และเราดันทำอะไรไม่ได้ 
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่