สวัสดีค่ะ ขอกล่าวไว้ก่อนว่าเราเป็นลูกคนแรกมีน้องชายอีกคนนึงซึ่งอายุเรากับน้องห่างกันเพียงแค่ปีเดียว ครอบครัวเราตอนแรกค่อนข้างมีฐานะค่ะญาติฝั่งพ่อก็มาติดกันตรึม หลังจากนั้นพอมีน้องบวกกับที่พ่อเราเป็นคนใจดีอะไรด้วยพ่อแจกเงินเป็นเศษกระดาษจนมันหมด ให้ทั้งพี่น้องและคนที่รู้จักเลยหมดตัวค่ะกลายเป็นครอบครัวที่ลำบากหน่อยแต่ก็พอมีกิน
พอเราขึ้นป.1 ครอบครัวเราย้ายไปเช่าบ้านในที่ๆหนึ่งในกรุงเทพค่ะ ซึ่งเราก็มีเพื่อนบ้านเยอะแยะเลยค่ะ จนรู้จักกับน้าคนหนึ่ง ขอแทนว่าน้าA ครอบครัวของน้าเค้าเป็นครอบครัวที่ค่อนข้างมีฐานะมากๆเค้ามีลูกสาวแล้วก็ลูกชายค่ะเค้าก็มาช่วยครอบครัวเรานิดๆหน่อยๆค่ะทั้งเรื่องเงินเรื่องอะไร
จนเราอยู่ป.5 พ่อเราได้งานเป็นอาจารย์ที่มหาลัยในภาคใต้ค่ะ เพราะว่าพ่อเราจบสูงแล้วก็มีเพื่อนของญาติพ่อฝากเข้าสอนค่ะเลยได้งาน เราต้องย้ายที่อยู่กับทั้งครอบครัวไปที่จังหวัดนั้นค่ะ พ่อได้เงินมาแสนนึงจากการขายรถให้ญาติพอได้ไปตั้งตัวอะไรบ้าง วันแรกเราไปอยู่ห้องเช่าที่ค่อนข้างกว้างค่ะ ยังไม่ค่อยเข้าที่เข้าทางเท่าไหร่แต่ก็พออยู่ได้ จนเราและน้องเรียนได้ไปอยู่ที่รร.ดังของจังหวัดซึ่งตอนนั้นครอบครัวเรามียานพาหนะแค่อย่างเดียวคือรถมอเตอร์ไซค์เก่าๆที่ยายให้ไว้(แม่ของแม่)
การใช้ชีวิตอยู่ที่จังหวัดนั้นตอนแรกก็ค่อนข้างดีค่ะ แม่เป็นเสมียนที่บริษัทแห่งหนึ่ง ตอนเย็นครอบครัวเราก็ไปหาข้าวกินที่โลตัสค่ะ เวลามีของหรือข้าวใกล้หมดอายุเค้าจะลดราคาเลยต้องไปกินแบบนั้นค่ะ จนมามีปัญหาตอนที่พ่อไม่ได้สอนแล้ว เพราะอะไรบางอย่างในการทำงานเลยทำให้ต้องย้ายกลับมาที่กรุงเทพอีกครั้ง
ม.1 เรามาอยู่ในกรุงเทพค่ะเช่าแฟลตอยู่ เราอยู่โรงเรียนเดียวกับน้องเหมือนเดิมเป็นโรงเรียนดังของเขตเหมือนเดิม ตอนนั้นครอบครัวก็ยังลำบากค่ะแม่ขายของพ่อไม่มีงานทำ จนวันนึงพึ่งรู้ว่าน้าA(ที่เคยเล่าให้ฟังข้างต้น) กลับเข้ามาช่วยเหลือครอบครัวเราผ่านทางพ่อค่ะ เค้าช่วยจ่ายหนี้จ่ายค่าเทอม(ที่ค้างจ่ายตั้งแต่เทอม1) จ่ายค่าใช่จ่ายต่างๆในบ้าน พ่อเรามีงานทำเพราะว่าเค้าให้พ่อเราไปขายล็อตเตอร์รี่ ตอนนั้นครอบครัวเราเริ่มมีกินมีใช้ค่ะเพราะน้าเข้ามาช่วยบวกกับกำไรค่าหวยที่ได้ใช้กินไปวันๆทำให้เราเริ่มรู้สึกสนุกกับการใช้เงิน(เพราะแต่ก็ไม่เคยได้จับเงินเลย)
ม.2-ม.3 เรามีความสุขในช่วงต้นๆทั้งเรื่องเงินเรื่องค่าใช่จ่ายในบ้านแต่พอหลังๆเราเริ่มรู้สึกไม่ดีกับน้องชายเลย จะบอกว่าน้องชายเป็นคนที่แรงมากค่ะเป็นคนพูดตรงไม่กลัวใคร เพื่อนเราเริ่มมีปัญหากับน้องเรา เราเลยเป็นคนกลางที่วันๆนึงเพื่อนก็มาบ่นเรื่องน้องน้องก็มาบ่นเรื่องเพื่อนให้เราฟัง เรากลายเป็นคนที่รับความกดดันอยู่คนเดียวจนเรารู้สึกไม่ค่อยโอเค จวบกับที่น้องเป็นคนชอบบังคับขู่เข็น เวลาอะไรไม่ได้ดั่งใจหรืออะไรที่เราทำก็จะด่าจะตี เราสู้น้องไม่ได้เลย พอเราสู้มันกลับสู้หนังกว่าเดิม (เพราะว่าเป็นน้องชายด้วย) คบกับเพื่อนก็ไม่ให้คบ จะคุยกับใครก็สอดรู้สอดเห็นไปซะทุกอย่าง เราวางโทรศัพท์ไว้ส่วนไหนในบ้านไม่ได้เลย(ลืมบอกว่าเรานอนห้องเดียวกับน้องเนื่องจากบ้านมันเล็กมาก) เปลี่ยนรหัสหน้าจอทุกวันแต่ก็โดนแฮกโดนแอบดูจนเวลาน้องหลับต้องเอามาแอบไว้ใต้หมอนทุกคืน
ตอนนั้นกดดันมากบอกพ่อแม่ก็ไม่มีใครจัดการน้องแบบจริงๆซักคน ปากแม่สักแต่จะพูดว่าเดี๋ยวจะจัดการให้ ปากพ่อก็สักแต่จะพูดว่าน้องเป็นห่วงเรื่องเพื่อนเรื่องแฟนอะไรพวกนี้ ได้แต่นับความกดดันมาเก็บไว้คนเดียวจนเครียด เราเริ่มร้องไห้คนเดียว เริ่มฟังเพลงเศร้าๆ ตอนนั้นเราเริ่มมาสนใจเพื่อนในบอทค่ะ (เพื่อนที่ไม่รู้จักหน้าตากับและพูดคุยผ่านทางอิมเมจศิลปิน)
จนตอนปิดเทอมใหญ่ม.3 น้าAซื้อรถให้พ่อเราคันนึงซึ่งพ่อบอกว่าเป็นเงินกำไรจากที่พ่อขายหวย(ให้น้าAสะสมไว้) พ่อไปช่วยน้าAเป็นนายหน้าขายบ้านค่ะได้ค่าคอมเยอะมาก(พ่อเราบอกเราไม่รู้ว่าจริงรึป่าว) จนวันนึงน้าเค้าซื้อบ้านจะทำใหม่แล้วขายแต่คิดยังไงไม่รู้ยึดค่าคอมพ่อแล้วให้พ่อเราย้ายเข้าไปอยู่กับเค้าโดยที่โอนบ้านเป็นชื่อพ่อ และไม่ให้แม่เราเข้าไปอยู่
เราเลยงงว่าทำไม ในเมื่อมันเงินพ่อเราด้วยและเราก็อยู่เป็นครอบครัวทำไมถึงให้แม่เข้าไปอยู่ไม่ได้จนวันนึงพ่อเตี๊ยมกับเราไว้ว่า ถ้าน้าถามว่าเลิกกับแม่รึยัง ให้บอกว่าเลิกแล้วนะ เราเลยยิ่งงงเข้าไปอีกว่าทำไม เราย้ายออกมากับพ่อ2คนค่ะ น้องอยู่กับแม่(เพราะว่าแม่ไม่ไป)อละเราก็ไม่อยากให้น้องไปด้วยเพราะเราไม่ชอบน้อง วันนั้นจำได้เราเข้าไปอยู่บ้านหลังนั้นเรารู้สึกว่าเรามีความเป็นส่วนตัวมาก เราจะม.4แล้วก็ควรจะมีห้องส่วนตัวอีกอย่างเราเป็นผู้หญิงด้วยนอนกับน้องผู้ชายก็ไม่น่าจะดี
เราอยู่กับมาซักพักค่ะพ่อเริ่มทะเลาะกับน้าบ่อยเราเลยเข้าไปถามความจริงว่ายังไง พ่อบอกว่าน้าAเลิกกับสามีแล้วเพราะว่าสามีไปมีแฟนที่ต่างจังหวัดพ่อเราเลยมาลองคบด้วย น้าให้พ่อทุกอย่างแต่สั่งห้ามไม่ให้พ่อยุางกับแม่ ไม่ให้ไปเจอไม่ให้ไปคุยหรือติดต่ออะไรเลย น้าเช็คโทรศัพท์พ่อตลอดว่าโทรออกเบอร์ใครหรืออะไรบ้าง ตอนนั้นเราไม่อะไรเลยให้พ่อยอมๆเค้าไปก่อนเพราะเรายังหลงระเริงกับคำว่า”เงิน”อยู่
จนพ่อเริ่มเครียดพ่อขายหวยแต่ได้เงินกินวันละไม่กี่ร้อย(ที่เหลือเค้าเก็บหมด) พ่อแทบจะไม่มีเงินเก็บเลยตอนนั้นเค้าบังคับพ่อเราทุกอย่างทั้งที่แบบจะให้อะไรต้องจดๆลงบัญชี ห้ามขาดแม่แต่บาทเดียว ห้ามใช้รถยนต์เพราะเปลืองน้ำมัน ต้องกลับบ้านตรงเวลา พอพ่อกลับช้าเค้าก็จะทะเลาะกับพ่อ น้าเป็นคนเสียงดังมากค่ะคือเรานอนอยู่บนห้องเค้าทะเลาะกันเราต้องเอาหูฟังอัดหูแล้วเปิดเพลงดังๆไม่ให้ได้ยิน แต่เราก็ไม่ไหวต้องลงไปแก้ปัญหาใ้ห้ทุกครั้ง บางทีพ่อก็เอาโทรศัพท์ไปไลน์หาเค้าตอนมีปัญหา(เอาง่ายๆว่าเป็นไลน์เราคุยแต่พ่อเราพิมพ์) มีครั้งนึงเค้าไล่เราและพ่อออกจากบ้านเพราะว่ารู้ว่าพ่อคิดต่อกับแม่ พ่อไม่ยอมทั้งนั้น เค้าด่าว่าพ่อเราตีพ่อเราเราก็ไม่อยากไปจากที่นั่นเพราะว่าทุกๆอย่างมันดี สะดวกสบาย แต่เราก็ต้องยอมเพราะเขาบังคับ เค้าพาพ่อเราไปโอนบ้านคืนให้เค้า พ่อเรายื้อไม่โอนอยู่นานเพราะค่าโอนเกือบแสน แต่เค้าบอกเค้ายอมตอนนั้นเราร้องไห้อัดเสียงอัดคลิปวีดีโอไว้เพราะแม่บอกว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นให้อัดไว้เป็นหลักฐาน
เรากลับมาที่แฟลต(บ้านที่แม่อยู่) เราอยู่ได้วันนึงพ่อก็เอามือถือเราไปคุยกับเขาเพราะเขายังไม่บล็อคไลน์เรา สุดท้ายคุยไปคุยมาพ่อบอกว่าจะจบกับเค้าจริงๆ ซึ่งกล่าวก่อนว่าน้ากับพ่อเค้ามีเรื่องสาบานไว้เยอะมากเราก็พึ่งมารู้ถ้าพ่อผิดคำสาบานขอให้พ่อตายบ้างอะไรบ้างแต่เรายังอยากจะกลับเข้าไปอยู่เพราะเงิน
เราอาจจะดูเห็นแก่ตัวแต่เราอยากให้ครอบครัวสะบายจริงๆนะ แต่ก่อนเราไม่มีแม้กระทั่งชุดนักเรียนใส่ ยิ่งเราโตขึ้นมันยิ่งมีค่าใช้จ่ายเยอะ ไหนจะน้องอีกไหนจะค่าเทอมอีก พ่อนัดน้าAไปถอนคำสาบานที่บ้านเก่า หรือว่าหลังเดิมที่เราเคยอยู่ พ่อหยิบพระมาองค์นึงแล้วก็พูดเชิงประมาณว่าข้าพเจ้าขอสาบานว่าจะไม่ทะเลาะกับนางสาวAและจะรักนางสาวAตลอดไป ตอนนั้นเรากลับไม่รู้สึกอะไรเลยที่เค้ากอดหอมกันต่อหน้าเราและน้อง น้าบอกเราว่าให้ไปย้ายของเข้ามาอยู่เหมือนเดิม แต่บ้านก็คงยังเป็นชื่อน้า
เรากลับมาบอกแม่ว่าเราจะกลับไปอยู่ น้องเราด่าเราว่า”
เนรคุณเห็นแก่ตัว ไม่รู้สึกอะไรบ้างหรอที่เค้ากอดหอมกันแบบนั้น ไม่ใช่แม่นะยอมได้หรอ” เราฉุกคิดไปแปบนึงว่ามันก็จริงแต่เราก็บอกน้องไปว่าเราอยากไปอยู่จริงๆนะ
พ่อพาเราเก็บของส่วนหนึ่ง แม่บอกเราว่า”อะไรที่ไม่จำเป็นก็ไว้ที่นี่ ยังไงซักวันก็ต้องย้ายกลับ ถ้ามีปัญหาอะไรให้กลับมาอยู่กับแม่นะ” ตอนนั้นเรารู้สึกโอเคมากที่แม่เรายังดีกับเราเหมือนเดิมทุกอย่าง เรากลับไปที่นั่นมันมีทั้งความสุขปนกับการทะเลาะกันในแต่ละวัน น้าAยังไม่ค่อยไว้ใจพ่อซักเท่าไหร่ เลยทำให้เหมือนเราแค่ไปอาศัยบ้านเค้าอยู่
ก่อนเราเปิดเทอมเรามีเรื่องที่จะต้องไปโรงเรียนเยอะหน่อย น้าเราไม่ให้ใช้รถไม่ให้พ่อเราไปส่งเรา น้าบอกว่าเสียเวลาทำมาหากินซึ่งตรงนั้นที่เราอยู่มันไกลจากโรงเรียนมาก เราเดินทางลำบากจนพ่อต้องแอบไปส่งเราบ่อยๆ เรามีเพื่อนอยู่แถบนั้นเลยดีหน่อยได้ไปด้วยกันบ้างอะไรบ้าง จนวันหนึ่งเราเรียกพ่อแล้วเปิดประตูเข้าไปในห้องพ่อ เราเห็นเค้า2คนมีอะไรกันอยู่ พ่อเราบอกให้เรารีบปิดประตูก่อนที่พ่อจะมาหาเราที่ห้องโดยที่ทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้ววันถัดมาเค้าก็ทะเลาะกันอีกแล้วพ่อเราเอามือถือเราไปคุยเราก็มานั่งอ่านใ่ามันคืออะไรยังไง เค้าบอกกับเรา(พ่อเรา)ว่า”sexมันคือเรื่องปกติหนูเคยเห็นรึป่าว” พ่อเราก็ตอบไปว่า “เคยเห็นในหนังโป๊ค่ะ” คือตอนนั้นเราแบบอะไรว้ะคือมันเมคหาเรื่องให้เราชัดๆ พ่อเป็นคนที่โกหกแล้วจะให้เราโกหกกับพ่อด้วย พ่อบอกเราว่าการโกหกแบบนี้มันไม่บาปมันเป็นการโกหกขาว
เรารู้สึกว่ามันไม่ใช่ถ้าแบบนั้นทุกคนก็โกหกได้แล้วก็หลอกตัวเองว่าเป็นโกหกขาวก็จบ จนวันนึงพ่อเราใส่ร้ายน้องเราให้เขาฟังว่าน้องเราไม่ชอบเขาอะไรแบบนี้ เค้าเลยบอกว่าเค้ารู้นานแล้วที่น้องเรามาหาเขาก็เพราะเงิน ใช่ค่ะมันคือเรื่องจริงเรื่องที่น้องมาหาน้าAเพราะเงิน เราเลยทนไม่ไหวที่เค้าด่าน้องเราเลยโทรไปหาน้องตอนนั้นแล้วให้น้องฟังเสียงแล้วพิมพ์คุยกันเอา น้องเราบอกว่าขอคุยกับเค้าหน่อยเราก็ไม่ให้เพราะว่ากลัวจะมีเรื่องทะเลาะกัน แต่สุดท้ายน้องเราวางแล้วโทรไปหาพ่อ ตอนนั้นพ่อไม่รู้ว้าที่พ่อทะเลาะถูกฟังจากน้อง น้องเลยฉอดๆแล้วก็ขอสายน้าตอนนั้นเรากลัวไปหมด พ่อก็มองหน้าแบบเคืองว่าแล้วจะไปบอกน้องทำไม น้องเราก็พูดว่าทุกเรื่องมันเมคหมด ตอนนั้นน้าหายไปเกือบอาทิตย์แล้วก็กลับมาปกติกับพ่อเรา
มาจนถึงวันนี้เรากำลังจะไปออกกำลังกายกับเพื่อน เราก็หยอกเล่นๆกับพ่อเราโดยที่ลืมไปว่าน้านาอยู่ด้วย “พ่อไปบอกแม่ใช่หรอว่าหนูมีแฟน” น้าหันควับแล้วถามว่าไปบอกแม่ตอนไหน เราเลยแก้ตัวแทนว่า”อ่าวไม่ได้บอกหรอ หนูแค่คิดว่าพ่อไปบอกหน่ะค่ะ” ตอนนั้นรู้ได้เลยว่าน้าหวงก้างมากเลยให้พ่อขึ้นไปหยิบพระลงมาสาบานว่าไม่ได้ติดต่อกับแม่แต่พ่อไม่ยอมที่จะไปหยิบมา น้าเลยออกไปส่งเราแล้วเราก็ไปออกกำลังกายได้ซักพักน้าก็โทรมาให้เรากลับบ้านไปเก็บของ เราเลยโทรไปปรึกษากับคนคุยเรา เค้าก็ให้กำลังใจเราบวกกับเค้าอยากให้เราไปบางแสน ไปหาเค้าด้วยไปปลดปล่อยแรงกดดันของเราด้วย
เรากลับบ้านมาก่อนจะเก็บของจนหมดเค้าถอนคำสาบานให้พ่อทั้งหมด เราช่วยพ่อเอาของขึ้นรถพ่อเรามีเงินในบัญชี 70,000 บวกกับแผงล็อตเตอรี่ที่ยังขายไม่หมด เรากำลังจะออกจากบ้านเค้าก็มาหาเราที่บ้านอีกรอบ เค้าไม่ให้เราเอารถไป เค้าให้พ่อไปกดเงิน 70,000 มาคืน เรานึกว่าเงินนั้นมันคือเงินเก็บพ่อแต่ไม่ใช่มันคือเงินค่าหวยที่จะจองในล็อตถัดไป เค้าให้เราคืนทุกอย่างแล้วก็บอกว่า “ถ้ามีเงินมห้เอามาคืนเค้าด้วย” แต่ก่อนพ่อเราเคยบอกว่าเค้าข่วยเราแบบจริงใจไม่มีใครดีกว่าเค้าแล้วไม่มีใครให้มากกว่าเค้าแล้ว แต่ตอนนี้เรเามองเค้าเปลี่ยนไป เค้าบอกว่าเรื่องทั้งหมดนี้เค้าจะเอาไปบอกสามีเค้า เราพึ่งมารู้ทีหลังว่าเค้ายังไม่เลิกกัน มันดูเห็นแก่ตัวไปที่บอกมห้พ่อเราเลิกกับแม่แต่เค้ายังไม่เลิกกับสามี ครอบครัวเรารู้หมดว่าพ่อคบกับเค้าแม้กระทั่งญาติพี่น้องพ่อ แต่ครอบครัวเค้ากลับไม่มีใครรู้เลยซักคน
ตอนนี้เรากลับมาอยู่ที่แฟลตเหมือนเดิม เราทะเลาะกับน้องเหมือนเดิมเราเลยนอนคุยกับพ่อว่าจะไปค้างบ้านเพื่อนที่พัทยาเพราะว่าเราไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว อีกไม่กี่วันก็จะเปิดเทอมแล้วด้วย พ่อไม่ให้เราไปไม่ใช่ไม่มีเงินแต่เค้าแค่ไม่ยอมเค้าบอกว่าน้องรักเรามากที่ตีที่ด่าเราเพราะไม่อยากให้เสียคน เราเลยแบบรับแรงกดดันมากกว่าเดิมอีก
ถือว่าเรื่องนี่เรามาเล่าให้ทุกคนฟังนะคะ อาจจะยาวหน่อยแต่เรารู้สึกอยากระบาย ถึงความอึดอัดมันจะยังอยู่กับเราก็เถอะ
เราอยากรู้ว่าตอนนี้เราควรทำตัวยังไงให้อยู่ได้ แบบไม่กดดันเราไม่ใช่คนที่ไม่มีเงินแล้วจะลงแดงตายแต่แค่เราอยากมีที่ส่วนตัว(ไม่อยากอยู่กับน้อง)
เราควรปรับตัวยังไงถ้ากลับมาอยู่ในครอบครัวสภาพแบบเดิม?
พอเราขึ้นป.1 ครอบครัวเราย้ายไปเช่าบ้านในที่ๆหนึ่งในกรุงเทพค่ะ ซึ่งเราก็มีเพื่อนบ้านเยอะแยะเลยค่ะ จนรู้จักกับน้าคนหนึ่ง ขอแทนว่าน้าA ครอบครัวของน้าเค้าเป็นครอบครัวที่ค่อนข้างมีฐานะมากๆเค้ามีลูกสาวแล้วก็ลูกชายค่ะเค้าก็มาช่วยครอบครัวเรานิดๆหน่อยๆค่ะทั้งเรื่องเงินเรื่องอะไร
จนเราอยู่ป.5 พ่อเราได้งานเป็นอาจารย์ที่มหาลัยในภาคใต้ค่ะ เพราะว่าพ่อเราจบสูงแล้วก็มีเพื่อนของญาติพ่อฝากเข้าสอนค่ะเลยได้งาน เราต้องย้ายที่อยู่กับทั้งครอบครัวไปที่จังหวัดนั้นค่ะ พ่อได้เงินมาแสนนึงจากการขายรถให้ญาติพอได้ไปตั้งตัวอะไรบ้าง วันแรกเราไปอยู่ห้องเช่าที่ค่อนข้างกว้างค่ะ ยังไม่ค่อยเข้าที่เข้าทางเท่าไหร่แต่ก็พออยู่ได้ จนเราและน้องเรียนได้ไปอยู่ที่รร.ดังของจังหวัดซึ่งตอนนั้นครอบครัวเรามียานพาหนะแค่อย่างเดียวคือรถมอเตอร์ไซค์เก่าๆที่ยายให้ไว้(แม่ของแม่)
การใช้ชีวิตอยู่ที่จังหวัดนั้นตอนแรกก็ค่อนข้างดีค่ะ แม่เป็นเสมียนที่บริษัทแห่งหนึ่ง ตอนเย็นครอบครัวเราก็ไปหาข้าวกินที่โลตัสค่ะ เวลามีของหรือข้าวใกล้หมดอายุเค้าจะลดราคาเลยต้องไปกินแบบนั้นค่ะ จนมามีปัญหาตอนที่พ่อไม่ได้สอนแล้ว เพราะอะไรบางอย่างในการทำงานเลยทำให้ต้องย้ายกลับมาที่กรุงเทพอีกครั้ง
ม.1 เรามาอยู่ในกรุงเทพค่ะเช่าแฟลตอยู่ เราอยู่โรงเรียนเดียวกับน้องเหมือนเดิมเป็นโรงเรียนดังของเขตเหมือนเดิม ตอนนั้นครอบครัวก็ยังลำบากค่ะแม่ขายของพ่อไม่มีงานทำ จนวันนึงพึ่งรู้ว่าน้าA(ที่เคยเล่าให้ฟังข้างต้น) กลับเข้ามาช่วยเหลือครอบครัวเราผ่านทางพ่อค่ะ เค้าช่วยจ่ายหนี้จ่ายค่าเทอม(ที่ค้างจ่ายตั้งแต่เทอม1) จ่ายค่าใช่จ่ายต่างๆในบ้าน พ่อเรามีงานทำเพราะว่าเค้าให้พ่อเราไปขายล็อตเตอร์รี่ ตอนนั้นครอบครัวเราเริ่มมีกินมีใช้ค่ะเพราะน้าเข้ามาช่วยบวกกับกำไรค่าหวยที่ได้ใช้กินไปวันๆทำให้เราเริ่มรู้สึกสนุกกับการใช้เงิน(เพราะแต่ก็ไม่เคยได้จับเงินเลย)
ม.2-ม.3 เรามีความสุขในช่วงต้นๆทั้งเรื่องเงินเรื่องค่าใช่จ่ายในบ้านแต่พอหลังๆเราเริ่มรู้สึกไม่ดีกับน้องชายเลย จะบอกว่าน้องชายเป็นคนที่แรงมากค่ะเป็นคนพูดตรงไม่กลัวใคร เพื่อนเราเริ่มมีปัญหากับน้องเรา เราเลยเป็นคนกลางที่วันๆนึงเพื่อนก็มาบ่นเรื่องน้องน้องก็มาบ่นเรื่องเพื่อนให้เราฟัง เรากลายเป็นคนที่รับความกดดันอยู่คนเดียวจนเรารู้สึกไม่ค่อยโอเค จวบกับที่น้องเป็นคนชอบบังคับขู่เข็น เวลาอะไรไม่ได้ดั่งใจหรืออะไรที่เราทำก็จะด่าจะตี เราสู้น้องไม่ได้เลย พอเราสู้มันกลับสู้หนังกว่าเดิม (เพราะว่าเป็นน้องชายด้วย) คบกับเพื่อนก็ไม่ให้คบ จะคุยกับใครก็สอดรู้สอดเห็นไปซะทุกอย่าง เราวางโทรศัพท์ไว้ส่วนไหนในบ้านไม่ได้เลย(ลืมบอกว่าเรานอนห้องเดียวกับน้องเนื่องจากบ้านมันเล็กมาก) เปลี่ยนรหัสหน้าจอทุกวันแต่ก็โดนแฮกโดนแอบดูจนเวลาน้องหลับต้องเอามาแอบไว้ใต้หมอนทุกคืน
ตอนนั้นกดดันมากบอกพ่อแม่ก็ไม่มีใครจัดการน้องแบบจริงๆซักคน ปากแม่สักแต่จะพูดว่าเดี๋ยวจะจัดการให้ ปากพ่อก็สักแต่จะพูดว่าน้องเป็นห่วงเรื่องเพื่อนเรื่องแฟนอะไรพวกนี้ ได้แต่นับความกดดันมาเก็บไว้คนเดียวจนเครียด เราเริ่มร้องไห้คนเดียว เริ่มฟังเพลงเศร้าๆ ตอนนั้นเราเริ่มมาสนใจเพื่อนในบอทค่ะ (เพื่อนที่ไม่รู้จักหน้าตากับและพูดคุยผ่านทางอิมเมจศิลปิน)
จนตอนปิดเทอมใหญ่ม.3 น้าAซื้อรถให้พ่อเราคันนึงซึ่งพ่อบอกว่าเป็นเงินกำไรจากที่พ่อขายหวย(ให้น้าAสะสมไว้) พ่อไปช่วยน้าAเป็นนายหน้าขายบ้านค่ะได้ค่าคอมเยอะมาก(พ่อเราบอกเราไม่รู้ว่าจริงรึป่าว) จนวันนึงน้าเค้าซื้อบ้านจะทำใหม่แล้วขายแต่คิดยังไงไม่รู้ยึดค่าคอมพ่อแล้วให้พ่อเราย้ายเข้าไปอยู่กับเค้าโดยที่โอนบ้านเป็นชื่อพ่อ และไม่ให้แม่เราเข้าไปอยู่
เราเลยงงว่าทำไม ในเมื่อมันเงินพ่อเราด้วยและเราก็อยู่เป็นครอบครัวทำไมถึงให้แม่เข้าไปอยู่ไม่ได้จนวันนึงพ่อเตี๊ยมกับเราไว้ว่า ถ้าน้าถามว่าเลิกกับแม่รึยัง ให้บอกว่าเลิกแล้วนะ เราเลยยิ่งงงเข้าไปอีกว่าทำไม เราย้ายออกมากับพ่อ2คนค่ะ น้องอยู่กับแม่(เพราะว่าแม่ไม่ไป)อละเราก็ไม่อยากให้น้องไปด้วยเพราะเราไม่ชอบน้อง วันนั้นจำได้เราเข้าไปอยู่บ้านหลังนั้นเรารู้สึกว่าเรามีความเป็นส่วนตัวมาก เราจะม.4แล้วก็ควรจะมีห้องส่วนตัวอีกอย่างเราเป็นผู้หญิงด้วยนอนกับน้องผู้ชายก็ไม่น่าจะดี
เราอยู่กับมาซักพักค่ะพ่อเริ่มทะเลาะกับน้าบ่อยเราเลยเข้าไปถามความจริงว่ายังไง พ่อบอกว่าน้าAเลิกกับสามีแล้วเพราะว่าสามีไปมีแฟนที่ต่างจังหวัดพ่อเราเลยมาลองคบด้วย น้าให้พ่อทุกอย่างแต่สั่งห้ามไม่ให้พ่อยุางกับแม่ ไม่ให้ไปเจอไม่ให้ไปคุยหรือติดต่ออะไรเลย น้าเช็คโทรศัพท์พ่อตลอดว่าโทรออกเบอร์ใครหรืออะไรบ้าง ตอนนั้นเราไม่อะไรเลยให้พ่อยอมๆเค้าไปก่อนเพราะเรายังหลงระเริงกับคำว่า”เงิน”อยู่
จนพ่อเริ่มเครียดพ่อขายหวยแต่ได้เงินกินวันละไม่กี่ร้อย(ที่เหลือเค้าเก็บหมด) พ่อแทบจะไม่มีเงินเก็บเลยตอนนั้นเค้าบังคับพ่อเราทุกอย่างทั้งที่แบบจะให้อะไรต้องจดๆลงบัญชี ห้ามขาดแม่แต่บาทเดียว ห้ามใช้รถยนต์เพราะเปลืองน้ำมัน ต้องกลับบ้านตรงเวลา พอพ่อกลับช้าเค้าก็จะทะเลาะกับพ่อ น้าเป็นคนเสียงดังมากค่ะคือเรานอนอยู่บนห้องเค้าทะเลาะกันเราต้องเอาหูฟังอัดหูแล้วเปิดเพลงดังๆไม่ให้ได้ยิน แต่เราก็ไม่ไหวต้องลงไปแก้ปัญหาใ้ห้ทุกครั้ง บางทีพ่อก็เอาโทรศัพท์ไปไลน์หาเค้าตอนมีปัญหา(เอาง่ายๆว่าเป็นไลน์เราคุยแต่พ่อเราพิมพ์) มีครั้งนึงเค้าไล่เราและพ่อออกจากบ้านเพราะว่ารู้ว่าพ่อคิดต่อกับแม่ พ่อไม่ยอมทั้งนั้น เค้าด่าว่าพ่อเราตีพ่อเราเราก็ไม่อยากไปจากที่นั่นเพราะว่าทุกๆอย่างมันดี สะดวกสบาย แต่เราก็ต้องยอมเพราะเขาบังคับ เค้าพาพ่อเราไปโอนบ้านคืนให้เค้า พ่อเรายื้อไม่โอนอยู่นานเพราะค่าโอนเกือบแสน แต่เค้าบอกเค้ายอมตอนนั้นเราร้องไห้อัดเสียงอัดคลิปวีดีโอไว้เพราะแม่บอกว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นให้อัดไว้เป็นหลักฐาน
เรากลับมาที่แฟลต(บ้านที่แม่อยู่) เราอยู่ได้วันนึงพ่อก็เอามือถือเราไปคุยกับเขาเพราะเขายังไม่บล็อคไลน์เรา สุดท้ายคุยไปคุยมาพ่อบอกว่าจะจบกับเค้าจริงๆ ซึ่งกล่าวก่อนว่าน้ากับพ่อเค้ามีเรื่องสาบานไว้เยอะมากเราก็พึ่งมารู้ถ้าพ่อผิดคำสาบานขอให้พ่อตายบ้างอะไรบ้างแต่เรายังอยากจะกลับเข้าไปอยู่เพราะเงิน
เราอาจจะดูเห็นแก่ตัวแต่เราอยากให้ครอบครัวสะบายจริงๆนะ แต่ก่อนเราไม่มีแม้กระทั่งชุดนักเรียนใส่ ยิ่งเราโตขึ้นมันยิ่งมีค่าใช้จ่ายเยอะ ไหนจะน้องอีกไหนจะค่าเทอมอีก พ่อนัดน้าAไปถอนคำสาบานที่บ้านเก่า หรือว่าหลังเดิมที่เราเคยอยู่ พ่อหยิบพระมาองค์นึงแล้วก็พูดเชิงประมาณว่าข้าพเจ้าขอสาบานว่าจะไม่ทะเลาะกับนางสาวAและจะรักนางสาวAตลอดไป ตอนนั้นเรากลับไม่รู้สึกอะไรเลยที่เค้ากอดหอมกันต่อหน้าเราและน้อง น้าบอกเราว่าให้ไปย้ายของเข้ามาอยู่เหมือนเดิม แต่บ้านก็คงยังเป็นชื่อน้า
เรากลับมาบอกแม่ว่าเราจะกลับไปอยู่ น้องเราด่าเราว่า” เนรคุณเห็นแก่ตัว ไม่รู้สึกอะไรบ้างหรอที่เค้ากอดหอมกันแบบนั้น ไม่ใช่แม่นะยอมได้หรอ” เราฉุกคิดไปแปบนึงว่ามันก็จริงแต่เราก็บอกน้องไปว่าเราอยากไปอยู่จริงๆนะ
พ่อพาเราเก็บของส่วนหนึ่ง แม่บอกเราว่า”อะไรที่ไม่จำเป็นก็ไว้ที่นี่ ยังไงซักวันก็ต้องย้ายกลับ ถ้ามีปัญหาอะไรให้กลับมาอยู่กับแม่นะ” ตอนนั้นเรารู้สึกโอเคมากที่แม่เรายังดีกับเราเหมือนเดิมทุกอย่าง เรากลับไปที่นั่นมันมีทั้งความสุขปนกับการทะเลาะกันในแต่ละวัน น้าAยังไม่ค่อยไว้ใจพ่อซักเท่าไหร่ เลยทำให้เหมือนเราแค่ไปอาศัยบ้านเค้าอยู่
ก่อนเราเปิดเทอมเรามีเรื่องที่จะต้องไปโรงเรียนเยอะหน่อย น้าเราไม่ให้ใช้รถไม่ให้พ่อเราไปส่งเรา น้าบอกว่าเสียเวลาทำมาหากินซึ่งตรงนั้นที่เราอยู่มันไกลจากโรงเรียนมาก เราเดินทางลำบากจนพ่อต้องแอบไปส่งเราบ่อยๆ เรามีเพื่อนอยู่แถบนั้นเลยดีหน่อยได้ไปด้วยกันบ้างอะไรบ้าง จนวันหนึ่งเราเรียกพ่อแล้วเปิดประตูเข้าไปในห้องพ่อ เราเห็นเค้า2คนมีอะไรกันอยู่ พ่อเราบอกให้เรารีบปิดประตูก่อนที่พ่อจะมาหาเราที่ห้องโดยที่ทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้ววันถัดมาเค้าก็ทะเลาะกันอีกแล้วพ่อเราเอามือถือเราไปคุยเราก็มานั่งอ่านใ่ามันคืออะไรยังไง เค้าบอกกับเรา(พ่อเรา)ว่า”sexมันคือเรื่องปกติหนูเคยเห็นรึป่าว” พ่อเราก็ตอบไปว่า “เคยเห็นในหนังโป๊ค่ะ” คือตอนนั้นเราแบบอะไรว้ะคือมันเมคหาเรื่องให้เราชัดๆ พ่อเป็นคนที่โกหกแล้วจะให้เราโกหกกับพ่อด้วย พ่อบอกเราว่าการโกหกแบบนี้มันไม่บาปมันเป็นการโกหกขาว
เรารู้สึกว่ามันไม่ใช่ถ้าแบบนั้นทุกคนก็โกหกได้แล้วก็หลอกตัวเองว่าเป็นโกหกขาวก็จบ จนวันนึงพ่อเราใส่ร้ายน้องเราให้เขาฟังว่าน้องเราไม่ชอบเขาอะไรแบบนี้ เค้าเลยบอกว่าเค้ารู้นานแล้วที่น้องเรามาหาเขาก็เพราะเงิน ใช่ค่ะมันคือเรื่องจริงเรื่องที่น้องมาหาน้าAเพราะเงิน เราเลยทนไม่ไหวที่เค้าด่าน้องเราเลยโทรไปหาน้องตอนนั้นแล้วให้น้องฟังเสียงแล้วพิมพ์คุยกันเอา น้องเราบอกว่าขอคุยกับเค้าหน่อยเราก็ไม่ให้เพราะว่ากลัวจะมีเรื่องทะเลาะกัน แต่สุดท้ายน้องเราวางแล้วโทรไปหาพ่อ ตอนนั้นพ่อไม่รู้ว้าที่พ่อทะเลาะถูกฟังจากน้อง น้องเลยฉอดๆแล้วก็ขอสายน้าตอนนั้นเรากลัวไปหมด พ่อก็มองหน้าแบบเคืองว่าแล้วจะไปบอกน้องทำไม น้องเราก็พูดว่าทุกเรื่องมันเมคหมด ตอนนั้นน้าหายไปเกือบอาทิตย์แล้วก็กลับมาปกติกับพ่อเรา
มาจนถึงวันนี้เรากำลังจะไปออกกำลังกายกับเพื่อน เราก็หยอกเล่นๆกับพ่อเราโดยที่ลืมไปว่าน้านาอยู่ด้วย “พ่อไปบอกแม่ใช่หรอว่าหนูมีแฟน” น้าหันควับแล้วถามว่าไปบอกแม่ตอนไหน เราเลยแก้ตัวแทนว่า”อ่าวไม่ได้บอกหรอ หนูแค่คิดว่าพ่อไปบอกหน่ะค่ะ” ตอนนั้นรู้ได้เลยว่าน้าหวงก้างมากเลยให้พ่อขึ้นไปหยิบพระลงมาสาบานว่าไม่ได้ติดต่อกับแม่แต่พ่อไม่ยอมที่จะไปหยิบมา น้าเลยออกไปส่งเราแล้วเราก็ไปออกกำลังกายได้ซักพักน้าก็โทรมาให้เรากลับบ้านไปเก็บของ เราเลยโทรไปปรึกษากับคนคุยเรา เค้าก็ให้กำลังใจเราบวกกับเค้าอยากให้เราไปบางแสน ไปหาเค้าด้วยไปปลดปล่อยแรงกดดันของเราด้วย
เรากลับบ้านมาก่อนจะเก็บของจนหมดเค้าถอนคำสาบานให้พ่อทั้งหมด เราช่วยพ่อเอาของขึ้นรถพ่อเรามีเงินในบัญชี 70,000 บวกกับแผงล็อตเตอรี่ที่ยังขายไม่หมด เรากำลังจะออกจากบ้านเค้าก็มาหาเราที่บ้านอีกรอบ เค้าไม่ให้เราเอารถไป เค้าให้พ่อไปกดเงิน 70,000 มาคืน เรานึกว่าเงินนั้นมันคือเงินเก็บพ่อแต่ไม่ใช่มันคือเงินค่าหวยที่จะจองในล็อตถัดไป เค้าให้เราคืนทุกอย่างแล้วก็บอกว่า “ถ้ามีเงินมห้เอามาคืนเค้าด้วย” แต่ก่อนพ่อเราเคยบอกว่าเค้าข่วยเราแบบจริงใจไม่มีใครดีกว่าเค้าแล้วไม่มีใครให้มากกว่าเค้าแล้ว แต่ตอนนี้เรเามองเค้าเปลี่ยนไป เค้าบอกว่าเรื่องทั้งหมดนี้เค้าจะเอาไปบอกสามีเค้า เราพึ่งมารู้ทีหลังว่าเค้ายังไม่เลิกกัน มันดูเห็นแก่ตัวไปที่บอกมห้พ่อเราเลิกกับแม่แต่เค้ายังไม่เลิกกับสามี ครอบครัวเรารู้หมดว่าพ่อคบกับเค้าแม้กระทั่งญาติพี่น้องพ่อ แต่ครอบครัวเค้ากลับไม่มีใครรู้เลยซักคน
ตอนนี้เรากลับมาอยู่ที่แฟลตเหมือนเดิม เราทะเลาะกับน้องเหมือนเดิมเราเลยนอนคุยกับพ่อว่าจะไปค้างบ้านเพื่อนที่พัทยาเพราะว่าเราไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว อีกไม่กี่วันก็จะเปิดเทอมแล้วด้วย พ่อไม่ให้เราไปไม่ใช่ไม่มีเงินแต่เค้าแค่ไม่ยอมเค้าบอกว่าน้องรักเรามากที่ตีที่ด่าเราเพราะไม่อยากให้เสียคน เราเลยแบบรับแรงกดดันมากกว่าเดิมอีก
ถือว่าเรื่องนี่เรามาเล่าให้ทุกคนฟังนะคะ อาจจะยาวหน่อยแต่เรารู้สึกอยากระบาย ถึงความอึดอัดมันจะยังอยู่กับเราก็เถอะ
เราอยากรู้ว่าตอนนี้เราควรทำตัวยังไงให้อยู่ได้ แบบไม่กดดันเราไม่ใช่คนที่ไม่มีเงินแล้วจะลงแดงตายแต่แค่เราอยากมีที่ส่วนตัว(ไม่อยากอยู่กับน้อง)