ย้อนกลับไปเมื่อตอนเราอยู่ประถม บ้านเรามีลูก2คนนะคะ คือเราแล้วก็น้องชาย แม่เราก็ได้รู้จักกับคนรู้จักของพ่อค่ะ วันนั้นที่บ้านจัดงานวันเกิดเรา เขาก็เลยมาร่วมงานด้วย
(ขอสมมุติชื่อว่าน้าดำละกันนะ) และวันนั้นก็เป็นวันแรกที่แม่เรารู้จักเขา เรื่องมันเริ่มจากว่า เขาชวนออกไปซื้อกับแกล้มกันมั้ง หลังจากนั้นเราก็เห็นแม่ออกไปช้างนอกบ่อยขึ้นทุกวันๆ พอเราเปิดเทอม น้าดำก็จะแอบมารับเรากับแม่ไปส่งที่โรงเรียน ทำแบบนี้อยู่หลายครั้ง จนวันนึงพ่อเรารู้เรื่องเข้า ก็เลยเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโตเลย เขาก็เลยออกไปเคลียร์กันนอกบ้าน ตอนนั้นเรายังเด็กก็เลยไม่ได้คิดอะไร นอนดูการ์ตูนในห้องกับน้องชาย แล้วก็เผลอหลับไปพอวันรุ่งขึ้นก็เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ว่าน้าดำก็แอบไปรับส่งเราทุกครั้งเลย คอยซื้อน้ำให้ ซื้อของกินให้ ให้เงินไปโรงเรียน จนเราขึ้นม.1
เรียกได้ว่าเป็นผู้มีพระคุณสำหรับเราเลยล่ะ
พ่อเราก็ไม่ได้ยากจนอะไร พ่อเราก็ให้เงินซื้อไรให้เหมือนกับที่น้าดำให้นั่นแหละ
จนมาวันนึง แม่เราก็ย้ายไปอยู่ภาคเหนือ
(บ้านเกิดแม่เรา)
เพราะช่วงนั้นยายเราติดเตียง เลยไปดูแล
ละก็ชอบทะเลาะกับน้าดำ ถึงขั้นใช้กูด่าเขา
จนตอนนี้ก็ไม่คุยกันละ แล้วเขาก็ไปมีแฟนใหม่
ตอนแรกเราไม่รู้ พ่อเรามีญาติอยู่ที่นั่น เขาเลยบอกว่าเมียเธอคบกับคนนี้อยู่นะ เราก็โตพอที่จะรับรู้อะไรแบบนี้ได้ พ่อก็เลยเป็นที่ระบายกับเรา เราก็คุยกันแค่2คน ไม่อยากให้น้องชายรู้ เดี๋ยวมันจะยอมรับไม่ได้ ก่อนที่เขาจะเปิดตัวแฟนเขา เขาก็มามีปัญหากับญาติๆเรา พ่อเราก็เลยหน้าแตก เราก็สงสารพ่อมากเลยค่ะ
พ่อเราระบายกับเรา"ถ้าจะไปทำไมไม่บอกดีๆ"
เราก็เห็นด้วยกับพ่อนะ ก็ได้แค่ปลอบใจตัวเอง เพราะเราก็มีภูมิต้านทานมาจากคุณน้าดำแล้ว
เราเลยไม่ได้อะไรมากกับแฟนใหม่แม่ แต่เราก็ไม่ได้บอกพ่อว่าเรารู้สึกยังไง พ่อเรากลัวเรารู้สึกแย่มาก แต่กลับกันเราอ่ะสงสารพ่อมากกว่า แม่เขาโทรมาขอเงินค่ารถ พ่อเราก็ให้นะ บอกจะมารับลูกไปเที่ยว พอไปก็ได้รู้จักกับพ่อเลี้ยง เขาเป็นคนใจดี ตั้งใจทำงาน
แต่แม่เราชอบมีปัญหากับเราและน้องชายตลอดเลย ไม่รู้จะพูดอะไรนักหนา พูดแบบแทงใจดำอ่ะ เราไม่ชอบเลย อยู่บ้านพ่อเราเขาก็แชทมาพูดแบบนี้ตลอด เวลาที่มีปัญหากัน
แล้วพอเขามาบ้านพ่อ ก็ต้องปิดความหลับอีก เดี๋ยวพ่อเลี้ยงไม่มานะ ไปนู่นนี่ มาคนเดียว
เราอึดอัดมาก มันไม่ได้รู้สึกดีเหมือนกับน้าดำ
แม่เราเป็นคนที่พริ้วเก่ง พอถามนู่นก็อ้างนี้ พ่อเราก็ชินไปแล้วแหละ ละอีกอย่างคือแม่ติดโซเชียลมาก พอไม่พอใจอะไรก็โพสต์ๆ เหมือนโพสต์ว่าพ่อแบบอ้อมๆอ่ะ แนวแซะซะมากกว่า
พ่อแม่เราเคยทะเลาะกันถึงขั้นจะฆ่าแกงกันอยู่แล้วอ่ะ เราก็เบื่อมากที่เจออะไรแบบนี้
ช่วงนั้นเราสอบเขาม.3ก็ต้องใช้สมาธิอ่านข้อสอบ ทนมาจนตอนนี้ เราก็กำลังจะอ่านหนังสือเตรียมเข้ามหาลัยปีหน้า เราก็เครียดเรื่องแม่ ชอบให้เราโกหกนู่นนี่พ่อ เราไม่ชอบการโกหกที่สุดเลย ก็ยังจะโดนบังคับ บอกว่าเครียดอย่างนู้นอย่างนี้ ละก็ดึงเราไปเครียด
ทุกวันนี้ยังทะเลาะกับพ่ออยู่เลย ทั้งที่เลิกกันไปแล้ว บางทีก็นอนร้องไห้เครียดอะไรกับเรื่องพวกนี้มากๆค่ะ เราไม่รู้จะโฟกัสตรงไหน
ทั้งเป็นห่วงน้องชาย เรื่องเรียนต่อมหาลัย
ละก็เรื่องครอบครัวอีก ปวดหัวจะแย่อยู่ละ
แม่เราเคยขู่เราตอนเด็กว่า ถ้าไม่อยากให้ครอบครัวแตกแยกก็อย่าเอาไปพูดกับพ่อ
เราไม่อยากให้เป็นแบบนั้นก็พยายามปิดมาโดยตลอด สุดท้ายทุกวันนี้ก็เลิกลากันไป แต่เราก็งงอีกนะ ว่าเลิกลากันไปแล้วจะทะเลาะกันอีกทำไม แทนที่จะคุยกันดีๆ ทำเพื่อลูกไม่ได้รึไง จะแซะจะว่ากันทำไม นั่นแหละค่ะเราก็เลยเครียด ไม่มีกระจิตกระใจอ่านข้อสอบเลย
อยากได้คำแนะนำดีๆ จะได้เอาไปปรับใช้ค่ะ
แม่มีชู้ตั้งแต่เด็กจนโต
(ขอสมมุติชื่อว่าน้าดำละกันนะ) และวันนั้นก็เป็นวันแรกที่แม่เรารู้จักเขา เรื่องมันเริ่มจากว่า เขาชวนออกไปซื้อกับแกล้มกันมั้ง หลังจากนั้นเราก็เห็นแม่ออกไปช้างนอกบ่อยขึ้นทุกวันๆ พอเราเปิดเทอม น้าดำก็จะแอบมารับเรากับแม่ไปส่งที่โรงเรียน ทำแบบนี้อยู่หลายครั้ง จนวันนึงพ่อเรารู้เรื่องเข้า ก็เลยเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโตเลย เขาก็เลยออกไปเคลียร์กันนอกบ้าน ตอนนั้นเรายังเด็กก็เลยไม่ได้คิดอะไร นอนดูการ์ตูนในห้องกับน้องชาย แล้วก็เผลอหลับไปพอวันรุ่งขึ้นก็เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ว่าน้าดำก็แอบไปรับส่งเราทุกครั้งเลย คอยซื้อน้ำให้ ซื้อของกินให้ ให้เงินไปโรงเรียน จนเราขึ้นม.1
เรียกได้ว่าเป็นผู้มีพระคุณสำหรับเราเลยล่ะ
พ่อเราก็ไม่ได้ยากจนอะไร พ่อเราก็ให้เงินซื้อไรให้เหมือนกับที่น้าดำให้นั่นแหละ
จนมาวันนึง แม่เราก็ย้ายไปอยู่ภาคเหนือ
(บ้านเกิดแม่เรา)
เพราะช่วงนั้นยายเราติดเตียง เลยไปดูแล
ละก็ชอบทะเลาะกับน้าดำ ถึงขั้นใช้กูด่าเขา
จนตอนนี้ก็ไม่คุยกันละ แล้วเขาก็ไปมีแฟนใหม่
ตอนแรกเราไม่รู้ พ่อเรามีญาติอยู่ที่นั่น เขาเลยบอกว่าเมียเธอคบกับคนนี้อยู่นะ เราก็โตพอที่จะรับรู้อะไรแบบนี้ได้ พ่อก็เลยเป็นที่ระบายกับเรา เราก็คุยกันแค่2คน ไม่อยากให้น้องชายรู้ เดี๋ยวมันจะยอมรับไม่ได้ ก่อนที่เขาจะเปิดตัวแฟนเขา เขาก็มามีปัญหากับญาติๆเรา พ่อเราก็เลยหน้าแตก เราก็สงสารพ่อมากเลยค่ะ
พ่อเราระบายกับเรา"ถ้าจะไปทำไมไม่บอกดีๆ"
เราก็เห็นด้วยกับพ่อนะ ก็ได้แค่ปลอบใจตัวเอง เพราะเราก็มีภูมิต้านทานมาจากคุณน้าดำแล้ว
เราเลยไม่ได้อะไรมากกับแฟนใหม่แม่ แต่เราก็ไม่ได้บอกพ่อว่าเรารู้สึกยังไง พ่อเรากลัวเรารู้สึกแย่มาก แต่กลับกันเราอ่ะสงสารพ่อมากกว่า แม่เขาโทรมาขอเงินค่ารถ พ่อเราก็ให้นะ บอกจะมารับลูกไปเที่ยว พอไปก็ได้รู้จักกับพ่อเลี้ยง เขาเป็นคนใจดี ตั้งใจทำงาน
แต่แม่เราชอบมีปัญหากับเราและน้องชายตลอดเลย ไม่รู้จะพูดอะไรนักหนา พูดแบบแทงใจดำอ่ะ เราไม่ชอบเลย อยู่บ้านพ่อเราเขาก็แชทมาพูดแบบนี้ตลอด เวลาที่มีปัญหากัน
แล้วพอเขามาบ้านพ่อ ก็ต้องปิดความหลับอีก เดี๋ยวพ่อเลี้ยงไม่มานะ ไปนู่นนี่ มาคนเดียว
เราอึดอัดมาก มันไม่ได้รู้สึกดีเหมือนกับน้าดำ
แม่เราเป็นคนที่พริ้วเก่ง พอถามนู่นก็อ้างนี้ พ่อเราก็ชินไปแล้วแหละ ละอีกอย่างคือแม่ติดโซเชียลมาก พอไม่พอใจอะไรก็โพสต์ๆ เหมือนโพสต์ว่าพ่อแบบอ้อมๆอ่ะ แนวแซะซะมากกว่า
พ่อแม่เราเคยทะเลาะกันถึงขั้นจะฆ่าแกงกันอยู่แล้วอ่ะ เราก็เบื่อมากที่เจออะไรแบบนี้
ช่วงนั้นเราสอบเขาม.3ก็ต้องใช้สมาธิอ่านข้อสอบ ทนมาจนตอนนี้ เราก็กำลังจะอ่านหนังสือเตรียมเข้ามหาลัยปีหน้า เราก็เครียดเรื่องแม่ ชอบให้เราโกหกนู่นนี่พ่อ เราไม่ชอบการโกหกที่สุดเลย ก็ยังจะโดนบังคับ บอกว่าเครียดอย่างนู้นอย่างนี้ ละก็ดึงเราไปเครียด
ทุกวันนี้ยังทะเลาะกับพ่ออยู่เลย ทั้งที่เลิกกันไปแล้ว บางทีก็นอนร้องไห้เครียดอะไรกับเรื่องพวกนี้มากๆค่ะ เราไม่รู้จะโฟกัสตรงไหน
ทั้งเป็นห่วงน้องชาย เรื่องเรียนต่อมหาลัย
ละก็เรื่องครอบครัวอีก ปวดหัวจะแย่อยู่ละ
แม่เราเคยขู่เราตอนเด็กว่า ถ้าไม่อยากให้ครอบครัวแตกแยกก็อย่าเอาไปพูดกับพ่อ
เราไม่อยากให้เป็นแบบนั้นก็พยายามปิดมาโดยตลอด สุดท้ายทุกวันนี้ก็เลิกลากันไป แต่เราก็งงอีกนะ ว่าเลิกลากันไปแล้วจะทะเลาะกันอีกทำไม แทนที่จะคุยกันดีๆ ทำเพื่อลูกไม่ได้รึไง จะแซะจะว่ากันทำไม นั่นแหละค่ะเราก็เลยเครียด ไม่มีกระจิตกระใจอ่านข้อสอบเลย
อยากได้คำแนะนำดีๆ จะได้เอาไปปรับใช้ค่ะ