ให้ยืม-เช่า การให้ความช่วยเหลือรัสเซียช่วงเลวร้ายที่สุดจากสหรัฐอเมริกา



พลขับรถถัง The 1st Baltic Front
หยุดพักใกล้รถถัง Sherman
ได้สนับสนุนภายใต้โครงการ
ให้ยืม-เช่า จากสหรัฐอเมริกา
Sergey Baranov/RIA Novosti



เดือนนี้จะครบรอบ 75 ปี
ที่สหรัฐอเมริกาให้ยืม-เช่า Lend-Lease
เพื่อสนับสนุนพันธมิตร
ในการทำสงครามกับ Hitler

แม้ว่าสหภาพโซเวียต
จะเคยแสแสร้งว่า
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญก็ตาม

แต่ในเวลาต่อมา
จอมพล Georgy Konstantinovich Zhukov
กลับยอมรับในเรื่องนี้ว่าเป็นเรื่องจริง

วันที่ 11 มีนาคม 1941
Franklin D. Roosevelt
ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
ได้ลงนามกฎหมายให้ยืม-เช่า
(Lend-Lease Bill 1942)
ที่อนุญาตให้สหรัฐอเมริกา
สนับสนุนวัสดุต่าง ๆ ให้กับพันธมิตร
ที่ร่วมมือในการทำสงครามกับ Hitler
 

พวกเขาให้แผ่นเหล็กเราจำนวนเท่าไหร่

“ ตอนนี้ใครบางคนบอกว่า
พันธมิตรไม่เคยช่วยเหลือเรา
แต่จริง ๆ แล้วเราไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า
สหรัฐอเมริกาได้ให้สิ่งของมากมายกับเรา

ถ้าเราไม่ได้สิ่งของเหล่านี้
เราคงสนับสนุนกองทัพไม่ได้
และคงจะทำสงครามต่อไปไม่ได้ด้วยเช่นกัน

เราไม่มีระเบิด ดินปืน
เราไม่มีทั้งกระสุนปืนไรเฟิลของเรา
ชาวอเมริกันช่วยเหลือพวกเรา
ด้วยดินปืนและวัตถุระเบิดจริง ๆ
แล้วพวกเขาให้แผ่นเหล็กเราจำนวนเท่าไหร่
เราจะผลิตรถถังของเราได้อย่างไร
หากปราศจากแผ่นเหล็กของอเมริกา
แต่ตอนนี้ใครบางคนทำให้ดูเหมือนว่า
เรามีทุกสิ่งทุกอย่างมากมาย
แต่ถ้าปราศจากรถบรรทุกอเมริกัน
เราก็ไม่มีอะไรที่จะลากจูงปืนใหญ่ของเรา ”
จอมพล Georgy Zhukov กล่าว
หลังจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2

เงินกู้ที่กลายเป็นประวัติศาสตร์

ประวัติความเป็นมาของการให้ยืม - เช่า
เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 1940
เมื่อ Winston Churchill 
นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ
ได้ขอให้ Franklin D. Roosevelt
ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
มอบเรือพิฆาตที่ใช้งานแล้วราว 40-50 ลำ
ให้กับอังกฤษเป็นการชั่วคราว
โดยแลกเปลี่ยนกับฐานทัพเรือ/ฐานทัพอากาศ
ของอังกฤษในมหาสมุทร Atlantic

ชาวอเมริกันยังจำกฎหมายในปี 1892
ซึ่งสอดคล้องกับหลักการ/นโยบาย
ของรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม
ที่สามารถให้ใครก็ได้เช่า
ทรัพย์สินกองทัพได้สูงสุดถึง 5 ปี
ถ้าประเทศยังไม่จำเป็นต้องใช้งาน
ตามกฎหมายดังกล่าวนี้
โครงการการสนับสนุนพันธมิตร
ด้วยการให้ยืม-เช่าอาวุธยุทโธปกรณ์
ซึ่งมีการพัฒนาขึ้นมา
เป็นกฎหมายครั้งสำคัญ
โดย Franklin D. Roosevelt
ได้ลงนามในกฎหมาย
เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 1941

เงื่อนไขของโครงการให้ยืม-เช่า คือ
ถ้าทรัพย์สินของอเมริกาที่ให้ยืม-เช่า
ถ้าถูกทำลายสูญหายในช่วงสงคราม
ไม่จำเป็นต้องชำระเงินคืนแต่อย่างใด

แต่ต้องชำระเงินก็ต่อเมื่อ
ถ้าทรัพย์สินของอเมริกานั้น
ยังคงมีอยู่หลังจากสงครามสิ้นสุดลง
และได้ถูกนำไปใช้กิจการของพลเรือน

ศัตรูขาประจำ คือ ลัทธิคลั่งฮิตเลอร์
จอมกระหายเลือด


Joseph Stalin ผู้นำสหภาพโซเวียต
ได้ตัดสินใจเข้าร่วมกับโครงการให้ยืม-เช่า
หลังจากนาซีเยอรมนีบุกสหภาพโซเวียต
ในเดือนมิถุนายน 1941



สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร
และแคนาดากลายเป็น
ผู้จัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์
ที่มีมูลค่า 130 พันล้านเหรียญสหรัฐ
ให้พันธมิตรในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 
Anatoly Garanin / RIA Novosti



" การตัดสินใจของท่านประธานาธิบดี
ที่ได้ให้เครดิตกับสหภาพโซเวียต
โดยปลอดดอกเบี้ย 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ
ในรูปของวัสดุและวัตถุดิบ
ให้กับสหภาพโซเวียต

ด้วยความขอบคุณอย่างจริงใจ
ในการให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
ให้กับกองทัพสหภาพโซเวียต
ที่ต้องต่อสู้กับศัตรูที่ยากลำบาก
ลัทธิคลั่งฮิตเลอร์จอมกระหายเลือด "
Joseph Stalin มีสาส์นถึง
Franklin D. Roosevelt

ในเดือนสิงหาคม 1941
ขบวนเรือสินค้าอเมริกันลำแรก
ได้เดินทางส่งวัสดุและวัตถุดิบ
ไปยังสหภาพโซเวียต

หลังจากนั้นไม่นานนัก
นาซีเเยอรมันก็พบเส้นทางขบวนขนส่ง
จึงเริ่มทำการโจมตีทำลายขบวนขนส่ง
ทำให้ฝ่ายพันธมิตรประสบกับ
ความสูญเสียครั้งใหญ่
โดยเฉพาะในช่วงสงคราม
เรือดำน้ำ/เรือตอร์ปิโดของนาซีเยอรมัน
ได้จมเรือสินค้ามากกว่า 80 ลำ
ที่เดินทางไปยังสหภาพโซเวียต

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
สหรัฐอเมริกาให้สหภาพโซเวียต
ยืม-เช่าเครื่องบินมากกว่า 14,000 ลำ
จำนวน 8,000 ลำลำเลียงมาจาก Alaska
รถจี๊ปอเมริกัน 44,000 คัน
รถบรรทุกสินค้า 375,883 คัน
รถแทรกเตอร์ 8,071 คัน
และรถถัง 12,700 คัน
นอกจากนี้ยังมี ผ้าห่ม 1,541,590 ผืน
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 331,066 ลิตร
รองเท้าบู๊ตทหาร 15,417,000 คู่
ฝ้ายจำนวน 106,893 ตัน
ผลิตภัณฑ์น้ำมัน 2,670,000 ตัน
และเสบียงอาหาร 4,478,000 ตัน

รัฐบาลรัสเซียต้องการปกปิเ
ข้อเท็จจริงว่าได้รับความช่วยเหลือ
จากสหรัฐอเมริกา


ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2
รัฐบาลสหภาพโซเวียต
ได้พยายามลดบทบาท/ปกปิด
การช่วยเหลือจากต่างประเทศ
(โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากสหรัฐอเมริกา)

เรื่องนี้ทำให้ William Standley
เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำรัสเซีย
ไม่พอใจ/ขุ่นเคืองอย่างแรง
จนโกรธเป็นฟืนเป็นไฟในเรื่องนี้
.


75 ปีที่แล้วสหรัฐอเมริกา
ได้ลงนามกฎหมายครั้งสำคัญ
เพื่อจัดหาสินค้าสำคัญให้พันธมิตร
© RIA Novosti



" ดูเหมือนว่ารัฐบาลรัสเซีย
ต้องการปิดบังข้อเท็จจริง
ที่ว่ารัสเซียได้รับความช่วยเหลือจากภายนอก
แน่นอนว่ารัฐบาลรัสเซียต้องการ
โฆษณาชวนเชื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่า
กองทัพแดงต่อสู้กับสงครามครั้งนี้เพียงลำพัง "
William Standley แถลงข่าว
ในเดือนมีนาคม 1943

" หลังจากการพูดคุยกันทางโทรศัพท์
แบบพายุโหมกระหน่ำ (โกรธอย่างแรง)
ราวห้าชั่วโมงกับหน่วยงานเซ็นเซอร์
ข่าวของรัสเซีย ทำให้ข้อความของ
Standley ได้รับการตีพิมพ์

Kozhemyako หัวหน้าหน่วยงาน
เซ็นเซอร์ข่าวสำนักข่าวต่าง ๆ
โกรธจนตัวสั่นก่อนที่ประทับ
ตราอนุมัติให้ตีพิมพ์ได้
บนข้อความที่จะส่งทางโทรเลข
เพราะแม่ของเขาเสียชีวิต
ด้วยความหิวใน Leningrad ”
Alexander Werth
ผู้สื่อข่าวBBC's Moscow
เล่ารำลึกความหลัง
 

พวกยิวและหนี้

หลังจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2
สหรัฐอเมริกาได้ขอให้ประเทศต่าง ๆ
จ่ายค่าทรัพย์สินที่แต่ละประเทศได้รับ
เช่น เรือกลไฟ รถบรรทุก โรงไฟฟ้า

สหรัฐอเมริกาเชื่อว่าสหภาพโซเวียต
ต้องจ่ายเงิน 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ
แต่เจ้าหน้าที่ของสหภาพโซเวียต
กลับกล่าวว่าจะจ่ายเงินให้เพียง
170 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น

แน่นอน  สหรัฐอเมริกาไม่ยอมรับ
เงื่อนไขนี้ทึ่สหภาพโซเวียตเสนออยู่แล้ว

จนนำไปสู่การเจรจาในปี 1972
ซึ่งทั้งสองประเทศได้ลงนาม
ในข้อตกลงร่วมกันว่า
ภายในปี 2001
สหภาพโซเวียตต้องจ่ายเงิน
722 ล้านเหรียญสหรัฐให้สหรัฐอเมริกา

ในปีต่อมา
สหภาพโซเวียตได้จ่ายเงิน
จำนวน 48 ล้านเหรียญสหรัฐให้สหรัฐ

แต่พอมีเหตุการแก้ไขกฎหมาย
ของ Jackson-Vanik
นักการเมืองอเมริกัน
ที่ระบุว่าสหรัฐอเมริกาต้องจำกัด
การค้ากับบรรดาประเทศ
ที่ขัดขวางการอพยพย้ายถิ่น
และละเมิดสิทธิมนุษยชน
ทำให้สหภาพโซเวียต
ถือโอกาสยุติการจ่ายเงิน

หนึ่งในเหตุผลหลัก
ที่รัสเซียไม่พอใจอย่างแรง คือ
สหรัฐอเมริกาต้องการให้รัสเซีย
แก้ไขกฎหมายยินยอมให้ชาวยิว
เดินทางออกจากสหภาพโซเวียตได้

ในปี 1990
สหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียต
ได้กลับมาเจรจากันใหม่อีกครั้ง
มีข้อตกลงใหม่ว่าในปี 2030
สหรัฐอเมริกาจะได้รับเงินคืน  
674 ล้านเหรียญสหรัฐตามยอดคงเหลือ

แต่ในปีต่อมา
สหภาพโซเวียตล่มสลาย
แตกเป็นประเทศเล็กประเทศน้อย

ในปี 1993
รัฐบาลรัสเซียได้ประกาศว่า
จะชำระหนี้ค่าทรัพย์สินทั้งหมด
ที่สหภาพโซเวียตได้ยืม-เช่า
จากสหรัฐอเมริกาในไม่ช้านี้


เรียบเรียง/ที่มา

https://bit.ly/2E34PDv
https://bit.ly/2VxiKMN




Franklin D. Roosevelt



Joseph Stalin




Adolf Hitler





Winston Churchill



 

Georgy Zhukov




Peter Ermakov ยืนอยู่ทึ่
ทางไปหลุมศพลับของ
พระเจ้า Tsar กับพระราชวงศ์


เมื่อ 12 สิงหาคม 2018
ได้มีผู้ลักลอบบุกเข้าไป
ที่สุสาน Ekaterinburg
เพื่อเทสีแดงใส่ป้ายสุสาน
Peter Ermakov
แสดงสัญลักษณ์การแก้แค้น
สิ่งที่มันทำไว้ นับเป็นครั้งที่ 3 แล้ว
ส่วนทางการรัสเซียก็ไม่สนใจ
เสาะหาผู้ต้องหาแต่อย่างใด

มันคือ หนึ่งในมือสังหารราชวงศ์พระเจ้าซาร์
และมันเป็นคนแทงพระราชธิดา 4 พระองค์
ด้วยมีด อย่างโหดเหี้ยมและป่าเถื่อน

ในปี 1951
ที่ Sverdlovsk ในงานเลี้ยงพรรคคอมมิวนิสต์
มันได้พบกับ Georgy  Zhukov วีรบุรุษโซเวียต
ท่านเคยเป็นนายทหารกองทัพพระเจ้าซาร์
และเคยได้รับเหรียญกล้าหาญจากพระเจ้าซาร์

มันยื่นมือมาขอจับมือท่าน
ท่านมองหน้ามัน จ้องตามัน
แล้วขมวดคิ้วอย่างรังเกียจ
พรัอมกับพึมพำว่า
กูไม่จับมือกับมxง ไอ้ฆาตกร "



© https://bit.ly/30f3y5P




William Standley




Alexander Werth





Henry M. "Scoop" Jackson
วุฒิสมาชิกรัฐ Washington กับ
Charles A. Vanik
สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร รัฐ Ohio




ป้ายโฆษณาชวนเชื่อ
ที่รณรงค์กฎหมายฉบับนี้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่