ผมชอบประวัติเรื่องราวของกลุ่มชนต่าง ๆ ทั่วโลก อันนี้ก็จะมาแปะไว้เรื่องของชาวสลาฟ
อาหารในแบบวัฒนธรรมของชาวสลาฟ
. . .
ชาวสลาฟอยู่ในกลุ่ม อินโด-ยูโรเปียน (Indo-European language family) ซึ่งเป็นตระกูลภาษาขนาดใหญ่ที่รวมถึงภาษาอื่น ๆ ในยุโรปและเอเชียใต้ ภายในตระกูลนี้ ภาษาและกลุ่มชาติพันธุ์สลาฟจะแบ่งออกเป็นสามกลุ่มหลักตามภูมิภาค:
1. กลุ่มสลาฟตะวันตก (West Slavic languages): รวมถึงภาษาโปแลนด์ เช็ก สโลวัก
2. กลุ่มสลาฟตะวันออก (East Slavic languages): รวมถึงภาษารัสเซีย ยูเครน เบลารุส
3. กลุ่มสลาฟใต้ (South Slavic languages): รวมถึงภาษาเซอร์เบีย โครเอเชีย บัลแกเรีย มาซิโดเนีย สโลวีเนีย
. . .
การแยกประเทศของชาวสลาฟ
มีผลมาจากหลายปัจจัย ได้แก่:
1.
การขยายตัวและการเคลื่อนย้ายของประชากร: ในยุคแรก ชาวสลาฟอพยพขยายตัวจากยุโรปตะวันออกไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม
2.
การเกิดขึ้นของอาณาจักรและรัฐในยุคกลาง: ในช่วงยุคกลาง ชาวสลาฟได้ตั้งอาณาจักรหลายแห่ง เช่น อาณาจักรรุสแห่งเคียฟ (Kievan Rus) ในปัจจุบันคือรัสเซียและยูเครน และอาณาจักรของชาวโปแลนด์และเช็ก ซึ่งพัฒนากลายเป็นรัฐสมัยใหม่
3.
การแบ่งแยกทางศาสนา: ในศตวรรษที่ 11 เหตุการณ์ “การแตกแยกใหญ่” (Great Schism) ในคริสต์ศาสนานำไปสู่การแบ่งแยกระหว่างคริสตจักรตะวันตก (โรมันคาทอลิก) และคริสตจักรตะวันออก (ออร์โธดอกซ์) ซึ่งส่งผลให้ชาวสลาฟบางส่วนติดตามคาทอลิก เช่น โปแลนด์ และบางส่วนติดตามออร์โธดอกซ์ เช่น รัสเซีย เซอร์เบีย และบัลแกเรีย
สำหรับบัลแกเรีย ยังเคยได้รับอิทธิพลจากการขยายอำนาจและวัฒนธรรมของออตโตมานด้วย ทำให้ประชากรกว่าครึ่งนับถืออิสลาม (อัลบาเนียนอกจะมีศาสนาที่แตกต่าง ในเรื่องวัฒนธรรมและเชื้อชาติก็ยังมีการผสมผสาน ซึ่งคนท้องถิ่นดั้งเดิมตรงนั้นคือชาวอิลลิเรียน)
4.
อิทธิพลจากมหาอำนาจ: หลายศตวรรษ ชาวสลาฟอยู่ภายใต้การปกครองของมหาอำนาจ เช่น จักรวรรดิออสเตรีย ฮังการี และจักรวรรดิออตโตมาน ซึ่งส่งผลให้เกิดการแยกตัวทางการเมือง วัฒนธรรมและศาสนา อย่างบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา (Bosnia and Herzegovina) ประชากรส่วนมากก็นับถืออิสลามมาตั้งแต่สมัยของออตโตมานเช่นกัน
5.
การล่มสลายของจักรวรรดิและรัฐคอมมิวนิสต์: ในศตวรรษที่ 20 การล่มสลายของจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีและออตโตมานหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 และการล่มสลายของสหภาพโซเวียตในปี 1991 ทำให้เกิดรัฐชาติใหม่และแยกตัวเป็นประเทศต่าง ๆ เช่น โปแลนด์ เชโกสโลวาเกีย ทางยูโกสลาเวียก็แยกเป็นหลายประเทศ
6.
ความขัดแย้งและสงคราม: ความขัดแย้งในภูมิภาค เช่น สงครามในยูโกสลาเวียในทศวรรษ 1990s นำไปสู่การแยกตัวของประเทศในคาบสมุทรบอลข่าน อย่าง เซอร์เบีย โครเอเชีย บอสเนีย และสโลวีเนีย
. . .
วัฒนธรรมการแต่งกายแบบดั้งเดิม (Tradition)
ชุด Kosovorotka (ชาย) Sarafan (หญิง) แบบรัสเซีย และชุด Vyshyvanka แบบยูเครน
..
ชุด kroj แบบเช็กและสโลวัก และ Krakoviak แบบโปแลนด์
..
ชุด Nosia ของอัลแบเนีย ผสมผสานกับวัฒนธรรมอิสลามของออตโตมาน
..
ชุด Narodna nosnja แบบโครเอเชีย
. . .
ภาษาของชาวสลาฟ
แบ่งออกเป็นสามกลุ่มหลัก ๆ ซึ่งแต่ละกลุ่มมีภาษาเป็นของตัวเอง:
1.
ภาษาสลาฟตะวันออก:
• ภาษารัสเซีย (Russian): เป็นภาษาราชการของรัสเซีย และเป็นภาษาที่ใช้พูดในบางประเทศของอดีตสหภาพโซเวียต เช่น เบลารุส ยูเครน และกลุ่มประเทศเอเชียกลาง
• ภาษาเบลารุส (Belarusian): ใช้พูดในเบลารุส
• ภาษายูเครน (Ukrainian): ใช้พูดในยูเครน
2.
ภาษาสลาฟตะวันตก:
• ภาษาโปแลนด์ (Polish): ใช้พูดในโปแลนด์
• ภาษาเช็ก (Czech): ใช้พูดในสาธารณรัฐเช็ก
• ภาษาสโลวัก (Slovak): ใช้พูดในสโลวาเกีย
• ภาษาคาชูเบียน (Kashubian) และภาษาโซราเบียน (Sorbian): ใช้ในบางส่วนของโปแลนด์และเยอรมนี
3.
ภาษาสลาฟใต้:
• ภาษาบัลแกเรีย (Bulgarian): ใช้พูดในบัลแกเรีย
• ภาษาเซอร์เบีย (Serbian), ภาษาโครเอเชีย (Croatian), ภาษาบอสเนีย (Bosnian), และภาษามอนเตเนโกร (Montenegrin): ภาษาที่คล้ายคลึงกันที่ใช้ในประเทศแถบคาบสมุทรบอลข่าน เช่น เซอร์เบีย โครเอเชีย บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา และมอนเตเนโกร
• ภาษามาซิโดเนีย (Macedonian): ใช้พูดในมาซิโดเนียเหนือ
• ภาษาสโลวีเนีย (Slovenian): ใช้พูดในสโลวีเนีย
. . .
ประเทศที่ใช้ ภาษารัสเซียเป็นภาษาหลัก หรือ ภาษารอง
สามารถแบ่งได้ตามการใช้งานในแต่ละประเทศ โดยส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของอดีตสหภาพโซเวียตและการอพยพของชาวรัสเซียไปยังพื้นที่เหล่านั้น:
1.
ประเทศที่ใช้ภาษารัสเซียเป็นภาษาหลัก
•
รัสเซีย (Russia): ภาษารัสเซียเป็นภาษาราชการและภาษาหลักของประเทศ
•
เบลารุส (Belarus): ภาษารัสเซียเป็นหนึ่งในสองภาษาราชการร่วมกับภาษาเบลารุส และเป็นภาษาหลักที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
•
คาซัคสถาน (Kazakhstan): แม้ว่าภาษาคาซัคจะเป็นภาษาราชการ ภาษารัสเซียก็เป็นภาษาทางการร่วมกันและใช้แพร่หลายในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในเมืองใหญ่
•
คีร์กีซสถาน (Kyrgyzstan): ภาษารัสเซียเป็นภาษาราชการร่วมกับภาษาคีร์กีซ และใช้กันทั่วไปในชีวิตประจำวัน
2.
ประเทศที่ใช้ภาษารัสเซียเป็นภาษารองหรือแพร่หลาย
•
ยูเครน (Ukraine): ก่อนสงครามและเหตุการณ์ทางการเมืองในปี 2014 ภาษารัสเซียถูกใช้แพร่หลายในบางภูมิภาค โดยเฉพาะในภาคตะวันออกและใต้ แม้ว่าภาษายูเครนจะเป็นภาษาราชการ ภาษารัสเซียยังคงถูกใช้ในชีวิตประจำวันในบางพื้นที่
•
เอสโตเนีย (Estonia): มีประชากรชนกลุ่มน้อยที่พูดภาษารัสเซีย โดยเฉพาะในภูมิภาคทางตะวันออก
•
ลัตเวีย (Latvia): มีประชากรรัสเซียชนกลุ่มน้อยที่ใช้ภาษารัสเซียในชีวิตประจำวัน แม้ว่าภาษาลัตเวียจะเป็นภาษาราชการ
•
ลิทัวเนีย (Lithuania): มีประชากรที่พูดภาษารัสเซียอยู่บ้าง แต่ภาษาลิทัวเนียเป็นภาษาหลัก
•
มอลโดวา (Moldova): ภาษารัสเซียไม่ได้เป็นภาษาราชการ แต่มีการใช้แพร่หลาย โดยเฉพาะในภูมิภาคที่มีชนกลุ่มน้อยรัสเซีย
•
จอร์เจีย (Georgia): แม้ว่าภาษาจอร์เจียจะเป็นภาษาราชการ แต่ภาษารัสเซียยังคงใช้ในบางพื้นที่ โดยเฉพาะกับคนรุ่นเก่า
•
อาร์เมเนีย (Armenia): ภาษารัสเซียยังใช้เป็นภาษารองในบางบริบททางการศึกษาและการสื่อสาร
•
อาเซอร์ไบจาน (Azerbaijan): มีการใช้ภาษารัสเซียบ้าง แม้ว่าภาษาอาเซอร์ไบจันจะเป็นภาษาราชการ
3.
ดินแดนหรือภูมิภาคที่มีการใช้ภาษารัสเซียแพร่หลาย
•
ทรานส์นิสเตรีย (Transnistria): ดินแดนที่ประกาศตัวเป็นอิสระจากมอลโดวา ภาษารัสเซียเป็นหนึ่งในภาษาราชการ
•
แคว้นอับฮาเซียและเซาท์ออสซีเชีย (Abkhazia and South Ossetia): ดินแดนที่ประกาศตัวเป็นอิสระจากจอร์เจีย และใช้ภาษารัสเซียอย่างแพร่หลาย
•
ไครเมีย (Crimea): หลังจากการผนวกไครเมียเข้ากับรัสเซียในปี 2014 ภาษารัสเซียเป็นภาษาหลักที่ใช้ในพื้นที่นี้
. . .
ชาวสลาฟกระจายตัวอยู่ในหลายประเทศในยุโรปตะวันออก ยุโรปกลาง และคาบสมุทรบอลข่าน โดยแบ่งตามกลุ่มภาษาสลาฟดังนี้:
1.
กลุ่มสลาฟตะวันออก:
•
รัสเซีย (Russia): ชาวรัสเซียเป็นกลุ่มสลาฟที่ใหญ่ที่สุด
•
ยูเครน (Ukraine): ชาวยูเครนเป็นกลุ่มสลาฟที่ใหญ่รองลงมา
•
เบลารุส (Belarus): ชาวเบลารุสเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มสลาฟตะวันออกเช่นกัน
2.
กลุ่มสลาฟตะวันตก:
•
โปแลนด์ (Poland): ชาวโปแลนด์เป็นกลุ่มสลาฟตะวันตกที่ใหญ่ที่สุด
•
เช็กเกีย (Czech Republic): ชาวเช็กเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มสลาฟตะวันตก
•
สโลวาเกีย (Slovakia): ชาวสโลวักเป็นกลุ่มสลาฟที่อาศัยในภูมิภาคนี้
•
เยอรมนี (Germany): ชาวโซราบ (Sorbs) ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยในเยอรมนี ก็เป็นชาวสลาฟตะวันตกเช่นกัน
3.
กลุ่มสลาฟใต้:
• เซอร์เบีย (Serbia): ชาวเซอร์เบียเป็นกลุ่มสลาฟใต้
• โครเอเชีย (Croatia): ชาวโครเอเชียเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มสลาฟใต้
• บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา (Bosnia and Herzegovina): ชาวบอสเนียเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มนี้
• มอนเตเนโกร (Montenegro): ชาวมอนเตเนโกรเป็นกลุ่มสลาฟใต้
• สโลวีเนีย (Slovenia): ชาวสโลวีเนียเป็นกลุ่มสลาฟใต้
• บัลแกเรีย (Bulgaria): ชาวบัลแกเรียเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มนี้
• มาซิโดเนียเหนือ (North Macedonia): ชาวมาซิโดเนียเป็นชาวสลาฟใต้
• โคโซโว (Kosovo): ชาวเซอร์เบียที่อาศัยในโคโซโวเป็นกลุ่มสลาฟใต้
. . .
กลุ่มประเทศอื่น ๆ ที่มีประชากรสลาฟ:
1.
คาซัคสถาน (Kazakhstan):
• ชาวรัสเซีย: คาซัคสถานมีประชากรชาวรัสเซียอยู่ประมาณ 20-25% ของประชากร
• ชาวยูเครนและชาวเบลารุส: มีชุมชนชาวยูเครนและเบลารุสเล็ก ๆ อาศัยอยู่ในคาซัคสถาน
2.
คีร์กีซสถาน (Kyrgyzstan):
• ชาวรัสเซีย: ชาวรัสเซียในคีร์กีซสถานมีประมาณ 20% ของประชากร
• ชาวยูเครน: มีชุมชนชาวยูเครนขนาดเล็กในคีร์กีซสถานเช่นกัน
3.
อุซเบกิสถาน (Uzbekistan):
• ชาวรัสเซีย: ชาวรัสเซียในอุซเบกิสถานมีอยู่ประมาณ 3-5% ของประชากร โดยส่วนใหญ่อยู่ในเมืองหลวงทาชเคนต์ (Tashkent) และเมืองใหญ่ ๆ
• ชาวยูเครน: มีชุมชนชาวยูเครนบางส่วนในประเทศ แต่จำนวนไม่มากเมื่อเทียบกับชาวรัสเซีย
4.
เติร์กเมนิสถาน (Turkmenistan):
• ชาวรัสเซีย: ประชากรชาวรัสเซียในเติร์กเมนิสถานมีจำนวนลดลงหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต แต่ยังคงมีอยู่ในเมืองใหญ่ โดยประมาณ 5-10%
• ชาวยูเครนและชาวเบลารุส: มีประชากรชาวยูเครนและเบลารุสบางส่วนอาศัยอยู่
การแยกตัวกันของชาว “สลาฟ” [ก่อนความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน]
อาหารในแบบวัฒนธรรมของชาวสลาฟ
. . .
ชาวสลาฟอยู่ในกลุ่ม อินโด-ยูโรเปียน (Indo-European language family) ซึ่งเป็นตระกูลภาษาขนาดใหญ่ที่รวมถึงภาษาอื่น ๆ ในยุโรปและเอเชียใต้ ภายในตระกูลนี้ ภาษาและกลุ่มชาติพันธุ์สลาฟจะแบ่งออกเป็นสามกลุ่มหลักตามภูมิภาค:
1. กลุ่มสลาฟตะวันตก (West Slavic languages): รวมถึงภาษาโปแลนด์ เช็ก สโลวัก
2. กลุ่มสลาฟตะวันออก (East Slavic languages): รวมถึงภาษารัสเซีย ยูเครน เบลารุส
3. กลุ่มสลาฟใต้ (South Slavic languages): รวมถึงภาษาเซอร์เบีย โครเอเชีย บัลแกเรีย มาซิโดเนีย สโลวีเนีย
. . .
การแยกประเทศของชาวสลาฟ
มีผลมาจากหลายปัจจัย ได้แก่:
1. การขยายตัวและการเคลื่อนย้ายของประชากร: ในยุคแรก ชาวสลาฟอพยพขยายตัวจากยุโรปตะวันออกไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม
2. การเกิดขึ้นของอาณาจักรและรัฐในยุคกลาง: ในช่วงยุคกลาง ชาวสลาฟได้ตั้งอาณาจักรหลายแห่ง เช่น อาณาจักรรุสแห่งเคียฟ (Kievan Rus) ในปัจจุบันคือรัสเซียและยูเครน และอาณาจักรของชาวโปแลนด์และเช็ก ซึ่งพัฒนากลายเป็นรัฐสมัยใหม่
3. การแบ่งแยกทางศาสนา: ในศตวรรษที่ 11 เหตุการณ์ “การแตกแยกใหญ่” (Great Schism) ในคริสต์ศาสนานำไปสู่การแบ่งแยกระหว่างคริสตจักรตะวันตก (โรมันคาทอลิก) และคริสตจักรตะวันออก (ออร์โธดอกซ์) ซึ่งส่งผลให้ชาวสลาฟบางส่วนติดตามคาทอลิก เช่น โปแลนด์ และบางส่วนติดตามออร์โธดอกซ์ เช่น รัสเซีย เซอร์เบีย และบัลแกเรีย
สำหรับบัลแกเรีย ยังเคยได้รับอิทธิพลจากการขยายอำนาจและวัฒนธรรมของออตโตมานด้วย ทำให้ประชากรกว่าครึ่งนับถืออิสลาม (อัลบาเนียนอกจะมีศาสนาที่แตกต่าง ในเรื่องวัฒนธรรมและเชื้อชาติก็ยังมีการผสมผสาน ซึ่งคนท้องถิ่นดั้งเดิมตรงนั้นคือชาวอิลลิเรียน)
4. อิทธิพลจากมหาอำนาจ: หลายศตวรรษ ชาวสลาฟอยู่ภายใต้การปกครองของมหาอำนาจ เช่น จักรวรรดิออสเตรีย ฮังการี และจักรวรรดิออตโตมาน ซึ่งส่งผลให้เกิดการแยกตัวทางการเมือง วัฒนธรรมและศาสนา อย่างบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา (Bosnia and Herzegovina) ประชากรส่วนมากก็นับถืออิสลามมาตั้งแต่สมัยของออตโตมานเช่นกัน
5. การล่มสลายของจักรวรรดิและรัฐคอมมิวนิสต์: ในศตวรรษที่ 20 การล่มสลายของจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีและออตโตมานหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 และการล่มสลายของสหภาพโซเวียตในปี 1991 ทำให้เกิดรัฐชาติใหม่และแยกตัวเป็นประเทศต่าง ๆ เช่น โปแลนด์ เชโกสโลวาเกีย ทางยูโกสลาเวียก็แยกเป็นหลายประเทศ
6. ความขัดแย้งและสงคราม: ความขัดแย้งในภูมิภาค เช่น สงครามในยูโกสลาเวียในทศวรรษ 1990s นำไปสู่การแยกตัวของประเทศในคาบสมุทรบอลข่าน อย่าง เซอร์เบีย โครเอเชีย บอสเนีย และสโลวีเนีย
. . .
วัฒนธรรมการแต่งกายแบบดั้งเดิม (Tradition)
ชุด Kosovorotka (ชาย) Sarafan (หญิง) แบบรัสเซีย และชุด Vyshyvanka แบบยูเครน
..
ชุด kroj แบบเช็กและสโลวัก และ Krakoviak แบบโปแลนด์
..
ชุด Nosia ของอัลแบเนีย ผสมผสานกับวัฒนธรรมอิสลามของออตโตมาน
..
ชุด Narodna nosnja แบบโครเอเชีย
. . .
ภาษาของชาวสลาฟ
แบ่งออกเป็นสามกลุ่มหลัก ๆ ซึ่งแต่ละกลุ่มมีภาษาเป็นของตัวเอง:
1. ภาษาสลาฟตะวันออก:
• ภาษารัสเซีย (Russian): เป็นภาษาราชการของรัสเซีย และเป็นภาษาที่ใช้พูดในบางประเทศของอดีตสหภาพโซเวียต เช่น เบลารุส ยูเครน และกลุ่มประเทศเอเชียกลาง
• ภาษาเบลารุส (Belarusian): ใช้พูดในเบลารุส
• ภาษายูเครน (Ukrainian): ใช้พูดในยูเครน
2. ภาษาสลาฟตะวันตก:
• ภาษาโปแลนด์ (Polish): ใช้พูดในโปแลนด์
• ภาษาเช็ก (Czech): ใช้พูดในสาธารณรัฐเช็ก
• ภาษาสโลวัก (Slovak): ใช้พูดในสโลวาเกีย
• ภาษาคาชูเบียน (Kashubian) และภาษาโซราเบียน (Sorbian): ใช้ในบางส่วนของโปแลนด์และเยอรมนี
3. ภาษาสลาฟใต้:
• ภาษาบัลแกเรีย (Bulgarian): ใช้พูดในบัลแกเรีย
• ภาษาเซอร์เบีย (Serbian), ภาษาโครเอเชีย (Croatian), ภาษาบอสเนีย (Bosnian), และภาษามอนเตเนโกร (Montenegrin): ภาษาที่คล้ายคลึงกันที่ใช้ในประเทศแถบคาบสมุทรบอลข่าน เช่น เซอร์เบีย โครเอเชีย บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา และมอนเตเนโกร
• ภาษามาซิโดเนีย (Macedonian): ใช้พูดในมาซิโดเนียเหนือ
• ภาษาสโลวีเนีย (Slovenian): ใช้พูดในสโลวีเนีย
. . .
ประเทศที่ใช้ ภาษารัสเซียเป็นภาษาหลัก หรือ ภาษารอง
สามารถแบ่งได้ตามการใช้งานในแต่ละประเทศ โดยส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของอดีตสหภาพโซเวียตและการอพยพของชาวรัสเซียไปยังพื้นที่เหล่านั้น:
1. ประเทศที่ใช้ภาษารัสเซียเป็นภาษาหลัก
• รัสเซีย (Russia): ภาษารัสเซียเป็นภาษาราชการและภาษาหลักของประเทศ
• เบลารุส (Belarus): ภาษารัสเซียเป็นหนึ่งในสองภาษาราชการร่วมกับภาษาเบลารุส และเป็นภาษาหลักที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
• คาซัคสถาน (Kazakhstan): แม้ว่าภาษาคาซัคจะเป็นภาษาราชการ ภาษารัสเซียก็เป็นภาษาทางการร่วมกันและใช้แพร่หลายในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในเมืองใหญ่
• คีร์กีซสถาน (Kyrgyzstan): ภาษารัสเซียเป็นภาษาราชการร่วมกับภาษาคีร์กีซ และใช้กันทั่วไปในชีวิตประจำวัน
2. ประเทศที่ใช้ภาษารัสเซียเป็นภาษารองหรือแพร่หลาย
• ยูเครน (Ukraine): ก่อนสงครามและเหตุการณ์ทางการเมืองในปี 2014 ภาษารัสเซียถูกใช้แพร่หลายในบางภูมิภาค โดยเฉพาะในภาคตะวันออกและใต้ แม้ว่าภาษายูเครนจะเป็นภาษาราชการ ภาษารัสเซียยังคงถูกใช้ในชีวิตประจำวันในบางพื้นที่
• เอสโตเนีย (Estonia): มีประชากรชนกลุ่มน้อยที่พูดภาษารัสเซีย โดยเฉพาะในภูมิภาคทางตะวันออก
• ลัตเวีย (Latvia): มีประชากรรัสเซียชนกลุ่มน้อยที่ใช้ภาษารัสเซียในชีวิตประจำวัน แม้ว่าภาษาลัตเวียจะเป็นภาษาราชการ
• ลิทัวเนีย (Lithuania): มีประชากรที่พูดภาษารัสเซียอยู่บ้าง แต่ภาษาลิทัวเนียเป็นภาษาหลัก
• มอลโดวา (Moldova): ภาษารัสเซียไม่ได้เป็นภาษาราชการ แต่มีการใช้แพร่หลาย โดยเฉพาะในภูมิภาคที่มีชนกลุ่มน้อยรัสเซีย
• จอร์เจีย (Georgia): แม้ว่าภาษาจอร์เจียจะเป็นภาษาราชการ แต่ภาษารัสเซียยังคงใช้ในบางพื้นที่ โดยเฉพาะกับคนรุ่นเก่า
• อาร์เมเนีย (Armenia): ภาษารัสเซียยังใช้เป็นภาษารองในบางบริบททางการศึกษาและการสื่อสาร
• อาเซอร์ไบจาน (Azerbaijan): มีการใช้ภาษารัสเซียบ้าง แม้ว่าภาษาอาเซอร์ไบจันจะเป็นภาษาราชการ
3. ดินแดนหรือภูมิภาคที่มีการใช้ภาษารัสเซียแพร่หลาย
• ทรานส์นิสเตรีย (Transnistria): ดินแดนที่ประกาศตัวเป็นอิสระจากมอลโดวา ภาษารัสเซียเป็นหนึ่งในภาษาราชการ
• แคว้นอับฮาเซียและเซาท์ออสซีเชีย (Abkhazia and South Ossetia): ดินแดนที่ประกาศตัวเป็นอิสระจากจอร์เจีย และใช้ภาษารัสเซียอย่างแพร่หลาย
• ไครเมีย (Crimea): หลังจากการผนวกไครเมียเข้ากับรัสเซียในปี 2014 ภาษารัสเซียเป็นภาษาหลักที่ใช้ในพื้นที่นี้
. . .
ชาวสลาฟกระจายตัวอยู่ในหลายประเทศในยุโรปตะวันออก ยุโรปกลาง และคาบสมุทรบอลข่าน โดยแบ่งตามกลุ่มภาษาสลาฟดังนี้:
1. กลุ่มสลาฟตะวันออก:
• รัสเซีย (Russia): ชาวรัสเซียเป็นกลุ่มสลาฟที่ใหญ่ที่สุด
• ยูเครน (Ukraine): ชาวยูเครนเป็นกลุ่มสลาฟที่ใหญ่รองลงมา
• เบลารุส (Belarus): ชาวเบลารุสเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มสลาฟตะวันออกเช่นกัน
2. กลุ่มสลาฟตะวันตก:
• โปแลนด์ (Poland): ชาวโปแลนด์เป็นกลุ่มสลาฟตะวันตกที่ใหญ่ที่สุด
• เช็กเกีย (Czech Republic): ชาวเช็กเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มสลาฟตะวันตก
• สโลวาเกีย (Slovakia): ชาวสโลวักเป็นกลุ่มสลาฟที่อาศัยในภูมิภาคนี้
• เยอรมนี (Germany): ชาวโซราบ (Sorbs) ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยในเยอรมนี ก็เป็นชาวสลาฟตะวันตกเช่นกัน
3. กลุ่มสลาฟใต้:
• เซอร์เบีย (Serbia): ชาวเซอร์เบียเป็นกลุ่มสลาฟใต้
• โครเอเชีย (Croatia): ชาวโครเอเชียเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มสลาฟใต้
• บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา (Bosnia and Herzegovina): ชาวบอสเนียเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มนี้
• มอนเตเนโกร (Montenegro): ชาวมอนเตเนโกรเป็นกลุ่มสลาฟใต้
• สโลวีเนีย (Slovenia): ชาวสโลวีเนียเป็นกลุ่มสลาฟใต้
• บัลแกเรีย (Bulgaria): ชาวบัลแกเรียเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มนี้
• มาซิโดเนียเหนือ (North Macedonia): ชาวมาซิโดเนียเป็นชาวสลาฟใต้
• โคโซโว (Kosovo): ชาวเซอร์เบียที่อาศัยในโคโซโวเป็นกลุ่มสลาฟใต้
. . .
กลุ่มประเทศอื่น ๆ ที่มีประชากรสลาฟ:
1. คาซัคสถาน (Kazakhstan):
• ชาวรัสเซีย: คาซัคสถานมีประชากรชาวรัสเซียอยู่ประมาณ 20-25% ของประชากร
• ชาวยูเครนและชาวเบลารุส: มีชุมชนชาวยูเครนและเบลารุสเล็ก ๆ อาศัยอยู่ในคาซัคสถาน
2. คีร์กีซสถาน (Kyrgyzstan):
• ชาวรัสเซีย: ชาวรัสเซียในคีร์กีซสถานมีประมาณ 20% ของประชากร
• ชาวยูเครน: มีชุมชนชาวยูเครนขนาดเล็กในคีร์กีซสถานเช่นกัน
3. อุซเบกิสถาน (Uzbekistan):
• ชาวรัสเซีย: ชาวรัสเซียในอุซเบกิสถานมีอยู่ประมาณ 3-5% ของประชากร โดยส่วนใหญ่อยู่ในเมืองหลวงทาชเคนต์ (Tashkent) และเมืองใหญ่ ๆ
• ชาวยูเครน: มีชุมชนชาวยูเครนบางส่วนในประเทศ แต่จำนวนไม่มากเมื่อเทียบกับชาวรัสเซีย
4. เติร์กเมนิสถาน (Turkmenistan):
• ชาวรัสเซีย: ประชากรชาวรัสเซียในเติร์กเมนิสถานมีจำนวนลดลงหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต แต่ยังคงมีอยู่ในเมืองใหญ่ โดยประมาณ 5-10%
• ชาวยูเครนและชาวเบลารุส: มีประชากรชาวยูเครนและเบลารุสบางส่วนอาศัยอยู่