ตรัชรู้

 รู้ความจริงตรงนี้ รู้ไม่มีสิ้นสุด ผมทุกวันนี้ยังรู้ความจริงยังไม่หมด  ธรรมชาติความจริงที่ปกติ   มันมีมากกว่าความคิดความเชือเหนือธรรมชาติ เหนือจินตนาการความคิดความเชือ    ตรงนี้ครับสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัชรู้ *ไม่ใช่ผู้สร้างทุกสิ่ง (พระเจ้า)​  เทืยงเเท้  เเน่นอนทรงเป็นนิรันดร์  เเต่รู้ทุกสิ่งว่าไม่มีอะไรเทืยงเเท้เเน่นอน(พระพุทธเจ้า)​  ความจริงทังหมดก็มีเเค่นีเอง *สิ่งที่พระพุทธเจ้าหลายพระองค์รู้เหมือนกัน              #ความสว่างใสที่เรืยก  จิตรพุทธะ  ตรงนี้  ทำให้เราเข้าใจเเละเป็นสิ่งเดืยวกับธรรมชาติทังหลาย  เดิมเเท้ของมัน เป็นสิงเดืยวกัน   เพราความจริงธรรมชาติเดิมของมัน เกิดขึ้น ตั้งอยู่  ดับไป เป็นปกติของความเป็นจริง ไม่มีสิ่งไหนอยู่เหนือกฎเกณนี้  (เหนือธรรมช่าติ )   เเล้วความสว่างใส  ตรงนั้นละครับที่เรืยกว่านิพาน ตรงทุกอย่าตามที่คำภีร์พระไตรปิฎกอธิบายสอนไว้ทุกอย่าง   ในความว่างไม่มี เเต่มีทุกอย่าง ในความมีทุกอย่างคือความไม่มี       งงไหมครับเเต่มันเป็นของมันเเบบนั้นจริงๆ       ""ทางธรรมเอาความ รู้สึกคิดนึกเข้าถึงไม่ได้ (จิตรปรุงเเต่ง หลงความจริงเรืยกว่า กิเลส ) *มองไม่เห็นความจริงเหตุเเห่งทุก*(เวืยนวายตายเกิด)  ทางธรรม ต้องใชั สติ  ปัญญา ความรู้ ความเข้าใจ  (จิต เจตสิก) เท่านั้นครับที่จะเข้าถึง :ต้องปฏิบัตหาความจริงด้วยตัวเอง:ขึ้นอยู่เเตละคนว่าจะเข้าถึงได้มากน้อยเเค่ไหน"""     ตรงตามคำภึร์สอนไว้ทุกอย่างครับ เเต่เราไม่เขาใจธรรมมะ   ยึด  ความหมายตาม สมมุติบัญญัติ  จนลืมไปว่าสิ่งที่พระพุทธสอนว่าสอนอะไร  ความจริงไม่ได้มีไว้ให้เชือเเต่มีไว้ไห้ค้นหาด้วยตัวเองครับ     ผมหวังว่า สิ่งที่ผมกล่าวนี้จะเป็นประโยช  ให้ทุกคนมองเห็นธรรมชาติความจริง  (ดวงตาเห็นธรรม)  เป็นอริยะ  ผู้เจริญ  หลุดพ้นจาก สังสารวัฏนี้ จากการเข้าใจเข้าถึงธรรมมะ ธรรมชาติความจริง       ขอให้ทุกคนเจริญทางธรรม       (ครั้งข้างผมจะกล่าวเรื่องของเวรกรรมที่ไม่ใช่เป็นเเค่ความเชือ  ดังที่พุทธองค์ให้โอวาทใว้ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม  ยังมีความจริงซ่อนความหมายลึกซึ้งไว้ในคำภีร์คำสอนอีกมากที่เป็นความรู้ที่เป็นเรืองจริง****
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่