..........( สาวิตรี ที่รัก )..........
..........วิชาญ เป็นนักประดิษฐ์ สุดยอดมหัศจรรย์ ผลงานของเขา สร้างความตะลึง ปนพิศวง ให้กับคนทั่วไปทุกครั้ง และล่าสุด เมื่อทุกคนได้เห็น หุ่นเสมือนจริง มันทำให้ งานที่ผ่านมาทั้งหมด เป็นแค่เพียง ของเด็กเล่น เท่านั้น
ร่างที่ยืนอยู่บนแท่นโชว์นั้น จะเรียกว่าหุ่นยนต์เต็มปาก ก็ไม่น่าได้ เพราะ ดูยังไงก็คล้ายกับหญิงสาวจริง ๆ รูปร่าง หน้าตา สัดส่วน ผิวพรรณ เส้นผม โดยเฉพาะแววตา ที่มองเป็นประกาย ทำให้บางคน ยืนจ้อง นิ่ง นาน อย่างไม่รู้ตัว
การเคลื่อนไหว ยิ่งทำให้น่าทึ่งไปอีก กิริยา ท่าทาง การยืน การเดิน ตามโปรแกรมที่ตั้งไว้ เรียกเสียงฮือฮา ตามด้วยเสียงพูดคุยกันอย่างตื่นเต้น และเมื่อ เขาประกาศว่า จะทำให้หุ่นนี้ มีชีวิต เหมือนกับมนุษย์ทั่วไป คิดเอง ตัดสินใจเองได้ เคลื่อนไหวไปมา อย่างอิสระ เสียงตบมือ ก็ดังก้อง ห้องประชุม
วิชาญ ไม่ได้มีวุฒิการศึกษาที่สูงกว่าคนทั่วไป เขาจบแค่ปริญญาตรี และเป็นครูสอน วิชาวิทยาศาสตร์ ในโรงเรียนแห่งหนึ่ง แต่ความที่เป็นคนชอบ ทดลอง มุ่งมั่น และเอาจริงเอาจัง ทำให้วิชาญ ศึกษาทุกอย่างที่ต้องการรู้ ด้วยตัวเอง อย่างทะลุปรุโปร่งในทุกเรื่อง คติประจำใจของเขาก็คือ ไม่มีอะไรในโลกนี้ ที่เราทำไม่ได้ ถ้าคนอื่นทำได้ เราก็ต้องทำได้เช่นกัน ถ้าเขาต้องการรู้เกี่ยวกับอะไร เขาจะศึกษาเรื่องนั้น ทุกทาง จนกว่าจะเข้าใจอย่างละเอียด
ดังนั้น ชายหนุ่ม จึงมีความสามารถ หลากหลาย ดนตรี กีฬา ศิลปะ เทคโนโลยีนำสมัยต่าง ๆ วิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะ ชีววิทยามนุษย์ และความรู้ทั้งหมด พูดได้ว่า เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญ และ รู้จริง แต่ที่เขาทุ่มเทให้ มากที่สุดในระยะนี้ คือการประดิษฐ์ มนุษย์จำลอง บัดนี้ ฝันของเขา มาถึงครึ่งทางแล้ว เหลือเพียงแค่ ทำให้หุ่นที่สร้างขึ้นมา มีชีวิต เคลื่อนไหว ทำอะไรเองได้ โดยใช้โปรแกรมช่วยเล็กน้อย ควบคู่กันไป
ภายในห้องทำงานที่เต็มไปด้วยสายไฟ และ เครื่องมือต่าง ๆ ผนังด้านหนึ่ง มีคอมพิวเตอร์ และแผงวงจรไฟฟ้าขนาดใหญ่ มีไฟสีต่าง ๆ กระพริบอยู่ทั่ว รอบห้อง รกรุงรัง แต่ห้องกระจก ที่ตั้งอยู่ตรงกลางนั้น กลับมองดูสะอาด และสบายตา แสงสว่างภายใน เผยให้เห็นร่างงดงามของหญิงสาว นอนสงบนิ่งบนเตียงโลหะสีเงิน
ริมฝีปากชุ่มฉ่ำ อิ่มเอิบ สีชมพูเรื่อ ๆ เช่นเดียวกับพวงแก้ม รับกับใบหน้ารูปไข่อย่างกลมกลืน เส้นผมดำสนิท ยาวสลวย นุ่มน่าสัมผัส สยายอยู่บนหมอนสีขาว แขนและนิ้วกลมกลึง ผิวเนื้อเนียนละเอียด ปราศจากริ้วรอยแม้แต่นิดเดียว
มอง มุมไหนก็คือมนุษย์จริง ๆ ถ้าไม่เห็นสายต่าง ๆ ที่โยงเข้าตามร่างกาย และในช่องเล็ก ๆ บนสุดของศีรษะ เทียบกับหุ่นที่นำไปโชว์ ร่างนี้ มีรายละเอียด เหมือนจริง มากกว่าทุกอย่าง ชายหนุ่มยกมือเนียนนุ่มของหุ่น ขึ้นมาแนบแก้มอย่างแผ่วเบา พลางน้ำตาก็รินไหลออกมาอาบแก้ม “สาวิตรี ผมจะพาคุณกลับมาให้ได้ ผมขอสัญญา” พูดจบ เขาก็ลุกยืน กลั้นน้ำตา วางมือเรียวลงอย่างนุ่มนวล ขั้นตอนสำคัญนี้ ต้องใช้ใจที่เป็นสมาธิ อย่างมาก เพราะ คำว่า พลาด คือการสูญเสียทุกสิ่งไป
เริ่มแรก สิ่งที่วิชาญสนใจมากที่สุด คือค้นหาความลับ ของชีวิต คน และสัตว์ เขารู้ว่า ปอด มีหน้าที่นำออกซิเจนเข้าสู่ระบบเลือดในร่างกาย หน้าที่หลักของกระเพาะอาหาร คือการย่อยสลาย สารอาหารโมเลกุลใหญ่ ให้เล็กลง การทำงาน ของแขน ขา และมือ ทั้งหมดมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ สมอง และ ใครสั่งงาน สมองล่ะ ในทางการแพทย์ คนไข้ที่จะตัดสินได้ว่าเสียชีวิตแล้ว ต่อเมื่อ สมองตาย เมื่อสมองตายแล้ว สัญญาณไฟฟ้า หรือที่เรียกว่า ศักยะงาน* ที่ส่งมาจากเซลล์ต่าง ๆ ในสมอง จะตายไปด้วยไหม นี่แหละที่เขาสงสัย
ความรู้ทางด้านตำรา ไม่ได้ช่วยให้ความสงสัย ของชายหนุ่ม ลดน้อยลงไป และไม่ได้พิสูจน์อะไรได้มากไปกว่าที่หลาย ๆ คนรู้กันอยู่แล้ว เขาจึงใช้เวลาว่างจากงาน ศึกษา และทดลอง เรื่องนี้ อย่างเอาเป็นเอาตาย โดยมีกำลังใจที่อยู่เคียงข้าง คือ สาวิตรี คู่หมั้นสาว โดยเขาและเธอ กำหนดวันแต่งงาน ไว้ปลายปี หลังจากคบหา ดูใจกันมา นานพอสมควร
มีผู้กล่าวไว้ว่า ผลงานของนักวิทยาศาสตร์ หลายชิ้น ได้ถูกค้นพบขึ้น เพราะความบังเอิญ น่าจะไม่ผิดจากความเป็นจริงมากมายนัก เพราะวันหนึ่ง หนูที่เลี้ยงไว้เพื่อทดลอง ได้หลุดออกมา และกัดแทะสายไฟเส้นนึง ในหลาย ๆ เส้น โยงมาจากแผงควบคุม ไปยัง หลอดแก้วอิเล็กทรอนิกส์ บรรจุสารเคมี ที่ชายหนุ่มผสมขึ้นมา เพื่อเก็บสัญญาณไฟฟ้า จากสมองของสิ่งมีชีวิต หนูตัวนั้นได้ตายลง และวิชาญ ได้สังเกตเห็น บางอย่างในหลอดแก้ว
สัญญาณไฟฟ้าจากสมอง มองด้วยตาเปล่าไม่เห็นแน่นอน แต่ในหลอดแก้ว ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางหนึ่งนิ้วฟุต ยาวสี่นิ้ว ที่มีขั้วต่อวงจรอยู่รอบ ๆ และบรรจุสารเคมี สีเขียวเรืองแสง อยู่ภายใน ตอนนี้ มองดูเหมือนมีบางอย่าง แหวกว่ายไปมาช้า ๆ ขึ้น ลง และวนไปมา
ชายหนุ่มดีใจสุดขีด คนแรกที่นึกถึงก็คือ สาวิตรี เขาโทรหาเธอ พูดอย่างตื่นเต้น รบเร้าให้เธอมาดูด้วยตา คู่หมั้นสาวตอบรับด้วยเสียงหวาน ว่าจะมาในทันที เขาแทบจะอดใจรอไม่ไหว เดินไปมาอย่างกระวนกระวาย ตื่นเต้นกับการค้นพบในครั้งนี้ จนอยากจะตะโกนออกมา
ข่าวดี มาพร้อมกับข่าวร้าย อย่างไม่น่าให้อภัย รถของหญิงสาวเสียหลักพลิกคว่ำลงข้างทาง ก่อนถึงบ้านเขาไม่ไกล เธอพยายามโทรหา ชายหนุ่ม ก่อนจะหมดสติไป
เสียงตะโกน เปล่ง ออกมาจากใจที่ปวดร้าว เขาวิ่งไปที่ซากรถ ร้องไห้อย่างคนบ้าคลั่ง ทุกอย่างรอบตัวเวลานี้ ไม่อยู่ในสายตาแม้แต่อย่างเดียว ความต้องการ คือ ยื้อชีวิตของคนรักไว้ ให้นานที่สุด
พลัน สติที่เหลือเพียงน้อยนิดของเขา ก็ฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้อย่างหนึ่ง ชายหนุ่มอุ้มร่างที่ลมหายใจรวยริน ของคู่หมั้นสาว ขึ้นรถของเขา ขับไปที่บ้าน นำเธอเข้าไปยังห้องทดลอง อย่างรีบเร่ง
หลังจากต่อสายไฟ และสายสัญญาณ เข้าจุดต่าง ๆ ตามร่างของคนรักเรียบร้อย เขาเปิดโปรแกรม ทำเช่นเดียวกับที่เคยทำซ้ำไปซ้ำมา กว่าร้อยครั้ง แต่คราวนี้ ต่างออกไป เพราะสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ไม่ใช่หนูทดลอง แต่เป็นคน และเป็นคนที่เขาไม่คาดฝัน ว่าจะเป็นเธอ ที่มานอนอยู่ตรงนี้
โปรแกรมทำงานอย่างเงียบ ๆ จนวิชาญได้ยินเสียงเต้นของหัวใจตัวเอง เขานั่งข้างเตียงกุมมือคนรักไว้ น้ำตาไหลอาบสองแก้ม มองหน้าคู่หมั้นสาว ไม่ละสายตา จนกระทั่งร่างเธอกระตุก สองสามครั้ง ลมหายใจเฮือกสุดท้าย ถูกปล่อยยาวออกมา พร้อมทั้งร่างกาย และหัวใจ หยุดทำงาน ชายหนุ่มปล่อยโฮอย่างสุดกลั้น ซบ ลงที่ร่างไร้วิญญาณ ของคนรัก ร้องไห้ดัง อย่างไม่กลัวใครได้ยิน
ร่างอันแน่นิ่ง ของหญิงสาว กับชายหนุ่ม ที่สะอื้นอยู่ข้าง ๆ ทำในห้องนั้นหดหู่ และวังเวง การสูญเสียคนรักไปอย่างกะทันหัน หัวใจของชายหนุ่ม แทบแตกสลายตามไป เขาไม่มีเรี่ยวแรงที่จะทำอะไร ไม่อยากแม้แต่จะลุกยืน จนกระทั่งสายตาได้มองไปยังหลอดแก้ว ที่โยงสาย เชื่อมต่อกับร่างของหญิงสาว ความปีติล้น เกิดขึ้นกับเขาอย่างฉับพลัน ชายหนุ่มลืมตากว้างอย่างตื่นเต้น ถึงแม้ดวงตาจะยังพร่ามัวจากน้ำตา แต่เขาก็ยังเห็นชัด ว่า สารสีเขียวเรืองแสงในนั้น เหมือนมีสิ่งหนึ่งแหวกว่ายอยู่ มันวนไปวนมาช้า ๆ ขึ้น และลง อย่างอ้อยอิ่ง.................
( มีต่อครับ )
.....เรื่องสั้น........ เรื่อง.......สาวิตรี ที่รัก........@@ โดย ลุงแผน
..........วิชาญ เป็นนักประดิษฐ์ สุดยอดมหัศจรรย์ ผลงานของเขา สร้างความตะลึง ปนพิศวง ให้กับคนทั่วไปทุกครั้ง และล่าสุด เมื่อทุกคนได้เห็น หุ่นเสมือนจริง มันทำให้ งานที่ผ่านมาทั้งหมด เป็นแค่เพียง ของเด็กเล่น เท่านั้น
ร่างที่ยืนอยู่บนแท่นโชว์นั้น จะเรียกว่าหุ่นยนต์เต็มปาก ก็ไม่น่าได้ เพราะ ดูยังไงก็คล้ายกับหญิงสาวจริง ๆ รูปร่าง หน้าตา สัดส่วน ผิวพรรณ เส้นผม โดยเฉพาะแววตา ที่มองเป็นประกาย ทำให้บางคน ยืนจ้อง นิ่ง นาน อย่างไม่รู้ตัว
การเคลื่อนไหว ยิ่งทำให้น่าทึ่งไปอีก กิริยา ท่าทาง การยืน การเดิน ตามโปรแกรมที่ตั้งไว้ เรียกเสียงฮือฮา ตามด้วยเสียงพูดคุยกันอย่างตื่นเต้น และเมื่อ เขาประกาศว่า จะทำให้หุ่นนี้ มีชีวิต เหมือนกับมนุษย์ทั่วไป คิดเอง ตัดสินใจเองได้ เคลื่อนไหวไปมา อย่างอิสระ เสียงตบมือ ก็ดังก้อง ห้องประชุม
วิชาญ ไม่ได้มีวุฒิการศึกษาที่สูงกว่าคนทั่วไป เขาจบแค่ปริญญาตรี และเป็นครูสอน วิชาวิทยาศาสตร์ ในโรงเรียนแห่งหนึ่ง แต่ความที่เป็นคนชอบ ทดลอง มุ่งมั่น และเอาจริงเอาจัง ทำให้วิชาญ ศึกษาทุกอย่างที่ต้องการรู้ ด้วยตัวเอง อย่างทะลุปรุโปร่งในทุกเรื่อง คติประจำใจของเขาก็คือ ไม่มีอะไรในโลกนี้ ที่เราทำไม่ได้ ถ้าคนอื่นทำได้ เราก็ต้องทำได้เช่นกัน ถ้าเขาต้องการรู้เกี่ยวกับอะไร เขาจะศึกษาเรื่องนั้น ทุกทาง จนกว่าจะเข้าใจอย่างละเอียด
ดังนั้น ชายหนุ่ม จึงมีความสามารถ หลากหลาย ดนตรี กีฬา ศิลปะ เทคโนโลยีนำสมัยต่าง ๆ วิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะ ชีววิทยามนุษย์ และความรู้ทั้งหมด พูดได้ว่า เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญ และ รู้จริง แต่ที่เขาทุ่มเทให้ มากที่สุดในระยะนี้ คือการประดิษฐ์ มนุษย์จำลอง บัดนี้ ฝันของเขา มาถึงครึ่งทางแล้ว เหลือเพียงแค่ ทำให้หุ่นที่สร้างขึ้นมา มีชีวิต เคลื่อนไหว ทำอะไรเองได้ โดยใช้โปรแกรมช่วยเล็กน้อย ควบคู่กันไป
ภายในห้องทำงานที่เต็มไปด้วยสายไฟ และ เครื่องมือต่าง ๆ ผนังด้านหนึ่ง มีคอมพิวเตอร์ และแผงวงจรไฟฟ้าขนาดใหญ่ มีไฟสีต่าง ๆ กระพริบอยู่ทั่ว รอบห้อง รกรุงรัง แต่ห้องกระจก ที่ตั้งอยู่ตรงกลางนั้น กลับมองดูสะอาด และสบายตา แสงสว่างภายใน เผยให้เห็นร่างงดงามของหญิงสาว นอนสงบนิ่งบนเตียงโลหะสีเงิน
ริมฝีปากชุ่มฉ่ำ อิ่มเอิบ สีชมพูเรื่อ ๆ เช่นเดียวกับพวงแก้ม รับกับใบหน้ารูปไข่อย่างกลมกลืน เส้นผมดำสนิท ยาวสลวย นุ่มน่าสัมผัส สยายอยู่บนหมอนสีขาว แขนและนิ้วกลมกลึง ผิวเนื้อเนียนละเอียด ปราศจากริ้วรอยแม้แต่นิดเดียว
มอง มุมไหนก็คือมนุษย์จริง ๆ ถ้าไม่เห็นสายต่าง ๆ ที่โยงเข้าตามร่างกาย และในช่องเล็ก ๆ บนสุดของศีรษะ เทียบกับหุ่นที่นำไปโชว์ ร่างนี้ มีรายละเอียด เหมือนจริง มากกว่าทุกอย่าง ชายหนุ่มยกมือเนียนนุ่มของหุ่น ขึ้นมาแนบแก้มอย่างแผ่วเบา พลางน้ำตาก็รินไหลออกมาอาบแก้ม “สาวิตรี ผมจะพาคุณกลับมาให้ได้ ผมขอสัญญา” พูดจบ เขาก็ลุกยืน กลั้นน้ำตา วางมือเรียวลงอย่างนุ่มนวล ขั้นตอนสำคัญนี้ ต้องใช้ใจที่เป็นสมาธิ อย่างมาก เพราะ คำว่า พลาด คือการสูญเสียทุกสิ่งไป
เริ่มแรก สิ่งที่วิชาญสนใจมากที่สุด คือค้นหาความลับ ของชีวิต คน และสัตว์ เขารู้ว่า ปอด มีหน้าที่นำออกซิเจนเข้าสู่ระบบเลือดในร่างกาย หน้าที่หลักของกระเพาะอาหาร คือการย่อยสลาย สารอาหารโมเลกุลใหญ่ ให้เล็กลง การทำงาน ของแขน ขา และมือ ทั้งหมดมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ สมอง และ ใครสั่งงาน สมองล่ะ ในทางการแพทย์ คนไข้ที่จะตัดสินได้ว่าเสียชีวิตแล้ว ต่อเมื่อ สมองตาย เมื่อสมองตายแล้ว สัญญาณไฟฟ้า หรือที่เรียกว่า ศักยะงาน* ที่ส่งมาจากเซลล์ต่าง ๆ ในสมอง จะตายไปด้วยไหม นี่แหละที่เขาสงสัย
ความรู้ทางด้านตำรา ไม่ได้ช่วยให้ความสงสัย ของชายหนุ่ม ลดน้อยลงไป และไม่ได้พิสูจน์อะไรได้มากไปกว่าที่หลาย ๆ คนรู้กันอยู่แล้ว เขาจึงใช้เวลาว่างจากงาน ศึกษา และทดลอง เรื่องนี้ อย่างเอาเป็นเอาตาย โดยมีกำลังใจที่อยู่เคียงข้าง คือ สาวิตรี คู่หมั้นสาว โดยเขาและเธอ กำหนดวันแต่งงาน ไว้ปลายปี หลังจากคบหา ดูใจกันมา นานพอสมควร
มีผู้กล่าวไว้ว่า ผลงานของนักวิทยาศาสตร์ หลายชิ้น ได้ถูกค้นพบขึ้น เพราะความบังเอิญ น่าจะไม่ผิดจากความเป็นจริงมากมายนัก เพราะวันหนึ่ง หนูที่เลี้ยงไว้เพื่อทดลอง ได้หลุดออกมา และกัดแทะสายไฟเส้นนึง ในหลาย ๆ เส้น โยงมาจากแผงควบคุม ไปยัง หลอดแก้วอิเล็กทรอนิกส์ บรรจุสารเคมี ที่ชายหนุ่มผสมขึ้นมา เพื่อเก็บสัญญาณไฟฟ้า จากสมองของสิ่งมีชีวิต หนูตัวนั้นได้ตายลง และวิชาญ ได้สังเกตเห็น บางอย่างในหลอดแก้ว
สัญญาณไฟฟ้าจากสมอง มองด้วยตาเปล่าไม่เห็นแน่นอน แต่ในหลอดแก้ว ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางหนึ่งนิ้วฟุต ยาวสี่นิ้ว ที่มีขั้วต่อวงจรอยู่รอบ ๆ และบรรจุสารเคมี สีเขียวเรืองแสง อยู่ภายใน ตอนนี้ มองดูเหมือนมีบางอย่าง แหวกว่ายไปมาช้า ๆ ขึ้น ลง และวนไปมา
ชายหนุ่มดีใจสุดขีด คนแรกที่นึกถึงก็คือ สาวิตรี เขาโทรหาเธอ พูดอย่างตื่นเต้น รบเร้าให้เธอมาดูด้วยตา คู่หมั้นสาวตอบรับด้วยเสียงหวาน ว่าจะมาในทันที เขาแทบจะอดใจรอไม่ไหว เดินไปมาอย่างกระวนกระวาย ตื่นเต้นกับการค้นพบในครั้งนี้ จนอยากจะตะโกนออกมา
ข่าวดี มาพร้อมกับข่าวร้าย อย่างไม่น่าให้อภัย รถของหญิงสาวเสียหลักพลิกคว่ำลงข้างทาง ก่อนถึงบ้านเขาไม่ไกล เธอพยายามโทรหา ชายหนุ่ม ก่อนจะหมดสติไป
เสียงตะโกน เปล่ง ออกมาจากใจที่ปวดร้าว เขาวิ่งไปที่ซากรถ ร้องไห้อย่างคนบ้าคลั่ง ทุกอย่างรอบตัวเวลานี้ ไม่อยู่ในสายตาแม้แต่อย่างเดียว ความต้องการ คือ ยื้อชีวิตของคนรักไว้ ให้นานที่สุด
พลัน สติที่เหลือเพียงน้อยนิดของเขา ก็ฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้อย่างหนึ่ง ชายหนุ่มอุ้มร่างที่ลมหายใจรวยริน ของคู่หมั้นสาว ขึ้นรถของเขา ขับไปที่บ้าน นำเธอเข้าไปยังห้องทดลอง อย่างรีบเร่ง
หลังจากต่อสายไฟ และสายสัญญาณ เข้าจุดต่าง ๆ ตามร่างของคนรักเรียบร้อย เขาเปิดโปรแกรม ทำเช่นเดียวกับที่เคยทำซ้ำไปซ้ำมา กว่าร้อยครั้ง แต่คราวนี้ ต่างออกไป เพราะสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ไม่ใช่หนูทดลอง แต่เป็นคน และเป็นคนที่เขาไม่คาดฝัน ว่าจะเป็นเธอ ที่มานอนอยู่ตรงนี้
โปรแกรมทำงานอย่างเงียบ ๆ จนวิชาญได้ยินเสียงเต้นของหัวใจตัวเอง เขานั่งข้างเตียงกุมมือคนรักไว้ น้ำตาไหลอาบสองแก้ม มองหน้าคู่หมั้นสาว ไม่ละสายตา จนกระทั่งร่างเธอกระตุก สองสามครั้ง ลมหายใจเฮือกสุดท้าย ถูกปล่อยยาวออกมา พร้อมทั้งร่างกาย และหัวใจ หยุดทำงาน ชายหนุ่มปล่อยโฮอย่างสุดกลั้น ซบ ลงที่ร่างไร้วิญญาณ ของคนรัก ร้องไห้ดัง อย่างไม่กลัวใครได้ยิน
ร่างอันแน่นิ่ง ของหญิงสาว กับชายหนุ่ม ที่สะอื้นอยู่ข้าง ๆ ทำในห้องนั้นหดหู่ และวังเวง การสูญเสียคนรักไปอย่างกะทันหัน หัวใจของชายหนุ่ม แทบแตกสลายตามไป เขาไม่มีเรี่ยวแรงที่จะทำอะไร ไม่อยากแม้แต่จะลุกยืน จนกระทั่งสายตาได้มองไปยังหลอดแก้ว ที่โยงสาย เชื่อมต่อกับร่างของหญิงสาว ความปีติล้น เกิดขึ้นกับเขาอย่างฉับพลัน ชายหนุ่มลืมตากว้างอย่างตื่นเต้น ถึงแม้ดวงตาจะยังพร่ามัวจากน้ำตา แต่เขาก็ยังเห็นชัด ว่า สารสีเขียวเรืองแสงในนั้น เหมือนมีสิ่งหนึ่งแหวกว่ายอยู่ มันวนไปวนมาช้า ๆ ขึ้น และลง อย่างอ้อยอิ่ง.................
( มีต่อครับ )