[CR] ขุดมารีวิว แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ไม่ได้มีใครเรียกร้องแต่ว่างจัด กับหนัง 3 มิติ House of Wax (1953)

ไม่ได้มีใครขอ แต่ว่างจัด เหมือนไม่มีงานทำ เลยมานั่งเขียนริวิวไปวันๆ เก็บคะแนนไว้แลกของพันทิพ ใจจริงอยากได้หมวกเพราะตอนนี้ผมน้อยไปบวชมา แต่หมวกหมดเลยไม่รู้จะแลกอะไร ต้องสะสมไปคะแนนไปก่อนเผื่อจะแลกหมอน เอ๊ะ ยังไง ไม่เกี่ยวกับหนังเลยสักกะนิด เข้าเรื่องกันไปเลยอย่างไม่ต้องมีใครมาเรียกร้อง กับหนังคลาสสิค หนังสามมิติที่มีเสียงแบบ สเตริโอโฟนิค ที่เป็นเสียงรอบทิศทางเรื่องแรกของโลก (หรือเปล่าไม่รู้นะ แต่เขาเคลมมาว่างั้น) หนังมีชื่อน่ารักๆ ว่า "้House of Wax" เป็นหนังปี 1953 มีการสร้างหนังในชื่อเดียวกันในปี 2005 เขาว่าเป็นรีเมค แต่เอาจริงๆ ผมว่าเนื้อเรื่องก็ไม่เหมือนกันแล้วละครับ House of wax ปี 1953 เป็นหนังแนวล้างแค้นซะมากกว่า 

มาว่ากันที่เนื้อเรื่องดีกว่า จะได้ไม่เสียเวลา เพราะตามสันดอนของผมแล้ว ชอบเล่าเรื่องซะยาวจนครบจบเรื่องกันไปเลย แต่รอบนี้จะเล่าสั้นๆ เพื่อให้พี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ อ่านแล้วอยากจะไปหาดู เอ้าว่าเข้าไปนั่น (ไม่รู้จะไปหาดูที่ไหนเหมือนกันนะ แต่ผมได้ดูในเคเบิ้ลทีวีนานมาแล้ว) 

เรื่องก็มีอยู่ว่าช่วงต้นๆ ปี 1900 กว่าๆ ศาสตราจารย์เฮ็นรี่ จาร์ร็อด (Vicent Price) เป็นผู้เชี่ยวชาญในการปั้นหุ่นขี้ผึ้ง และมีพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งของตัวเอง เน้นหุ่นที่เป็นบุคคลในประวัติศาสตร์ที่เสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยม และเขาก็มีหุ้นส่วนนามว่า แมธธิว เบิร์ค (Roy Roberts) ซึ่งกำลังไม่พอใจที่เฮ็นรี่ไม่ยอมจัดนิทรรศการแสดงหุ่นที่จะช่วยดึงคนเข้ามาเพิ่มรายได้ เลยอยากจะออกจากการเป็นหุ้นส่วน ตอนนั้นเอง เศรษฐีนักวิจารณ์ศิลปะนามว่า ซิดนี วอลเลซ (Paul Cavanagh) ก็มาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ และรู้สึกสนใจอยากจะซื้อหุ้นของ แมธธิว แต่จะซื้อหุ้นเมื่อกลับมาจากอียิปต์ในอีกสามเดือนข้างหน้า แต่แมธธิว อดรนทนไม่ไหวจึงวางแผนจะวางเพลิงพิพิธภัณฑ์เพื่อเอาเงินประกัน ตอนที่เขากำลังวางเพลิงอยู่ เฮ็นรี่ก็มาเห็นเข้า และเกิดการต่อสู้กันในกองเพลิง เฮ็นรี่โดนทำร้ายจนเป็นลม ล้มไป แมธธิวก็ทิ้งเฮ็นรี่ไว้ในกองเพลิงแล้วหนีไป 

แมธธิว ได้เงินประกันทั้งหมดไว้คนเดียว เพราะทุกคนคิดว่าเฮ็นรี่ตายไปแล้ว แต่จริงๆ เขายังไม่ตาย และกลับมาฆ่าแมธธิว และจัดฉากเป็นว่าแมธธิวฆ่าตัวตาย ต่อมาไม่นาน เฮ็นรี่ก็ไปฆ่าคู่หมั้นของแมธธิวอีก แต่หลังจากลงมือฆ่าสำเร็จ ซู อัลเล็น (Phyllis Kirk) เพื่อนร่วมห้อง ก็มาเห็นเข้า เธอวิ่งหนีด้วยความกลัว เฮ็นรี่วิ่งไล่ตามเธอไป แต่ก็ไม่ทัน ซู หนีกลับไปที่บ้านของเพื่อนชื่อ สก็อต แอนดรูส์ และในคืนนั้นเอง ศพของคู่หมั้นแมธธิวก็โดนขโมยไปจากห้องเก็บศพ 

วอลเลซ ได้ข่าวว่า เฮ็นรี่ยังไม่ตาย แต่เฮ็นรี่ก็พิการ ต้องนั่งรถเข็น และมือก็บาดเจ็บจนไม่อาจจะปั้นรูปปั้นได้แล้ว เฮ็นรี่เสนอให้ วอลเลซ ลงทุนเปิดพิพิธภัณฑ์แห่งใหม่กับเขา ซึ่งจะมีหุ้นขี้ผึ้งที่ลูกศิษย์ที่เป็นใบ้ และขี้เมา ชื่อว่า เลออง อเวริล (Nedrick Young) กับ อีกอร์ (Charles Bronson ถูกแล้วฮะ ชาร์ลส์ บรอนสัน ดาราเจ้าบทบาทผู้โดงดังจากหนังล้างแค้นอย่าง Death Wish ในยุคที่เขายังเป็นดาราโนเนมอยู่)  ของเขาจะเป็นคนปั้นขึ้น  

เขาอยากจะสร้างพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึงสยองขวัญขึ้นมาอีกครั้ง โดยมีรูปปั้นของเหล่าผู้คนที่เสียชีวิตแบบโหดเหี้ยม และเขาจะใส่รูปปั้นฆ่าตัวตายของ แมธธิว 

ในวันเปิดตัวพิพิธภัฒฑ์หุ่นขี้ผึ้ง ซู เองก็ไปร่วมงานด้วยกันกับ สก็อต เพื่อนของเธอ และเห็นรูปปั้นที่ใบหน้าเหมือนเพื่อนของเธอที่ถูกฆ่า เฮ็นรี่ได้ยินก็อธิบายว่า เขาใช้เธอเป็นแบบโดยอาศัยรูปจากในหนังสือพิมพ์ แล้วเขาก็ชน สก็อต ให้มาทำงานด้วย เพราะสก็อตเองก็มีฝีมือในการปั้น และเป็นคนที่ วอลเลซ หมายมั่นปั้นมือว่าจะเป็นนักปั้นหุ่นที่โด่งดัง และเฮ็นรี่ยังชนให้ ซู มาเป็นแบบ ในการปั้นหุ่น มาเรีย อังตัวเน็ต อีกด้วย 

ซู มั่นใจว่า ร่างของเพื่อนเธอถูกเอามาเป็นแบบในการปั้นหุ่นของเฮ็นรี่ เธอจึงไปปรึกษากับสารวัตร ทอม เบรนเน่น (Frank Lovejoy ชื่อเท่ห์ดีเนอะ) เขาเริ่มสืบสวนเรื่องของเฮ็นรี่ และจ่าจิม แชน (Dabbs Greer) ก็จำได้ว่า เลออง เป็นคนร้ายตามหมายจับ และมีชื่อจริงๆ ว่า คาร์ล เฮนดริกซ์ ที่หนีโทษอยู่ เลออง โดนจับข้อหาขโมยนาฬิกาพกของคนอื่น 

คืนนั้นเอง ซู ก็ไปหา สก็อต ที่พิพิธภัณฑ์ แต่เฮ็นรี่รู้ตัวก่อน จึงส่ง สก็อต ไปทำธุระที่อื่น พอ ซู เห็นว่าไม่มีใครอยู่ เลยไปตรวจดูหุ่นขี้ผึ้ง และเห็นว่าในหุ่นขี้ผึ้ง มีโครงกระดูกอยู่ ทำให้เธอมั่นใจว่า หุ่นขี้ผึ้งพวกนี้ เป็นศพที่โดนขโมยจากห้องเก็บศพ เธอจึงไปหาเฮ็นรี่ เพื่อจะจับเขาส่งตำรวจ โดยคิดว่า เฮ็นรี่ พิการต้องนั่งรถเข็น แต่เธอกลับถูกเฮ็นรี่จับขังเอาไว้ และเฮ็นรี่ก็คิดจะใช้ร่างของเธอมาปั้นหุ่นขี้ผึ้ง 

เลออง สารภาพเรื่องทั้งหมดให้ตำรวจรู้ ตำรวจจึงรีบรุดที่พิพิธภัณฑ์ ซึ่งสก็อตกับต่อสู้กับ อีกอร์ อยู่ ตำรวจไปถึงพอดี และจับ อีกอร์ เอาไว้ ตำรวจบุกเข้าไปที่ห้องทำงานของ เฮ็นรี่ เฮ็นรี่ พยายามต่อสู้กับตำรวน แต่ก็พลาดท่าและตกลงไปในบ่อขี้ผึ้งแสนร้อน และเสียชีวิตไปอย่างทรมาน 

เอ้า ตายแย้ว จะเหลาสั้นๆ กลายเป็นยาวยืดอีกเสียแล้ว ตายๆๆๆๆ ไม่เป็นไร การเล่าเรื่องมันอยู่ในกมลสันดาน เลยเล่าไปเรื่อย ไม่ว่ากันเนอะ

มารีวิวกันสั้นๆ ให้ได้ใจความ 

เนื้อเรื่องค่อนข้างยืดยาด ไม่ได้มีอะไรน่ากลัว น่าสยองสักเท่าไหร่ แต่ตัวหนังเป็นหนังสามมิติ ซึ่งถือว่าแปลกใหม่ และยังมีการใช้ระบบเสียสเตอร์ริโอ ยิ่งทำให้หนังโดดเด่น และน่าสนใจอย่างมาก เนื้อเรื่องจริงๆ ก็ถือว่าทันสมัยสำหรับยุคนั้นนะครับ การเผาบ้านเพื่อเอาประกัน หรือการฆ่าคนแล้วเอามาปั้นเป็นหุ่นขี้ผึ้ง ก็ถือว่าดูโหดเหี้ยมมากในสมัยนั้น ในยุคที่ห้ามแสดงความรุนแรงในภาพยนตร์ แต่หนังก็ยังแสดงให้รู้สึกถึงความโหดเหี้ยมในการฆาตกรรมได้แม้จะไม่เห็นภาพชัดๆ 

แน่นอนว่าวินเซนต์ ไพรซ์ ในวันนั้น ก็ถูกเรียกว่าเป็นนักแสดงหนังแนวสยองขวัญ และยังเป็นดาราที่เล่นหนัง 3 มิติ เยอะมากในยุคนั้น 

ฟิลลิซ เคิร์ก เล่นหนังไม่กี่เรื่อง แต่ทุกเรื่องก็ถือว่าโด่งดัง และเป็นกระแสในยุคนั้นมาก เธอหันมาเล่นซีรีย์เรื่อง Thin Man ที่เป็นซีรี่ย์ แนวสืบสวน และเธอก็หันหลังให้วงการตั้งแต่ปี 1970 ซึ่งถือว่าเร็วมาก

รอย โรเบิร์ต ก็เป็นนักแสดงมากฝีมือ ที่ฝากฝีมือไว้ทั้งในหนังโรง และละครเวที รวมๆ แล้วมากกว่า 900 เรื่องเลยเน้อ 

ผู้กำกับ Andre de Toth (ขอใช้ภาษาอังกฤษแล้วกัน กลัวสะกดผิด) ก็เป็นผู้กำกับมากฝีมือ ในยุคนั้น และยังเป็นผู้กำกับที่กล้าได้กล้าเสีย กล้าเสี่ยงกำกับหนังแหวกๆ ที่ดังบ้าง ดับบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็ไปได้ดี
ชื่อสินค้า:   House of Wax 1953
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่