ท้าวความตอนที่ 1
https://m.ppantip.com/topic/38758968?
เรื่องความสำคัญของทำเลที่ตั้ง และคนแบบไหนที่มีนิสัยเหมาะที่จะทำ Local Hostel
กระทู้ที่สอง อยากต่อเรื่องของทำเล อีกทีค่ะ
ย้ำอีกครั้งเฉพาะโลคอลโฮสเทลหรือที่พักอื่นๆ นอกเขตเมืองใหญ่นะคะ เพราะที่พักตามเมืองหลักและเมืองรองน่ะ ทำเลเขาดีอยู่แล้วล่ะค่ะ
สิ่งที่ต้องพิจารณาคือ
หนึ่ง การเดินทางมายังที่พักค่ะ สะดวกมั๊ย ถ้าไม่สะดวกไปรับได้มั๊ย มีความจำเป็นอะไรที่เขาต้องมาพักที่เราเช่น ข้างที่พักเราเป็นศูนย์ราชการ, เป็นมหาวิทยาลัย, เป็นโรงพยาบาล, เป็นเขตการค้าชายแดน, เป็นทางผ่านของการขนส่งสินค้าและเขามีความจำเป็นต้องพักรถและพักค้างคืน (อันนี้ต้องดูดีๆ เผลอๆ อาจกลายเป็นที่พักยาเสพติด 55) ลักษณะของที่พักจะเป็นแบบไหน
ลักษณะโฮสเทลเป็นเตียงสองชั้น ห้องน้ำรวมแยกข้างนอกห้อง ลูกค้านทท. หนุ่มสาวทั้งไทยและต่างชาติ ของเรามีคณะครูกลุ่มใหญ่มาพักปีละสองครั้ง เขาไม่ต้องการความสะดวกสบายมาก แค่เอาไว้นอนอย่างเดียวเพราะกลางวันต้องไปสอนว่ายน้ำ (หมายถึง นักเรียนเป็นร้อยและคณะครูต่างพื้นที่ เดินทางมา สอน เรียน ว่ายน้ำ เพราะเป็นคอร์สของกระทรวงศึกษา แต่ชนบทน่ะจะให้ไปฝึกว่ายตามห้วยหนองคลองบึง มันก็ไม่ใช่ จึงต้องยกโขยงกันมายังสระว่ายน้ำใหญ่ๆ ที่ใกล้อำเภอตัวเองที่สุดอะค่ะ) อะไรแบบนี้ มานอนคืนสองคืนเราก็รับหลายพันละนะ (นอนเฉพาะครู นร. ไปกลับ)
ลักษณะแบบโรงแรมทั่วไป/อพาร์ทเม้น/ทาวเฮ้าส์ เหมาะกับสถานที่ใกล้ศูนย์ราชการ เราอาจรับรายเดือนและรายวันได้ด้วย
ลักษณะแบบม่านรูด (อย่าเพิ่งไปคิดเรื่องน๊านนนน 😆) ตอนนี้ลองมาคิดเรื่องลักษณะของคนที่มาพักนะคะ
บางคนมาบิกไบท์ รถคันใหญ่ๆ สัมภาระเยอะมาก แต่งตัวแบบจัดเต็ม ถามว่าเขาอยากขนสัมภาระของเขาขึ้นไปชั้นสองห้องริมสุดรึเปล่า ร้อนก็ร้อน เหนื่อยก็เหนื่อย ของก็หนัก รถก็แพง จะให้เอาไปจอดตากฝนตากแดดก็เป็นห่วง
ชาวต่างชาติที่เช่ารถมาตกวันละ 700-2000 บาทแล้วแต่ยี่ห้อ, ความแรงของรถ, เช่ากี่วันและการต่อรอง เราต้องหาผ้าคลุมเบาะให้นะเพราะกลัวแมวข่วน
อีกกลุ่มนึงที่ไม่น่ามองข้ามคือเซลขายของ คนเหล่านี้รายได้โอเค แต่ค่าคอมสูงลิ่ว มาทีของเต็มรถ ของมูลค่าหลักแสนหลักล้าน ถามว่าเขาจะเอารถไปจอดไกลๆ แล้วไปนอนโรงแรม แอร์เย็นๆ นอนหลับเหรอ?? 55 เพื่อนเราหลายคนเป็นเซลและเป็นผู้หญิงนะ นอนม่านรูดตลอดเพราะเขาคิดว่าทั้งตัวเขาเองและของในรถต้องปลอดภัยอยู่ในร่ม ไม่เป็นเป้าสายตา
ม่านรูดมันก็มีเกรด, มีความปลอดภัยและมีความเป็นส่วนตัวในระดับนึงอะเน๊าะ อยู่ที่ว่าเลือกเอา..
อืมมม..เพื่อนเราเป็นเซลขายยา เขาจะแบ่งโซนภาคกัน โรงพยาบาลอยู่ที่ไหน แพทย์ชื่ออะไร ขาดเหลืออะไร ต้องเอาอะไรมาขาย เขามีข้อมูลหมด เขาคุยเรื่องยาและอุปกรณ์การแพทย์กับหมอได้เลย แต่เราก็นึกไม่ออกว่ายังมีเซลที่ขายอะไรอีก ถ้าอยากทำที่พักแต่ยังไม่รู้ว่าจะเอาเป็นแบบไหน ก็ลองไปสังเกตที่ทางของตัวเองแล้วค่อยๆ นึกไปนะคะ
อ้อ..เซลขายปุ๋ยยาทางการเกษตร ตลาดใหญ่มาก คนเหล่านี้นึกออกมั๊ยคะว่าเขาจะพยายาม "ไม่" จอดรถตากแดด ก็สารเคมีทั้งนั้นอะนะ
มาต่อๆ เรื่องทำเล
ที่พักอยู่ใกล้หรือเป็นจุดเชื่อมต่อกับแหล่งท่องเที่ยวรึเปล่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า, อุทยานแห่งชาติ และสถานที่นั้นๆ มีจุดเด่นด้านใด
ยกตัวอย่างของเรานะ
ลูกค้าต่างชาตินิชมาเก็ตที่มีเป้าหมายการมาพักชัดเจนมาก "ฉันมาเมืองไทยเพราะมาดูนก" หรือ ฉันรับงานฟรีแลนซ์ทำวิจัยเรื่องช้าง คนเหล่านี้บางครั้งมาจากองค์กรใหญ่ระดับโลกและมีเงินทุนมหาศาล งานก็สนุก..ตามดูขี้ช้าง..ตามดูว่าช้างกินอะไร..ช้างบำบัดตัวเองยังไงเมื่อรู้ว่าตัวเองป่วย (สันนิษฐานของงานวิจัยคือ..คนเราจะเอาความรู้เรื่องสมุนไพรในป่ามาใช้ได้อย่างไรในเมื่อเซ็นต์และความรู้ของเราก็มีจำกัด ดังนั้นเขาจึงมาสังเกตสัตว์ที่อยู่ร่วมกับคน เขาเชื่อว่าบางทีคนอาจเรียนรู้มาจากสัตว์ อะไรประมาณนี้) พ่อหนุ่มคนนี้ก็จะมีสมุดบันทึกเล่มใหญ่มากกว่า A3 สำหรับเก็บตัวอย่างพืชและเขียนบันทึก
เราได้รับความรู้เยอะมากจากคนเหล่านี้ เรื่องเงินจากการเข้าพักน่ะ ไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ 555 อย่างเขาพักคนเดียวสี่คืนก็แค่ 800-1200 บาท เงินนี่มันไม่มากมายเลยนะคะแต่คุณภาพชีวิตของเราดีมากๆ ที่เรามีโอกาสได้พบกับคนกลุ่มนี้ เวลาพูดคุยกัน เขาก็จะเล่าเรื่องของเขาให้เราฟัง เช่น เขาไปทำงานอเมริกาใต้ เดินป่าอเมซอน ยิ่งกว่าสารคดีอีกค่ะเพราะเจ้าตัวมาเอง 555
สำหรับคนที่ดูนกแบบมืออาชีพ นี่คือเวบไซต์ที่น่าสนใจนะคะ ลองเข้าไปส่องดู
https://www.xeno-canto.org/ (sharing bird sounds from around the world) ไม่มืออาชีพจริงใช้เวบนี้ไม่ได้เพราะต้องหาชื่อนกเป็นศัพย์วิทย์ 555
เราขอบายละกัน แค่ชื่อภาษาไทยกับชื่ออังกฤษก็จะไม่รอดละ ดีที่เราก็ดูนกมาบ้างสมัยเรียนมัธยม รู้คำศัพย์บ้าง มีหนังสือดูนกภาษาอังกฤษให้เขายืม กลุ่มนี้จะไปแก่งกระจาน เขาใหญ่ อินทนนท์ ดอยหลวงเชียงดาว ทางใต้ก็น่าจะมีแต่เค้าไม่พูดถึงเลยอะ ไม่รู้ทำไม
คนแบบเดียวกันมันก็จะดึงดูดกัน แบบนั้นล่ะค่ะ ใช่เลย เราก็เป็นพวกชอบเข้าป่าเข้าดอย ไม่อินกับทะเลเท่าไหร่
เออ...สัมภาระของคนเหล่านี้ ต้องดูแลอย่างดีนะคะ หายไม่ได้เด็ดขาด เพราะคืออุปกรณ์และข้อมูลที่หาซื้อทดแทนไม่ได้ค่ะ บางครั้งเราปิดห้องรวมให้เขาเลยเพราะกลัวของเขาหายค่ะ
นทท. หลายคนเป็นนักปั่น โดยมากจะเอาจักรยานมาเองจากประเทศของเขา เส้นทางที่เล่าให้ฟังบ่อยๆ จะเป็นลงเครื่องกัวลาลัมเปอร์แล้วก็ปั่นขึ้นมาเรื่อยๆ และสิงห์บุรี อยุทธยา สุโขทัย พิษณุโลก ถ้าเรียงไม่ถูกขออภัยนะคะ ลืม มาตาก ลี้ เถิน เข้าเขตจอมทองมาพักที่เรา เช็คสภาพร่างกาย ไปต่อสูงสุดแดนสยาม แล้วก็เข้าเมืองเชียงใหม่ ไปต่อเชียงราย ลาว เวียดนาม บางคนเอากทม. เป็นฮับ แล้วค่อยไปเป็นภาคๆ ไป
บางคนก็สตาร์ทจากพม่าแล้วก็จะปั่นไปรอบโลกเลย บางคนก็ปั่นแถวภาคเหนือแล้วลงใต้เข้ามาเลย์ อินโด แล้วก็ไปจบทริปที่ออสเตรเลีย NZ
ไม่ค่อยมีใครอยากไปจีนเลยเน๊าะ 555 นักปั่นเหล่านี้ถ้าลองได้ป่วยหรือไม่สบายตัวนิดๆ หน่อยๆ ถ้าไม่มั่นใจในสุขภาพตัวเองเนี้ย เขาจะพักยาวเลยนะคะ เพราะเขาจะไปป่วยระหว่างทางไม่ได้เด็ดขาดค่ะ
บางครั้งการทำที่พักราคาถูกก็จะเจอกับนทท. ที่ไม่ค่อยน่ารัก นทท. ต่างชาติที่ซกมก กินอะไรเลอะเทอะ หนวดเครารุงรัง ดูรักษ์โลก รักษ์เพื่อนมนุษย์ แต่มีตรรกกะแปลกๆ เช่นไม่ยอมอาบน้ำเพราะคิดว่าน้ำในโลกนี้มีจำกัด คิดว่าการอาบน้ำทำให้สิ้นเปลืองทรัพยากรโลก เขาไม่เห็นด้วยที่เราๆ ท่านๆ ฉี่แล้วเอาน้ำดีไปชะฉี่แล้วเดรนทิ้งรวมกันเป็นของเสีย เขาจึงไปหาที่ฉี่แบบรดน้ำต้นไม้ไปในตัว อึมมมม...
นทท. บางคนหรือบางคู่ ขายทุกสิ่งอย่างที่ตัวเองมีแล้วออกเดินทางท่องเที่ยวทั่วโลก เขาไม่ได้เที่ยวอย่างเดียว เขาหาโอกาสในการทำธุรกิจไปด้วยค่ะ
Digital Nomad เป็นอะไรที่นทท. อายุบวกลบ 25 ใฝ่ฝันถึง บางคนบอกว่าเฉพาะในเชียงใหม่ ที่เขาถือว่าเป็นแหล่งรวมและพบปะของ Digital Nomad จากทั่วโลก ก็มีราวๆ สามพันคนล่ะค่ะ อันนี้เขาเล่ามานะ เราก็เอามาเล่าต่อ ส่วนจะจริงแท้อย่างไร เราก็ไม่รู้ค่ะ
แต่ยกตัวอย่างลูกค้าที่กลายมาเป็นเพื่อนเราก็ได้ หนุ่มสเปนที่เริ่มต้นยอดฟอโลว IG สองสามพันคนตอนมาพักที่นี่ สองปีผ่านไปยอดฟอโลว์เพิ่มเป็นเกือบเจ็ดหมื่นคน เขามีเวบท่องเที่ยวของเขาเองและทำเงินได้ด้วย ตอนนี้มันก็มากพอที่เขาจะออกจากงานประจำผันตัวเองเป็น Digital Nomad เต็มตัวละค่ะ
http://nomadict.org/ ไปส่องได้นะคะ เป็นแรงบันดาลใจในการออกเดินทางชั้นยอดเลยค่ะ
ส่วนใครที่มีฝีมือในการถ่ายภาพและเก่งภาษา ต้องการจะเผยแพร่ภาพของตนเอง ลองติดต่อเขาได้ค่ะ ต้องผ่านการสัมภาษณ์เป็นขั้นเป็นตอน เราไม่รู้รายละเอียดหรอก เราเป็นมือสมัครเล่น
เพื่อนคนนี้ช่วยประชาสัมพันธ์โฮสเทลของเรา ทำให้เรารู้จักเวบ workaway couchsufing helpex เขียนระบบรายรับ รายจ่ายในแผ่น excel ให้เรา เอาไว้จะเล่าให้ฟังนะคะ ช่วยในการทำงานได้มากมายก่ายกองเลยค่ะ
ตกลงนี่เรากำลังเล่าเรื่องทำเลหรือเรื่องอะไรเนี้ย 555
เล่าเหมือนเราเก่งภาษาเน๊าะ 55 ก็ F อังกฤษเสริมตอนมอปลายอะค่ะ มันยากมาก อังกฤษหลักก็เกรด C
เรียนมหาลัยในสาขาที่ไม่เน้นภาษาสักนิ๊ดดดดดด จบออกมาก็ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเลยยยยยย
มาเรียนรู้เอาตอนจะทำโฮสเทลนี่ล่ะค่ะ เรียนรู้เยอะจากลูกค้าหลากหลายเชื้อชาติ หลากหลายสำเนียง บางทีก็ไม่ต้องพูดอะไรเพราะเขาก็พูดอังกฤษไม่ได้ค่ะ 555 ไม่ยากหรอก ขอแค่กล้าและเรียนรู้ บางครั้งเราส่งข้อความไปถามเพื่อน
ถ้าเราจะพูดหรือเขียนว่า No Thank you ห้วนๆ เราจะเขียนอะไรแทนดีที่มันมีความหมายเดิมแต่ละมุนละม่อมและรักษาน้ำใจอีกหน่อย ไรเงี้ย เขาก็จะเขียนส่งมาสองสามบรรทัด ภาษาอังกฤษที่สละสลวย ไม่ห้วนห้าวแต่ความหมายเดิม 555
มาต่อ ลักษณะการทำที่พัก
จะเอาแบบ Farmstay หรือ Homestay หรือ Guesthouse หรือ Resort หรือ มี Workshop ต้องดูที่ทำเลและทุนทรัพย์เป็นหลัก แต่ที่สำคัญสุดๆ คือตัวเจ้าของเองนี่แหละค่ะ เราเป็นคนแบบไหน life style เราเป็นแบบไหน เรามีความสุขที่ได้ทำอะไร เรามีความทุกข์ที่ต้องทำอะไร เราต้องการเจอคนหรือลูกค้าแบบไหน และถ้าจะให้ดีก็ควรเป็นพื้นที่ของเราเองนะคะ ถ้าเราไปเช่าที่เขา รับรองได้ว่าสำเร็จยากมาก การจะมีเงินทองจากธุรกิจที่พักในชุมชนท้องถิ่นและเช่าที่เขานี่ ยากมากเลยค่ะ
คำว่า workshop นี่น่าสนใจมากๆ เลยนะคะ เราจะได้ลูกค้าที่มีกำลังซื้อและเป็นคนที่ใฝ่รู้ใฝ่เรียนและคนที่ใฝ่รู้ใฝ่เรียนก็มักจะนิสัยดี ใช่มั๊ยล่ะคะ อันนี้ขอเป็นอีกประเด็นนึง มันยาว บางครั้งบางทีถ้าทำการตลาดให้ดี รายรับอาจสูงมากก็ได้
ในบรรดาที่พักทั้งหมด โฮสเทลจะเป็นอะไรที่แตกต่างโดดออกไปจากที่พักลักษณะอื่นๆ
ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะ การทำโฮสเทลจะต้องทำให้มีอารมณ์และบรรยากาศคล้ายๆ การทำ community ใน coffee shop อะค่ะ
คนที่มาพักนั้นต้องการความสะดวกสบายแค่ในระดับนึง ต้องการความเป็นส่วนตัวไม่มาก แต่สิ่งที่เขาต้องการคือผู้คนและชุมชนที่เขาคุ้นเคยค่ะ
บางคนอาจคิดว่า..จะคุ้นเคยได้ไงในเมื่อเพิ่งมาพักครั้งแรก 555 สำหรับลูกค้าบางกลุ่มนะคะ ความคิดนี้ผิดถนัดเลยค่ะ
อย่าลืมว่าเขาเดินทางมาเป็นเดือนเป็นปี เปลี่ยนที่พักมาเป็นสิบเป็นร้อย เขาจะคุ้นเคยกับผู้คนและสังคมในโฮสเทลได้เนียนนนนนน มากกกกกก เลยล่ะค่ะ
เชื่อมั๊ยคะว่าลูกค้าหลายๆ คนมาพักที่นี่ตามที่เพื่อนเขาบอก มาหา PJ คนเดียว (ชื่ออังกฤษของเรา 55 คนอาไร้อวยตัวเองก็ได้ อิ อิ) เขาจะได้ข้อมูลทุกอย่างในพื้นที่นี้ ได้รับการต้อนรับที่ดี สบายไปล้านแปด ไม่ต้องวางแผนเดินทางให้ปวดหัว
และเขาจะรู้สึกคุ้นเคยกับเราตั้งแต่ยังไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นหน้าเราด้วยซ้ำ เพราะเขาฟังจากเพื่อนและการอ่านรีวิวค่ะ แรกๆ เราก็ไม่ชิน บางคนทำตัวสนิทสนมเกินไปแต่ตอนนี้ชินละ 555 ลูกค้าลักษณะนี้ก็จะมีจากฝรั่งเศส, เยอรมัน, อิสราเอล, สเปน และคงยังมีอีกมากที่เขาไม่ได้เล่าให้เราฟัง (แปลกเน๊าะมาได้ไงเนี้ย เยอรมันกับอิสราเอลเนี้ยนะ เขาออกจะถือตัว)
คือชาวต่างชาติเขาจะมีกลุ่มของเขาอะค่ะ ไม่ว่าจะเป็นออนไลน์หรือสถานที่ๆ คนชนชาตินี้หรือกลุ่มนี้เขาจะไปรวมตัวกัน อาจจะเป็นโฮสเทลบางแห่งในกรุงเทพ หรือตามบาร์ต่างๆ ที่คนแต่ละกลุ่มจะไปพบปะเพื่อนจากชนชาติเดียวกัน อะไรแบบนี้
บางชาติรวมตัวกันค่อนข้างแน่นแฟ้น และเขาจะเชื่ออย่างสนิทใจเพราะเป็นการพูดแนะนำปากต่อปาก จากเพื่อนของเขาค่ะ
กระทู้เรื่องนี้อยากให้เป็นประโยชน์กับคนที่อยากทำที่พักในชุมชนของตนเอง
ถ้าเราสามารถที่จะ "กลับบ้าน" ไปใช้ชีวิตที่ดี ไปพัฒนาชุมชนบ้านเกิดของเราได้
จขกท.จะยินดีมากๆ เลยค่ะที่ได้มาแบ่งปันประสบการณ์
ให้คุณรู้ว่าคุณต้องวางแผนเตรียมตัวยังไงและคุณต้องเจอกับปัญหาอุปสรรคแบบไหน ก่อนที่คุณจะเจอกับมันจริงๆ คุณจะได้มีเวลาวางแผน
การทำที่พักก็เป็นโอกาสนึงที่อาจเป็นแรงจูงใจให้คุณ "กลับบ้านเกิด" ก็ได้นะคะ
ตอนที่ 3 ค่ะ
https://m.ppantip.com/topic/38995274?
ตอนที่ 2 แบ่งปันประสบการณ์การทำ Local Hostel ในระยะสองปีครึ่ง
https://m.ppantip.com/topic/38758968?
เรื่องความสำคัญของทำเลที่ตั้ง และคนแบบไหนที่มีนิสัยเหมาะที่จะทำ Local Hostel
กระทู้ที่สอง อยากต่อเรื่องของทำเล อีกทีค่ะ
ย้ำอีกครั้งเฉพาะโลคอลโฮสเทลหรือที่พักอื่นๆ นอกเขตเมืองใหญ่นะคะ เพราะที่พักตามเมืองหลักและเมืองรองน่ะ ทำเลเขาดีอยู่แล้วล่ะค่ะ
สิ่งที่ต้องพิจารณาคือ
หนึ่ง การเดินทางมายังที่พักค่ะ สะดวกมั๊ย ถ้าไม่สะดวกไปรับได้มั๊ย มีความจำเป็นอะไรที่เขาต้องมาพักที่เราเช่น ข้างที่พักเราเป็นศูนย์ราชการ, เป็นมหาวิทยาลัย, เป็นโรงพยาบาล, เป็นเขตการค้าชายแดน, เป็นทางผ่านของการขนส่งสินค้าและเขามีความจำเป็นต้องพักรถและพักค้างคืน (อันนี้ต้องดูดีๆ เผลอๆ อาจกลายเป็นที่พักยาเสพติด 55) ลักษณะของที่พักจะเป็นแบบไหน
ลักษณะโฮสเทลเป็นเตียงสองชั้น ห้องน้ำรวมแยกข้างนอกห้อง ลูกค้านทท. หนุ่มสาวทั้งไทยและต่างชาติ ของเรามีคณะครูกลุ่มใหญ่มาพักปีละสองครั้ง เขาไม่ต้องการความสะดวกสบายมาก แค่เอาไว้นอนอย่างเดียวเพราะกลางวันต้องไปสอนว่ายน้ำ (หมายถึง นักเรียนเป็นร้อยและคณะครูต่างพื้นที่ เดินทางมา สอน เรียน ว่ายน้ำ เพราะเป็นคอร์สของกระทรวงศึกษา แต่ชนบทน่ะจะให้ไปฝึกว่ายตามห้วยหนองคลองบึง มันก็ไม่ใช่ จึงต้องยกโขยงกันมายังสระว่ายน้ำใหญ่ๆ ที่ใกล้อำเภอตัวเองที่สุดอะค่ะ) อะไรแบบนี้ มานอนคืนสองคืนเราก็รับหลายพันละนะ (นอนเฉพาะครู นร. ไปกลับ)
ลักษณะแบบโรงแรมทั่วไป/อพาร์ทเม้น/ทาวเฮ้าส์ เหมาะกับสถานที่ใกล้ศูนย์ราชการ เราอาจรับรายเดือนและรายวันได้ด้วย
ลักษณะแบบม่านรูด (อย่าเพิ่งไปคิดเรื่องน๊านนนน 😆) ตอนนี้ลองมาคิดเรื่องลักษณะของคนที่มาพักนะคะ
บางคนมาบิกไบท์ รถคันใหญ่ๆ สัมภาระเยอะมาก แต่งตัวแบบจัดเต็ม ถามว่าเขาอยากขนสัมภาระของเขาขึ้นไปชั้นสองห้องริมสุดรึเปล่า ร้อนก็ร้อน เหนื่อยก็เหนื่อย ของก็หนัก รถก็แพง จะให้เอาไปจอดตากฝนตากแดดก็เป็นห่วง
ชาวต่างชาติที่เช่ารถมาตกวันละ 700-2000 บาทแล้วแต่ยี่ห้อ, ความแรงของรถ, เช่ากี่วันและการต่อรอง เราต้องหาผ้าคลุมเบาะให้นะเพราะกลัวแมวข่วน
อีกกลุ่มนึงที่ไม่น่ามองข้ามคือเซลขายของ คนเหล่านี้รายได้โอเค แต่ค่าคอมสูงลิ่ว มาทีของเต็มรถ ของมูลค่าหลักแสนหลักล้าน ถามว่าเขาจะเอารถไปจอดไกลๆ แล้วไปนอนโรงแรม แอร์เย็นๆ นอนหลับเหรอ?? 55 เพื่อนเราหลายคนเป็นเซลและเป็นผู้หญิงนะ นอนม่านรูดตลอดเพราะเขาคิดว่าทั้งตัวเขาเองและของในรถต้องปลอดภัยอยู่ในร่ม ไม่เป็นเป้าสายตา
ม่านรูดมันก็มีเกรด, มีความปลอดภัยและมีความเป็นส่วนตัวในระดับนึงอะเน๊าะ อยู่ที่ว่าเลือกเอา..
อืมมม..เพื่อนเราเป็นเซลขายยา เขาจะแบ่งโซนภาคกัน โรงพยาบาลอยู่ที่ไหน แพทย์ชื่ออะไร ขาดเหลืออะไร ต้องเอาอะไรมาขาย เขามีข้อมูลหมด เขาคุยเรื่องยาและอุปกรณ์การแพทย์กับหมอได้เลย แต่เราก็นึกไม่ออกว่ายังมีเซลที่ขายอะไรอีก ถ้าอยากทำที่พักแต่ยังไม่รู้ว่าจะเอาเป็นแบบไหน ก็ลองไปสังเกตที่ทางของตัวเองแล้วค่อยๆ นึกไปนะคะ
อ้อ..เซลขายปุ๋ยยาทางการเกษตร ตลาดใหญ่มาก คนเหล่านี้นึกออกมั๊ยคะว่าเขาจะพยายาม "ไม่" จอดรถตากแดด ก็สารเคมีทั้งนั้นอะนะ
มาต่อๆ เรื่องทำเล
ที่พักอยู่ใกล้หรือเป็นจุดเชื่อมต่อกับแหล่งท่องเที่ยวรึเปล่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า, อุทยานแห่งชาติ และสถานที่นั้นๆ มีจุดเด่นด้านใด
ยกตัวอย่างของเรานะ
ลูกค้าต่างชาตินิชมาเก็ตที่มีเป้าหมายการมาพักชัดเจนมาก "ฉันมาเมืองไทยเพราะมาดูนก" หรือ ฉันรับงานฟรีแลนซ์ทำวิจัยเรื่องช้าง คนเหล่านี้บางครั้งมาจากองค์กรใหญ่ระดับโลกและมีเงินทุนมหาศาล งานก็สนุก..ตามดูขี้ช้าง..ตามดูว่าช้างกินอะไร..ช้างบำบัดตัวเองยังไงเมื่อรู้ว่าตัวเองป่วย (สันนิษฐานของงานวิจัยคือ..คนเราจะเอาความรู้เรื่องสมุนไพรในป่ามาใช้ได้อย่างไรในเมื่อเซ็นต์และความรู้ของเราก็มีจำกัด ดังนั้นเขาจึงมาสังเกตสัตว์ที่อยู่ร่วมกับคน เขาเชื่อว่าบางทีคนอาจเรียนรู้มาจากสัตว์ อะไรประมาณนี้) พ่อหนุ่มคนนี้ก็จะมีสมุดบันทึกเล่มใหญ่มากกว่า A3 สำหรับเก็บตัวอย่างพืชและเขียนบันทึก
เราได้รับความรู้เยอะมากจากคนเหล่านี้ เรื่องเงินจากการเข้าพักน่ะ ไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ 555 อย่างเขาพักคนเดียวสี่คืนก็แค่ 800-1200 บาท เงินนี่มันไม่มากมายเลยนะคะแต่คุณภาพชีวิตของเราดีมากๆ ที่เรามีโอกาสได้พบกับคนกลุ่มนี้ เวลาพูดคุยกัน เขาก็จะเล่าเรื่องของเขาให้เราฟัง เช่น เขาไปทำงานอเมริกาใต้ เดินป่าอเมซอน ยิ่งกว่าสารคดีอีกค่ะเพราะเจ้าตัวมาเอง 555
สำหรับคนที่ดูนกแบบมืออาชีพ นี่คือเวบไซต์ที่น่าสนใจนะคะ ลองเข้าไปส่องดู
https://www.xeno-canto.org/ (sharing bird sounds from around the world) ไม่มืออาชีพจริงใช้เวบนี้ไม่ได้เพราะต้องหาชื่อนกเป็นศัพย์วิทย์ 555
เราขอบายละกัน แค่ชื่อภาษาไทยกับชื่ออังกฤษก็จะไม่รอดละ ดีที่เราก็ดูนกมาบ้างสมัยเรียนมัธยม รู้คำศัพย์บ้าง มีหนังสือดูนกภาษาอังกฤษให้เขายืม กลุ่มนี้จะไปแก่งกระจาน เขาใหญ่ อินทนนท์ ดอยหลวงเชียงดาว ทางใต้ก็น่าจะมีแต่เค้าไม่พูดถึงเลยอะ ไม่รู้ทำไม
คนแบบเดียวกันมันก็จะดึงดูดกัน แบบนั้นล่ะค่ะ ใช่เลย เราก็เป็นพวกชอบเข้าป่าเข้าดอย ไม่อินกับทะเลเท่าไหร่
เออ...สัมภาระของคนเหล่านี้ ต้องดูแลอย่างดีนะคะ หายไม่ได้เด็ดขาด เพราะคืออุปกรณ์และข้อมูลที่หาซื้อทดแทนไม่ได้ค่ะ บางครั้งเราปิดห้องรวมให้เขาเลยเพราะกลัวของเขาหายค่ะ
นทท. หลายคนเป็นนักปั่น โดยมากจะเอาจักรยานมาเองจากประเทศของเขา เส้นทางที่เล่าให้ฟังบ่อยๆ จะเป็นลงเครื่องกัวลาลัมเปอร์แล้วก็ปั่นขึ้นมาเรื่อยๆ และสิงห์บุรี อยุทธยา สุโขทัย พิษณุโลก ถ้าเรียงไม่ถูกขออภัยนะคะ ลืม มาตาก ลี้ เถิน เข้าเขตจอมทองมาพักที่เรา เช็คสภาพร่างกาย ไปต่อสูงสุดแดนสยาม แล้วก็เข้าเมืองเชียงใหม่ ไปต่อเชียงราย ลาว เวียดนาม บางคนเอากทม. เป็นฮับ แล้วค่อยไปเป็นภาคๆ ไป
บางคนก็สตาร์ทจากพม่าแล้วก็จะปั่นไปรอบโลกเลย บางคนก็ปั่นแถวภาคเหนือแล้วลงใต้เข้ามาเลย์ อินโด แล้วก็ไปจบทริปที่ออสเตรเลีย NZ
ไม่ค่อยมีใครอยากไปจีนเลยเน๊าะ 555 นักปั่นเหล่านี้ถ้าลองได้ป่วยหรือไม่สบายตัวนิดๆ หน่อยๆ ถ้าไม่มั่นใจในสุขภาพตัวเองเนี้ย เขาจะพักยาวเลยนะคะ เพราะเขาจะไปป่วยระหว่างทางไม่ได้เด็ดขาดค่ะ
บางครั้งการทำที่พักราคาถูกก็จะเจอกับนทท. ที่ไม่ค่อยน่ารัก นทท. ต่างชาติที่ซกมก กินอะไรเลอะเทอะ หนวดเครารุงรัง ดูรักษ์โลก รักษ์เพื่อนมนุษย์ แต่มีตรรกกะแปลกๆ เช่นไม่ยอมอาบน้ำเพราะคิดว่าน้ำในโลกนี้มีจำกัด คิดว่าการอาบน้ำทำให้สิ้นเปลืองทรัพยากรโลก เขาไม่เห็นด้วยที่เราๆ ท่านๆ ฉี่แล้วเอาน้ำดีไปชะฉี่แล้วเดรนทิ้งรวมกันเป็นของเสีย เขาจึงไปหาที่ฉี่แบบรดน้ำต้นไม้ไปในตัว อึมมมม...
นทท. บางคนหรือบางคู่ ขายทุกสิ่งอย่างที่ตัวเองมีแล้วออกเดินทางท่องเที่ยวทั่วโลก เขาไม่ได้เที่ยวอย่างเดียว เขาหาโอกาสในการทำธุรกิจไปด้วยค่ะ
Digital Nomad เป็นอะไรที่นทท. อายุบวกลบ 25 ใฝ่ฝันถึง บางคนบอกว่าเฉพาะในเชียงใหม่ ที่เขาถือว่าเป็นแหล่งรวมและพบปะของ Digital Nomad จากทั่วโลก ก็มีราวๆ สามพันคนล่ะค่ะ อันนี้เขาเล่ามานะ เราก็เอามาเล่าต่อ ส่วนจะจริงแท้อย่างไร เราก็ไม่รู้ค่ะ
แต่ยกตัวอย่างลูกค้าที่กลายมาเป็นเพื่อนเราก็ได้ หนุ่มสเปนที่เริ่มต้นยอดฟอโลว IG สองสามพันคนตอนมาพักที่นี่ สองปีผ่านไปยอดฟอโลว์เพิ่มเป็นเกือบเจ็ดหมื่นคน เขามีเวบท่องเที่ยวของเขาเองและทำเงินได้ด้วย ตอนนี้มันก็มากพอที่เขาจะออกจากงานประจำผันตัวเองเป็น Digital Nomad เต็มตัวละค่ะ
http://nomadict.org/ ไปส่องได้นะคะ เป็นแรงบันดาลใจในการออกเดินทางชั้นยอดเลยค่ะ
ส่วนใครที่มีฝีมือในการถ่ายภาพและเก่งภาษา ต้องการจะเผยแพร่ภาพของตนเอง ลองติดต่อเขาได้ค่ะ ต้องผ่านการสัมภาษณ์เป็นขั้นเป็นตอน เราไม่รู้รายละเอียดหรอก เราเป็นมือสมัครเล่น
เพื่อนคนนี้ช่วยประชาสัมพันธ์โฮสเทลของเรา ทำให้เรารู้จักเวบ workaway couchsufing helpex เขียนระบบรายรับ รายจ่ายในแผ่น excel ให้เรา เอาไว้จะเล่าให้ฟังนะคะ ช่วยในการทำงานได้มากมายก่ายกองเลยค่ะ
ตกลงนี่เรากำลังเล่าเรื่องทำเลหรือเรื่องอะไรเนี้ย 555
เล่าเหมือนเราเก่งภาษาเน๊าะ 55 ก็ F อังกฤษเสริมตอนมอปลายอะค่ะ มันยากมาก อังกฤษหลักก็เกรด C
เรียนมหาลัยในสาขาที่ไม่เน้นภาษาสักนิ๊ดดดดดด จบออกมาก็ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเลยยยยยย
มาเรียนรู้เอาตอนจะทำโฮสเทลนี่ล่ะค่ะ เรียนรู้เยอะจากลูกค้าหลากหลายเชื้อชาติ หลากหลายสำเนียง บางทีก็ไม่ต้องพูดอะไรเพราะเขาก็พูดอังกฤษไม่ได้ค่ะ 555 ไม่ยากหรอก ขอแค่กล้าและเรียนรู้ บางครั้งเราส่งข้อความไปถามเพื่อน
ถ้าเราจะพูดหรือเขียนว่า No Thank you ห้วนๆ เราจะเขียนอะไรแทนดีที่มันมีความหมายเดิมแต่ละมุนละม่อมและรักษาน้ำใจอีกหน่อย ไรเงี้ย เขาก็จะเขียนส่งมาสองสามบรรทัด ภาษาอังกฤษที่สละสลวย ไม่ห้วนห้าวแต่ความหมายเดิม 555
มาต่อ ลักษณะการทำที่พัก
จะเอาแบบ Farmstay หรือ Homestay หรือ Guesthouse หรือ Resort หรือ มี Workshop ต้องดูที่ทำเลและทุนทรัพย์เป็นหลัก แต่ที่สำคัญสุดๆ คือตัวเจ้าของเองนี่แหละค่ะ เราเป็นคนแบบไหน life style เราเป็นแบบไหน เรามีความสุขที่ได้ทำอะไร เรามีความทุกข์ที่ต้องทำอะไร เราต้องการเจอคนหรือลูกค้าแบบไหน และถ้าจะให้ดีก็ควรเป็นพื้นที่ของเราเองนะคะ ถ้าเราไปเช่าที่เขา รับรองได้ว่าสำเร็จยากมาก การจะมีเงินทองจากธุรกิจที่พักในชุมชนท้องถิ่นและเช่าที่เขานี่ ยากมากเลยค่ะ
คำว่า workshop นี่น่าสนใจมากๆ เลยนะคะ เราจะได้ลูกค้าที่มีกำลังซื้อและเป็นคนที่ใฝ่รู้ใฝ่เรียนและคนที่ใฝ่รู้ใฝ่เรียนก็มักจะนิสัยดี ใช่มั๊ยล่ะคะ อันนี้ขอเป็นอีกประเด็นนึง มันยาว บางครั้งบางทีถ้าทำการตลาดให้ดี รายรับอาจสูงมากก็ได้
ในบรรดาที่พักทั้งหมด โฮสเทลจะเป็นอะไรที่แตกต่างโดดออกไปจากที่พักลักษณะอื่นๆ
ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะ การทำโฮสเทลจะต้องทำให้มีอารมณ์และบรรยากาศคล้ายๆ การทำ community ใน coffee shop อะค่ะ
คนที่มาพักนั้นต้องการความสะดวกสบายแค่ในระดับนึง ต้องการความเป็นส่วนตัวไม่มาก แต่สิ่งที่เขาต้องการคือผู้คนและชุมชนที่เขาคุ้นเคยค่ะ
บางคนอาจคิดว่า..จะคุ้นเคยได้ไงในเมื่อเพิ่งมาพักครั้งแรก 555 สำหรับลูกค้าบางกลุ่มนะคะ ความคิดนี้ผิดถนัดเลยค่ะ
อย่าลืมว่าเขาเดินทางมาเป็นเดือนเป็นปี เปลี่ยนที่พักมาเป็นสิบเป็นร้อย เขาจะคุ้นเคยกับผู้คนและสังคมในโฮสเทลได้เนียนนนนนน มากกกกกก เลยล่ะค่ะ
เชื่อมั๊ยคะว่าลูกค้าหลายๆ คนมาพักที่นี่ตามที่เพื่อนเขาบอก มาหา PJ คนเดียว (ชื่ออังกฤษของเรา 55 คนอาไร้อวยตัวเองก็ได้ อิ อิ) เขาจะได้ข้อมูลทุกอย่างในพื้นที่นี้ ได้รับการต้อนรับที่ดี สบายไปล้านแปด ไม่ต้องวางแผนเดินทางให้ปวดหัว
และเขาจะรู้สึกคุ้นเคยกับเราตั้งแต่ยังไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นหน้าเราด้วยซ้ำ เพราะเขาฟังจากเพื่อนและการอ่านรีวิวค่ะ แรกๆ เราก็ไม่ชิน บางคนทำตัวสนิทสนมเกินไปแต่ตอนนี้ชินละ 555 ลูกค้าลักษณะนี้ก็จะมีจากฝรั่งเศส, เยอรมัน, อิสราเอล, สเปน และคงยังมีอีกมากที่เขาไม่ได้เล่าให้เราฟัง (แปลกเน๊าะมาได้ไงเนี้ย เยอรมันกับอิสราเอลเนี้ยนะ เขาออกจะถือตัว)
คือชาวต่างชาติเขาจะมีกลุ่มของเขาอะค่ะ ไม่ว่าจะเป็นออนไลน์หรือสถานที่ๆ คนชนชาตินี้หรือกลุ่มนี้เขาจะไปรวมตัวกัน อาจจะเป็นโฮสเทลบางแห่งในกรุงเทพ หรือตามบาร์ต่างๆ ที่คนแต่ละกลุ่มจะไปพบปะเพื่อนจากชนชาติเดียวกัน อะไรแบบนี้
บางชาติรวมตัวกันค่อนข้างแน่นแฟ้น และเขาจะเชื่ออย่างสนิทใจเพราะเป็นการพูดแนะนำปากต่อปาก จากเพื่อนของเขาค่ะ
กระทู้เรื่องนี้อยากให้เป็นประโยชน์กับคนที่อยากทำที่พักในชุมชนของตนเอง
ถ้าเราสามารถที่จะ "กลับบ้าน" ไปใช้ชีวิตที่ดี ไปพัฒนาชุมชนบ้านเกิดของเราได้
จขกท.จะยินดีมากๆ เลยค่ะที่ได้มาแบ่งปันประสบการณ์
ให้คุณรู้ว่าคุณต้องวางแผนเตรียมตัวยังไงและคุณต้องเจอกับปัญหาอุปสรรคแบบไหน ก่อนที่คุณจะเจอกับมันจริงๆ คุณจะได้มีเวลาวางแผน
การทำที่พักก็เป็นโอกาสนึงที่อาจเป็นแรงจูงใจให้คุณ "กลับบ้านเกิด" ก็ได้นะคะ
ตอนที่ 3 ค่ะ
https://m.ppantip.com/topic/38995274?