ตั้งแต่ปฐมฌานกระทั่งจตุตถฌาน
ทั้งรูปและอรูปฌาน นั่นคือองค์ธรรมแห่งสัมมาสมาธิอันเป็นหนึ่งในมรรค อันเป็นกุศลที่พระพุทธองค์ทรงให้เจริญในสัมมาวายามาะ
และการเจริญ สมถะกระทั่งบรรลุฌานในระดับต่างๆ นั่นต้องเริ่มต้นที่สัมมาสติ
และเหตุให้เกิดสัมมาสติให้เป็นไปโดยง่าย นั่นคือการเจริญมรรคในข้อที่เป็นศีลได้แก่
สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ และสัมมาอาชีโว
โดยผลของการเจริญสัมมาสมาธิในระดับสูงสุดนั่นคือเป็นไปเพื่อปัญญา
ซึ่งได้แก่อุเบกขา อันเป็นองค์ธรรมแห่งจตุตถฌาน
เป็นปัญญาคือ มีความเป็นกลางในอารมณ์ที่มากระทบทางอายตนะ โดยไม่มีอภิชฌา ( ราคะ ) และโทมมนัส ( โทสะ ) ต่ออารมณ์อันมากระทบนั้น
นั่นคือการดับทุกข์ในชีวิตประจำวัน อันเป็นการละตัณหาด้วยการเจริญอริยมรรค
เมื่อเข้าใจฌานอันเป็นองค์ธรรมแห่งสัมมาสมาธิไม่ถูกต้อง จึงเป็นที่มาในการละเลยกระทั่งปรามาส ฌาน ในบางบุคคล
จะยกไปแสดงในความเห็นต่อไปครับ
เหตุที่ไม่ควรไปปรามาส ฌาน
ทั้งรูปและอรูปฌาน นั่นคือองค์ธรรมแห่งสัมมาสมาธิอันเป็นหนึ่งในมรรค อันเป็นกุศลที่พระพุทธองค์ทรงให้เจริญในสัมมาวายามาะ
และการเจริญ สมถะกระทั่งบรรลุฌานในระดับต่างๆ นั่นต้องเริ่มต้นที่สัมมาสติ
และเหตุให้เกิดสัมมาสติให้เป็นไปโดยง่าย นั่นคือการเจริญมรรคในข้อที่เป็นศีลได้แก่
สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ และสัมมาอาชีโว
โดยผลของการเจริญสัมมาสมาธิในระดับสูงสุดนั่นคือเป็นไปเพื่อปัญญา
ซึ่งได้แก่อุเบกขา อันเป็นองค์ธรรมแห่งจตุตถฌาน
เป็นปัญญาคือ มีความเป็นกลางในอารมณ์ที่มากระทบทางอายตนะ โดยไม่มีอภิชฌา ( ราคะ ) และโทมมนัส ( โทสะ ) ต่ออารมณ์อันมากระทบนั้น
นั่นคือการดับทุกข์ในชีวิตประจำวัน อันเป็นการละตัณหาด้วยการเจริญอริยมรรค
เมื่อเข้าใจฌานอันเป็นองค์ธรรมแห่งสัมมาสมาธิไม่ถูกต้อง จึงเป็นที่มาในการละเลยกระทั่งปรามาส ฌาน ในบางบุคคล
จะยกไปแสดงในความเห็นต่อไปครับ