แต่ที่น่าเที่ยวมากไปกว่านั้นก็คือหาดทาเคโนะเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานธรณีชายฝั่งทะเลซันอิน (San’in Coastal Geopark) พื้นที่ธรรมชาติที่ได้รับการรับรองจากองค์กรยูเนสโกเมื่อปี 2010 ให้เป็นหนึ่งในสมาชิกของอุทยานธณีโลกด้วยนะ แถมตัวหาดก็ได้รับการจัดอันดับโดยกระทรวงสิ่งแวดล้อมของญี่ปุ่นให้ติด 1 ใน 100 ชายหาดที่สวยที่สุดของประเทศอีกด้วย เป็นไงคะ? น่าตีตั๋วไปเที่ยวเนอะ

 

นอกเสียจากตัวหาดที่สวยงามไม่แพ้กับชายหาดไหนๆ ในญี่ปุ่น ทาเคโนะเขายังเป็นเมืองชาวประมงที่เงียบสงบและยังคงโครงสร้างของบ้านเรือนไว้ในแบบดั้งเดิมด้วยค่ะ ซึ่งใครที่ชอบเดินชมเมืองเลาะไปตามตรอกต่างๆ เพื่อถ่ายรูปก็น่าจะประทับใจกับบรรยากาศของหมู่บ้านแห่งนี้แน่ๆ แต่คนไหนที่เป็นสายออกแดดชอบกิจกรรมแอดเวนเจอร์เราขอแนะนำให้ไปปีนเขาเลยค่ะ ซึ่งทัศนียภาพมุมสูงก็สวยไม่ใช่เล่น เพราะเห็นทั้งวิวเมืองและทะเลแบบแลนด์สเคปเป็นรางวัลสำหรับใครก็ตามที่ปีนขึ้นไปยังจุดสูงสุดได้สำเร็จ   

หากไม่อยากฮาร์ดคอร์มากลองเช่าเรือคายัคเพื่อออกไปชมสิ่งที่น่าสนใจรอบๆ ก็ได้เหมือนกันนะ ซึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดมีตั้งแต่หินฮาซาคาริรูปร่างประหลาด (Hasakari Rock) และถ้ำทะเลโยโด (Yodo Sea Cave) ที่เราสามารถพายเรือลอดผ่านโพรงถ้ำได้แบบสบายๆ แต่แนะนำให้ไปช่วงพระอาทิตย์ใกล้ตกจะดีกว่ามากกกกค่ะ เนื่องจากวิวที่เราจะได้เห็นนั้นน่าทึ่งกว่าช่วงเวลาปกติอีกหลายเท่าเลยล่ะ

 

ข้อมูลที่ไม่รู้ก็ได้แต่ถ้ารู้ก็จะทำให้เราอยากไปเพิ่มขึ้นอีก 60% : อุทยานธรณีชายฝั่งทะเลซันอินกินพื้นที่ราวๆ 2,458.44 ตารางกิโลเมตร หรือถ้าเทียบให้เห็นภาพมากกว่านี้ก็อุทยานธรณีชายฝั่งทะเลซันอินมีขนาดใหญ่กว่าเมืองหลวงอย่างโตเกียวอยู่นิดนึงนั่นเอง 

เอาจริงๆ ที่หาดทาเคโนะไม่จำเป็นต้องค้างคืนก็ได้ค่ะเพราะวันเดียวก็เที่ยวทั่วแล้ว ส่วนใครที่มีเวลาเหลืออีกหลายวัน อยากนั่งรถไฟไปที่ไหนสักที่ใกล้ๆ นี่ขอแนะนำให้ไปเมืองตามลิสต์ด้านล่างนี้เลยค่ะ ซึ่งทั้งหมดล้วนสวยงามน่าประทับใจไม่แพ้อุทยานธรณีชายฝั่งทะเลซันอินที่เราเพิ่งพาไปแน่นอน  

หมู่บ้านออนเซ็นคิโนะซากิ (Kinosaki Onsen)

เมืองแห่งน้ำพุร้อนเก่าแก่กว่า 1,300 ปี มีบ่อออนเซ็นสาธารณะให้เราได้แช่ฟินๆ กว่า 7 แห่ง และถ้าจะให้เข้าถึงบรรยากาศควรสวมชุดยูกาตะใส่รองเท้าเกะตะเดินเล่นรอบเมืองจะดีงามที่สุดค่ะ แนะนำๆ 

เมืองอิซุชิ (Izushi)

ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองปราสาทที่หลายคนได้มาเยือนต่างสัมผัสถึงกลิ่นอายในแบบเอโดะ สถานที่ที่ไม่ควรพลาดเยี่ยมชมก็มีตั้งแต่ ซากปราสาทอิซุชิ (Izushi Castle Ruins), บ้านซามูไรโบราณ, โรงละครเอะอิระกุคัง (Eriakukan) ไปจนถึงสัญลักษณ์ของเมืองอย่างหอนาฬิกาไม้โบราณชินโคโระ (Shinkoro Clock Tower) ที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1871 

โทโยโอกะ (Toyooka)

เป็นเมืองที่มีแหล่งอนุรักษ์นกกระสาขาวตะวันออก (Oriental White Stork) ซึ่งที่นี่ไม่เพียงจะอนุรักษ์แล้วเขายังมีศูนย์เพาะพันธุ์เจ้านกกระสาให้กลับคืนสู่ธรรมชาติ นอกจากนี้เมืองโทโยโอกะยังเป็นที่ตั้งของอนุสรณ์ทางธรรมชาติอย่างถ้ำเก็นบูโดะ (Genbudo) ด้วย

เมืองทันโท (Tanto)

ใครที่อยากพบกับทุ่งดอกทิวลิปกว้างสุดลูกหูลูกตาขอให้มาชมในช่วงฤดูใบไม้ผลิกันที่เมืองทันโท (Tanto) แต่ถ้าเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่นี่ก็มีจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สร้างความประทับใจให้แก่ทุกท่านเช่นกันค่ะ

เมืองคันนาเบะ (Kannabe)

หลายคนรู้ว่าเมืองนี้ถ้าไปหน้าหนาวต้องเล่นสกีและสโนว์บอร์ด แต่ช่วงที่อุ่นๆ ใส่เสื้อชั้นเดียวก็รอด ที่คันนาเบะก็มีกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจ อาทิ แคมป์ปิ้ง, ร่มร่อน (Paragliding), ตกปลา ไปจนถึงการโหนสลิงเพื่อชมทัศนียภาพของป่าไม้ (Tree Climbing) ซึ่งสายผาดโผดบอกเลยว่าไม่ควรพลาด