ใครว่าไปเที่ยวญี่ปุ่นต้องไปตอนฤดูหนาวหรือช่วงซากุระบานเท่านั้น เราว่าฤดูร้อนที่ญี่ปุ่นก็เต็มไปด้วยสีสันของเทศกาลและความสนุก สดใส เราเลยอยากให้ทุกคนลองเปิดใจให้หน้าร้อนของญี่ปุ่นดูสักครั้ง อย่างที่เราก็ลองเปิดใจและตกหลุมรักหน้าร้อนของญี่ปุ่นอย่างไม่เคยคิดมาก่อน
ที่ๆ เราเลือกจะใช้เวลาช่วงหน้าร้อนที่ญี่ปุ่นคือ คิโนะซากิออนเซ็น (Kinosaki Onsen) ย่านออนเซ็นที่มีชื่อเสียงในเมืองโทโยโอกะ (Toyooka) จังหวัดเฮียวโงะ (Hyogo) นี่เอง การเดินทางก็ไม่ไกลจากทั้งเกียวโตและโอซาก้า ใช้เวลาเดินทางราวๆ 2 ชั่วโมงเท่านั้นเอง มาถึงก็จะเห็นเมืองออนเซ็นหน้าตาน่ารักตามแบบฉบับญี่ปุ่นเป๊ะๆ สองข้างทางของถนนจะเป็นบ้านเก่าแก่ที่บางหลังก็ถูกนำมาปรับปรุงและทำเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ส่วนตรงกลางก็จะมีแม่น้ำไหลผ่าน และสะพานไว้ให้ข้ามไปมา ที่สำคัญเป็นมุมถ่ายรูปสวยด้วยล่ะ
เห็นว่าในช่วงหน้าหนาวของที่นี่ะคึกคักเป็นพิเศษ เพราะในอากาศหนาวใครๆ ก็อยากจะมาแช่ออนเซ็นอุ่นๆ กันทั้งนั้น แต่ขอบอกเลยว่าสำหรับเราแล้ว ไม่ว่าออนเซ็นในหน้าร้อนหรือออนเซ็นในหน้าหนาว การได้ลงไปแช่ในบ่อน้ำร้อนให้ร่างกายได้ผ่อนคลาย ก็ดีงามทั้งหมด จนอยากให้ทุกคนลอง!
พอดิบพอดี ในช่วงฤดูร้อนหรือก็คือช่วงปลายเดือนกรกฎาคมถึงปลายเดือนสิงหาคมที่คิโนะซากิ จะมีเทศกาลชมดอกไม้ไฟ ทำให้คนต่างหลั่งไหลเข้ามาพักกัน โดยในช่วงค่ำ ก็จะพากันสวมชุดยูกาตะ (Yukata) ที่เข้ากับบรรยากาศและหน้าร้อนได้เป็นอย่างดี มาเดินชมทิวทัศน์ยามค่ำคืนและที่สำคัญที่สุดคือมารอดูดอกไม้ไฟนั่นเอง สีสันของดอกไม้ไฟเมื่อตัดกับพื้นหลังท้องฟ้าสีดำสนิท บวกเข้ากับบรรยากาศเมืองย้อนยุคแบบญี่ปุ่นและชุดยูกาตะสีสดใส ช่างเข้ากันได้ดีจนเราคิดว่านี่แหละคือหน้าร้อนที่เราตามหา
ยังไม่หมดแค่สีสันของพลุที่ทำให้เราประทับใจ ถ้าอยู่จนถึงวันสุดท้ายของเทศกาลดอกไม้ไฟจะมีอีกหนึ่งเทศกาลที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งคือ เทศกาลลอยโคม โดยทุกคนสามารถทำโคมด้วยตัวเองได้ พร้อมกับเขียนคำอธิษฐาน จุดเทียนไว้ในโคม และสุดท้ายก็นำมาลอยยังแม่น้ำที่พาดผ่านกลางเมืองคือแม่น้ำโอตานิ (Otani River) โคมก็จะค่อยๆ ไหลไปตามกระแสน้ำ คล้ายกับการลอยกระทงของบ้านเรา แต่ดูๆ ไป แสงในแม่น้ำก็สวยไม่แพ้ดอกไม้ไฟเลยนะ
ในตอนกลางวันที่ไม่มีงานเทศกาล เราก็ขอพาตัวเองไปทำกิจกรรมแอดเวนเจอร์สักหน่อย ที่บริเวณใกล้ๆ คิโนะซากิ เราขอพาทุกคนไปเดินเขาตามทางหินภูเขาไฟในคันนาเบะ (Kannabe) กัน
บอกเลยว่าผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมเอาท์ดอร์บวกกับรักธรรมชาติจะต้องถูกใจ เพราะเส้นทางเดินเขาที่คันนาเบะนี้ มีมากกว่าป่าสีเขียว ซึ่งมีทั้งน้ำตก หินภูเขาไฟรูปร่างน่าสนใจที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟ พร้อมอากาศเย็นสบาย ให้คลายร้อนเป็นระยะทางราวๆ 1.6 กิโลเมตร สำหรับมือใหม่ที่ไม่เคยเดินเขามาก่อนก็ไม่ต้องกังวลไป ก่อนจะเริ่มเดินกันที่นี่เขามีไกด์ไว้คอยช่วยเหลือตลอดและยังช่วยประเมินเราด้วยว่าเส้นทางเดินไหนที่เหมาะกับเรา มีทั้งทางมือใหม่และทางสำหรับสายลุย แต่ถ้าใครเป็นมือใหม่แล้วอยากลุยเลย ก็เลือกทางสายลุยก็ได้ไม่ว่ากัน และห่างไปอีกนิดหน่อย ก็จะมีจุดที่สวยงามไม่แพ้กันคือ อุทยานธรณีชายฝั่งทะเลซันอิน (San’in Coastal Geopark) ที่ UNESCO รับรองให้เป็นหนึ่งในสมาชิกอุทยานธรณีโลกของยูเนสโก (UNESCO Global Geoparks) นับเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่น่าไปมากๆ
ถ้าคิดว่าจะหมดแค่นี้ ยังนะ รอบๆ เมืองโทโยโอกะก็ยังมีที่น่าสนใจอีกเป็นกระบุง งั้นเราขอแนะนำย่านน่ารักๆ ไปง่าย เดินทางไม่ลำบากเพิ่มหน่อยดีกว่า
โทโยโอกะ (Toyooka)
ย่านใจกลางเมืองโทโยโอกะ เราสามารถพบเจอนกกระสาขาวตะวันออก (Oriental White Stork) ที่หาชมยากมาก เพราะใกล้จะสูญพันธ์แล้วนั่นเอง และยังเป็นที่ตั้งของถ้ำเก็นบูโดะ (Genbudo) ถ้ำหินหน้าตาน่าสนใจ ที่เป็นจุดเช็คอินเลยก็ว่าได้
อิซุชิ (Izushi)
เมืองน่ารักๆ ที่มีกลิ่นอายของเมืองเก่ายุคเอโดะ ทั้งบ้านซามูไร ปราสาทเก่า และโรงละครคาบูกิ นอกจากนี้ถ้าท้องหิวเราแนะนำเมนูขึ้นชื่อของเมือง ซาระโซบะ (Sara Soba) เส้นทำจากบัควีตกินคู่กับซุปดาชิหอมๆ แต่เราแนะนำให้ใส่ไข่ออนเซ็นด้วยเข้ากันดีสุดๆ
ทาเคโนะ (Takeno)
ชายฝั่งทางเหนือของจังหวังเฮียวโงะ ขึ้นชื่อว่าเป็นชายฝั่งที่มีความสวยงามและบรรยากาศดี ทั้งพื้นน้ำทะเลสีฟ้าใสล้อมรอบด้วยภูเขา รวมถึงกิจกรรมหลากหลายทั้งทางน้ำและทางบก ใครสายธรรมชาติเราแนะนำที่นี่เลย
ทันโท (Tanto)
เมืองเงียบสงบแบบใกล้ชิดธรรมชาติ เพราะที่นี่มีทุ่งดอกไม้สีสันสวยงาม เหมาะจะแวะมาชมทั้งฤดูร้อนและฤดูใบไม้ผลิ รับรองความประทับใจแน่นอน
[CR] Summer in Kinosaki Onsen ใส่ยูกาตะเดินเที่ยวเทศกาลฤดูร้อนที่ย่านคิโนะซากิออนเซ็น
ที่ๆ เราเลือกจะใช้เวลาช่วงหน้าร้อนที่ญี่ปุ่นคือ คิโนะซากิออนเซ็น (Kinosaki Onsen) ย่านออนเซ็นที่มีชื่อเสียงในเมืองโทโยโอกะ (Toyooka) จังหวัดเฮียวโงะ (Hyogo) นี่เอง การเดินทางก็ไม่ไกลจากทั้งเกียวโตและโอซาก้า ใช้เวลาเดินทางราวๆ 2 ชั่วโมงเท่านั้นเอง มาถึงก็จะเห็นเมืองออนเซ็นหน้าตาน่ารักตามแบบฉบับญี่ปุ่นเป๊ะๆ สองข้างทางของถนนจะเป็นบ้านเก่าแก่ที่บางหลังก็ถูกนำมาปรับปรุงและทำเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ส่วนตรงกลางก็จะมีแม่น้ำไหลผ่าน และสะพานไว้ให้ข้ามไปมา ที่สำคัญเป็นมุมถ่ายรูปสวยด้วยล่ะ
เห็นว่าในช่วงหน้าหนาวของที่นี่ะคึกคักเป็นพิเศษ เพราะในอากาศหนาวใครๆ ก็อยากจะมาแช่ออนเซ็นอุ่นๆ กันทั้งนั้น แต่ขอบอกเลยว่าสำหรับเราแล้ว ไม่ว่าออนเซ็นในหน้าร้อนหรือออนเซ็นในหน้าหนาว การได้ลงไปแช่ในบ่อน้ำร้อนให้ร่างกายได้ผ่อนคลาย ก็ดีงามทั้งหมด จนอยากให้ทุกคนลอง!
พอดิบพอดี ในช่วงฤดูร้อนหรือก็คือช่วงปลายเดือนกรกฎาคมถึงปลายเดือนสิงหาคมที่คิโนะซากิ จะมีเทศกาลชมดอกไม้ไฟ ทำให้คนต่างหลั่งไหลเข้ามาพักกัน โดยในช่วงค่ำ ก็จะพากันสวมชุดยูกาตะ (Yukata) ที่เข้ากับบรรยากาศและหน้าร้อนได้เป็นอย่างดี มาเดินชมทิวทัศน์ยามค่ำคืนและที่สำคัญที่สุดคือมารอดูดอกไม้ไฟนั่นเอง สีสันของดอกไม้ไฟเมื่อตัดกับพื้นหลังท้องฟ้าสีดำสนิท บวกเข้ากับบรรยากาศเมืองย้อนยุคแบบญี่ปุ่นและชุดยูกาตะสีสดใส ช่างเข้ากันได้ดีจนเราคิดว่านี่แหละคือหน้าร้อนที่เราตามหา
ยังไม่หมดแค่สีสันของพลุที่ทำให้เราประทับใจ ถ้าอยู่จนถึงวันสุดท้ายของเทศกาลดอกไม้ไฟจะมีอีกหนึ่งเทศกาลที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งคือ เทศกาลลอยโคม โดยทุกคนสามารถทำโคมด้วยตัวเองได้ พร้อมกับเขียนคำอธิษฐาน จุดเทียนไว้ในโคม และสุดท้ายก็นำมาลอยยังแม่น้ำที่พาดผ่านกลางเมืองคือแม่น้ำโอตานิ (Otani River) โคมก็จะค่อยๆ ไหลไปตามกระแสน้ำ คล้ายกับการลอยกระทงของบ้านเรา แต่ดูๆ ไป แสงในแม่น้ำก็สวยไม่แพ้ดอกไม้ไฟเลยนะ
ในตอนกลางวันที่ไม่มีงานเทศกาล เราก็ขอพาตัวเองไปทำกิจกรรมแอดเวนเจอร์สักหน่อย ที่บริเวณใกล้ๆ คิโนะซากิ เราขอพาทุกคนไปเดินเขาตามทางหินภูเขาไฟในคันนาเบะ (Kannabe) กัน
บอกเลยว่าผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมเอาท์ดอร์บวกกับรักธรรมชาติจะต้องถูกใจ เพราะเส้นทางเดินเขาที่คันนาเบะนี้ มีมากกว่าป่าสีเขียว ซึ่งมีทั้งน้ำตก หินภูเขาไฟรูปร่างน่าสนใจที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟ พร้อมอากาศเย็นสบาย ให้คลายร้อนเป็นระยะทางราวๆ 1.6 กิโลเมตร สำหรับมือใหม่ที่ไม่เคยเดินเขามาก่อนก็ไม่ต้องกังวลไป ก่อนจะเริ่มเดินกันที่นี่เขามีไกด์ไว้คอยช่วยเหลือตลอดและยังช่วยประเมินเราด้วยว่าเส้นทางเดินไหนที่เหมาะกับเรา มีทั้งทางมือใหม่และทางสำหรับสายลุย แต่ถ้าใครเป็นมือใหม่แล้วอยากลุยเลย ก็เลือกทางสายลุยก็ได้ไม่ว่ากัน และห่างไปอีกนิดหน่อย ก็จะมีจุดที่สวยงามไม่แพ้กันคือ อุทยานธรณีชายฝั่งทะเลซันอิน (San’in Coastal Geopark) ที่ UNESCO รับรองให้เป็นหนึ่งในสมาชิกอุทยานธรณีโลกของยูเนสโก (UNESCO Global Geoparks) นับเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่น่าไปมากๆ
ถ้าคิดว่าจะหมดแค่นี้ ยังนะ รอบๆ เมืองโทโยโอกะก็ยังมีที่น่าสนใจอีกเป็นกระบุง งั้นเราขอแนะนำย่านน่ารักๆ ไปง่าย เดินทางไม่ลำบากเพิ่มหน่อยดีกว่า
โทโยโอกะ (Toyooka)
ย่านใจกลางเมืองโทโยโอกะ เราสามารถพบเจอนกกระสาขาวตะวันออก (Oriental White Stork) ที่หาชมยากมาก เพราะใกล้จะสูญพันธ์แล้วนั่นเอง และยังเป็นที่ตั้งของถ้ำเก็นบูโดะ (Genbudo) ถ้ำหินหน้าตาน่าสนใจ ที่เป็นจุดเช็คอินเลยก็ว่าได้
อิซุชิ (Izushi)
เมืองน่ารักๆ ที่มีกลิ่นอายของเมืองเก่ายุคเอโดะ ทั้งบ้านซามูไร ปราสาทเก่า และโรงละครคาบูกิ นอกจากนี้ถ้าท้องหิวเราแนะนำเมนูขึ้นชื่อของเมือง ซาระโซบะ (Sara Soba) เส้นทำจากบัควีตกินคู่กับซุปดาชิหอมๆ แต่เราแนะนำให้ใส่ไข่ออนเซ็นด้วยเข้ากันดีสุดๆ
ทาเคโนะ (Takeno)
ชายฝั่งทางเหนือของจังหวังเฮียวโงะ ขึ้นชื่อว่าเป็นชายฝั่งที่มีความสวยงามและบรรยากาศดี ทั้งพื้นน้ำทะเลสีฟ้าใสล้อมรอบด้วยภูเขา รวมถึงกิจกรรมหลากหลายทั้งทางน้ำและทางบก ใครสายธรรมชาติเราแนะนำที่นี่เลย
ทันโท (Tanto)
เมืองเงียบสงบแบบใกล้ชิดธรรมชาติ เพราะที่นี่มีทุ่งดอกไม้สีสันสวยงาม เหมาะจะแวะมาชมทั้งฤดูร้อนและฤดูใบไม้ผลิ รับรองความประทับใจแน่นอน
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น