JJNY : 4in1 อ.จุฬาโต้เดือดไพบูลย์ชี้แนวคิดอันตราย/อ.โกวิทเหน็บแรง/วีระถามทำไมเพิ่งแฉ/ม็อบชาวนากว่า 100 จ่อบุกกรุงแล้ว

อ.จุฬา โต้เดือด ‘ไพบูลย์’ เสนอให้ ส.ว.ร่วมผ่านงบฯ ชี้แนวคิดสร้างปัญหา อันตราย!
https://www.khaosod.co.th/election-2019/news_2429501


ดร.พรสันต์ เลี้ยงบุญเลิศชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬา
โต้เดือด ‘ไพบูลย์ นิติตะวัน’ เสนอให้ ส.ว.ร่วมผ่านงบฯ ชี้แนวคิดสร้างปัญหา อันตราย!



ผศ.ดร.พรสันต์ เลี้ยงบุญเลิศชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึง กรณีที่ นายไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป เสนอให้ส.ว.ร่วมกับส.ส.พิจารณาพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี ตามมาตรา 270 ของรัฐธรรมนูญ เพื่อแก้ปัญหารัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ โดยโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ว่า

ข้อเสนอที่ให้ใช้ ม.270 ของรัฐธรรมนูญมาเป็นทางออกเพื่อแก้ไขปัญหาการออกกฎหมายต่างๆ ทั้งนี้เพราะเรื่องเสียงปริ่มน้ำของรัฐบาลในอนาคต
หากพิจารณาตามหลักกฎหมายรัฐธรรมนูญและบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ผมคิดว่าเป็นเรื่องไม่พึงเสนอให้กระทำและเป็นอันตรายอย่างยิ่ง

1. ม.270 อยู่ในบทเฉพาะกาลที่ให้อำนาจแก่วุฒิสภาเป็นการ “เฉพาะเรื่อง” กล่าวคือ วุฒิสภามีอำนาจร่วมพิจารณากฎหมายที่เกี่ยวพันกับการปฏิรูปประเทศเท่านั้น ไม่ใช่การตราตัวบทกฎหมายทั่วๆ ไป

2. การอาศัย ม.270 เป็นฐานอำนาจในการออกกฎหมายคือการตีความให้กฎหมายทุกฉบับเป็นเรื่องการปฏิรูปประเทศทั้งหมด การตีความเช่นนี้ก่อให้เกิดผลอันแปลกประหลาด ขัดแย้งต่อ “เหตุผลของเรื่อง” (Nature of things) ที่ใช้กำกับในการตีความรัฐธรรมนูญด้วย กล่าวคือ ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ม.270 เอง กล่าวให้ชัดเจนยิ่งขึ้น หากตีความเช่นนี้ ต่อไปการตรากฎหมายของฝ่ายนิติบัญญัติจะมาใช้และอ้างอิง ม.270 เพียงมาตราเดียวเท่านั้นอันถือเป็นเรื่องแปลกประหลาดยิ่ง

3. การตีความเช่นนี้ส่งผลเป็นการปรับเปลี่ยนโครงสร้างของฝ่ายนิติบัญญัติอย่างมีนัยยะสำคัญ

ซึ่งตามหลักวิชาอาจกล่าวได้ว่าเป็นการตีความอันมีลักษณะแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญโดยพฤตินัย (De Facto Constitutional Amendment) เพราะเป็นการขยายอำนาจให้แก่วุฒิสภาในการตรากฎหมายอย่างชัดแจ้ง ส่งผลกระทบต่อการใช้และความสัมพันธ์ในทางอำนาจระหว่างองค์กรทางรัฐธรรมนูญด้วยกันอีกด้วย อันอาจส่งผลกระทบและความเสียหายต่างๆ ตามมาอีกมากมาย

เราพึงต้องตระหนักด้วยว่าปัญหาหนึ่งของวิกฤติระบอบรัฐธรรมนูญไทยที่ผ่านมาคือ การ (พยายาม) ตีความ หรือบังคับใช้ที่ไม่สอดคล้องตามเจตจำนงของรัฐธรรมนูญที่แท้จริง (Constitutional fidelity) ดังนั้น จึงพึงหลีกเลี่ยง ไม่เช่นนั้นก็จะกลับไปสู่วังวนเดิมอีก
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

มาตรา 270 ว่าไว้อย่างไร?

ทั้งนี้ มาตรา 270 ของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย ปี2560 ที่นายไพบูลย์ ยกมานั้น คือ บทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ โดยระบุว่า

นอกจากสมาชิกวุฒิสภา จะมีหน้าที่และอำนาจตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแล้ว ให้วุฒิสภาตามมาตรา 269 มีหน้าที่และอำนาจติดตาม เสนอแนะ และเร่งรัดการปฏิรูปประเทศ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามหมวด 16 การปฏิรูปประเทศ และการจัดทำและดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ ในการนี้ ให้คณะรัฐมนตรีแจ้งความคืบหน้าในการดำเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศต่อรัฐสภาเพื่อทราบทุกสามเดือน

ร่างพระราชบัญญัติที่จะตราขึ้นเพื่อดำเนินการตามหมวด 16 การปฏิรูปประเทศ ให้เสนอและพิจารณาในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา

ร่างพระราชบัญญัติใดที่คณะรัฐมนตรีเห็นว่าเป็นร่างพระราชบัญญัติที่จะตราขึ้นเพื่อดำเนินการตามหมวด 16 การปฏิรูปประเทศ ให้แจ้งให้ประธานรัฐสภาทราบพร้อมกับการเสนอร่างพระราชบัญญัตินั้นในกรณีที่คณะรัฐมนตรีมิได้แจ้งว่าเป็นร่างพระราชบัญญัติที่จะตราขึ้นเพื่อดำเนินการตามหมวด 16 การปฏิรูปประเทศ

หากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาเห็นว่าร่างพระราชบัญญัตินั้นเป็นร่างพระราชบัญญัติที่จะตราขึ้นเพื่อดำเนินการตามหมวด
16 การปฏิรูปประเทศ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของแต่ละสภา อาจเข้าชื่อกันร้องขอต่อประธานรัฐสภาเพื่อให้วินิจฉัย การยื่นคำร้องดังกล่าวต้องยื่นก่อนที่สภาผู้แทนราษฎรหรือวุฒิสภา แล้วแต่กรณี จะพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินั้นแล้วเสร็จ

เมื่อประธานรัฐสภาได้รับคำร้องตามวรรคสาม ให้ประธานรัฐสภาเสนอเรื่องต่อคณะกรรมการร่วมซึ่งประกอบด้วยประธานวุฒิสภาเป็นประธาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนหนึ่ง ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ผู้แทนคณะรัฐมนตรีคนหนึ่ง และประธานคณะกรรมาธิการสามัญคนหนึ่งซึ่งเลือกกันเองระหว่างประธานคณะกรรมาธิการสามัญในวุฒิสภาทุกคณะเป็นกรรมการเพื่อวินิจฉัย

การวินิจฉัยของคณะกรรมการร่วมตามวรรคสี่ให้ถือเสียงข้างมากเป็นประมาณ คำวินิจฉัยของคณะกรรมการร่วมดังกล่าวให้เป็นที่สุด และให้ประธานรัฐสภาดำเนินการไปตามคำวินิจฉัยนั้น

https://www.facebook.com/pornson.liengboonlertchai/posts/10157286313765979


อ.โกวิท เหน็บแรง ก่อนเลือกตั้ง 'ลด–แลก–แจก–แถม' แต่หลังเลือกตั้ง ขึ้นค่ารถเมล์
https://www.matichon.co.th/politics/news_1456533

กรณีคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ได้มีมติเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2561 อนุมัติให้มีการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสาร รถโดยสารประจำทางสาธารณะ ทั้งรถใหม่ รถเก่า ในหลายหมวด ในอัตราตั้งแต่ 1 – 7 บาท โดยจะมีผลในวันที่ 22 เม.ย.นี้

เมื่อวันที่ 18 เมษายน ล่าสุด รศ.ดร.โกวิท วงศ์สุรวัฒน์ อดีตอาจารย์ประจำภาควิชารัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บิดาของ วิญญู วงศ์สุรวัฒน์ หรือ (จอห์น วิญญู) ได้ทวิตข้อความผ่านทวิตเตอร์ เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า

ก่อนเลือกตั้ง “ลด–แลก–แจก–แถม” หลังเลือกตั้ง รัฐบาลอำนาจพิเศษ” ดำเนินต่อ

22 เม.ย. นี้ คนรายได้น้อยที่ขึ้นรถเมล์ควักเงินเพิ่ม 1-7 บาทรวด

ส่วนทางนายทุนทำทีวีดิจิตอล ได้ “ม.44”ช่วยอุ้ม อนุญาตคืนใบประกอบกิจการ ไม่ต้องเสียค่าปรับ พบ “11 ช่อง ยังติดค้างจ่ายรวมกว่า 12,373 ล้านบาท…

— kovitw (@kovitw1) April 18, 2019

https://twitter.com/kovitw1/status/1118706274940538880
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่