สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิปทุกคน วันนี้เรามีเรื่องมาปรึกษา
เรื่องมันก็มีอยู่ว่า หลายเดือนที่ผ่านมา เราชอบตั้งคำถามกับตัวเองบ่อยๆ ว่าตัวเองอยู่ไปเพื่ออะไร เหมือนมองไม่เห็นความสำคัญ ในการมีชีวิตอยู่ของตัวเอง เหมือนตัวเองเป็นโรคซึมเศร้า จริงๆเเล้วเราเริ่มมีความคิดว่าตัวเอง เป็นโรคซึมเศร้ารึป่าวมานานเเล้ว เเต่ก็ไม่ได้คิดจริงจังเพราะเราคงไม่เป็นหรอก เเต่เรามีอาการนอนไม่หลับ คือชอบคิดเรื่องโน่นนี่ก่อนนอน สุดท้ายก็นอนไม่หลับ บ้างครั้งก็นอนร้องไห้เลยก็มี หรือบ้างช่วงนอนหลับเยอะ เยอะมากๆ นอนเท่าไหร่ก็ไม่พอ ง่วงตลอด เราเป็นพวกที่มีเรื่องอะไรก็จะเก็บมาคิดคนเดียว เพราะคิดว่าเเค่เราก็เเก้ปัญหาได้ทุกอย่าง ไม่อยากเอาความเครียดไปลงกับใคร หรือไปเล่ากับใครเพราะกลัวเขารู้สึกเเย่ สุดท้ายก็เก็บเอามาคิดคนเดียว
อีกเรื่องที่เเปลกไปจนตัวเราเองยังรู้สึกได้คือ เราเริ่มมองไม่เห็นจุดหมายของตัวเอง เหมือนมันเป็นมาเรื่อยๆ เเล้วมาชัดเจน จนเราถามตัวเองบ่อยๆ ว่าตัวเองอยู่เพื่ออะไร อยู่ทำไม อยู่เเล้วมีดีอะไร ยกตัวอย่าง เราเคยมีเป้าหมายชัดเจนมากๆ เมื่อ2-3ปีก่อน ว่ายังไงก็จะเป็นหมอให้ได้ เรามุ่งมั่นตั้งใจ เเต่ตอนนี้ เราเริ่มเห็นว่ามันลางมากๆ คำถามก็โผล่มาในหัวเป็นดอกเห็ด ไหวเหรอ เเน่ใจเหรอ เหนื่อยนะ ทำไม่ได้หรอกเราหน่ะ ไม่เอาเถอะ สู้เขาไม่ได้หรอก เป็นชุดคำถามเเง่ลบทั้งนั้นเลย เเม้เราจะพยายามให้กำลังใจตัวเองเเล้วก็ตาม เเต่เหมือนมันจะไม่ช่วยอะไรเลย
เราลองมาคิดๆดูว่า อะไรทำให้เราเป็นเเบบนี้ เราคิดไปคิดมา ก็เหมือนจะได้คำตอบว่าความผิดหวังของเราเอง กับการจมกับคำพูดมากไป ตัวเราเอง ก่อนหน้านี้ ครอบครัวเราอยากให้เราลองไปสอบ โรงเรียนชื่อดังดู เเต่เราไม่เคยได้กำลังใจเลย มีเเต่ปลอบใจไว้ก่อน มีเเต่ ไม่ได้ไม่เป็นไร ไปลองข้อสอบดู ไม่ต้องเครียดไม่ได้อยู่เเล้ว มันเหมือนเเบบเเพ้ตั้งเเต่ยังไม่เริ่ม เราเลยเเบบไหนๆก็ไม่ได้เเล้วก็ไม่พยายามเลยเเล้วกัน จนสุดท้ายเราก็ไม่ทำอะไรเลย เพราะคิดว่าเราสู้เขาไม่ได้หรอก หนังสือไม่อ่าน ข้อสอบเก่าไม่ทวน จนสุดท้ายก็ไม่ติด ทั้งที่เตรียมตัวดีมาเป็นปี เเต่สุดท้ายก็ตกม้าตายตอนจบ เเละพลาดไปทุกสนาม
เราอยากเปลี่ยนตัวเอง เราคิดว่าตัวเราที่เป็นเเบบนี้ มันเเย่ ไม่ทำให้ครอบครัวผิดหวัง เเน่นอนว่ามันเป็นการโทษตัวเอง เรารู้สึกเรายังอยู่บนโลก ก็เพราะพ่อเเม่ เเน่นอนเราไม่อยากให้พ่อเเม่เสียใจ อยากพยายาม เเต่ทำไม่ได้เลย เราไม่รู้ว่าอาการเเบบนี้เรียกว่า อาการหมดไฟรึป่าว หรือว่า ซึมเศร้ากันเเน่
สิ่งที่เรารู้สึกเเย่ที่สุดคือ ความคิดเรา สมองเรามันดูทึบๆ คิดอะไรก็ไม่เเล่นเหมือนเเต่ก่อน ร่างกายก็เหมือนไม่ค่อยได้ดั่งใจ ในใจก็ว่างๆเเปลกๆ เหมือนจิตสำนึกมันลอยใน ร่างกายที่ว่างเปล่า มันดูโล่ง ว่าง เเต่ก็ทึบในเวลาเดียวกัน หลายเดือนมานี้ เราชอบเหม่อ มองไปเรื่อย มองท้องฟ้าเเล้วนั่งเฉย นั่งเเบบนั้นเป็นชั่วโมง เรานั่งในหัวไม่ได้คิดอะไรสักอย่าง เราไม่มีความสุขเลยในช่วงนี้ ไม่ว่าจะเล่นเกมที่เคยสนุก ก็ไม่สนุกเเล้ว อ่านนิยาย หรือการ์ตูน ก็ไม่สนุกอีกต่อไป มันน่าเบื่อ ทุกอย่างของเราตอนนี้มันน่าเบื่อไปหมด
เราเป็นประเภทที่ชอบมองสีในใจ หลายคนอาจไม่เข้าใจ ยกตัวอย่างเช่น เรามีความสุขสีในใจของเราจะเป็นสีสว่างๆ เหลือง ชมพู เเต่ถ้าเวลาเราเศร้าสีจะออกมืดๆ ดำ เทา ประมาณนั้น อาจจะดูเเปลกนะเเต่เราก็รู้สึกว่าเห็นจริงๆ หลายเดือนที่ผ่านมา มันมีเเต่มีดำกับเทาเเค่นั้น จะมีสีสว่างเเค่ไม่กี่รอบ เราก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร
ความสุขเดียวที่เรามีคือ เเมว จริงๆเเล้วบ้านเรามีเเมวจรจัดเยอะมาก เราก็คุ้นเคยมาตั้งเเต่มันเล็กๆ ให้น้ำให้ข้าว จนเหมือนเป็นเเมวเลี้ยง เราชอบไปนั่งเล่นด้วย มันทำให้เรามีความสุข เหมือนเครื่องเยียวยาจริงๆ ตอนนี้ยังคิดอยู่เลยถ้าไม่มีมันเเล้วคงจะเศร้าน่าดู
อีกหนึ่งอย่างที่ทำให้เราผ่อนคลายคือการร้องไห้ เเต่ก่อนเราไม่ใช่คนที่ชอบร้องไห้เลย ใน1ปีนับครั้งได้ เเต่ช่วงนี้ร้องบ่อยกว่าเเต่ก่อน ไม่ว่าจะร้องเพราะอะไรก็ตาม เราชอบเปิดเพลงเศร้าๆ เเละก็พยายามให้ตัวเองอินกับเพลงเเล้วร้องออกมา มันรู้สึกผ่อนคลายยขึ้น เพราะเวลาปกติก็ไม่รู้จะร้องทำไม เเต่ทั้งที่ไม่รู้จะร้องทำไมกลับรู้สึกอึดอัดกว่าการร้องออกมาอีก
อีกเรื่องที่เราเก็บไปคิดมาก คือเรื่องของคนๆหนึ่ง เราเคยเป็นเพื่อนเเล้วขยับไปเป็นคนคุย เเต่เหมือนเขายังไม่พร้อม เเล้วเราก็กลับมาเป็นเพื่อนกันอีกรอบ เเน่นอนว่าความรู้สึกไม่เหมือนเดิม มันมีอะไรเกินเลยกันไปเเล้วก็คงกลับมาเป็นเพื่อนไม่ได้(ไม่ใช่เรื่องอย่างว่านะ) เเต่ในเมื่ออีกคนต้องการจะไปก็รั้งไม่ได้ เราจึงพยายามทำทุกอย่างให้เหมือนเดิม เเต่เราก็ยังอาวรณ์เขาอยู่ บ้างครั้งก็ลืมตัว ไปงี่เง่า งอเเง ใส่ทั้งที่ไม่มีสิทธิ์ตั้งเเต่เเรกเเล้ว จนสุดท้าย ก็ทะเลาะกันในที่สุด เราเหมือนไปห่วง ไปหวงเขาทั้งที่ไม่มีสิทธิ์รู้ว่าไม่ดีเเต่ก็เลิกไม่ได้ตัดใจไม่ลงสักที ทั้งที่เขาเองเหมือนจะเฉยๆมากกับการลืมเราไป คงเหมือนอาการลืมเเฟนเก่าไม่ได้ ไม่ก็อกหัก
ช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอม เราไม่มีอะไรทำ มันทำให้เราคิดโน่นนี่ไปเรื่อยๆ จริงมันก็มีอะไรให้ทำหลายอย่าง เช้าถึงเย็นช่วยครอบครัวขายของ เเต่ก็ยังพอมีเวลาไปนั่งคิดเรื่อยเปื่อยอยู่ดี มันก็ยังรู้สึกว่างๆขาดๆ ยิ่งตอนนี้เเล้ว สงกรานต์เราไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหน อยู่บ้านช่วยงาน โรงเรียนพิเศษก็ปิด ทำให้คิดฟุ้งซ่านไปใหญ่
*กระทู้นี้อาจจะยาวไปหน่อย อาจจะจัดหน้าไม่ดี เขียนลืมเว้นวรรคบ้างก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ ขอบคุณที่คนที่เข้ามาอ่าน เเละขอบคุณทุกคำตอบล่างหน้าค่ะ*
ชอบตั้งคำถาม ว่าตัวเองอยู่ไปเพื่ออะไร?
อีกเรื่องที่เเปลกไปจนตัวเราเองยังรู้สึกได้คือ เราเริ่มมองไม่เห็นจุดหมายของตัวเอง เหมือนมันเป็นมาเรื่อยๆ เเล้วมาชัดเจน จนเราถามตัวเองบ่อยๆ ว่าตัวเองอยู่เพื่ออะไร อยู่ทำไม อยู่เเล้วมีดีอะไร ยกตัวอย่าง เราเคยมีเป้าหมายชัดเจนมากๆ เมื่อ2-3ปีก่อน ว่ายังไงก็จะเป็นหมอให้ได้ เรามุ่งมั่นตั้งใจ เเต่ตอนนี้ เราเริ่มเห็นว่ามันลางมากๆ คำถามก็โผล่มาในหัวเป็นดอกเห็ด ไหวเหรอ เเน่ใจเหรอ เหนื่อยนะ ทำไม่ได้หรอกเราหน่ะ ไม่เอาเถอะ สู้เขาไม่ได้หรอก เป็นชุดคำถามเเง่ลบทั้งนั้นเลย เเม้เราจะพยายามให้กำลังใจตัวเองเเล้วก็ตาม เเต่เหมือนมันจะไม่ช่วยอะไรเลย
เราลองมาคิดๆดูว่า อะไรทำให้เราเป็นเเบบนี้ เราคิดไปคิดมา ก็เหมือนจะได้คำตอบว่าความผิดหวังของเราเอง กับการจมกับคำพูดมากไป ตัวเราเอง ก่อนหน้านี้ ครอบครัวเราอยากให้เราลองไปสอบ โรงเรียนชื่อดังดู เเต่เราไม่เคยได้กำลังใจเลย มีเเต่ปลอบใจไว้ก่อน มีเเต่ ไม่ได้ไม่เป็นไร ไปลองข้อสอบดู ไม่ต้องเครียดไม่ได้อยู่เเล้ว มันเหมือนเเบบเเพ้ตั้งเเต่ยังไม่เริ่ม เราเลยเเบบไหนๆก็ไม่ได้เเล้วก็ไม่พยายามเลยเเล้วกัน จนสุดท้ายเราก็ไม่ทำอะไรเลย เพราะคิดว่าเราสู้เขาไม่ได้หรอก หนังสือไม่อ่าน ข้อสอบเก่าไม่ทวน จนสุดท้ายก็ไม่ติด ทั้งที่เตรียมตัวดีมาเป็นปี เเต่สุดท้ายก็ตกม้าตายตอนจบ เเละพลาดไปทุกสนาม
เราอยากเปลี่ยนตัวเอง เราคิดว่าตัวเราที่เป็นเเบบนี้ มันเเย่ ไม่ทำให้ครอบครัวผิดหวัง เเน่นอนว่ามันเป็นการโทษตัวเอง เรารู้สึกเรายังอยู่บนโลก ก็เพราะพ่อเเม่ เเน่นอนเราไม่อยากให้พ่อเเม่เสียใจ อยากพยายาม เเต่ทำไม่ได้เลย เราไม่รู้ว่าอาการเเบบนี้เรียกว่า อาการหมดไฟรึป่าว หรือว่า ซึมเศร้ากันเเน่
สิ่งที่เรารู้สึกเเย่ที่สุดคือ ความคิดเรา สมองเรามันดูทึบๆ คิดอะไรก็ไม่เเล่นเหมือนเเต่ก่อน ร่างกายก็เหมือนไม่ค่อยได้ดั่งใจ ในใจก็ว่างๆเเปลกๆ เหมือนจิตสำนึกมันลอยใน ร่างกายที่ว่างเปล่า มันดูโล่ง ว่าง เเต่ก็ทึบในเวลาเดียวกัน หลายเดือนมานี้ เราชอบเหม่อ มองไปเรื่อย มองท้องฟ้าเเล้วนั่งเฉย นั่งเเบบนั้นเป็นชั่วโมง เรานั่งในหัวไม่ได้คิดอะไรสักอย่าง เราไม่มีความสุขเลยในช่วงนี้ ไม่ว่าจะเล่นเกมที่เคยสนุก ก็ไม่สนุกเเล้ว อ่านนิยาย หรือการ์ตูน ก็ไม่สนุกอีกต่อไป มันน่าเบื่อ ทุกอย่างของเราตอนนี้มันน่าเบื่อไปหมด
เราเป็นประเภทที่ชอบมองสีในใจ หลายคนอาจไม่เข้าใจ ยกตัวอย่างเช่น เรามีความสุขสีในใจของเราจะเป็นสีสว่างๆ เหลือง ชมพู เเต่ถ้าเวลาเราเศร้าสีจะออกมืดๆ ดำ เทา ประมาณนั้น อาจจะดูเเปลกนะเเต่เราก็รู้สึกว่าเห็นจริงๆ หลายเดือนที่ผ่านมา มันมีเเต่มีดำกับเทาเเค่นั้น จะมีสีสว่างเเค่ไม่กี่รอบ เราก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร
ความสุขเดียวที่เรามีคือ เเมว จริงๆเเล้วบ้านเรามีเเมวจรจัดเยอะมาก เราก็คุ้นเคยมาตั้งเเต่มันเล็กๆ ให้น้ำให้ข้าว จนเหมือนเป็นเเมวเลี้ยง เราชอบไปนั่งเล่นด้วย มันทำให้เรามีความสุข เหมือนเครื่องเยียวยาจริงๆ ตอนนี้ยังคิดอยู่เลยถ้าไม่มีมันเเล้วคงจะเศร้าน่าดู
อีกหนึ่งอย่างที่ทำให้เราผ่อนคลายคือการร้องไห้ เเต่ก่อนเราไม่ใช่คนที่ชอบร้องไห้เลย ใน1ปีนับครั้งได้ เเต่ช่วงนี้ร้องบ่อยกว่าเเต่ก่อน ไม่ว่าจะร้องเพราะอะไรก็ตาม เราชอบเปิดเพลงเศร้าๆ เเละก็พยายามให้ตัวเองอินกับเพลงเเล้วร้องออกมา มันรู้สึกผ่อนคลายยขึ้น เพราะเวลาปกติก็ไม่รู้จะร้องทำไม เเต่ทั้งที่ไม่รู้จะร้องทำไมกลับรู้สึกอึดอัดกว่าการร้องออกมาอีก
อีกเรื่องที่เราเก็บไปคิดมาก คือเรื่องของคนๆหนึ่ง เราเคยเป็นเพื่อนเเล้วขยับไปเป็นคนคุย เเต่เหมือนเขายังไม่พร้อม เเล้วเราก็กลับมาเป็นเพื่อนกันอีกรอบ เเน่นอนว่าความรู้สึกไม่เหมือนเดิม มันมีอะไรเกินเลยกันไปเเล้วก็คงกลับมาเป็นเพื่อนไม่ได้(ไม่ใช่เรื่องอย่างว่านะ) เเต่ในเมื่ออีกคนต้องการจะไปก็รั้งไม่ได้ เราจึงพยายามทำทุกอย่างให้เหมือนเดิม เเต่เราก็ยังอาวรณ์เขาอยู่ บ้างครั้งก็ลืมตัว ไปงี่เง่า งอเเง ใส่ทั้งที่ไม่มีสิทธิ์ตั้งเเต่เเรกเเล้ว จนสุดท้าย ก็ทะเลาะกันในที่สุด เราเหมือนไปห่วง ไปหวงเขาทั้งที่ไม่มีสิทธิ์รู้ว่าไม่ดีเเต่ก็เลิกไม่ได้ตัดใจไม่ลงสักที ทั้งที่เขาเองเหมือนจะเฉยๆมากกับการลืมเราไป คงเหมือนอาการลืมเเฟนเก่าไม่ได้ ไม่ก็อกหัก
ช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอม เราไม่มีอะไรทำ มันทำให้เราคิดโน่นนี่ไปเรื่อยๆ จริงมันก็มีอะไรให้ทำหลายอย่าง เช้าถึงเย็นช่วยครอบครัวขายของ เเต่ก็ยังพอมีเวลาไปนั่งคิดเรื่อยเปื่อยอยู่ดี มันก็ยังรู้สึกว่างๆขาดๆ ยิ่งตอนนี้เเล้ว สงกรานต์เราไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหน อยู่บ้านช่วยงาน โรงเรียนพิเศษก็ปิด ทำให้คิดฟุ้งซ่านไปใหญ่
*กระทู้นี้อาจจะยาวไปหน่อย อาจจะจัดหน้าไม่ดี เขียนลืมเว้นวรรคบ้างก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ ขอบคุณที่คนที่เข้ามาอ่าน เเละขอบคุณทุกคำตอบล่างหน้าค่ะ*