[CR?] รีวิวฟรีแลนส์ขอวีซ่าอเมริกา เมษา2019

ไม่แน่ใจว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์รึเปล่านะคะ แต่เข้ามาหาข้อมูลจากพันทิพไปเยอะ เลยอยากเขียนกระทู้ไว้เผื่ออาจจะเป็นประโยชน์กับคนที่เป็นฟรีแลนซ์และกำลังจะขอวีซ่าอเมริกาค่ะ

เราไปสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกาประเภทB2มาเมื่อวันที่ 1 เมษา และได้รับวีซ่าเรียบร้อยแล้ว เป็นวีซ่า10ปีค่ะ

โดยเรามีแผนไปโฮโนลูลู่สงกรานต์ปีนี้ อาทิตย์นึงค่ะ ซื้อตั๋วเครื่องบินไว้เรียบร้อยแล้ว แต่งานยุ่ง แล้วก็ชะล่าใจไปหน่อย กะว่ามีเวลาเดือนนึงขอวีซ่าก็คงทัน ตอนนั้นคิดเอาเองว่ามันน่าจะขั้นตอนเหมือนเชงเก้นแล้วก็ไม่ได้เข้ามาหาข้อมูลในพันทิพ เลยไม่รู้จริงๆว่าต้องเผื่อเวลาจองคิวสัมภาษณ์ไว้นานเหมือนกัน(เวลาสำหรับตรวจสอบDS160) แล้วมัวแต่ตบตีกับตารางงานตัวเอง รู้ตัวอีกทีคือได้จองคิววันที่5มีนา และได้คิวสัมภาษณ์1เมษา...ทันแบบเฉียดฉิวเลยค่ะ ได้วีซ่าอาทิตย์นี้ อาทิตย์หน้าบิน

ตามหัวกระทู้ เราเป็นฟรีแลนซ์ค่ะ ทำงานด้านภาษา เท่าที่พิจารณา(เอง)ก็คิดว่ามีรายได้เพียงพอที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวด้วยตัวเองแน่นอนค่ะ ก็รู้ตัวดีว่าด้วยความที่เป็นฟรีแลนซ์ พวกหลักฐานการเงินต่างๆต้องหนักแน่น เพราะเราไม่มีใบรับรองการทำงานเหมือนคนที่ทำงานประจำ แล้วเมื่อเกือบสิบปีที่แล้วก็เคยเข้าอเมริกาแล้วครั้งนึง ไปWATเป็นวีซ่าJ1ค่ะ แอบเห็นรีวิวที่มีคนบอกว่าถ้าเคยไปWATมาก่อนจะถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษก็ตุ๊มๆต่อมๆนิดนึงค่ะ

ในDS160ตอนกรอกรายละเอียดงานที่ทำ เราก็เขียนไปแค่titleของงานที่ทำ ไม่ได้ลงรายละเอียด เขียนแค่เป็นฟรีแลนซ์specialistด้านไหนแค่นั้น
ส่วนประเทศที่ไปมาก็ใส่ไปทั้งหมดค่ะ ก็จะมียุโรป ญี่ปุ่น มัลดีฟ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ เป็นต้น 
โดยตอนที่กรอกDS160ยอมรับว่ารีบนิดนึง คืออยากรีบๆส่งรีบๆจองคิว เพราะวันที่สัมภาษณ์ห่างกับวันเดินทางแค่อาทิตย์เดียวเอง ทำให้บางอย่างก็ไม่ได้กรอกให้ละเอียดเท่าที่ควรค่ะ(ตอนนั้นกะว่ายังไงก็ต้องสัมภาษณ์ เดี๋ยวค่อยเอาเอกสารมายื่นเหมือนตอนขอเชงเก้น ซึ่งอันนี้เราพลาดเข้าใจผิดไปจริงๆ จริงๆน่าจะลองหาข้อมูลก่อนยื่น)

หลังจากนั้นก็ติดงานอีกยาวๆ เราไม่มีเวลาเตรียมแผนอะไรเลยจนเหลืออีก2วันจะสัมภาษณ์ ก็ตาหูเหลือก จองโรงแรมแบบแคนเซิลได้ กะว่าถ้าไม่ได้วีซ่าอเมริกาเราก็คงทิ้งตั๋วเลย แล้วไปเที่ยวญี่ปุ่นอย่างเดียว(ตามแผนคือไปญี่ปุ่นก่อนไปฮาวาย แล้วกลับจากฮาวายมาญี่ปุ่นต่อ) แล้วก็ทำแผนเที่ยว ดูว่าจะไปไหนบ้าง

พอวันสัมภาษณ์เราก็เตรียมเอกสารแนะนำตัวเองระบุงานที่ทำ สาเหตุที่ต้องการไปอเมริกาและยืนยันว่าจะกลับมาประเทศค่ะ แล้วก็มีภงด.ที่เพิ่งยื่นของปีนี้ กับทวิ50บางส่วนของลูกค้าที่เป็นที่รู้จักและลูกค้าที่เป็นบริษัทมหาชนไปด้วยค่ะ จริงๆอยากเอาใบPOของลูกค้าที่เป็นคิวงานช่วงหลังสงกรานต์มาด้วย แต่ยังอยู่ในช่วงคุยกันปากเปล่า ลูกค้ายังไม่ได้ออกPOให้ค่ะ ก็เลยไม่ได้เอาไปด้วย แล้วก็มีประกันการเดินทางของแบบรายปีของเรา มีเอกสารกรรมสิทธิห้องชุด มีสมุดบัญชีเงินฝากทั้งออมทรัพย์ ประจำ ltf ...คือเอาไปทุกอย่างเลยค่ะเท่าที่จะนึกออก

ปรากฏว่าตอนเข้าคิวสัมภาษณ์ คือแฟ้มเราดูหนามากค่ะ...หนาแบบ นี่หอบบ้านมาด้วยทำไม T▽T พกพาสปอร์ตมาด้วยอีกสามเล่ม

พอเข้าไปต่อคิวยื่นวีซ่า ที่ช่องสกรีนเอกสาร เจ้าหน้าที่ไม่ได้ถามอะไรมากค่ะ แค่ถามว่าเคยได้วีซ่าJ1มาก่อนใช่มั้ย เอาเล่มเก่ามาด้วยรึเปล่า เราก็ส่งเล่มเก่าให้ค่ะ เจ้าหน้าที่ก็พลิกดูหน้าเก่าๆนิดนึง แล้วเจ้าหน้าที่ก็กรอกข้อมูล พอเสร็จก็ให้แสกนลายนิ้วมือแล้วก็จบค่ะ ไปช่องต่อไป

ช่องต่อไปที่เป็นสัมภาษณ์กับทางเจ้าหน้าที่กงสุล แอบได้ยินคนที่สัมภาษณ์ก่อนหน้าเราโดยปฏิเสธวีซ่า ก็แอบหวาดเสียวนิดนึงค่ะ เราก็หอบเอกสารไปด้วยกะเตรียมพรีเซนต์เต็มที่ค่ะ ทางกงสุลก็ถามเราแค่ว่า ความสัมพันธ์กับคนที่ไปด้วยเป็นอะไรกัน ตอนไปยุโรปก็ไปด้วยกันรึเปล่า ครั้งนี้วัตถุประสงค์ในการไปคืออะไร มีคนรู้จักที่อเมริกามั้ย ไปเที่ยวหรือไปเยี่ยมญาติ...แค่นี้เลยค่ะ ถามแป๊บเดียวเอง เราก็ตอบไปตามตรงทุกข้อเป็นภาษาอังกฤษค่ะ (เพราะคิดว่าเราไปเที่ยวเอง ก็ควรจะแสดงให้เห็นว่าสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษได้อ่ะเนอะ)
แล้วหลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่กงสุลก็พิมพ์อะไรสักอย่างแป๊บนึง แล้วก็ให้เราแสกนลายนิ้วมือ แล้วก็บอกว่า วีซ่าของคุณอนุมัติ...แล้วก็จบค่ะ
เป็นการสัมภาษณ์ที่รวดเร็วมากที่สุดครั้งนึงเลยค่ะ เราต่อแถวเข้าด้านหน้าสถานทูตตอน7โมง ตอนออกมานี่ยังไม่ถึง8โมงเลยค่ะ

เอกสารที่เตรียมมาหนามาก ก็ไม่ได้ใช้ค่ะ ฮา แต่ก็คิดว่าเตรียมมาดีกว่านะคะ คือเตรียมมาเหลือดีกว่าขาดอ่ะค่ะ 
ก็เดินออกมาแบบงงๆแต่ดีใจค่ะ หลังจากนั้น3วันก็ได้พาสปอร์ตส่งกลับมาเรียบร้อยค่ะ

ไม่รู้ว่าข้อมูลตรงนี้จะเป็นประโยชน์บ้างรึเปล่า เพราะรอบนี้เราอาจจะโชคดีที่รายละเอียดที่เรากรอกลงไปดูไม่มีอะไรที่เป็นข้อสงสัย ก็เลยไม่ได้มีขอดูเอกสารเพิ่มเติม(แต่ถ้าจะดู ก็พร้อมแสดงให้ดูนะ)หรือมีสัมภาษณ์อะไรมาก แต่ก็คิดว่าสำหรับฟรีแลนซ์แล้วเอาเอกสารไปให้พร้อมน่าจะดีที่สุดค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่