แชร์ประสบการณ์ สัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา ผ่านด้วยครับ ดีใจ

สวัสดีครับ

หลังจากได้อ่านกระทู้แชร์ประสบการณ์สัมภาษณ์วีซ่าของสมาชิกท่านอื่นมาเยอะ ผมก็ขอรีวิวเป็นของผมเองบ้างนะครับ จะได้เป็นการอัพเดทข้อมูลด้วย

ก่อนอื่นมาดูขึ้นตอนต่างๆก่อนเนาะ ขั้นตอนหลักๆของการขอวีซ่าอเมริกา เป็นแบบนี้ครับ
1. กรอกข้อมูล DS160 ในอินเตอร์เนท
2. จ่ายเงินที่ ธ.กรุงศรีฯ + นัดสัมภาษณ์
3. สัมภาษณ์จริงที่สถานทูต

ขั้นแรก: กรอกข้อมูล DS160 ในอินเตอร์เนท
ผมลองเซิร์ชในกูเกิลว่า "วีซ่าอเมริกา" ลิงค์แรกๆจะเป็นของสถานทูตเลยครับ กรอกไปเรื่อยๆ
การกรอกข้อมูลนี่สำคัญมากๆๆๆๆๆๆ เพราะเจ้าหน้าที่กงสุลเค้าจะพิจารณาจากที่เรากรอกเป็นหลักเลยครับ
เขาให้เวลากรอกตั้ง 30 วัน คุณกรอกๆไปแล้วเจออะไรไม่แน่ใจ ให้หยุด เซฟไว้ ไปหาคำตอบมาแล้วค่อยทำต่อครับ อย่าตอบมั่วเด็ดขาด

หากไปพักกับญาติ ต้องมั่นใจนะว่าเป็นญาติที่ใกล้ชิดกัน ไม่ใช่แบบ เพื่อนของแม่เพื่อน คนสนิทของพี่แฟน อันนี้ไม่ผ่านชัวร์
หากไปพักโรงแรม วางแพลนดีๆว่าจะไปกี่คืน กี่วัน เที่ยวเมืองไหนบ้าง

หลักฐานการทำงานต้องตรงครับ กงสุลถามเน้นมากๆว่าทำงานที่ไหน
ถ้ากำลังเรียนอยู่ ป.โท ป.เอก ระบุไปเลยครับ กงสุลท่านรู้จัก ผมเรียน ป.โทที่ธรรมศาสตร์ ก็ใส่ไปตามนั้น

หลักฐานการเงิน กรอกตามจริงว่าได้เงินเดือนเท่าไหร่ ที่จะไปเมกาเนี่ยใครออกค่าใช้จ่ายให้ จ่ายเองมีเงินพอมั้ย มีสปอนเซอร์ คนนั้นคือใคร ใช่ญาติสนิทเราไหม บลาๆ

อีกเรื่องนึงคือเรื่องรูปถ่าย เห็นโดนไล่ไปถ่ายใหม่กันเยอะแยะ
รูปต้อง หน้าตรง เห็นใบหูชัดเจน ฉากขาวเท่านั้น เห็นภาพใบหน้าเกิน 50% ของภาพ หัวไม่ขาด หูไม่ขาด
ตอนต่อคิวผมเห็นบางคนหัวในรูปขาดไปบ้าง ฉากไม่ขาวบ้าง ไม่เห็นหูบ้าง เจ้าหน้าที่ไล่ไปถ่ายใหม่อย่างเดียวเลยครับ

กรอกเสร็จเรียบร้อย ตรวจทางให้แน่ใจเลยครับ เพราะมันกลับมาแก้ไม่ได้อีกแล้ว
เสร็จแล้วก็ให้ระบบส่ง DS160 เข้าอีเมลล์เราครับ ปริ้นท์เก็บไว้ ใบนี้ต้องใช้แน่ๆตอนวันสัมภาษณ์





ขั้นตอนที่ 2: จ่ายเงินที่ ธ.กรุงศรีฯ + นัดสัมภาษณ์

ศึกษาจากหน้าเว็บนี้เลยครับ http://www.ustraveldocs.com/th_th/th-niv-visaapply.asp
ใส่อีเมลล์ ใส่พาสเวิร์ดลงไปนะ
แล้วก็ใส่รหัสที่เราได้จากใบ DS160 ถ้ามีผู้ร่วมเดินทางด้วย ก็เลือกให้สัมภาษณ์พร้อมกันจากตอนนี้เลยครับ
เสร็จแล้วระบบจะมีให้โหลดใบ pay-in
ปริ้นท์ใบนี้ออกมา กรอกรหัสต่างๆของเราลงไป แล้วไปจ่ายเงินที่เค้าเตอร์ ธ.กรุงศรีอยุธยา ครับ
คนละห้าพันกว่าบาท เกือบหกพัน ผมไปสองคนโดนไปเกือบหมื่นสอง หน้าซีด

จ่ายเสร็จแล้วเก็บสลิปไว้ด้วยนะครับ ต้องเอาไปวันสัมภาษณ์ด้วย
(ถึงของผมกงสุลจะไม่ขอดูเลยก็ตามที)

จ่ายเงินเสร็จ รอ 1 วันครับ ระบบจะส่งอีเมลล์มาบอก ว่าตอนนี้ได้รับเงินแล้วนะ เข้าไปเลือกวันสัมภาษณ์ได้เลย
เราก็เลือกวันตามที่สะดวก
แนะนำว่าให้เลือกรอบเช้าที่สุดครับ เพราะคนยังน้อยๆอยู่ เจ้าหน้าที่ยังอารมณ์ดี ถ้าโชคดีก็ได้กลับบ้านเร็ว ของผม 8.05  ก็เสร็จละครับ





ขั้นตอนที่ 3: วันสัมภาษณ์จริง

วันสัมภาษณ์ห้ามลืมใบ DS160 กับ passport เด็ดขาดเลยนะครับ

ตื่นเช้าๆครับ ตีสี่ตีห้าว่าไป เช้าๆรถยังไม่ติดมาก ผมไปถึงสถานทูตแบบชิวๆ
ใครที่นั่ง BTS ไป ลงสถานีเพลินจิตนะครับ ถึงแล้วจะเดินไป หรือเรียนวินมอไซค์ หรือแท็กซี่ก็ได้
ไปถึงแล้วจะมีเจ้าหน้าที่คอยเช็คว่าเรามาถูกวันมั้ย มาทันรอบมั้ย
แล้วก็เจ้าหน้าที่ security จะเน้นย้ำเรื่องของที่สามารถเอาเข้าไปข้างในได้บ้าง
ที่เอาเข้าไปได้ก็มีแค่ โทรศัพท์ กับกระเป๋าใบเล็กๆ และซองใส่เอกสาร เท่านั้นครับ

พอผ่านเข้าไปจะเจอด่านคล้ายๆเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์
เค้าจะขอใบ DS160 กับพาสปอร์ต ใส่ซองที่สถานทูตเตรียมไว้ พร้อมให้ bar code ไปรษณีย์มา
พอได้มาให้เราจด bar code นั้นไว้นะครับ ไว้ใช้ติดตามว่าวีซ่าเราส่งมาบ้านรึยัง (ถ้าผ่านสัมภาษณ์อ่ะนะ)

เสร็จแล้วก็เข้าไปในห้อง
ในห้องจะแบ่งเป็นสองส่วนครับ ส่วน จนท.คนไทย กับ ส่วนกงสุลฝรั่ง

ส่วนแรกจะเป็น จนท.คนไทย ถามประวัติเบื้องต้นคร่าวๆ สแกนลายนิ้วมือ
ส่วนใหญ่จะถามว่า เคยมาสัมภาษณ์รึยัง จะไปเมกานานเท่าไหร่ ไปทำไม เคยเปลี่ยนชื่อมั้ย รูปถ่ายถ่ายไว้เกิน 6  เดือนหรือยัง มีญาติสนิทอยู่อเมริกาหรือไม่ ถ้ามีชื่ออะไร ประมาณนี้ครับ
ของผมโชคดีได้เจ้าหน้าที่คนสวย วาจาและกริยางดงาม บางช่องได้ยินการขึ้นเสียงจาก จนท.ดังออกมาเลยทีเดียวครับ

ส่วนที่สอง สัมภาษณ์จริงกับกงสุลฝรั่ง
โอยยยยยยยยย ตื่นเต้นมากครับตอนนี้
ถึงคิวผม ผมสัมภาษณ์พร้อมกับคุณแม่ครับ เนื่องจากคุยเป็นภาษาอังกฤษ กงสุลท่านเลยถามผมคนเดียวครับ
คำถามก็ตาม DS160 ที่กรอกมานั่นแหละครับ

Where and when are you traveling to?
How long will you be staying there?
Where will you stay?
What is your job now?
What field of business is your company doing with?
Are you studying Master Degree at ......? Which faculty? Which major?

ประมาณนี้ครับ ผมก็ตอบไปตามที่กรอก
ตอบเสร็จ อ่ะ เรียกมาสแกนนิ้ว เรียกมาผมด้วย
เสร็จแล้วกงสุลก็เก็บ passport ของผมกับแม่ไป
เป็นอันเสร็จครับ วีซ่าผ่านแล้ว เย้
(ใช่ครับ เค้าไม่เรียกดูเอกสารใดๆเพิ่มเติมเลยยยยยยยยย)


โดยสรุปนะครับ
ผมว่าวีซ่าคุณจะผ่านไม่ผ่าน อยู่ที่ว่า
1. คุณให้ข้อมูลจริงไหม
2. ข้อมูลที่ให้สมเหตุสมผลหรือไม่
3. การสัมภาษณ์

เอาจริงๆผมเชื่อลึกๆว่า ท่านกงสุลที่มาสัมภาษณ์ไม่น่าจะใช่แค่คนอเมริกันที่พูดไทยได้ แต่น่าจะได้รับการฝึกด้านจิตวิทยามาอย่างดี สามารถดูออกได้จากข้อมูลที่เรากรอกและท่าทางการให้สัมภาษณ์ ว่าคนคนนี้ข้อมูลถูกมั้ย make sense มั้ย การเอาเงินใส่บัญชีเยอะๆ การทำแผนการท่องเที่ยว การอ้างว่าไม่รู้จักใครเลย บลาๆ ผมว่าเขารู้หมดแหละครับ

ครับ นั่นแหละประสบการณ์ของผมกับแม่ ตอนนี้ก็เหลือแค่วีซ่าส่งมาที่บ้าน และจองตั๋ว แล้วก็เที่ยว =)

หวังว่ารีวิวของผมจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย
ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่