แม่อายุ 80 ปีค่ะ ปัจจุบันน้ำหนัก 37-37.5 กิโล มีโรคประจำตัวคือกระดูกพรุน บางครั้งจะมีอาการเจ็บเข่า เข่าบวม วันที่ไปส่องกล้อง ที่คนทั่วไปส่องกล้องแล้วสามารถกลับบ้านได้เลย แม่นอนโรงพยาบาลไป 5 วันเพราะมีไข้ต่ำๆ  หลังกลับบ้านแล้วต้องใช้ไม้เท้าสี่ขาช่วยเดินอีก 3 วัน
ปัจจุบัน แม่ยังกินได้ นอนหลับ เดินได้ ใช้ชีวิตที่เป็นกิจวัตรประจำวันได้ค่อนข้างปกติ มีมึนหัวเวลาลุกจากที่นอนบ้าง ที่ไปตรวจเพราะน้ำหนักลดเยอะ
ไม่ได้บอกแม่ เพราะกลัวรู้แล้วจะเครียดและทรุด แม่ไม่ค่อยรู้เรื่อง รู้แค่ว่าคนรอบข้าง(มีพี่ชายเรา-ลูกแม่เป็นหนึ่งในนั้นด้วย)เป็นมะเร็งแล้วทรมานและตายเท่านั้น คีโมก็ไม่รู้จัก

โรงพยาบาลรัฐที่ไปหาเป็นโรงพยาบาลใหญ่(ดูจากจำนวนเตียง) แต่ไม่มีหน่วยงานที่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการรักษาแบบประคับประคอง
พอบอกหมอว่าจะรักษาแบบประคับประคอง ไม่ทำคีโม หมออายุรกรรมเฉพาะทางมะเร็งถามว่าไม่ทำคีโมแล้วมาหาหมอทำไม 
วันนี้คุณหมอแผนกทั่วไป ดูผลตรวจเลือด หมอบอกว่าผลเลือดไม่ได้จางมาก ที่มีเลือดออกเวลาอึก็เนื่องมาจากโรคมะเร็ง แต่พอคุณหมอล้วงก้นแล้วมีเลือด คุณหมอก็แนะนำว่าให้แอดมิทเลยเพื่อสอดท่อเข้ากระเพาะอาหารเพื่อล้างเลือด ถ้าพบว่ามีเลือดก็จะให้ยาห้ามเลือด เพราะถ้าเลือดออกมากอาจจะช็อคได้  เราถามว่าสอดท่อทางไหน คุณหมอว่าทางจมูก เราถามว่าวางยาสลบไหม คุณหมอว่าไม่วาง พอเราถามว่าขอปรึกษาคุณหมอศัลยกรรมก่อนได้ไหม คืออยากรู้ว่ามีทางเลือกอื่นไหมที่จะเจ็บตัวน้อยกว่านี้ 
(เช่น ถ่ายเลือดลูกให้แม่แทนได้ไหม นี่เพิ่งมาคิดได้ตอนกลับมาบ้านค่ะ สงสัยว่าเป็นไปได้ไหม แม่มีลูก(ที่ยังมีชีวิต) 5 คน ผลัดๆกันถ่ายได้ไหม หรือทางเลือกอื่นๆ)  

หมอก็บอกว่าได้  แต่ต้องเซ็นปฎิเสธการรักษาก่อน  เราก็โอเคหมอจะให้เซ็นก็เซ็น แต่สุดท้ายหมอก็ไม่ได้ให้เซ็นค่ะ หมอศัลยกรรม(ที่ไม่ใช่เจ้าของไข้)มาดู แล้วบอกว่าเลือดไม่จางถึงขั้นจะช็อค ให้รอปรึกษาคุณหมอศัลยกรรมเจ้าของไข้วันพุธอีกที

ต้องการข้อมูลเพื่อเตรียมไว้ล่วงหน้าค่ะ ว่าถึงเวลาควรตัดสินใจอย่างไร อย่างเช่น การปั๊มหัวใจนี้ตั้งใจไว้แล้วว่าไม่ปั๊ม  แต่อย่างเรื่องการสอดท่ออาหาร (อ่านเจอว่าทรมานมาก) สอดท่อหายใจ (ถ้าตัดสินใจสอดแล้วเอาออกภายหลังไม่ได้จริงหรือ แต่ถ้าไม่สอดก็ไม่เสียชีวิต แต่ทรมานข้ามหลายวัน) ไม่ทราบว่าจะไปขอคำปรึกษาจากที่ไหนได้บ้าง
หาข้อมูลเจอว่าโรงพยาบาลจุฬา มีหน่วยงานศูนย์ชีวาภิบาล หากเราซึ่งเป็นญาติคนไข้สามารถไปขอคำปรึกษา โดยไม่นำผู้ป่วยไปด้วย ขอข้อมูลจะได้ไหมคะ ต้องนำเอกสารอะไรไปบ้าง หรือมีที่อื่นแนะนำก็ได้ค่ะ (หากเป็นของรัฐบาลยิ่งดีค่ะ ใช้สิทธิเบิกจ่ายตรง)
ใจนึงก็คิดว่าควรบอกแม่นะคะ แต่ไม่แน่ใจว่าควรบอกตอนไหน ค่อยๆบอกอย่างไร เพราะกลัวหมอจะหลุดปากมาต่อหน้าแม่ว่าเป็นโรคมะเร็งโดยแม่ไม่ทันเตรียมใจหรือตั้งตัวไว้ก่อน 

น้อมรับคำแนะนำและขอบคุณค่ะ