ทำญาณให้เห็นจิต ให้เหมือนดังตาเห็นรูป
พบผู้รู้ให้ทำลายผู้รู้ พบจิตให้ทำลายจิต
จึงจะถึงความบริสุทธิ์อย่างแท้จริง
การปฏิบัติไม่ยาก ยากแต่ผู้ไม่ปฏิบัติ
อ่านหนังสือมามากแล้ว ต่อไปนี้ให้อ่านจิต
“จิตที่ส่งออกนอก เป็นสมุทัย
ผลอันเกิดจากจิตที่ส่งออกนอก เป็นทุกข์
จิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้ง เป็นมรรค
ผลอันเกิดจากจิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้ง เป็นนิโรธ
อนึ่ง ตามสภาพที่แท้จริงของจิต ย่อมส่งออกนอกเพื่อรับอารมณ์นั้น ๆ โดยธรรมชาติของมันเอง
ก็แต่ว่าถ้าจิตส่งออกนอกได้รับอารมณ์แล้ว จิตเกิดหวั่นไหวหรือกระเพื่อมไปตามอารมณ์นั้น เป็นสมุทัย
ผลอันเกิดจากจิตหวั่นไหวหรือกระเพื่อมไปตามอารมณ์นั้น ๆ เป็นทุกข์
ถ้าจิตที่ส่งออกนอกได้รับอารมณ์แล้ว แต่ไม่หวั่นไหว หรือไม่กระเพื่อมไปตามอารมณ์นั้น ๆ มีสติอยู่อย่างสมบูรณ์ เป็นมรรค
ผลอันเกิดจากจิตไม่หวั่นไหว หรือไม่กระเพื่อม เพราะมีสติอยู่อย่างสมบูรณ์ เป็นนิโรธ
พระอริยเจ้าทั้งหลายมีจิตไม่ส่งออกนอก จิตไม่หวั่นไหว จิตไม่กระเพื่อม เป็นวิหารธรรม จบอริยสัจจ์ ๔”
ปล.ดูจากหลายๆ ความเห็น ก็แสดงถึงระดับความเข้าใจที่ต่างกันไป วาระคติต่างๆกันไป / คำสาวกจะเอาไปเทียบกับพุทธวจน มันก็เทียบกันไม่ได้อยู่แล้วในแง่ความสมบูรณ์โดยเฉพาะในเชิงการบัญญัติ / สายปริยัติแน่นๆ ก็ทรงไว้ให้ดี / ครูอาจารย์ท่านก็บอกสอนด้วยสำนวนภาษาของท่าน กับผู้ไปถามท่าน หรือไปให้ท่านบอกสอน / คห.ส่วนตัว ถ้าไม่รู้พุทธวจนกว้างขวาง ก็อาจมีปัญหาในการทำความเข้าใจ ถ้าจะเอาแบบเนี๊ยบๆ ก็ต้องพระสูตรพระวินัยบาลี แต่มีกี่คนที่รู้บาลี / สมัยก่อนการค้นคว้าพระไตรปิฎกก็ไม่สะดวกสบายเหมือนเดี๋ยวนี้ มือถือเครื่องเดียวมีพระไตรปิฎกบรรจุทั้งบาลีทั้งแปลไทยหลายสำนักของต่างประเทศอีก แถมค้นคำสำคัญง่ายดาย /
E-Tipitaka
โปรแกรมตรวจหาและเทียบเคียงพุทธวจนจากพระไตรปิฎก
http://etipitaka.com
แอพ/โปรแกรม รวบรวม
พระไตรปิฎก 7 ชุด ทั้ง ไทย/บาลี/โรมัน
พุทธวจน 4 ชุด
ความคิดเห็นที่ 19, 25, 26 เข้าท่าดีครับ
https://youtu.be/mErau-PWHuY
ผู้รู้ตัวรู้เหมือนเรือ ยังอยู่ในน้ำอย่าทิ้งเรือ ขึ้นฝั่งได้แล้วอย่าแบกเรือไปด้วย
https://youtu.be/umK9uVRX0bM
ทำญาณให้เห็นจิต ให้เหมือนดังตาเห็นรูป พบผู้รู้ให้ทำลายผู้รู้ พบจิตให้ทำลายจิต จึงจะถึงความบริสุทธิ์อย่างแท้จริง
พบผู้รู้ให้ทำลายผู้รู้ พบจิตให้ทำลายจิต
จึงจะถึงความบริสุทธิ์อย่างแท้จริง
การปฏิบัติไม่ยาก ยากแต่ผู้ไม่ปฏิบัติ
อ่านหนังสือมามากแล้ว ต่อไปนี้ให้อ่านจิต
“จิตที่ส่งออกนอก เป็นสมุทัย
ผลอันเกิดจากจิตที่ส่งออกนอก เป็นทุกข์
จิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้ง เป็นมรรค
ผลอันเกิดจากจิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้ง เป็นนิโรธ
อนึ่ง ตามสภาพที่แท้จริงของจิต ย่อมส่งออกนอกเพื่อรับอารมณ์นั้น ๆ โดยธรรมชาติของมันเอง
ก็แต่ว่าถ้าจิตส่งออกนอกได้รับอารมณ์แล้ว จิตเกิดหวั่นไหวหรือกระเพื่อมไปตามอารมณ์นั้น เป็นสมุทัย
ผลอันเกิดจากจิตหวั่นไหวหรือกระเพื่อมไปตามอารมณ์นั้น ๆ เป็นทุกข์
ถ้าจิตที่ส่งออกนอกได้รับอารมณ์แล้ว แต่ไม่หวั่นไหว หรือไม่กระเพื่อมไปตามอารมณ์นั้น ๆ มีสติอยู่อย่างสมบูรณ์ เป็นมรรค
ผลอันเกิดจากจิตไม่หวั่นไหว หรือไม่กระเพื่อม เพราะมีสติอยู่อย่างสมบูรณ์ เป็นนิโรธ
พระอริยเจ้าทั้งหลายมีจิตไม่ส่งออกนอก จิตไม่หวั่นไหว จิตไม่กระเพื่อม เป็นวิหารธรรม จบอริยสัจจ์ ๔”
ปล.ดูจากหลายๆ ความเห็น ก็แสดงถึงระดับความเข้าใจที่ต่างกันไป วาระคติต่างๆกันไป / คำสาวกจะเอาไปเทียบกับพุทธวจน มันก็เทียบกันไม่ได้อยู่แล้วในแง่ความสมบูรณ์โดยเฉพาะในเชิงการบัญญัติ / สายปริยัติแน่นๆ ก็ทรงไว้ให้ดี / ครูอาจารย์ท่านก็บอกสอนด้วยสำนวนภาษาของท่าน กับผู้ไปถามท่าน หรือไปให้ท่านบอกสอน / คห.ส่วนตัว ถ้าไม่รู้พุทธวจนกว้างขวาง ก็อาจมีปัญหาในการทำความเข้าใจ ถ้าจะเอาแบบเนี๊ยบๆ ก็ต้องพระสูตรพระวินัยบาลี แต่มีกี่คนที่รู้บาลี / สมัยก่อนการค้นคว้าพระไตรปิฎกก็ไม่สะดวกสบายเหมือนเดี๋ยวนี้ มือถือเครื่องเดียวมีพระไตรปิฎกบรรจุทั้งบาลีทั้งแปลไทยหลายสำนักของต่างประเทศอีก แถมค้นคำสำคัญง่ายดาย /
E-Tipitaka
โปรแกรมตรวจหาและเทียบเคียงพุทธวจนจากพระไตรปิฎก
http://etipitaka.com
แอพ/โปรแกรม รวบรวม
พระไตรปิฎก 7 ชุด ทั้ง ไทย/บาลี/โรมัน
พุทธวจน 4 ชุด
ความคิดเห็นที่ 19, 25, 26 เข้าท่าดีครับ
https://youtu.be/mErau-PWHuY
ผู้รู้ตัวรู้เหมือนเรือ ยังอยู่ในน้ำอย่าทิ้งเรือ ขึ้นฝั่งได้แล้วอย่าแบกเรือไปด้วย
https://youtu.be/umK9uVRX0bM