เกริ่นก่อนเลยว่า เจ้าของกระทู้อายุไม่เกิน 25 ค่ะ สมัยเรียนเคยมีความฝันอยากเป็นข้าราชการ(ตำรวจ)ตามพี่ชาย ซึ่งพ่อแม่ก็อยากให้เป็น และสนับสนุนมาก จนเรียนจบ ได้แต่งงานกับสามี(เป็นนักธุกิจ) ยังไม่มีลูกนะคะ และสามีเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งไม่เห็นด้วยกับการไปสอบ เพราะนางต้องการให้ทำธุรกิจ ฝั่งครอบครัวสามี ซับพอร์ตทุกอย่าง มีเท่าไหร่ก็เทให้หมด เพื่อลงทุน แต่ในใจลึกๆแล้วก็ยังอยากทำงานตามที่ฝันไว้ ฝั่งพ่อแม่เราพี่ชาย ก็อยากจะให้ไปสอบ เพราะมองว่า เป็นงานที่มั่นคง ซึ่งเราก็เห็นด้วย แต่ปัญหาอยู่ที่สามี เพราะนางมองว่า ไม่จำเป็นต้องไปสอบ ทำไปก็ไม่รวย สวัสดิการดีแค่ไหน แต่ถ้าทำธุรกิจ ก็เอาเงินไปแทนสวัสดิการได้ ยกตัวอย่างเช่น การรักษาพยาบาล ที่สามารถเบิกได้ แต่นางกลับเห็นว่า ถ้ามีเงินพร้อมจ่าย เรื่องเบิกได้ ไม่ได้ก็ไม่สำคัญ ควรจะมาทำธุรกิจกับนางดีกว่า และกีดกันทุกอย่างเพื่อไม่ให้เราไปสอบ หาเหตุผลร้อยแปดมาพูด เช่น เคยเห็นตำรวจคนไหนจับรถหรูๆบ้างไหม เงินเดือนไม่กี่หมื่นจะพอกินได้ยังไง ซึ่งเราพูดไปว่า เราก็ขอแค่ไปสอบ และไม่รู้อนาคตด้วยว่า เราจะสอบติดไหม แต่เราหวังว่าเราจะติด แต่นางมองว่า เราทุ่มเทกับงานราชการมากเกินไป เรานึกถึงแต่ตัวเอง ทำไมไม่นึกถึงครอบครัวที่มีแต่เรากะนาง บางครั้งเราก็รู้สึกไม่เข้าใจว่า การที่จะอยู่ด้วยกันนั้น ส่วนหนึ่งก็ต้องคอยซับพอร์ตกัน ซึ่งนางก็รู้ว่ามันเป็นความใฝ่ฝันของเรา รวมถึงพ่อแม่เรา แต่นางยืนยันเสียงแข็งว่า ไม่มีทาง ไม่ให้ไป แล้วถ้าจะไปก็หาเงินมาคืนด้วย เพราะก่อนหน้านี้พ่อนางให้เงินมาลงทุนก้อนนึง ใช้ในการลงทุนทำธุรกิจไปบางส่วน มันเลยยิ่งทำให้เราคิดว่า ผู้ชายคนนี้ไม่เข้าใจเรา ไม่สนับสนุนเราเราไม่ว่า แต่เรามองว่าการกีดกันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งการตัดสินใจของเรา คือเราจะไปสอบ เพราะเราเป็นคนที่มุ่งมั่นพอสมควร โดยเราไม่รู้เหมือนกันว่า หลังจากวันที่เราจะไปสอบนั้น มันจะเกิดอะไรขึ้นตามมา อาจจะหย่ากัน คืนเงิน หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่เราพร้อมจะเสี่ยง เพื่อความฝันของเรา เลยอยากจะถามว่า ทุกคนคิดว่าเราทำถูกไหม มีอะไรที่เราละเลยไปหรือเปล่า ซึ่งเราพยายามถามตัวเองแล้ว แต่ยังตอบไม่ได้ซักที ยังไงก็ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำแนะคำค่ะ
จะทำตามฝันของตัวเอง หรือจะทิ้งฝันแล้วทำธุรกิจ เพราะแต่งงานแล้ว แล้วสามีไม่อนุญาตให้ทำ