หลักฐานที่เกิดจากประจักษ์สิทธิ์เห็นแจ้งรู้จริงเฉพาะตนข้อนี้ จะต้องปฏิบัติตามแนวทางฌานสมาบัติ 8 คือต้องบำเพ็ญสมาธิจิตอย่างเชี่ยวชาญได้รูปฌาน 4 อรูปฌาน 4 แล้วน้อมจิตฝึกฝนในอภิญญาจนสามารถเกิดคุณวิเศษ 5 ประการคือ อิทธิฤทธิ์แสดงฤทธิ์เป็นอัศจรรย์ ทิพย์จักษุมีตาทิพย์ ทิพย์โสตหูทิพย์ เจโตปริยญาณรู้วาระความคิดของผู้อื่น ปุพเพนิวาสานุสสติญาณระลึกชาติก่อนๆได้ คราวนี้ถ้าปรากฏจะเห็นสวรรค์นรกหรือปรารถนาจะฟังเสียงทิพย์ หรือใครจะทราบความเป็นไปแต่ชาติก่อนๆ แห่งตนหรือผู้อื่นอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็ให้เข้าฌานสมาบัติมีจตุตถฌานเป็นปทัฏฐาน ออกจากฌานแล้วตั้งจิตอธิษฐานในเรื่องที่ตนปรารถนา ครั้นแล้วก็เจริญอภิญญาจนกระทั่งเกิดปัญญาจิตขึ้น ในทันใดนั้นเองก็ประสบสภาพการณ์ต่างๆเหนือวิสัยสามัญชนจะประจักษ์ได้ตามเจตน์จำนงของผู้นั้น
วิธีฝึกอภิญญาละเอียดซับซ้อนมาก ต้องจับคู่กันให้ถูกฝาถูกตัว นับเป็นจิตกีฬาที่พิสดารที่สุด การฝึกอภิญญาจึงเท่ากับการทดลองตามสูตรเคมีในห้องวิทยาศาสตร์ เมื่อเกิดอำนาจมหัศจรรย์ขึ้นเท่ากับเป็นผลของการทดลอง ผิดกันแต่ว่าฝ่ายวิทยาศาสตร์เขามีเครื่องมือเกะกะเต็มห้องเห็นได้สัมผัสได้ ฝ่ายจิตกีฬาเป็นเรื่องภายในใจของบุคคลเห็นไม่ได้เห็นเฉพาะตัวของผู้เป็นเจ้าของ
หลักฐานที่จะพิสูจน์ให้รู้ว่า........โลกหน้ามีจริงนั้น แยกได้เป็นประเด็นดังนี้
วิธีฝึกอภิญญาละเอียดซับซ้อนมาก ต้องจับคู่กันให้ถูกฝาถูกตัว นับเป็นจิตกีฬาที่พิสดารที่สุด การฝึกอภิญญาจึงเท่ากับการทดลองตามสูตรเคมีในห้องวิทยาศาสตร์ เมื่อเกิดอำนาจมหัศจรรย์ขึ้นเท่ากับเป็นผลของการทดลอง ผิดกันแต่ว่าฝ่ายวิทยาศาสตร์เขามีเครื่องมือเกะกะเต็มห้องเห็นได้สัมผัสได้ ฝ่ายจิตกีฬาเป็นเรื่องภายในใจของบุคคลเห็นไม่ได้เห็นเฉพาะตัวของผู้เป็นเจ้าของ