ชนะอะไรไม่เท่าชนะใจตนเอง
สิ่งนี้ยังเป็นความจริงเสมอ ถ้าใครได้ตามกระทู้ผม จะทราบว่า ผมมาจากคนอ้วน อ้วนเละเทะเลย
ตามภาพ 555
และผมก็ใช้เวลาพอสมควรในการลดน้ำหนัก จนสำเร็จ และเป้าหมายต่อไปคือ เมื่อเราทำร่างกายเราให้ลดได้เราจะทำให้มันแข็งเรงได้ยังงัย
ผมเลยตัดสินใจ เลือก การ ใช้ชีวิต เป็น ชีวิตที่เป็นโลกคู่ขนาน ระหว่างการทำงานและการเล่นกีฬา
ผมเลือกไตรกีฬาเป็นการกีฬาที่ผมจะทำมันไปทั้งชีวิต
ผมเริ่มจากระยะ สั้นๆ ที่ว่ายแค่ 750 ปั่น 20 วิ่ง 5 มาจนถึงระยะที่น่าจะไกลที่สุดในโลก แบบ official คือยังมีบางรายการที่โหดกว่าแต่ ระยะที่เป็นมาตรฐานของโลก คือ ระยะ full Ironman คือ ว่ายน้ำ 3800 เมตร ปั่นจักรยาน 180 กิโลเมตร และวิ่ง 42 กิโลเมตร
ผมเลือก สนามไตรนาวีเชียงแสน เพราะ ใกล้บ้าน (ผมอยู่เชียงใหม่)
งานนี้จัดที่ เชียงแสนจังหวัดเชียงราย โดยความท้าทายคือ เราต้องว่ายข้ามแม่น้ำโขงจากฝั่งลาว มา ไทย ซึ่ง น้ำนั้นมีอุณหภูมิต่ำมาก คือ 18 องศาเท่านั้น และ น้ำโขงลึกมากๆ แต่ดีตรงที่แรงมากๆ จนเราแทบไม่ต้องออกแรงว่ายเเต่กระแสน้ำจะพาเราไปเอง แต่ยากตรง เราต้อง หา direction ดีดี เพื่อจะไม่ว่ายหลุดไปเพราะถ้าหลุดไปนี่ยาวไปไกลถึงเชียงของได้เลย 5555 (แต่ทีมงานมี security ) พร้อมเสมอ ในการเก็บเรา และงานนี้ให้ใช้ทุ่นลอยตัวได้ด้วยครับ
ว่ายน้ำ 3800 เมตร
ผมตัดสินใจจะเล็งทางโดยจำสองข้างทางได้ว่ามีจุดใดที่สำคัญโดยฝั่งทางขวาเราผมพยายามจะเล็งไว้ไม่ให้หลุดเลย ผมโดดลงไปนาทีแรกคือ
เห้ยยย ไม่ได้เย็นมากนี่หว่า แต่น้ำแรงมากจริงๆ พลิกฟรีสไตล์น้ำเข้าปากตลอดจนสำลักน้ำ ต้องใส่กบ ยาวๆ พยายาทไม่ให้หลุด รีบออกเเรงว่ายเข้าฝั่งให้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ พอเข้าได้ทีนี้ตัดสินใจหวดยาวๆ ฟรีไม่สนทางละขอความไวเพราะคิดว่าน้ำไม่น่าพัดเราออกได้แล้วที่ไหนได้ โผล่มองทางอีกทีออกซ้ายมาเยอะมาก ต้องออกแรงว่ายกลับไปอีกรอบ พอจะเข้าเห็นฝั่งแล้ว ดันโดนปลาตีนที่มาจากข้างหลังใส่ 1 ดอก หลุดต่อไปอีกต้องขืนใจว่ายทวนอีกครั้งแต่รอบนี้เหมือนมันจะอยู่กับที่มากๆ แต่ก็ขึ้นจากฝั่งมาได้ 555 ใช้เวลาไป 23 นาที ( สถิติโลกยังอาย 555 )
ปั่น 180 กิโลเมตร
ทางจักรยานสนามนี้ไม่ได้ยากมาก คือ ชันรวม 1170 เอง โดยจะมีเนินชันสุดคือ เนินหลังหอฝิ่น แต่เราเจอ ทันทีหลังจาก 6 km แรก เราเลยยังสด ผม วางแผนในการปั่นครั้งนี้ว่าจะพยายามให้ ได้เอวี 33-35 ตลอดเส้นทางง แต่บางช่วงผมก็แอบเกินไป ทางเข้าหมู่บ้านเปนถนนลูกรังทำเวลาไม่ดีเลย และข้อเสียของงานนี้คือ การเปลี่ยนจุด ดรอปแบ็ค ทำให้ผมหาไม่เจอ และไม่ได้ทานตลอด การปั่นเลย ซึ่งนำมาซึ่งการพังในตอนวิ่ง ทางช่วง 100-180 เปนทางตัดใหม่ ที่ลมมาจากทุกสารทิศ ทำให้เปลืองแรงมากและเป็นเนิน ซึมๆ ตลอดเส้นทาง ผม พลาดมากๆ ที่ดันทุกเนิน และ ปั่นส่งขาลงแบบเตมสตรีม โดยตอนนั้นขาขวาเริ่มส่งสัญญาณละเพราะตะคริวมาตอดๆ แต่ก็เปลี่ยนท่าปั่นก็สบายขึ้น แต่ๆๆๆๆ พอเริ่มมเที่ยงอากาศเปลี่ยนจากเยนมาร้อนแบบทันทีช่วงท้ายๆ คือพังมากๆๅผม ประคอง 30-31 มาช่วงสิบโลท้ายแบบว่าน้ำลายเหนี่ยวเลย ใช้เวลาไป 5 ชั่วโมง 24 นาที เอวี 34
วิ่ง 42 โล
หรือเรียกง่ายๆว่า หนึ่งฟูลมาราธอน ผมตั้งใจจะวิ่งเพส 6.30 ไปตลอดเส้นแต่อากาศที่ร้อนมากกก และ ร้อนหนักไปเรื่อยๆ เพราะลงมาวิ่งตอน 13.00 ทางเปนห้าโลครึ่ง แปดรอบ วนไปมา ไม่มีร่วมไม้ใดๆทั้งสิ้น แต่ดีตรงจุดให้น้ำที่เยอะพอสมควร ผมเริ่มวิ่งห้าโลแรกได้โอเค เพสประมาณ 6.50 แต่พอ 7-9 ผมเกิดตระคริวขึ้นมาตอดๆ รู้เลยว่าแย่แล้ว รองเท้าวันนี้เลือกผิดจริงๆ มันอมน้ำอมเหงื่อมากๆ ผมเริ่มรู้สึกเท้าเป็นแก้วแน่ๆ และตะคริวที่มาเกาะน่องแต่ต้องวิ่งไม่งั้นจะยิ่งมา วิ่งไปวิ่งมา วูบ ใช่ครับ ผมวูบเฉยเลยยยยย ดีที่ใกล้เจนทพยาบาล พยาบาลเหนอาการไม่ดี เลยให้นอนพักก่อน ปรากฎมีหมอนักวิ่งมาพอดี ขอบคุณมากๆๆครับ แกฟังเสียงหัวใจแล้วบอกว่าไปตรวจ เอเคจี ผมตัดสินใจไปตรวจขึ้นรถพยาาบาลไปในใจคิดว่าเอาแล้วว โดนแน่ๆ ไม่จบแน่ๆ ภาวนาขอให้หมอเค้าอนุญาตให้กลับมาเพราะเหลืออีกแค่ 21 โลเองก็จะจบแล้วว ไปถึงหมอเอามี่ตรวจมาตรวจจนผมตกใจนี่ผมจะโดนผ่าตัดหรือเปล่า แต่หมอก็ตรวจและเชคว่า ปกติ วิ่งได้ต่อ ผมขอเขาพาไปส่งตรงจุดเดิมที่ขึ้นและวิ่งต่ออีก แต่วิ่งไปได้แค่ 4 Km ปรากฎว่า ขาตระคริวมาครับวิ่งไม่ได้อีกต่อไป ผมจำเป็นต้องเดินจนจบแน่นอน และ การเดินยิ่งเหนื่อยกว่าอีกครับ 555 ฝืนใจ เดินจนน่าจะเหลือ แค่อีก 4 คนใน race ทั้งหมด ผมเดินไปก็ทบทวนตัวเองไป และคิดได้ว่าถ้าจะมาระยะนี้อีกคงต้องซ้อมหนักกว่านี้เยอะเลยย เดินไปร้องเพลงไป จนโลสุดท้ายตัดสินใจอัดหมดแม็ก เพส 6 ฮาๆๆๆๆ ก่อนเข้าเส้นชัยด้วยเวลา ฟูลมาราธอน 8.30 หักเวลาไป รพ 50 นาทีได้ไหม 55555
สิริรวม 14 ชั่วโมง 22 นาที 54 วินาที พร้อมร่างกายที่ยับมากๆๆ 55555
สรุป กลับไปซ้อมมาดีดีครับสำหรับคนที่จะเล่นระยะนี้ ผมบอกเลย ใครๆก็ทำได้แค่ต้องซ้อม เท่านั้น ผม อาศัยบุญเก่าล้วนๆ ครับงานนี้
สภาพขึ้นจากน้ำ ยังเริงร่าได้อยู่แต่หลังจากนี้สามสิบวินาที ตะคริวตอดเฉยยยย 5555
เส้นปั่นขึ้นเนิน ขอ แอคเท่ๆกับกล้องสักชอทททท
เก็บคองอเข่าแอโร่เตมที่ลืมเก็บฟันซะงั้น 555
กิโลที่ 100 มั้ง จำไม่ได้ ภาพเบลอแต่ไม่เท่าสมองตอนนั้น 555
จะมีชอตเท่ๆดันก้มหัวซะงั้น บ้าจริง
เลือกเสื้อมาถูกตัวกลมกลืนไปกับดอกไม้เลย
ซัดเนินนนๆๆๆๆ
ลงมาวิ่งแบบหน้ามืดๆ
เจอกล้องต้องเก็ก แม้ในใจอยากจะด่าไอ แม่ jet กรูมาทำอารายที่นี่
เหนื่อยจนน้ำแตก
โชวพุงสักนิสส 555
วิ่งมันพร้อมแผ่น อีเคจีนี่แหละ 5555
เข้าแล้วจ้าาาาาาาาาาาาา
ครั้งแรกในชีวิตของคนเคยอ้วนกับ ระยะ IRONMAN ว่าย 3800 ปั่น 180 วิ่ง 42.195 รีวิวงาน ไตรนาวี เชียงแสน2019
สิ่งนี้ยังเป็นความจริงเสมอ ถ้าใครได้ตามกระทู้ผม จะทราบว่า ผมมาจากคนอ้วน อ้วนเละเทะเลย
ตามภาพ 555
และผมก็ใช้เวลาพอสมควรในการลดน้ำหนัก จนสำเร็จ และเป้าหมายต่อไปคือ เมื่อเราทำร่างกายเราให้ลดได้เราจะทำให้มันแข็งเรงได้ยังงัย
ผมเลยตัดสินใจ เลือก การ ใช้ชีวิต เป็น ชีวิตที่เป็นโลกคู่ขนาน ระหว่างการทำงานและการเล่นกีฬา
ผมเลือกไตรกีฬาเป็นการกีฬาที่ผมจะทำมันไปทั้งชีวิต
ผมเริ่มจากระยะ สั้นๆ ที่ว่ายแค่ 750 ปั่น 20 วิ่ง 5 มาจนถึงระยะที่น่าจะไกลที่สุดในโลก แบบ official คือยังมีบางรายการที่โหดกว่าแต่ ระยะที่เป็นมาตรฐานของโลก คือ ระยะ full Ironman คือ ว่ายน้ำ 3800 เมตร ปั่นจักรยาน 180 กิโลเมตร และวิ่ง 42 กิโลเมตร
ผมเลือก สนามไตรนาวีเชียงแสน เพราะ ใกล้บ้าน (ผมอยู่เชียงใหม่)
งานนี้จัดที่ เชียงแสนจังหวัดเชียงราย โดยความท้าทายคือ เราต้องว่ายข้ามแม่น้ำโขงจากฝั่งลาว มา ไทย ซึ่ง น้ำนั้นมีอุณหภูมิต่ำมาก คือ 18 องศาเท่านั้น และ น้ำโขงลึกมากๆ แต่ดีตรงที่แรงมากๆ จนเราแทบไม่ต้องออกแรงว่ายเเต่กระแสน้ำจะพาเราไปเอง แต่ยากตรง เราต้อง หา direction ดีดี เพื่อจะไม่ว่ายหลุดไปเพราะถ้าหลุดไปนี่ยาวไปไกลถึงเชียงของได้เลย 5555 (แต่ทีมงานมี security ) พร้อมเสมอ ในการเก็บเรา และงานนี้ให้ใช้ทุ่นลอยตัวได้ด้วยครับ
ว่ายน้ำ 3800 เมตร
ผมตัดสินใจจะเล็งทางโดยจำสองข้างทางได้ว่ามีจุดใดที่สำคัญโดยฝั่งทางขวาเราผมพยายามจะเล็งไว้ไม่ให้หลุดเลย ผมโดดลงไปนาทีแรกคือ
เห้ยยย ไม่ได้เย็นมากนี่หว่า แต่น้ำแรงมากจริงๆ พลิกฟรีสไตล์น้ำเข้าปากตลอดจนสำลักน้ำ ต้องใส่กบ ยาวๆ พยายาทไม่ให้หลุด รีบออกเเรงว่ายเข้าฝั่งให้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ พอเข้าได้ทีนี้ตัดสินใจหวดยาวๆ ฟรีไม่สนทางละขอความไวเพราะคิดว่าน้ำไม่น่าพัดเราออกได้แล้วที่ไหนได้ โผล่มองทางอีกทีออกซ้ายมาเยอะมาก ต้องออกแรงว่ายกลับไปอีกรอบ พอจะเข้าเห็นฝั่งแล้ว ดันโดนปลาตีนที่มาจากข้างหลังใส่ 1 ดอก หลุดต่อไปอีกต้องขืนใจว่ายทวนอีกครั้งแต่รอบนี้เหมือนมันจะอยู่กับที่มากๆ แต่ก็ขึ้นจากฝั่งมาได้ 555 ใช้เวลาไป 23 นาที ( สถิติโลกยังอาย 555 )
ปั่น 180 กิโลเมตร
ทางจักรยานสนามนี้ไม่ได้ยากมาก คือ ชันรวม 1170 เอง โดยจะมีเนินชันสุดคือ เนินหลังหอฝิ่น แต่เราเจอ ทันทีหลังจาก 6 km แรก เราเลยยังสด ผม วางแผนในการปั่นครั้งนี้ว่าจะพยายามให้ ได้เอวี 33-35 ตลอดเส้นทางง แต่บางช่วงผมก็แอบเกินไป ทางเข้าหมู่บ้านเปนถนนลูกรังทำเวลาไม่ดีเลย และข้อเสียของงานนี้คือ การเปลี่ยนจุด ดรอปแบ็ค ทำให้ผมหาไม่เจอ และไม่ได้ทานตลอด การปั่นเลย ซึ่งนำมาซึ่งการพังในตอนวิ่ง ทางช่วง 100-180 เปนทางตัดใหม่ ที่ลมมาจากทุกสารทิศ ทำให้เปลืองแรงมากและเป็นเนิน ซึมๆ ตลอดเส้นทาง ผม พลาดมากๆ ที่ดันทุกเนิน และ ปั่นส่งขาลงแบบเตมสตรีม โดยตอนนั้นขาขวาเริ่มส่งสัญญาณละเพราะตะคริวมาตอดๆ แต่ก็เปลี่ยนท่าปั่นก็สบายขึ้น แต่ๆๆๆๆ พอเริ่มมเที่ยงอากาศเปลี่ยนจากเยนมาร้อนแบบทันทีช่วงท้ายๆ คือพังมากๆๅผม ประคอง 30-31 มาช่วงสิบโลท้ายแบบว่าน้ำลายเหนี่ยวเลย ใช้เวลาไป 5 ชั่วโมง 24 นาที เอวี 34
วิ่ง 42 โล
หรือเรียกง่ายๆว่า หนึ่งฟูลมาราธอน ผมตั้งใจจะวิ่งเพส 6.30 ไปตลอดเส้นแต่อากาศที่ร้อนมากกก และ ร้อนหนักไปเรื่อยๆ เพราะลงมาวิ่งตอน 13.00 ทางเปนห้าโลครึ่ง แปดรอบ วนไปมา ไม่มีร่วมไม้ใดๆทั้งสิ้น แต่ดีตรงจุดให้น้ำที่เยอะพอสมควร ผมเริ่มวิ่งห้าโลแรกได้โอเค เพสประมาณ 6.50 แต่พอ 7-9 ผมเกิดตระคริวขึ้นมาตอดๆ รู้เลยว่าแย่แล้ว รองเท้าวันนี้เลือกผิดจริงๆ มันอมน้ำอมเหงื่อมากๆ ผมเริ่มรู้สึกเท้าเป็นแก้วแน่ๆ และตะคริวที่มาเกาะน่องแต่ต้องวิ่งไม่งั้นจะยิ่งมา วิ่งไปวิ่งมา วูบ ใช่ครับ ผมวูบเฉยเลยยยยย ดีที่ใกล้เจนทพยาบาล พยาบาลเหนอาการไม่ดี เลยให้นอนพักก่อน ปรากฎมีหมอนักวิ่งมาพอดี ขอบคุณมากๆๆครับ แกฟังเสียงหัวใจแล้วบอกว่าไปตรวจ เอเคจี ผมตัดสินใจไปตรวจขึ้นรถพยาาบาลไปในใจคิดว่าเอาแล้วว โดนแน่ๆ ไม่จบแน่ๆ ภาวนาขอให้หมอเค้าอนุญาตให้กลับมาเพราะเหลืออีกแค่ 21 โลเองก็จะจบแล้วว ไปถึงหมอเอามี่ตรวจมาตรวจจนผมตกใจนี่ผมจะโดนผ่าตัดหรือเปล่า แต่หมอก็ตรวจและเชคว่า ปกติ วิ่งได้ต่อ ผมขอเขาพาไปส่งตรงจุดเดิมที่ขึ้นและวิ่งต่ออีก แต่วิ่งไปได้แค่ 4 Km ปรากฎว่า ขาตระคริวมาครับวิ่งไม่ได้อีกต่อไป ผมจำเป็นต้องเดินจนจบแน่นอน และ การเดินยิ่งเหนื่อยกว่าอีกครับ 555 ฝืนใจ เดินจนน่าจะเหลือ แค่อีก 4 คนใน race ทั้งหมด ผมเดินไปก็ทบทวนตัวเองไป และคิดได้ว่าถ้าจะมาระยะนี้อีกคงต้องซ้อมหนักกว่านี้เยอะเลยย เดินไปร้องเพลงไป จนโลสุดท้ายตัดสินใจอัดหมดแม็ก เพส 6 ฮาๆๆๆๆ ก่อนเข้าเส้นชัยด้วยเวลา ฟูลมาราธอน 8.30 หักเวลาไป รพ 50 นาทีได้ไหม 55555
สิริรวม 14 ชั่วโมง 22 นาที 54 วินาที พร้อมร่างกายที่ยับมากๆๆ 55555
สรุป กลับไปซ้อมมาดีดีครับสำหรับคนที่จะเล่นระยะนี้ ผมบอกเลย ใครๆก็ทำได้แค่ต้องซ้อม เท่านั้น ผม อาศัยบุญเก่าล้วนๆ ครับงานนี้
สภาพขึ้นจากน้ำ ยังเริงร่าได้อยู่แต่หลังจากนี้สามสิบวินาที ตะคริวตอดเฉยยยย 5555
เส้นปั่นขึ้นเนิน ขอ แอคเท่ๆกับกล้องสักชอทททท
เก็บคองอเข่าแอโร่เตมที่ลืมเก็บฟันซะงั้น 555
กิโลที่ 100 มั้ง จำไม่ได้ ภาพเบลอแต่ไม่เท่าสมองตอนนั้น 555
จะมีชอตเท่ๆดันก้มหัวซะงั้น บ้าจริง
เลือกเสื้อมาถูกตัวกลมกลืนไปกับดอกไม้เลย
ซัดเนินนนๆๆๆๆ
ลงมาวิ่งแบบหน้ามืดๆ
เจอกล้องต้องเก็ก แม้ในใจอยากจะด่าไอ แม่ jet กรูมาทำอารายที่นี่
เหนื่อยจนน้ำแตก
โชวพุงสักนิสส 555
วิ่งมันพร้อมแผ่น อีเคจีนี่แหละ 5555
เข้าแล้วจ้าาาาาาาาาาาาา