สวัสดีค่ะ วันนี้เราว่างๆ เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ที่ได้ลงแข่งไตรกีฬาที่เพิ่งผ่านมา เผื่อใครสนใจจะเล่นกีฬาประเภทนี้จะได้มาแลกเปลี่ยนกันค่ะ
ก่อนอื่นเกริ่นนิดนึงว่าเรามาจากสายวิ่ง เลยยังใหม่มากๆกับไตรกีฬานะคะ ถ้าใครมีคำแนะนำตรงไหนรบกวนชี้แนะได้เลยค่ะ
งานไตรกีฬาที่ Roboman ถือเป็นระยะ sprint ครั้งแรก คือ ว่ายน้ำ 750m ปั่น 20km และวิ่ง 5km (นี่คือระยะ sprint จริงๆ ต่างกับงานไตรพัทยาที่เราลงเดือนก่อนที่เป็น super sprint คือว่ายน้ำ 750m ปั่น 25km วิ่ง 8km)
งานนี้ตื่นเต้นน้อยลงกว่าไตรพัทยาเยอะมาก เพราะซื้อเทรนเนอร์มาซ้อม คิดว่าปั่นคงจะดีขึ้น (ซึ่งมันช่วยให้ปั่นดีขึ้นได้จริงๆ ขนาดปั่นแต่เทรนเนอร์ไม่ได้ลงถนนเลย) แต่งานนี้เป็นงานที่ว่ายน้ำแบบ open water จริงๆ ไม่มีลู่ว่ายแบบไตรลีก จะเป็นทุ่นไข่ปลา ซึ่งเราว่าไม่เหมาะสำหรับมือใหม่เท่าไร เพราะถ้า panic กับคลื่นปุ๊บจะไม่มีที่ให้เกาะเพื่อพักทำใจเลย ถ้าใครไม่เคยว่ายในทะเลเราแนะนำให้ลงงานไตรลีกนะคะ เพราะความปลอดภัยจะดูเซฟกว่านี้
เช้าวันแข่งเห็นคลื่นแล้วก็ตกใจ เพราะคลื่นดูแรงมาก น้ำก็ขุ่น และเป็นการปล่อยตัวพร้อมกันหมดสำหรับระยะ sprint จะมีหมวกแยกสีว่า ช ญ แต่ไม่มีการแบ่งเวฟแบบไตรลีก (ไตรลีกจะแยกสีและเวฟชัดเจนว่ากลุ่มว่ายเร็ว ช้า และมือใหม่) และเป็นการปล่อยตัวบนน้ำ คือได้ยินสัญญาณปุ๊บ ทุกคนก็วิ่งลงน้ำแล้วเริ่มว่าย ด้วยความที่ทุ่นมีน้อย คลื่นสูง ทำให้การว่ายยากพอสมควร ต้องกะจังหวะคลื่นดีมากๆ ว่าตอนนี้คลื่นผ่านตัวเราไปรึยัง เพราะตอนแรกไม่มีสติ เงยหน้ามาหายใจได้น้ำทะเลเข้าปากแทน พอกินน้ำไปหนึ่งอึกสติเริ่มมา แต่มองทางลำบากมากเลยว่ายเบี้ยวออกนอกเส้นทางไปพอสมควร เสียเวลากันไป ตอนขากลับเข้าฝั่งเป็นช่วงที่คลื่นส่ง ได้ยินว่ามีคนว่ายผีเสื้อเข้ามา ซึ่งน่าจะทำให้ตัวกลืนไปกับคลื่นและเร็วขึ้นแต่เราทำไม่ได้ก็ว่ายฟรีธรรมดาๆต่อไป ฮ่าาา
พอวิ่งขึ้นจากทะเลปุ๊บก็ผ่านสปริงเกิลที่คิดว่ามันจะต้องช่วยล้างตัวเราได้แน่ๆเลย ดูน้ำแรงกว่าไตรลีก แต่เปล่าเลย วิ่งผ่านแบบเอาน้ำลูบหน้ายังไม่ได้ ก็ต้องไปโฉบเอาน้ำดื่มมาล้างหน้าแล้วรีบไปที่จุดทรานซิชั่น ครั้งนี้เราเลือกที่จะไม่เช็ดตัว ไม่เช็ดเท้า กะเซฟเวลาทรานซิชั่น ไปถึงปุ๊บใส่ถุงเท้า รองเท้า ใส่หมวกกันน๊อค ใส่แว่น ใส่ race belt พร้อมบิบ (ตอนปั่นต้องหมุนไปด้านหลัง) ดื่ม cocomax ไปครึ่งขวด น้ำเปล่าอีกสามอึก แล้วรีบจูงจักรยานออกไป
พอถึงจุดขึ้นปั่นเราก็รีบปั่นเต็มที่ เส้นทางปั่นง่ายกว่าพัทยาไตรเยอะมากเพราะเป็นทางตรงซะส่วนใหญ่ ถึงจะมีเนินซึมมาก แต่ก็ง่ายตรงไม่มีเนินสูงเท่าไร ยิ่งได้ซ้อมท่าปั่นจากเทรนเนอร์ ทำให้รู้ว่าก้มจับดรอปบาร์ กับงอศอกจับแฮนด์ มันช่วยให้ควงรอบขาได้ดีขึ้น ปั่นไปจนกลับตัวมาแล้ว สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิด เราเห็นเนินอยู่ข้างหน้าเลยเปลี่ยนเกียร์จากจานใหญ่มาเล็ก แล้วโซ่ก็หลุด สตั้นไปสิบวิ กะว่าแข่งต่อไม่ได้แน่นอนเพราะใส่โซ่ไม่เป็น (ไตรกีฬาห้ามคนอื่นช่วยเลยนะคะ ไม่ว่ายางจะแตก หรือจะยังไงก็ต้องซ่อมเอง ซ่อมไม่ได้ก็ต้องออกจากการแข่งขันไป) แต่เราโชคดีที่ลงไปงมๆใส่จนได้ แต่กลายเป็นไม่กล้าเปลี่ยนเกียร์จานหน้าอีกเลย ปล่อยมันอยู่จานใหญ่แบบนั้น ขึ้นเนินก็ปั่นจานใหญ่ไป ยอมปวดขา ดีกว่าโซ่หลุดอีกรอบ
พอถึงจุดที่ให้ลงจักรยาน เราก็รีบจูงจักรยานวิ่งๆไปทรานซิชั่น หมุนบิบมาด้านหน้า ถอดหมวกกันน๊อค เตรียมไว้ พอถึงทรานซิชั่นเราก็แขวนจักรยาน ถอดหมวก หยิบหมวกวิ่งมาใส่ แล้ววิ่งออกมาทันที (เวลาทรานซิชั่น 2 ตรงนี้เราใช้ไปแค่ 1 นาทีกว่าภูมิใจสุดๆ)
ช่วงวิ่งเป็นสิ่งที่ผิดหวังมากสำหรับเรา เพราะแดดที่ร้อนมากๆ บวกกับ hr ที่พุ่งสูงมาตั้งแต่ช่วงปั่นท้ายๆ ทำให้เราเร่งไม่ขึ้นเลย ออกตัวไปได้เพซ 5 กลางๆ แค่นั้นเลย แล้วก็เร่งไม่ขึ้นอีก ทั้งที่ตอนพัทยาไตรวิ่ง 8 โลแต่เรากดความเร็วมากกว่านี้สบายๆ แต่บรรยากาศข้างทางน่ารักมากๆ งานนี้มีกองเชียร์เยอะไม่น้อยกว่าจอมบึงเลย เพราะได้อานิสงค์จากการที่องค์ภาทรงเสด็จมาร่วมแข่งด้วย ทำให้มีคนรอรับเสด็จท่านเยอะมาก กลายเป็นกำลังใจสำคัญของนักกีฬาทุกคน ทำให้งานน่ารักขึ้นมาก มีนักเรียนคอยแปะมือเป็นทางยาววว ซะยิ่งกว่าจอมบึงอีก แต่ข้อเสียคือจุดให้น้ำมีแค่ 2 จุด คือมันน้อยไปสำหรับอากาศร้อนขนาดนั้น ยังดีที่มีฟองน้ำจุดนึงช่วยชีวิตเราไว้ชัดๆ เพราะตอนนั้นรู้สึกฮีทจนวิ่งไม่ออกแล้ว
สุดท้าย เราก็วิ่งประคองเพซ 5 กลางๆเข้าเส้นชัยด้วยเวลา 1:32 นาที ^_____^ ภูมิใจที่สุด ถึงจะเกินเป้าไป 2 นาที เราก็ดีใจมากๆ ที่จบการแข่งได้ทั้งที่โซ่หลุด การแข่งครั้งนี้ทำให้เรารู้ว่าควรจะเรียนรู้การใส่โซ่ การเปลี่ยนยาง เพราะมีคนที่ยางแตกแล้วไม่ได้ไปต่อ ถ้าเป็นเราคงเสียดายมากแน่ๆ ><
แชร์ประสบการณ์ลงแข่งไตรกีฬาระยะ sprint ที่งาน Roboman ค่ะ ^^
ก่อนอื่นเกริ่นนิดนึงว่าเรามาจากสายวิ่ง เลยยังใหม่มากๆกับไตรกีฬานะคะ ถ้าใครมีคำแนะนำตรงไหนรบกวนชี้แนะได้เลยค่ะ
งานไตรกีฬาที่ Roboman ถือเป็นระยะ sprint ครั้งแรก คือ ว่ายน้ำ 750m ปั่น 20km และวิ่ง 5km (นี่คือระยะ sprint จริงๆ ต่างกับงานไตรพัทยาที่เราลงเดือนก่อนที่เป็น super sprint คือว่ายน้ำ 750m ปั่น 25km วิ่ง 8km)
งานนี้ตื่นเต้นน้อยลงกว่าไตรพัทยาเยอะมาก เพราะซื้อเทรนเนอร์มาซ้อม คิดว่าปั่นคงจะดีขึ้น (ซึ่งมันช่วยให้ปั่นดีขึ้นได้จริงๆ ขนาดปั่นแต่เทรนเนอร์ไม่ได้ลงถนนเลย) แต่งานนี้เป็นงานที่ว่ายน้ำแบบ open water จริงๆ ไม่มีลู่ว่ายแบบไตรลีก จะเป็นทุ่นไข่ปลา ซึ่งเราว่าไม่เหมาะสำหรับมือใหม่เท่าไร เพราะถ้า panic กับคลื่นปุ๊บจะไม่มีที่ให้เกาะเพื่อพักทำใจเลย ถ้าใครไม่เคยว่ายในทะเลเราแนะนำให้ลงงานไตรลีกนะคะ เพราะความปลอดภัยจะดูเซฟกว่านี้
เช้าวันแข่งเห็นคลื่นแล้วก็ตกใจ เพราะคลื่นดูแรงมาก น้ำก็ขุ่น และเป็นการปล่อยตัวพร้อมกันหมดสำหรับระยะ sprint จะมีหมวกแยกสีว่า ช ญ แต่ไม่มีการแบ่งเวฟแบบไตรลีก (ไตรลีกจะแยกสีและเวฟชัดเจนว่ากลุ่มว่ายเร็ว ช้า และมือใหม่) และเป็นการปล่อยตัวบนน้ำ คือได้ยินสัญญาณปุ๊บ ทุกคนก็วิ่งลงน้ำแล้วเริ่มว่าย ด้วยความที่ทุ่นมีน้อย คลื่นสูง ทำให้การว่ายยากพอสมควร ต้องกะจังหวะคลื่นดีมากๆ ว่าตอนนี้คลื่นผ่านตัวเราไปรึยัง เพราะตอนแรกไม่มีสติ เงยหน้ามาหายใจได้น้ำทะเลเข้าปากแทน พอกินน้ำไปหนึ่งอึกสติเริ่มมา แต่มองทางลำบากมากเลยว่ายเบี้ยวออกนอกเส้นทางไปพอสมควร เสียเวลากันไป ตอนขากลับเข้าฝั่งเป็นช่วงที่คลื่นส่ง ได้ยินว่ามีคนว่ายผีเสื้อเข้ามา ซึ่งน่าจะทำให้ตัวกลืนไปกับคลื่นและเร็วขึ้นแต่เราทำไม่ได้ก็ว่ายฟรีธรรมดาๆต่อไป ฮ่าาา
พอวิ่งขึ้นจากทะเลปุ๊บก็ผ่านสปริงเกิลที่คิดว่ามันจะต้องช่วยล้างตัวเราได้แน่ๆเลย ดูน้ำแรงกว่าไตรลีก แต่เปล่าเลย วิ่งผ่านแบบเอาน้ำลูบหน้ายังไม่ได้ ก็ต้องไปโฉบเอาน้ำดื่มมาล้างหน้าแล้วรีบไปที่จุดทรานซิชั่น ครั้งนี้เราเลือกที่จะไม่เช็ดตัว ไม่เช็ดเท้า กะเซฟเวลาทรานซิชั่น ไปถึงปุ๊บใส่ถุงเท้า รองเท้า ใส่หมวกกันน๊อค ใส่แว่น ใส่ race belt พร้อมบิบ (ตอนปั่นต้องหมุนไปด้านหลัง) ดื่ม cocomax ไปครึ่งขวด น้ำเปล่าอีกสามอึก แล้วรีบจูงจักรยานออกไป
พอถึงจุดขึ้นปั่นเราก็รีบปั่นเต็มที่ เส้นทางปั่นง่ายกว่าพัทยาไตรเยอะมากเพราะเป็นทางตรงซะส่วนใหญ่ ถึงจะมีเนินซึมมาก แต่ก็ง่ายตรงไม่มีเนินสูงเท่าไร ยิ่งได้ซ้อมท่าปั่นจากเทรนเนอร์ ทำให้รู้ว่าก้มจับดรอปบาร์ กับงอศอกจับแฮนด์ มันช่วยให้ควงรอบขาได้ดีขึ้น ปั่นไปจนกลับตัวมาแล้ว สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิด เราเห็นเนินอยู่ข้างหน้าเลยเปลี่ยนเกียร์จากจานใหญ่มาเล็ก แล้วโซ่ก็หลุด สตั้นไปสิบวิ กะว่าแข่งต่อไม่ได้แน่นอนเพราะใส่โซ่ไม่เป็น (ไตรกีฬาห้ามคนอื่นช่วยเลยนะคะ ไม่ว่ายางจะแตก หรือจะยังไงก็ต้องซ่อมเอง ซ่อมไม่ได้ก็ต้องออกจากการแข่งขันไป) แต่เราโชคดีที่ลงไปงมๆใส่จนได้ แต่กลายเป็นไม่กล้าเปลี่ยนเกียร์จานหน้าอีกเลย ปล่อยมันอยู่จานใหญ่แบบนั้น ขึ้นเนินก็ปั่นจานใหญ่ไป ยอมปวดขา ดีกว่าโซ่หลุดอีกรอบ
พอถึงจุดที่ให้ลงจักรยาน เราก็รีบจูงจักรยานวิ่งๆไปทรานซิชั่น หมุนบิบมาด้านหน้า ถอดหมวกกันน๊อค เตรียมไว้ พอถึงทรานซิชั่นเราก็แขวนจักรยาน ถอดหมวก หยิบหมวกวิ่งมาใส่ แล้ววิ่งออกมาทันที (เวลาทรานซิชั่น 2 ตรงนี้เราใช้ไปแค่ 1 นาทีกว่าภูมิใจสุดๆ)
ช่วงวิ่งเป็นสิ่งที่ผิดหวังมากสำหรับเรา เพราะแดดที่ร้อนมากๆ บวกกับ hr ที่พุ่งสูงมาตั้งแต่ช่วงปั่นท้ายๆ ทำให้เราเร่งไม่ขึ้นเลย ออกตัวไปได้เพซ 5 กลางๆ แค่นั้นเลย แล้วก็เร่งไม่ขึ้นอีก ทั้งที่ตอนพัทยาไตรวิ่ง 8 โลแต่เรากดความเร็วมากกว่านี้สบายๆ แต่บรรยากาศข้างทางน่ารักมากๆ งานนี้มีกองเชียร์เยอะไม่น้อยกว่าจอมบึงเลย เพราะได้อานิสงค์จากการที่องค์ภาทรงเสด็จมาร่วมแข่งด้วย ทำให้มีคนรอรับเสด็จท่านเยอะมาก กลายเป็นกำลังใจสำคัญของนักกีฬาทุกคน ทำให้งานน่ารักขึ้นมาก มีนักเรียนคอยแปะมือเป็นทางยาววว ซะยิ่งกว่าจอมบึงอีก แต่ข้อเสียคือจุดให้น้ำมีแค่ 2 จุด คือมันน้อยไปสำหรับอากาศร้อนขนาดนั้น ยังดีที่มีฟองน้ำจุดนึงช่วยชีวิตเราไว้ชัดๆ เพราะตอนนั้นรู้สึกฮีทจนวิ่งไม่ออกแล้ว
สุดท้าย เราก็วิ่งประคองเพซ 5 กลางๆเข้าเส้นชัยด้วยเวลา 1:32 นาที ^_____^ ภูมิใจที่สุด ถึงจะเกินเป้าไป 2 นาที เราก็ดีใจมากๆ ที่จบการแข่งได้ทั้งที่โซ่หลุด การแข่งครั้งนี้ทำให้เรารู้ว่าควรจะเรียนรู้การใส่โซ่ การเปลี่ยนยาง เพราะมีคนที่ยางแตกแล้วไม่ได้ไปต่อ ถ้าเป็นเราคงเสียดายมากแน่ๆ ><