วิถีไอรอนหรือวิถีคนบ้า
แฟนเราเป็นนักกีฬาวิ่งมาแต่เด็ก เมื่อก่อนก็เป็นแค่นักวิ่งระยะสั้น จาก100-800ม.จนวิ่งระยะยาวในลู่ 1500-3000ม.
แต่คำว่านักกีฬาที่ต้องการมีพัฒนาการจึงผันตัวเองมาวิ่งในระยะมินิมาราธอน ฮาล์ฟมาราธอน จนถึงมาราธอนเต็ม จนกระทั่งล่าสุดได้ลงไตรกีฬาระยะไอรอนแมน ที่ต้องว่ายน้ำ 3.8 ไมล์ ปั่น 180 กม.และวิ่งอีก 42 กม. ซึ่งเป็นระยะที่เกินขีดความสามารถของมนุษย์ธรรมดาๆแน่นอน หากร่างกายไม่พร้อมและใจไม่สู้พอ แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงสิ่งที่แฟนเราฝึกซ้อมและการมีวินัยทั้งด้านการฟิตซ้อมร่างกายและอาหารการกิน
แฟนเรารับราชการเป็นทหารเรือ ซึ่งคำว่าทหาร ทุกคนอาจคิดว่าแข็งแรงอยู่แล้ว แต่ไม่ทุกคนนะจ๊ะ ถ้าคุณไม่ฟิตร่างกายไม่มีวินัยจริงๆก็คือคนธรรมดาๆนี่แหละคะ มาถึงตรงนี้เราขอเข้าเรื่องเลยละกัน เราจะแบ่งเป็น 2 หัวข้อเกี่ยวกับการมีวินัยตามนี้นะคะ
1.วินัย---การฝึกซ้อม
ปกติแฟนเราจะเน้นวิ่ง ไม่ว่าจะวิ่งในระยะไกล 5, 10, 21, 42 วิ่งได้หมดไม่เคยบ่น แต่พอมาเล่นไตรกีฬา เลยต้องซ้อมเพิ่มอีก 2 อย่าง คือว่ายน้ำและปั่นจักรยาน เค้าก็จะมีตารางฝึกซ้อมเป็นของตัวเอง ที่เราคิดว่าถ้าคนอื่นมาซ้อมแบบเค้าได้คงจะไม่รอด หากไม่ใช่นักกีฬาที่แข่งแกร่งจริงๆ
การซ้อมว่ายน้ำก็จะซ้อมทั้งในสระและทะเล ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละวัน ระยะประมาณ 1500++ ต่อวัน
การซ้อมปั่นก็จะมีซ้อมปั่นข้ามอำเภอ จนถึงข้ามจังหวัดกันเลย ระยะทางการปั่นอยู่ที่ 100++ ต่อวัน
เห็นการซ้อมกีฬาที่หนักหน่วงขนาดนี้คงไม่ต้องบอกว่ามันจะเหนื่อยและต้องใช้พลังงานมากขนาดไหนนะเนี่ย ไอ่เราเห็นก็เหนื่อยแทนแล้ว555+
2.วินัย---ด้านอาหาร
เรากับแฟนชอบกินผักทั้งคู่ เวลาที่เราไปจ่ายตลาดเพื่อทำกับข้าว อย่างแรกที่ซื้อเลยก็คือผัก ไม่ว่าจะเป็นผักอะไรกินได้หมด นี่คือส่วนของไฟเบอร์นะ โปรตีนเราก็จะเอาจากปลาซะมากกว่าเนื้อชนิดอื่นๆ เราสองคนไม่กินเนื้อหมูและเนื้อวัวคะ กินไก่บ้างและอาหารทะเลซะส่วนใหญ่ นี่พูดถึงแค่อาหารหลักก่อนนะ เรายังมีอาหารเสริม ที่เป็นทั้งเสริมร่างกายโดยเฉพาะ นั่นคือพวกวิตามินอาหารเสริมหรือเวย์โปรตีนอีกนะ หลายคนคงสงสัยแล้วกินแบบนี้กี่มื้อต่อวัน เราก็กินกัน 3 มื้อเหมือนคนทั่วๆไปคะ แต่บางวันอาจมีมื้อที่ 4 ขึ้นอยู่กับการซ้อมกีฬาในวันนั้นว่าใช้พลังงานไปมากแค่ไหน อ่านมาถึงตรงนี้คงคิดว่าเราสองคนคือสายเฮลตี้รักสุขภาพขั้นเทพเลยใช่มั้ยละ แต่เราก็มีมุมของหนุ่มสาวที่ยังรักการปาร์ตี้กับเพื่อนฝูงบ้าง เราสองคนถือคติที่ว่า
ดื่มได้แต่ต้องออกกำลังกายอย่างหนักเพื่อเผาผลาญมันออกไป
เราเคยอ่านงานวิจัยว่า การดื่มเบียร์ไม่ได้ทำร้ายสุขภาพ หากจะเป็นผลดีต่อสุขภาพถ้าเรากินในปริมาณที่พอเหมาะต่อร่างกาย แต่คำว่าต่อร่างกายนี่สิ ร่างกายคนเรามีความไม่ต้องการแน่นอนอยู่แล้ว แฟนเราเป็นคนนึงที่ดื่มเก่ง ดื่มหนัก ดื่มแค่ไหน เช้ามาก็ทำงานได้ ออกกำลังกายได้ปกติ ซึ่งหายากมากในมนุษย์ทั่วไป แต่เราว่าแฟนเราอาจเป็นมนุษย์ที่มีดีเอ็นเอไม่เหมือนชาวบ้านแน่ๆ หรืออาจเป็นพวกไดเวอร์เจน พวกมนุษย์ที่มีความสามารถพิเศษแบบในหนังแน่ๆ เพราะแฟนเราไม่ใช่วิ่งออกกำลังกายทั่วๆไป ไป การวิ่งในที่นี้คือ วิ่งแข่งแล้วได้รับถ้วยกลับมาด้วยจ้า จะบอกว่าทุกวันนี้ไม่มีที่จะวางถ้วยอยู่แล้วว55+
มาพูดถึงการแข่งไตรกีฬาระยะไอรอนแมนที่แฟนเราเพิ่งแข่งมาล่าสุดดีกว่า สนามนี้เป็นสนามแรกในชีวิตของเขาสำหรับระยะนี้ ถือว่าทำได้ดี เพราะเมื่อเทียบกับระยะเวลาการฝึกซ้อมและเตรียมตัวที่น้อยมาก แต่ก็สามารถเข้าเส้นชัยได้อย่างปลอดภัย ถึงแม้จะเกิดอุปสรรคเพราะตะคริว แต่เขาก็สามารถเอาชนะร่างกายตัวเองด้วยใจล้วนๆ โดยการวิ่งสลับเดินมาจนถึงเส้นชัยจนได้ เป็นการแข่งกีฬาที่ถือว่าโหดที่สุดเมื่อเทียบกับขีดความสามารถของมนุษย์ทั่วไปบวกกับอากาศร้อนสุดของเมืองไทยในอุณหภูมิ 32++ ถ้าใจไม่รักหรือความบ้าไม่มากพอคงทำไม่ได้
ไอรอนแมน หรือ ไอรอนมึนนน
แฟนเราเป็นนักกีฬาวิ่งมาแต่เด็ก เมื่อก่อนก็เป็นแค่นักวิ่งระยะสั้น จาก100-800ม.จนวิ่งระยะยาวในลู่ 1500-3000ม.
แต่คำว่านักกีฬาที่ต้องการมีพัฒนาการจึงผันตัวเองมาวิ่งในระยะมินิมาราธอน ฮาล์ฟมาราธอน จนถึงมาราธอนเต็ม จนกระทั่งล่าสุดได้ลงไตรกีฬาระยะไอรอนแมน ที่ต้องว่ายน้ำ 3.8 ไมล์ ปั่น 180 กม.และวิ่งอีก 42 กม. ซึ่งเป็นระยะที่เกินขีดความสามารถของมนุษย์ธรรมดาๆแน่นอน หากร่างกายไม่พร้อมและใจไม่สู้พอ แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงสิ่งที่แฟนเราฝึกซ้อมและการมีวินัยทั้งด้านการฟิตซ้อมร่างกายและอาหารการกิน
แฟนเรารับราชการเป็นทหารเรือ ซึ่งคำว่าทหาร ทุกคนอาจคิดว่าแข็งแรงอยู่แล้ว แต่ไม่ทุกคนนะจ๊ะ ถ้าคุณไม่ฟิตร่างกายไม่มีวินัยจริงๆก็คือคนธรรมดาๆนี่แหละคะ มาถึงตรงนี้เราขอเข้าเรื่องเลยละกัน เราจะแบ่งเป็น 2 หัวข้อเกี่ยวกับการมีวินัยตามนี้นะคะ
1.วินัย---การฝึกซ้อม
ปกติแฟนเราจะเน้นวิ่ง ไม่ว่าจะวิ่งในระยะไกล 5, 10, 21, 42 วิ่งได้หมดไม่เคยบ่น แต่พอมาเล่นไตรกีฬา เลยต้องซ้อมเพิ่มอีก 2 อย่าง คือว่ายน้ำและปั่นจักรยาน เค้าก็จะมีตารางฝึกซ้อมเป็นของตัวเอง ที่เราคิดว่าถ้าคนอื่นมาซ้อมแบบเค้าได้คงจะไม่รอด หากไม่ใช่นักกีฬาที่แข่งแกร่งจริงๆ
การซ้อมว่ายน้ำก็จะซ้อมทั้งในสระและทะเล ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละวัน ระยะประมาณ 1500++ ต่อวัน
การซ้อมปั่นก็จะมีซ้อมปั่นข้ามอำเภอ จนถึงข้ามจังหวัดกันเลย ระยะทางการปั่นอยู่ที่ 100++ ต่อวัน
เห็นการซ้อมกีฬาที่หนักหน่วงขนาดนี้คงไม่ต้องบอกว่ามันจะเหนื่อยและต้องใช้พลังงานมากขนาดไหนนะเนี่ย ไอ่เราเห็นก็เหนื่อยแทนแล้ว555+
2.วินัย---ด้านอาหาร
เรากับแฟนชอบกินผักทั้งคู่ เวลาที่เราไปจ่ายตลาดเพื่อทำกับข้าว อย่างแรกที่ซื้อเลยก็คือผัก ไม่ว่าจะเป็นผักอะไรกินได้หมด นี่คือส่วนของไฟเบอร์นะ โปรตีนเราก็จะเอาจากปลาซะมากกว่าเนื้อชนิดอื่นๆ เราสองคนไม่กินเนื้อหมูและเนื้อวัวคะ กินไก่บ้างและอาหารทะเลซะส่วนใหญ่ นี่พูดถึงแค่อาหารหลักก่อนนะ เรายังมีอาหารเสริม ที่เป็นทั้งเสริมร่างกายโดยเฉพาะ นั่นคือพวกวิตามินอาหารเสริมหรือเวย์โปรตีนอีกนะ หลายคนคงสงสัยแล้วกินแบบนี้กี่มื้อต่อวัน เราก็กินกัน 3 มื้อเหมือนคนทั่วๆไปคะ แต่บางวันอาจมีมื้อที่ 4 ขึ้นอยู่กับการซ้อมกีฬาในวันนั้นว่าใช้พลังงานไปมากแค่ไหน อ่านมาถึงตรงนี้คงคิดว่าเราสองคนคือสายเฮลตี้รักสุขภาพขั้นเทพเลยใช่มั้ยละ แต่เราก็มีมุมของหนุ่มสาวที่ยังรักการปาร์ตี้กับเพื่อนฝูงบ้าง เราสองคนถือคติที่ว่า ดื่มได้แต่ต้องออกกำลังกายอย่างหนักเพื่อเผาผลาญมันออกไป
เราเคยอ่านงานวิจัยว่า การดื่มเบียร์ไม่ได้ทำร้ายสุขภาพ หากจะเป็นผลดีต่อสุขภาพถ้าเรากินในปริมาณที่พอเหมาะต่อร่างกาย แต่คำว่าต่อร่างกายนี่สิ ร่างกายคนเรามีความไม่ต้องการแน่นอนอยู่แล้ว แฟนเราเป็นคนนึงที่ดื่มเก่ง ดื่มหนัก ดื่มแค่ไหน เช้ามาก็ทำงานได้ ออกกำลังกายได้ปกติ ซึ่งหายากมากในมนุษย์ทั่วไป แต่เราว่าแฟนเราอาจเป็นมนุษย์ที่มีดีเอ็นเอไม่เหมือนชาวบ้านแน่ๆ หรืออาจเป็นพวกไดเวอร์เจน พวกมนุษย์ที่มีความสามารถพิเศษแบบในหนังแน่ๆ เพราะแฟนเราไม่ใช่วิ่งออกกำลังกายทั่วๆไป ไป การวิ่งในที่นี้คือ วิ่งแข่งแล้วได้รับถ้วยกลับมาด้วยจ้า จะบอกว่าทุกวันนี้ไม่มีที่จะวางถ้วยอยู่แล้วว55+
มาพูดถึงการแข่งไตรกีฬาระยะไอรอนแมนที่แฟนเราเพิ่งแข่งมาล่าสุดดีกว่า สนามนี้เป็นสนามแรกในชีวิตของเขาสำหรับระยะนี้ ถือว่าทำได้ดี เพราะเมื่อเทียบกับระยะเวลาการฝึกซ้อมและเตรียมตัวที่น้อยมาก แต่ก็สามารถเข้าเส้นชัยได้อย่างปลอดภัย ถึงแม้จะเกิดอุปสรรคเพราะตะคริว แต่เขาก็สามารถเอาชนะร่างกายตัวเองด้วยใจล้วนๆ โดยการวิ่งสลับเดินมาจนถึงเส้นชัยจนได้ เป็นการแข่งกีฬาที่ถือว่าโหดที่สุดเมื่อเทียบกับขีดความสามารถของมนุษย์ทั่วไปบวกกับอากาศร้อนสุดของเมืองไทยในอุณหภูมิ 32++ ถ้าใจไม่รักหรือความบ้าไม่มากพอคงทำไม่ได้