#เสียเวลาอ่านสักนิดนะคะจะได้ไม่เจอแบบเรา
เมื่อประมาณวันที่ 11/1/2562 ดิฉันพึ่งเดินทางกลับมาจากญี่ปุ่นมาถึง #ท่าอากาศยานดอนเมือง (อาคาร1) เกิดอาการหิวมากจึงหาร้านนั่งเพื่อรับประทานอาหาร จึงตัดสินใจเข้าไปนั่งทานที่ร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังร้านนึงภายในสนามบิน มีสายพาน พอเข้าไปนั่งทานดิฉันถามพนักงานว่ามีน้ำจิ้มซีฟู้ดมั้ย พนักงานตอบทันทีว่าไม่มีโดยไม่มีการสอบถามทางครัวก่อน ดิฉันจึงเดินไปร้านสะดวกซื้อภายในตึก เดินไปกัน2คนและอีก2คนนั่งสั่งอาหารอยู่ที่ร้าน ซึ่งได้มีการสั่งสเต็กหมู 2 ที่และสเต็กเนื้อ 2 ที่ พอดิฉันหาซื้อของเสร็จก็เข้ามาในร้านนั่งทานซูชิที่สายพานเพื่อรองท้องรอสเต็กมาเสริฟ เมื่อพนักงานนำสเต็กมาเสริฟดิฉันถามพนักงานเสริฟว่าหมูหรือเนื้อ พนักงานตอบว่าสเต็กหมู ดิฉันถามย้ำไปสามครั้งก็ได้รับคำตอบเช่นเดิมคือสเต็กหมู ดิฉันก็เลยทานเข้าไป พอทานคำแรกก็รู้สึกแปลกๆทำไมมันเหนียวๆ แต่ไม่ทันคิดอะไรเพราะถามย้ำพนักงานเสริฟหลายรอบแล้ว พอทานชิ้นแรกยังไม่ทันจะกลืนก็เกิดอาการเหงื่อออกท่วมตัว ใจหวิวจะเป็นและหายใจติดขัดซึ่งตอนเกิดอาการพนักงานเสริฟก็นำสเต็กมาเสริฟอีก2ที่ แค่สีสเต็กสีอ่อนกว่าที่ดิฉันทาน จึงได้สอบถามย้ำอีกครั้งว่าครั้งแรกที่เสริฟคือหมูหรือเนื้อ คราวนี้พนักงานเสริฟเริ่มสงสัยจึงหันไปสอบถามในครัว และได้คำตอบว่าที่เสริฟ2ที่ครั้งแรกคือเนื้อครั้งที่2คือหมู ซึ่งคำตอบพนักงานเสริฟสลับกัน สรุปดิฉันทานเนื้อเข้าไปค่ะ เมื่อได้ทราบคำตอบทุกคนจึงไม่พอใจมากเนื่องจากดิฉันแพ้เนื้อมาก จึงได้มีการต่อว่าพนักงานในร้าน แทนที่พนักงานจะขอโทษกลับมีการโต้เถียงมาว่า “หมูหรือเนื้อลูกค้าทานเข้าไปไม่รู้หรือยังไง” กลุ่มดิฉันโกรธมากที่ไม่ขอโทษมิหนำซ้ำยังมีการโต้เถียงออกมาแบบนี้ แม้แต่ผู้จัดการร้านก็ไม่เอ่ยขอโทษสักคำพร้อมเรียกเก็บเงินจากกลุ่มดิฉัน ซึ่งทางกลุ่มดิฉันก็ได้ชำระไปเป็นที่เรียบร้อยและสอบถามทางร้านว่าห้องพยาบาลอยู่ตรงไหนพนักงานในร้านก็บอกอยู่ข้างล่างแต่ไม่มีการนำดิฉันลงมาเพื่อรับผิดชอบใดๆ กลุ่มดิฉันจึงเดินหาเองและสอบถามทางรปภ.ภายในอาคารว่าห้องรักษาพยายาลอยู่ตรงไหน เมื่อได้คำตอบทุกคนจึงพาดิฉันไปพบคุณหมอ เมื่อได้รับการตรวจรักษาคุณหมอรีบฉีดยาระงับอาการแพ้ฉับพลันทันทีให้ดิฉัน เพราะอาการแย่มาก และให้นอนพักเพื่อรอดูอาการจนห้องพยาบาลปิดทำการ พร้อมจ่ายยาเพื่อให้ดิฉันรับประทานอย่างต่อเนื่อง คุณหมอแจ้งอีกว่าถ้ากลับถึงบ้านแล้วอาการยังไม่ดีขึ้นให้รีบไปโรงพยาบาลทันที ดิฉันต้องทานยาและพักติดกันหลายวันและได้มีการติดต่อไปยังสำนักงานใหญ่ของทางบริษัทร้านอาหารชื่อดังแห่งนี้ เพื่อเรียกร้องค่าทำขวัญและค่าเสียหาย ก็ได้มีตัวแทนทางบริษัทติดต่อมาปฎิเสธการรับผิดชอบเพราะบริษัทประกันที่ทางบริษัทร้านอาหารแห่งนี้ทำไว้ไม่รับผิดชอบในส่วนนี้ ดึงเวลาดิฉันไปเดือนเศษ .. และตัวแทนบริษัทที่เป็นผู้หญิงก็มีการโต้เถียงกลับว่าเขาก็เคยแพ้อาหาร และปฎิเสธการรับผิดชอบในส่วนค่าทำขวัญและค่าใช้จ่ายต่างๆโดยสิ้นเชิง ดิฉันอยากทราบว่า หากเป็นคนในครอบครัวของคุณ พวกคุณจะทำกันแบบนี้หรือไม่...ร้านใหญ่ แต่ไร้ความรับผิดชอบ!!
นี่หรือร้านอาหารในสนามบินดอนเมือง
เมื่อประมาณวันที่ 11/1/2562 ดิฉันพึ่งเดินทางกลับมาจากญี่ปุ่นมาถึง #ท่าอากาศยานดอนเมือง (อาคาร1) เกิดอาการหิวมากจึงหาร้านนั่งเพื่อรับประทานอาหาร จึงตัดสินใจเข้าไปนั่งทานที่ร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังร้านนึงภายในสนามบิน มีสายพาน พอเข้าไปนั่งทานดิฉันถามพนักงานว่ามีน้ำจิ้มซีฟู้ดมั้ย พนักงานตอบทันทีว่าไม่มีโดยไม่มีการสอบถามทางครัวก่อน ดิฉันจึงเดินไปร้านสะดวกซื้อภายในตึก เดินไปกัน2คนและอีก2คนนั่งสั่งอาหารอยู่ที่ร้าน ซึ่งได้มีการสั่งสเต็กหมู 2 ที่และสเต็กเนื้อ 2 ที่ พอดิฉันหาซื้อของเสร็จก็เข้ามาในร้านนั่งทานซูชิที่สายพานเพื่อรองท้องรอสเต็กมาเสริฟ เมื่อพนักงานนำสเต็กมาเสริฟดิฉันถามพนักงานเสริฟว่าหมูหรือเนื้อ พนักงานตอบว่าสเต็กหมู ดิฉันถามย้ำไปสามครั้งก็ได้รับคำตอบเช่นเดิมคือสเต็กหมู ดิฉันก็เลยทานเข้าไป พอทานคำแรกก็รู้สึกแปลกๆทำไมมันเหนียวๆ แต่ไม่ทันคิดอะไรเพราะถามย้ำพนักงานเสริฟหลายรอบแล้ว พอทานชิ้นแรกยังไม่ทันจะกลืนก็เกิดอาการเหงื่อออกท่วมตัว ใจหวิวจะเป็นและหายใจติดขัดซึ่งตอนเกิดอาการพนักงานเสริฟก็นำสเต็กมาเสริฟอีก2ที่ แค่สีสเต็กสีอ่อนกว่าที่ดิฉันทาน จึงได้สอบถามย้ำอีกครั้งว่าครั้งแรกที่เสริฟคือหมูหรือเนื้อ คราวนี้พนักงานเสริฟเริ่มสงสัยจึงหันไปสอบถามในครัว และได้คำตอบว่าที่เสริฟ2ที่ครั้งแรกคือเนื้อครั้งที่2คือหมู ซึ่งคำตอบพนักงานเสริฟสลับกัน สรุปดิฉันทานเนื้อเข้าไปค่ะ เมื่อได้ทราบคำตอบทุกคนจึงไม่พอใจมากเนื่องจากดิฉันแพ้เนื้อมาก จึงได้มีการต่อว่าพนักงานในร้าน แทนที่พนักงานจะขอโทษกลับมีการโต้เถียงมาว่า “หมูหรือเนื้อลูกค้าทานเข้าไปไม่รู้หรือยังไง” กลุ่มดิฉันโกรธมากที่ไม่ขอโทษมิหนำซ้ำยังมีการโต้เถียงออกมาแบบนี้ แม้แต่ผู้จัดการร้านก็ไม่เอ่ยขอโทษสักคำพร้อมเรียกเก็บเงินจากกลุ่มดิฉัน ซึ่งทางกลุ่มดิฉันก็ได้ชำระไปเป็นที่เรียบร้อยและสอบถามทางร้านว่าห้องพยาบาลอยู่ตรงไหนพนักงานในร้านก็บอกอยู่ข้างล่างแต่ไม่มีการนำดิฉันลงมาเพื่อรับผิดชอบใดๆ กลุ่มดิฉันจึงเดินหาเองและสอบถามทางรปภ.ภายในอาคารว่าห้องรักษาพยายาลอยู่ตรงไหน เมื่อได้คำตอบทุกคนจึงพาดิฉันไปพบคุณหมอ เมื่อได้รับการตรวจรักษาคุณหมอรีบฉีดยาระงับอาการแพ้ฉับพลันทันทีให้ดิฉัน เพราะอาการแย่มาก และให้นอนพักเพื่อรอดูอาการจนห้องพยาบาลปิดทำการ พร้อมจ่ายยาเพื่อให้ดิฉันรับประทานอย่างต่อเนื่อง คุณหมอแจ้งอีกว่าถ้ากลับถึงบ้านแล้วอาการยังไม่ดีขึ้นให้รีบไปโรงพยาบาลทันที ดิฉันต้องทานยาและพักติดกันหลายวันและได้มีการติดต่อไปยังสำนักงานใหญ่ของทางบริษัทร้านอาหารชื่อดังแห่งนี้ เพื่อเรียกร้องค่าทำขวัญและค่าเสียหาย ก็ได้มีตัวแทนทางบริษัทติดต่อมาปฎิเสธการรับผิดชอบเพราะบริษัทประกันที่ทางบริษัทร้านอาหารแห่งนี้ทำไว้ไม่รับผิดชอบในส่วนนี้ ดึงเวลาดิฉันไปเดือนเศษ .. และตัวแทนบริษัทที่เป็นผู้หญิงก็มีการโต้เถียงกลับว่าเขาก็เคยแพ้อาหาร และปฎิเสธการรับผิดชอบในส่วนค่าทำขวัญและค่าใช้จ่ายต่างๆโดยสิ้นเชิง ดิฉันอยากทราบว่า หากเป็นคนในครอบครัวของคุณ พวกคุณจะทำกันแบบนี้หรือไม่...ร้านใหญ่ แต่ไร้ความรับผิดชอบ!!