สามารถติดตามพาสอื่นๆได้ดังนี้
part1เริ่มบทความการท่องเที่ยวครั้งนี้
https://ppantip.com/topic/38581620
part2การเดินทางและใช้ชีวิตใน Moscow
https://ppantip.com/topic/38583526
part3 ซื้อของที่ตลาด Izmailovo/ ไปโบสโดมทอง / ไปสวน Zaryadye
https://ppantip.com/topic/38587188
part4 เที่ยว Moscow Kremlin + ประวัติการสร้าง และอื่นๆ
https://ppantip.com/topic/38590705
Part5 Stalingrad ตอนที่1
https://ppantip.com/topic/38594760
Part6 สตาลินกราด ตอนที่2
https://ppantip.com/topic/38605183
Part7 Victory park/และล่องแม่น้ำมอสควา
https://ppantip.com/topic/38647062
Part นี้เป็น Part ที่ 5 นิราศ สตาลินกราด ตอนที่1
การเดินทางนคร สตาลินกราด
ที่ซึ่งเป็นสมรภูมิที่นองเลือดที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติก็ว่าได้ครับ พาสนี้จะเล่าประวัติศาสตร์เยอะหน่อยครับ เพราะผมไปเมืองแห่งประวัติศาสตร์ ถ้าไม่พูดเรื่องประวัติศาสตร์ คนคงไม่รู้ว่ามันมีอะไร และสำคัญอย่างไร ทำไมถึงน่าไปอย่างไร
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ผมชอบ ปวศ. มาแต่เด็กๆ ผมได้อ่านหนังสือ และดูสารคดี ที่เกี่ยวกับเมืองนี้ เคยได้ยินมาว่า เมืองที่ชื่อ Stalingrad มีการสู้รบ มีผู้เสียชีวิตเป็นล้านๆ คน ในเมืองนี้เมืองเดียว เพราะอะไรทำไมคนถึงต้องมาตายเพราะเมืองนี้ เมืองเดียวนับสองล้านคน
ผมเองจึงทำการหาในเนต ว่าเมืองนี้อยู่ที่ใด ค้นหาใน Google map ค้นคำว่า Stalingrad ก็ไม่เจอ มันไปโผล่ที่เมืองที่ชื่อ Volgograd ผมก็คิดว่าน่าจะเมืองนี้มั้ง หลังจากนั้นมีการศึกษา ปวศ. เมืองนี้มาพอสมควร ก่อนอื่นต้องบอกก่อนนะครับ ผมไม่ใช่คนเก่ง ปวศ สงครามโลก หรือประเทศรัสเซีย มีคนไทยเก่งๆมีเยอะมากๆ แต่ผมศึกษาเพราะความสนใจใคร่รู้เท่านั้น
Part นี้อาจจะน่าเบื่อสำหรับบางคนนะครับ เพราะส่วนใหญ่มันเหมือนการเรียน ปวศ. เพราะผมเองก็ไปเมืองที่มี ประวัติ และเป็นเมืองที่คนไทย น่าจะไม่ค่อยได้ไปกัน คนที่ผมรู้จักที่เคยไป Stalingrad ที่เห็นในแวดวง กลุ่มท่องเที่ยวรัสเซีย ก็จะมีพี่คนหนึ่งที่ท่านไปเที่ยว ในหลายๆเมืองของรัสเซียและท่านเคยไป Stalingrad และอีกคนก็แอดมินเพจเที่ยวรัสเซียครับ
ผมไม่เคยเห็น บลูแพลนเน็ต มีเรื่องการไปเที่ยวเมืองนี้เลย เลยอยากเขียนเป็นความรู้แก่คนที่อยากไปเมืองนี้ครับ เพราะผมเชื่อว่าหลายคนอยากไปกัน แต่ไม่รู้จะไปยังไง ผมจะพาท่านไปกัน พร้อมกับเล่าประวัติศาสตร์เมืองนี้ ให้ฟัง
.
.
.
.
.
มาไปกัน
วันที่เป็นวันที่ 12 ก.พ. 2019 เป็นวันที่5 ของทริปรัสเซีย เราตั้งนาฬิกาปลุก ตื่นแต่เช้า กินกับข้าวที่ซื้อมาเมื่อวานจาก super market เสร็จแล้วก็แต่งตัวเช็คข้าวของ เพราะว่าต้องไปพักที่ Stalingrad ใช้เวลาเที่ยว 2 วัน 1 คืน ผมเลือกที่จะทิ้งสัมภาระส่วนใหญ่ไว้ที่ รร.Izmailovo delta เพื่อที่จะทำให้เรามีความคล่องตัวในการไปเที่ยว Volgograd จึงได้นำกระเป๋าสะพายใส่เสื้อชุดลองจอน พวกเสื้อผ้าที่เอาไว้สำหรับเปลี่ยน ไปด้วย 1 ชุด ผมกับแฟน 2 คนเสื้อผ้าใส่ใบเดียวเหลือๆ และอุปกรณ์ที่ต้องใช้ต่างๆ ครีมทาผิว ทาหน้าและอื่นๆ เพราะอากาศหนาวถ้าไม่ทา หน้าแตกผิวแตกทรมานครับ มีกระเป๋าอีกใบก็กระเป๋าใส่กล้อง
เราจองตั๋วของ S7 airline ครับจาก Moscow ไป Volgograd (ชื่อใหม่ของ Stalingrad เดี๋ยวจะอธิบายให้ฟังว่าทำไมเปลี่ยนชื่อ)
take off 09.25 ครับ เพราะฉนั้นเราต้องรีบไปให้ถึงไวกว่านั้นอย่างน้อย 1 ชม.ครึ่งเป็นอย่างช้า การเดินทางจากที่พัก ที่สถานี partizanskaya เราไปที่สถานี Paveletskaya และไปต่อสถานีรถไฟฟ้า Aero express เพื่อไป สนามบิน Domodedovo เพราะ S7 ขึ้นที่สนามบินนี้ทั้งหมด
รถไฟฟ้า Metro ของมอสโควเชื่อใจได้มากครับ แต่ระยะเดินต่อระหว่างสถานี กับสถานีชุมทางที่เราจะไปสายอื่นนี้ไกลเหมือนกันเสียเวลาเดินระหว่างสถานีไปเยอะ พอถึง Paveletskaya ก็รีบไปที่ช่องขายตั๋วมองดูนาฬิกา Aero express จะออก(อีกไม่กี่นาที ไม่ถึง 5 นาทีมั้งตอนนั้น) คนต่อคิวก็เยอะ ผมเลยมองหาเครื่องขายตั๋วอัตโนมัติ แล้วรีบกดแปลงภาษา เลือก2 คนจ่ายตังไป 1000 ruble ตั๊วไหลออกมา วิ่งเลยซิครับจะรอไร วิ่งไปกดเปิดประตู ขึ้นรถได้ โล่งใจมาก
ที่นั้งโล่งมากๆ Aero express รถไฟไปสนามบินใหญ่โตมาก เป็นรถไฟ 2 ชั้น สบายใจขึ้นทัน เพราะไม่ต้องการรอรถไฟขบวนถัดไปอีกตั้งครื่ง ชม. เสียเวลากลัวตกเครื่อง เหนื่อยหอบกันไปตามๆกัน
หน้าตาแต่ละคนไม่ไหวครับหอบเหนื่อย แฟนบอกร้อนมากถอดเสื้อคลุม เสื้อฟรีส 2 ชั้นออก ผมก็ถอดออกเหลือแต่ลองจอน เพราะร้อนจัด
ที่ต้องใส่เยอะเพราะอากาศที่ Stalingrad ไม่รู้จะหนาวมากไหม พยากรณ์อากาศบอกว่า -8 -9 กลัวจะหนาวกว่านั้น เลยเอาชุดใส่มาเพิ่มอีกคนละชั้น คราวนี้ถึงเวลาวิ่งเลยร้อน
รถไฟกว้างขวางครับ มีห้องน้ำดีด้วย เวลาจะข้ามจากตู้หนึ่งไปอีกตู้ มีประตูไฟฟ้า เพียงแค่กดปุ่มตรงกลาง ประตูจะเปิดออก
วิวไม่ได้ถ่ายนะครับข้างนอก ยังมืดอยู่ เมื่อมาถึงสถานีสนามบินแล้ว ก็อย่าลืมเอาตั๋วที่ซื้อมา scan เพื่อออกจากสถานีนะครับ
เข้าไป ผ่าน Security check ก่อนเข้าสนามบินผ่านไปได้ เข้าไปรีบหาตู้ kiosk กดcheck in หน้าตู้เลยสะดวก ได้ตั๋วออกมา เป็นภาษารัสเซีย เลยถาม จนท.ว่าไปที่ไหน เขาตอบว่าTerminal C ครับ ก็รีบไป Terminal C พอผ่านตรวจ Security check ด่านที่2 เราก็ยังไม่รู้ว่าเราควรจะไปทางไหน เลยถาม จนท. อีกทีว่ายังไงเพราะเขียนว่า C แต่ไม่ได้เขียนว่า Gate เท่าไหร่ เราก็งง เลยไปถาม จนท.ตรง Security check สวรรคประทานพร เขาพูด eng ได้ สื่อสารกันเขาบอกต้องเข้าไปใน Terminal C แล้วไปดูที่ป้ายตาราง flight บินว่า flight เราไปมันเป็น gate ที่เท่าไหร่ เราก็ไปข้างในไปดู จอแสดงตารางการบิน
เลขที่ออก C 51 ครับเดินตรงไปจนสุด ลงบันไดเลื่อน แล้วก็เจอ C 51 ครับ นั้งรอพักหนึ่ง เข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัว หาน้ำหาท่ากิน รอรอรอ
ได้เวลา Boarding แล้วเราก็ขึ้นไปที่นั้งที่ได้จองไว้แล้ว.....อันนี้แชร์เป็นความรู้รอบตัวนะครับ กลิ่นตัวของหลายๆคนในเครื่องตลบอบอ่วน หอมกรุ่นจาก..เต่า..เลย เห้ออออออออออ ดีนะที่เตรียมยาดมไปด้วย ผมก็เข้าใจวิถีชีวิตเขานะแต่เราเองที่แตกต่างจากเขา เรานี้อาบน้ำทุกวัน เพราะชินการอยู่เมืองไทยต้องอาบน้ำ แต่ที่นู้นคงเย็นเลยไม่ค่อยอาบ
.
.
ใครไปหน้าหนาว ขึ้น Domestic flight เตรียมพร้อมยาดมด้วยนะ เราเตือนท่านแล้วนะ 5555
เราก็นั้งหอมกรุ่นจาก..เต่า..สักพัก เครื่อง Takeoff รอไปสักพักมี แซนวิชกับน้ำมาให้บริการ Lowcost บ้านเขายังเสิร์ฟอาหารเหมือนเดิมนะครับ บริษัท แอร์เอชีย นกแอร์ รู้กันบ้างยัง จะลดต้นทุนไรนักหนา
ทัศนียภาพ เส้นทางไปตอนใต้ของรัสเซีย
ในระหว่างนั้งเครื่องบินไปพร้อมกับพวกเรา ผมจะเล่าให้ฟังเรื่องเมืองนี้ครับ
บางคนสงสัยไอ้ Stalingrad หรือ Volgograd มันคือที่ไหน อยู่ส่วนไหนของรัสเซียนี้เลยครับ
่
นอกจากเครื่องบินแล้วยังมีรถไฟจากมอสโควมาด้วยครับจากที่พี่ในกลุ่มพูดให้ฟัง ส่วนผมเวลาน้อยขอไปเครื่องบินก่อนละกันครับ
Volgograd นั้นเปลี่ยนชื่อเมืองมา สามครั้งแล้วครับ เมืองเดิม ชื่อ Tsaritsyn ซาริทซีน เป็นเมืองป้อมค่ายโบราณ เป็นจุดพัก ของพ่อค้าจากตะวันออกกลางและเปอร์เซียที่จะเดินทางไปค้าขายที่มอสโคว เป็นเมืองป้อมค่ายที่สำคัญของรัสเซียในการรักษาอำนาจในภูมิภาคทางตอนใต้ของรัสเซีย
สัญลักษณ์ของเมือง
เมืองนี้เผชิญสิ่งต่างๆมามากมายในอดีต ขอข้ามนะครับ ถ้าอยากรู้มาถามหลังไมค์เอา มันจะยาวไปเดี๋ยวคนจะเบื่อกัน
Tsaritsyn ก็เจริญรุ่งเรืองขึ้นเป็นศูนย์กลางการค้าขาย ถึงแม้จะมีกบฎทางตอนใต้ของรัสเซียมายึดเมืองอยู่บ้าง แต่ทางมอสโควก็ส่งกองทัพมาปราบได้สำเร็จทุกครั้ง หลังจากนั้นมีการขยายเมืองและประชากรมากขึ้นๆๆ จนกลายเป็นเมืองท่าค้าขาย(ทางแม่น้ำ)ขนาดใหญ่กันเลยทีเดียว
มาจนถึงสงครามกลางเมืองของรัสเซีย ระหว่างรัสเซียแดงคอมมิวนิสต์ และรัสเซียขาว ทำการรบกันที่เมืองนี้ ตอนนั้น Joseph Stalin(คนใน part2 ที่ผมเล่าไป)
หล่อไหม 555ตอนหนุ่มๆ
ตอนนี้แก่แล้ว
ได้ทำการรวบรวมผู้คนให้ฝ่าย Bolshevik (หรือฝ่ายคอมมิวนิสต์) และเป็นหัวหน้าตัวตั้งตัวตีในการปกป้องเมืองจากการโจมตีจาก รัสเซียขาว และท้ายที่สุดสามารถปกป้องเมืองนี้จากรัสเซียขาวไว้ได้
เมือง Tsaritsyn จึงเปลี่ยนชื่อเป็น Stalingrad หรือเมืองแห่งสตาลิน เพื่อเป็นเกียรติให้สตาลิน จะคล้ายๆกับ st.petersburg เปลี่ยนเป็น Leningrad เพราะเลนินปฎิวัติสำเร็จที่นั้น เป็นเกียรติแก่เลนิน
เมืองถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Volgograd หรือ เมืองแห่งแม่น้ำโวลก้า เมื่อตอนที่สตาลินเสียชีวิต ผู้นำคนใหม่รัสเซียคือ ครุชชอฟ ต้องการลดสัญลักษณ์ที่เป็นสตาลิน เพราะสตาลินเองถึงจะเป็นฮีโร่ที่ทำให้ชาติพ้นภัยนาซี แต่สตาลินเองก็เป็นผีร้ายในสายตาของคนรัสเซียหลายคน
Stalingrad ตั้งอยู่ฝั่งขวาแม่น้ำ Volga ครับมีลักษณะสันฐานเมืองเลียบตามแนวยาวของแม่น้ำ เป็นทั้งเมืองท่าค้าขาย มีโรงงานผลิตรถแทร๊กเตอร์ ผลิตตะปู และอุตสาหกรรมหนักอื่นๆ และเป็นเส้นทางส่งน้ำมันจาก แหล่งน้ำมันบาคูแถบทะเลสาบแคสเปี้ยนไปยังมอสโคว หรือไปส่วนอื่นๆของประเทศรัสเซีย
สีแดงคือ Baku oil field สีฟ้าคือ Stalingrad สีเหลืองคือ Moscow ตามลำดับ
แผนที่ Volgograd ในปัจจุบันและอดีตไม่ค่อยแตกต่างกันมากในรูปแบบของเมือง เมืองนี้ตั้งอยู่ฝั่งขวาของแม่น้ำ Volga ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในทวีปยุโรป เมืองจะเลียบยาวไปตามลำน้ำแบบนี้ครับ
Stalingrad มีชื่อเสียงที่สุดในช่วงสงครามโลกครั้งที่2 แต่ก็ต้องเล่าย้อนนนน กลับไปในช่วงต้นของสงครามโลกครั้งที่2 ให้ฟังนิดหนึ่งครับ
ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 จะเกิด Germany ได้ทำสนธิสัญญา กับทาง Soviet ชื่อว่า german-soviet-nonaggression-pact สนธิสัญญาจะไม่รุกรานกัน เป็นการสัญญาว่าจะไม่ทำสงครามระหว่างกันภายใน 10 ปีนี้
การลงนามในสัญญาระหว่าง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศเยอรมันนีกับโซเวียต
Axis-Minii Russia trip -->Moscow-->Stalingrad(Volgograd) Part5ตอน เดินทางไป Stalingrad เมืองประวัติศาสตร์และความทรงจำ
part1เริ่มบทความการท่องเที่ยวครั้งนี้
https://ppantip.com/topic/38581620
part2การเดินทางและใช้ชีวิตใน Moscow
https://ppantip.com/topic/38583526
part3 ซื้อของที่ตลาด Izmailovo/ ไปโบสโดมทอง / ไปสวน Zaryadye
https://ppantip.com/topic/38587188
part4 เที่ยว Moscow Kremlin + ประวัติการสร้าง และอื่นๆ
https://ppantip.com/topic/38590705
Part5 Stalingrad ตอนที่1
https://ppantip.com/topic/38594760
Part6 สตาลินกราด ตอนที่2
https://ppantip.com/topic/38605183
Part7 Victory park/และล่องแม่น้ำมอสควา
https://ppantip.com/topic/38647062
Part นี้เป็น Part ที่ 5 นิราศ สตาลินกราด ตอนที่1
การเดินทางนคร สตาลินกราด
ที่ซึ่งเป็นสมรภูมิที่นองเลือดที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติก็ว่าได้ครับ พาสนี้จะเล่าประวัติศาสตร์เยอะหน่อยครับ เพราะผมไปเมืองแห่งประวัติศาสตร์ ถ้าไม่พูดเรื่องประวัติศาสตร์ คนคงไม่รู้ว่ามันมีอะไร และสำคัญอย่างไร ทำไมถึงน่าไปอย่างไร
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ผมชอบ ปวศ. มาแต่เด็กๆ ผมได้อ่านหนังสือ และดูสารคดี ที่เกี่ยวกับเมืองนี้ เคยได้ยินมาว่า เมืองที่ชื่อ Stalingrad มีการสู้รบ มีผู้เสียชีวิตเป็นล้านๆ คน ในเมืองนี้เมืองเดียว เพราะอะไรทำไมคนถึงต้องมาตายเพราะเมืองนี้ เมืองเดียวนับสองล้านคน
ผมเองจึงทำการหาในเนต ว่าเมืองนี้อยู่ที่ใด ค้นหาใน Google map ค้นคำว่า Stalingrad ก็ไม่เจอ มันไปโผล่ที่เมืองที่ชื่อ Volgograd ผมก็คิดว่าน่าจะเมืองนี้มั้ง หลังจากนั้นมีการศึกษา ปวศ. เมืองนี้มาพอสมควร ก่อนอื่นต้องบอกก่อนนะครับ ผมไม่ใช่คนเก่ง ปวศ สงครามโลก หรือประเทศรัสเซีย มีคนไทยเก่งๆมีเยอะมากๆ แต่ผมศึกษาเพราะความสนใจใคร่รู้เท่านั้น
Part นี้อาจจะน่าเบื่อสำหรับบางคนนะครับ เพราะส่วนใหญ่มันเหมือนการเรียน ปวศ. เพราะผมเองก็ไปเมืองที่มี ประวัติ และเป็นเมืองที่คนไทย น่าจะไม่ค่อยได้ไปกัน คนที่ผมรู้จักที่เคยไป Stalingrad ที่เห็นในแวดวง กลุ่มท่องเที่ยวรัสเซีย ก็จะมีพี่คนหนึ่งที่ท่านไปเที่ยว ในหลายๆเมืองของรัสเซียและท่านเคยไป Stalingrad และอีกคนก็แอดมินเพจเที่ยวรัสเซียครับ
ผมไม่เคยเห็น บลูแพลนเน็ต มีเรื่องการไปเที่ยวเมืองนี้เลย เลยอยากเขียนเป็นความรู้แก่คนที่อยากไปเมืองนี้ครับ เพราะผมเชื่อว่าหลายคนอยากไปกัน แต่ไม่รู้จะไปยังไง ผมจะพาท่านไปกัน พร้อมกับเล่าประวัติศาสตร์เมืองนี้ ให้ฟัง
.
.
.
.
.
มาไปกัน
วันที่เป็นวันที่ 12 ก.พ. 2019 เป็นวันที่5 ของทริปรัสเซีย เราตั้งนาฬิกาปลุก ตื่นแต่เช้า กินกับข้าวที่ซื้อมาเมื่อวานจาก super market เสร็จแล้วก็แต่งตัวเช็คข้าวของ เพราะว่าต้องไปพักที่ Stalingrad ใช้เวลาเที่ยว 2 วัน 1 คืน ผมเลือกที่จะทิ้งสัมภาระส่วนใหญ่ไว้ที่ รร.Izmailovo delta เพื่อที่จะทำให้เรามีความคล่องตัวในการไปเที่ยว Volgograd จึงได้นำกระเป๋าสะพายใส่เสื้อชุดลองจอน พวกเสื้อผ้าที่เอาไว้สำหรับเปลี่ยน ไปด้วย 1 ชุด ผมกับแฟน 2 คนเสื้อผ้าใส่ใบเดียวเหลือๆ และอุปกรณ์ที่ต้องใช้ต่างๆ ครีมทาผิว ทาหน้าและอื่นๆ เพราะอากาศหนาวถ้าไม่ทา หน้าแตกผิวแตกทรมานครับ มีกระเป๋าอีกใบก็กระเป๋าใส่กล้อง
เราจองตั๋วของ S7 airline ครับจาก Moscow ไป Volgograd (ชื่อใหม่ของ Stalingrad เดี๋ยวจะอธิบายให้ฟังว่าทำไมเปลี่ยนชื่อ)
take off 09.25 ครับ เพราะฉนั้นเราต้องรีบไปให้ถึงไวกว่านั้นอย่างน้อย 1 ชม.ครึ่งเป็นอย่างช้า การเดินทางจากที่พัก ที่สถานี partizanskaya เราไปที่สถานี Paveletskaya และไปต่อสถานีรถไฟฟ้า Aero express เพื่อไป สนามบิน Domodedovo เพราะ S7 ขึ้นที่สนามบินนี้ทั้งหมด
รถไฟฟ้า Metro ของมอสโควเชื่อใจได้มากครับ แต่ระยะเดินต่อระหว่างสถานี กับสถานีชุมทางที่เราจะไปสายอื่นนี้ไกลเหมือนกันเสียเวลาเดินระหว่างสถานีไปเยอะ พอถึง Paveletskaya ก็รีบไปที่ช่องขายตั๋วมองดูนาฬิกา Aero express จะออก(อีกไม่กี่นาที ไม่ถึง 5 นาทีมั้งตอนนั้น) คนต่อคิวก็เยอะ ผมเลยมองหาเครื่องขายตั๋วอัตโนมัติ แล้วรีบกดแปลงภาษา เลือก2 คนจ่ายตังไป 1000 ruble ตั๊วไหลออกมา วิ่งเลยซิครับจะรอไร วิ่งไปกดเปิดประตู ขึ้นรถได้ โล่งใจมาก
ที่นั้งโล่งมากๆ Aero express รถไฟไปสนามบินใหญ่โตมาก เป็นรถไฟ 2 ชั้น สบายใจขึ้นทัน เพราะไม่ต้องการรอรถไฟขบวนถัดไปอีกตั้งครื่ง ชม. เสียเวลากลัวตกเครื่อง เหนื่อยหอบกันไปตามๆกัน
หน้าตาแต่ละคนไม่ไหวครับหอบเหนื่อย แฟนบอกร้อนมากถอดเสื้อคลุม เสื้อฟรีส 2 ชั้นออก ผมก็ถอดออกเหลือแต่ลองจอน เพราะร้อนจัด
ที่ต้องใส่เยอะเพราะอากาศที่ Stalingrad ไม่รู้จะหนาวมากไหม พยากรณ์อากาศบอกว่า -8 -9 กลัวจะหนาวกว่านั้น เลยเอาชุดใส่มาเพิ่มอีกคนละชั้น คราวนี้ถึงเวลาวิ่งเลยร้อน
รถไฟกว้างขวางครับ มีห้องน้ำดีด้วย เวลาจะข้ามจากตู้หนึ่งไปอีกตู้ มีประตูไฟฟ้า เพียงแค่กดปุ่มตรงกลาง ประตูจะเปิดออก
วิวไม่ได้ถ่ายนะครับข้างนอก ยังมืดอยู่ เมื่อมาถึงสถานีสนามบินแล้ว ก็อย่าลืมเอาตั๋วที่ซื้อมา scan เพื่อออกจากสถานีนะครับ
เข้าไป ผ่าน Security check ก่อนเข้าสนามบินผ่านไปได้ เข้าไปรีบหาตู้ kiosk กดcheck in หน้าตู้เลยสะดวก ได้ตั๋วออกมา เป็นภาษารัสเซีย เลยถาม จนท.ว่าไปที่ไหน เขาตอบว่าTerminal C ครับ ก็รีบไป Terminal C พอผ่านตรวจ Security check ด่านที่2 เราก็ยังไม่รู้ว่าเราควรจะไปทางไหน เลยถาม จนท. อีกทีว่ายังไงเพราะเขียนว่า C แต่ไม่ได้เขียนว่า Gate เท่าไหร่ เราก็งง เลยไปถาม จนท.ตรง Security check สวรรคประทานพร เขาพูด eng ได้ สื่อสารกันเขาบอกต้องเข้าไปใน Terminal C แล้วไปดูที่ป้ายตาราง flight บินว่า flight เราไปมันเป็น gate ที่เท่าไหร่ เราก็ไปข้างในไปดู จอแสดงตารางการบิน
เลขที่ออก C 51 ครับเดินตรงไปจนสุด ลงบันไดเลื่อน แล้วก็เจอ C 51 ครับ นั้งรอพักหนึ่ง เข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัว หาน้ำหาท่ากิน รอรอรอ
ได้เวลา Boarding แล้วเราก็ขึ้นไปที่นั้งที่ได้จองไว้แล้ว.....อันนี้แชร์เป็นความรู้รอบตัวนะครับ กลิ่นตัวของหลายๆคนในเครื่องตลบอบอ่วน หอมกรุ่นจาก..เต่า..เลย เห้ออออออออออ ดีนะที่เตรียมยาดมไปด้วย ผมก็เข้าใจวิถีชีวิตเขานะแต่เราเองที่แตกต่างจากเขา เรานี้อาบน้ำทุกวัน เพราะชินการอยู่เมืองไทยต้องอาบน้ำ แต่ที่นู้นคงเย็นเลยไม่ค่อยอาบ
.
.
ใครไปหน้าหนาว ขึ้น Domestic flight เตรียมพร้อมยาดมด้วยนะ เราเตือนท่านแล้วนะ 5555
เราก็นั้งหอมกรุ่นจาก..เต่า..สักพัก เครื่อง Takeoff รอไปสักพักมี แซนวิชกับน้ำมาให้บริการ Lowcost บ้านเขายังเสิร์ฟอาหารเหมือนเดิมนะครับ บริษัท แอร์เอชีย นกแอร์ รู้กันบ้างยัง จะลดต้นทุนไรนักหนา
ทัศนียภาพ เส้นทางไปตอนใต้ของรัสเซีย
ในระหว่างนั้งเครื่องบินไปพร้อมกับพวกเรา ผมจะเล่าให้ฟังเรื่องเมืองนี้ครับ
บางคนสงสัยไอ้ Stalingrad หรือ Volgograd มันคือที่ไหน อยู่ส่วนไหนของรัสเซียนี้เลยครับ
่
นอกจากเครื่องบินแล้วยังมีรถไฟจากมอสโควมาด้วยครับจากที่พี่ในกลุ่มพูดให้ฟัง ส่วนผมเวลาน้อยขอไปเครื่องบินก่อนละกันครับ
Volgograd นั้นเปลี่ยนชื่อเมืองมา สามครั้งแล้วครับ เมืองเดิม ชื่อ Tsaritsyn ซาริทซีน เป็นเมืองป้อมค่ายโบราณ เป็นจุดพัก ของพ่อค้าจากตะวันออกกลางและเปอร์เซียที่จะเดินทางไปค้าขายที่มอสโคว เป็นเมืองป้อมค่ายที่สำคัญของรัสเซียในการรักษาอำนาจในภูมิภาคทางตอนใต้ของรัสเซีย
สัญลักษณ์ของเมือง
เมืองนี้เผชิญสิ่งต่างๆมามากมายในอดีต ขอข้ามนะครับ ถ้าอยากรู้มาถามหลังไมค์เอา มันจะยาวไปเดี๋ยวคนจะเบื่อกัน
Tsaritsyn ก็เจริญรุ่งเรืองขึ้นเป็นศูนย์กลางการค้าขาย ถึงแม้จะมีกบฎทางตอนใต้ของรัสเซียมายึดเมืองอยู่บ้าง แต่ทางมอสโควก็ส่งกองทัพมาปราบได้สำเร็จทุกครั้ง หลังจากนั้นมีการขยายเมืองและประชากรมากขึ้นๆๆ จนกลายเป็นเมืองท่าค้าขาย(ทางแม่น้ำ)ขนาดใหญ่กันเลยทีเดียว
มาจนถึงสงครามกลางเมืองของรัสเซีย ระหว่างรัสเซียแดงคอมมิวนิสต์ และรัสเซียขาว ทำการรบกันที่เมืองนี้ ตอนนั้น Joseph Stalin(คนใน part2 ที่ผมเล่าไป)
หล่อไหม 555ตอนหนุ่มๆ
ตอนนี้แก่แล้ว
ได้ทำการรวบรวมผู้คนให้ฝ่าย Bolshevik (หรือฝ่ายคอมมิวนิสต์) และเป็นหัวหน้าตัวตั้งตัวตีในการปกป้องเมืองจากการโจมตีจาก รัสเซียขาว และท้ายที่สุดสามารถปกป้องเมืองนี้จากรัสเซียขาวไว้ได้
เมือง Tsaritsyn จึงเปลี่ยนชื่อเป็น Stalingrad หรือเมืองแห่งสตาลิน เพื่อเป็นเกียรติให้สตาลิน จะคล้ายๆกับ st.petersburg เปลี่ยนเป็น Leningrad เพราะเลนินปฎิวัติสำเร็จที่นั้น เป็นเกียรติแก่เลนิน
เมืองถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Volgograd หรือ เมืองแห่งแม่น้ำโวลก้า เมื่อตอนที่สตาลินเสียชีวิต ผู้นำคนใหม่รัสเซียคือ ครุชชอฟ ต้องการลดสัญลักษณ์ที่เป็นสตาลิน เพราะสตาลินเองถึงจะเป็นฮีโร่ที่ทำให้ชาติพ้นภัยนาซี แต่สตาลินเองก็เป็นผีร้ายในสายตาของคนรัสเซียหลายคน
Stalingrad ตั้งอยู่ฝั่งขวาแม่น้ำ Volga ครับมีลักษณะสันฐานเมืองเลียบตามแนวยาวของแม่น้ำ เป็นทั้งเมืองท่าค้าขาย มีโรงงานผลิตรถแทร๊กเตอร์ ผลิตตะปู และอุตสาหกรรมหนักอื่นๆ และเป็นเส้นทางส่งน้ำมันจาก แหล่งน้ำมันบาคูแถบทะเลสาบแคสเปี้ยนไปยังมอสโคว หรือไปส่วนอื่นๆของประเทศรัสเซีย
สีแดงคือ Baku oil field สีฟ้าคือ Stalingrad สีเหลืองคือ Moscow ตามลำดับ
แผนที่ Volgograd ในปัจจุบันและอดีตไม่ค่อยแตกต่างกันมากในรูปแบบของเมือง เมืองนี้ตั้งอยู่ฝั่งขวาของแม่น้ำ Volga ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในทวีปยุโรป เมืองจะเลียบยาวไปตามลำน้ำแบบนี้ครับ
Stalingrad มีชื่อเสียงที่สุดในช่วงสงครามโลกครั้งที่2 แต่ก็ต้องเล่าย้อนนนน กลับไปในช่วงต้นของสงครามโลกครั้งที่2 ให้ฟังนิดหนึ่งครับ
ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 จะเกิด Germany ได้ทำสนธิสัญญา กับทาง Soviet ชื่อว่า german-soviet-nonaggression-pact สนธิสัญญาจะไม่รุกรานกัน เป็นการสัญญาว่าจะไม่ทำสงครามระหว่างกันภายใน 10 ปีนี้
การลงนามในสัญญาระหว่าง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศเยอรมันนีกับโซเวียต