สามารถติดตามพาสอื่นๆได้ดังนี้
part1เริ่มบทความการท่องเที่ยวครั้งนี้
https://ppantip.com/topic/38581620
part2การเดินทางและใช้ชีวิตใน Moscow
https://ppantip.com/topic/38583526
part3 ซื้อของที่ตลาด Izmailovo/ ไปโบสโดมทอง / ไปสวน Zaryadye
https://ppantip.com/topic/38587188
part4 เที่ยว Moscow Kremlin + ประวัติการสร้าง และอื่นๆ
https://ppantip.com/topic/38590705
Part5 Stalingrad ตอนที่1
https://ppantip.com/topic/38594760
Part6 สตาลินกราด ตอนที่2
https://ppantip.com/topic/38605183
Part7 Victory park/และล่องแม่น้ำมอสควา
https://ppantip.com/topic/38647062
มาต่อกันที่
PART 7 Victory park/ Great patriotic war museum/ Radison royal cruise. ล่องแม่น้ำมอสควา
หลังจากหยุดพักผ่อนสายตาไปนาน ผมจะเริ่มเขียน
วันที่ 14 ก.พ. 2019 (วัน Valentine)
หลังจากที่เมื่อวาน ถึงห้องดึกมาก เพราะสนามบินต้องเคลียร์หิมะ ที่ตกที่มอสโควอย่างหนักในช่วงกลางวัน กว่าจะได้ออกจากสนามบินกว่าจะขึ้น Metro ถึงห้องขออาบน้ำนอน ตื่นสายๆเลยวันนี้
ตอนเช้าอากาศดี ฟ้าโปร่งสว่างมากๆ ท้องฟ้าสีฟ้า ตัดกับ หิมะสีขาวสวยงามมากๆ
ตื่นเช้ามาก็หาไรกินเล็กๆน้อยๆ ก่อนหลังจากนั้นก็เตรียมตัวออกเดินทางไปที่ Victory park หรือ Park Pobedy หรือ แปลเป็นไทย สวนแห่งชัยชนะ เดินทางโดยใช้ metro ไปที่สถานี Park Pobedy
ขึ้นมาด้านบนจะพบกับ ลานกว้างมากๆๆๆๆ มองไปไกลๆจะมองเห็นเสา Obelisk
มองไปด้านซ้ายเราจะเจอกับอนุสาวรีย์ทหารของรัสเซียที่ร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ 1 ครับ
แดดจ้าเลยทีเดียว แสบตามาก
เราก็เดินเข้าไปในถนน ของลาน Park Pobedy ส่วนใหญ่เป็นหิมะนุ่มเท้าที่พึ่งตกมาเมื่อวาน บางส่วนก็เป็นหิมะเก่าที่ละลายแล้วกลับมาแข็งใหม่เป็นแผ่นน้ำแข็งอยู่ด้านล่าง
เจ้าหน้าที่ใช้รถตักหิมะมาเก็บหิมะออกไปจากพื้นที่
ไอ้รถสีส้มๆนั้นแหละครับ
รถนี้จะมีสายพานเอาหิมะขึ้นไปด้านหลังแล้วปล่ยลงมาใส่รถบรรทุก(ตอนนี้รถบรรทุก น่าจะเอาหิมะไปทิ้งอยู่)
ขาวไปหมดเลย
ระหว่างที่เดินไปเรื่อยๆ ไกลพอสมควร มันก็มีพืนที่ ที่หิมะหนาๆนุ่มๆ เลยแวะถ่ายรูปสวยๆสักหน่อย
ทีแรกก็ตื่นตาตื่นใจ เพราะตั้งแต่มามอสโควไม่เจอกับหิมะเป็นปุยนุ่มๆเกาะกิ่งไม้แบบนี้เลย สวยดี แต่ยังมีสวยกว่านี้อีกนะ คอยดูช่วงท้ายๆ
เราก็เดินต่อ เดินต่อ เดินต่อ รู้สึกไกลจัง 555
ในระหว่างที่เดินไป ผมจะเล่าเรื่อง สถานที่นี้ในอดีต ทำไมมีความสำคัญอย่างไรจึงมีการมาสร้างสวน Victory park ในที่แห่งนี้
ถ้าจำไม่ผิดใน Part3 ที่เคยเล่าฟังเรื่อง นโปเลียน รบชนะรัสเซีย พอรุกไล่มาเรื่อยๆตั้งทัพรอที่บริเวณแห่งนี้ คิดว่าทางรัสเซียจะยอมจำนน โดยการส่งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่หรือเจ้าเมืองมอสโควเอากุญแจเมืองมาให้ รอแล้วรอเล่าเขาก็ไม่เอามาให้จนทนรอไม่ได้ยกทัพเข้ากรุงมอสโคว จนในท้ายที่สุดต้องเสียทีเจอรัสเซียเผาเมืองมอสโคว จน นโปเลียนต้องพ่ายแพ้ย่อยยับ
แล้วทำไม นโปเลียนถึงใช้จุดนี้ในการรอคอยคนเอากุญแจเมืองซึ่งเป็นสัญลักษณ์มอบเกียรติในการมีอำนาจเหนือเมืองมอสโควในบริเวณนี้ เป็นข้อบังเอิญ หรือว่าตั้งใจ
ผมขอตอบเลยนะครับไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่จุดนี้เป็นอยู่บนเนินสูง สามารถมองเห็นวิวมอสโควได้ ด้วยตัวเนินสูง 171.5 เมตร และเป็นจุดที่ใครจะไปหรือมาทางทิศตะวันตก ต้องผ่านเนินนี้ทุกคน
หลังจากเดินเข้ามาใกล้แล้วเราก็จะพบกับ
รูปแกะสลักใครก็ไม่รู้ อยู่บนหลังม้า ใช้หอแทงมังกรตาย ทั้งหมดทั้งมวล อยู่หน้าเสา Obelisk และบนเสาร์ Obelisk มีเทวดามีปีก มีความหมายและที่มาอย่างไร ผมจะเล่าให้ฟัง
Alex-Minii Russia trip -->Moscow-->Volgograd part7 ( Victory park & Radison royal cruise.)
part1เริ่มบทความการท่องเที่ยวครั้งนี้
https://ppantip.com/topic/38581620
part2การเดินทางและใช้ชีวิตใน Moscow
https://ppantip.com/topic/38583526
part3 ซื้อของที่ตลาด Izmailovo/ ไปโบสโดมทอง / ไปสวน Zaryadye
https://ppantip.com/topic/38587188
part4 เที่ยว Moscow Kremlin + ประวัติการสร้าง และอื่นๆ
https://ppantip.com/topic/38590705
Part5 Stalingrad ตอนที่1
https://ppantip.com/topic/38594760
Part6 สตาลินกราด ตอนที่2
https://ppantip.com/topic/38605183
Part7 Victory park/และล่องแม่น้ำมอสควา
https://ppantip.com/topic/38647062
มาต่อกันที่
PART 7 Victory park/ Great patriotic war museum/ Radison royal cruise. ล่องแม่น้ำมอสควา
หลังจากหยุดพักผ่อนสายตาไปนาน ผมจะเริ่มเขียน
วันที่ 14 ก.พ. 2019 (วัน Valentine)
หลังจากที่เมื่อวาน ถึงห้องดึกมาก เพราะสนามบินต้องเคลียร์หิมะ ที่ตกที่มอสโควอย่างหนักในช่วงกลางวัน กว่าจะได้ออกจากสนามบินกว่าจะขึ้น Metro ถึงห้องขออาบน้ำนอน ตื่นสายๆเลยวันนี้
ตอนเช้าอากาศดี ฟ้าโปร่งสว่างมากๆ ท้องฟ้าสีฟ้า ตัดกับ หิมะสีขาวสวยงามมากๆ
ตื่นเช้ามาก็หาไรกินเล็กๆน้อยๆ ก่อนหลังจากนั้นก็เตรียมตัวออกเดินทางไปที่ Victory park หรือ Park Pobedy หรือ แปลเป็นไทย สวนแห่งชัยชนะ เดินทางโดยใช้ metro ไปที่สถานี Park Pobedy
ขึ้นมาด้านบนจะพบกับ ลานกว้างมากๆๆๆๆ มองไปไกลๆจะมองเห็นเสา Obelisk
มองไปด้านซ้ายเราจะเจอกับอนุสาวรีย์ทหารของรัสเซียที่ร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ 1 ครับ
แดดจ้าเลยทีเดียว แสบตามาก
เราก็เดินเข้าไปในถนน ของลาน Park Pobedy ส่วนใหญ่เป็นหิมะนุ่มเท้าที่พึ่งตกมาเมื่อวาน บางส่วนก็เป็นหิมะเก่าที่ละลายแล้วกลับมาแข็งใหม่เป็นแผ่นน้ำแข็งอยู่ด้านล่าง
เจ้าหน้าที่ใช้รถตักหิมะมาเก็บหิมะออกไปจากพื้นที่
ไอ้รถสีส้มๆนั้นแหละครับ
รถนี้จะมีสายพานเอาหิมะขึ้นไปด้านหลังแล้วปล่ยลงมาใส่รถบรรทุก(ตอนนี้รถบรรทุก น่าจะเอาหิมะไปทิ้งอยู่)
ขาวไปหมดเลย
ระหว่างที่เดินไปเรื่อยๆ ไกลพอสมควร มันก็มีพืนที่ ที่หิมะหนาๆนุ่มๆ เลยแวะถ่ายรูปสวยๆสักหน่อย
ทีแรกก็ตื่นตาตื่นใจ เพราะตั้งแต่มามอสโควไม่เจอกับหิมะเป็นปุยนุ่มๆเกาะกิ่งไม้แบบนี้เลย สวยดี แต่ยังมีสวยกว่านี้อีกนะ คอยดูช่วงท้ายๆ
เราก็เดินต่อ เดินต่อ เดินต่อ รู้สึกไกลจัง 555
ในระหว่างที่เดินไป ผมจะเล่าเรื่อง สถานที่นี้ในอดีต ทำไมมีความสำคัญอย่างไรจึงมีการมาสร้างสวน Victory park ในที่แห่งนี้
ถ้าจำไม่ผิดใน Part3 ที่เคยเล่าฟังเรื่อง นโปเลียน รบชนะรัสเซีย พอรุกไล่มาเรื่อยๆตั้งทัพรอที่บริเวณแห่งนี้ คิดว่าทางรัสเซียจะยอมจำนน โดยการส่งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่หรือเจ้าเมืองมอสโควเอากุญแจเมืองมาให้ รอแล้วรอเล่าเขาก็ไม่เอามาให้จนทนรอไม่ได้ยกทัพเข้ากรุงมอสโคว จนในท้ายที่สุดต้องเสียทีเจอรัสเซียเผาเมืองมอสโคว จน นโปเลียนต้องพ่ายแพ้ย่อยยับ
แล้วทำไม นโปเลียนถึงใช้จุดนี้ในการรอคอยคนเอากุญแจเมืองซึ่งเป็นสัญลักษณ์มอบเกียรติในการมีอำนาจเหนือเมืองมอสโควในบริเวณนี้ เป็นข้อบังเอิญ หรือว่าตั้งใจ
ผมขอตอบเลยนะครับไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่จุดนี้เป็นอยู่บนเนินสูง สามารถมองเห็นวิวมอสโควได้ ด้วยตัวเนินสูง 171.5 เมตร และเป็นจุดที่ใครจะไปหรือมาทางทิศตะวันตก ต้องผ่านเนินนี้ทุกคน
หลังจากเดินเข้ามาใกล้แล้วเราก็จะพบกับ
รูปแกะสลักใครก็ไม่รู้ อยู่บนหลังม้า ใช้หอแทงมังกรตาย ทั้งหมดทั้งมวล อยู่หน้าเสา Obelisk และบนเสาร์ Obelisk มีเทวดามีปีก มีความหมายและที่มาอย่างไร ผมจะเล่าให้ฟัง