[CR] Spring Time in Russia : The Last Day...From Russia with Love

และแล้ววันอำลาก็เดินทางมาถึง
แม้จะได้รับความสุข ความประทับใจ ความตื่นตาตื่นใจ และประสบการณ์ใหม่ๆ มากมาย
จากแผ่นดินที่ไม่คุ้นเคยและห่างไกลบ้านหลายพันกิโลเมตรแห่งนี้
แต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา เมื่อมีเริ่มต้นก็ต้องมีสิ้นสุด
ไม่เช่นนั้นการเดินทางท่องเที่ยวก็จะไม่มีคุณค่าและความหมายให้เราเฝ้ารอคอยการมาถึง
ในเมื่อวันนี้เป็นวันสุดท้ายเราก็ใช้วันเวลาของวันนี้ให้คุ้มค่ากันดีกว่า
พาพันขอบคุณ
สนใจอ่านการเดินทางของเราในวันก่อนหน้า เรียนเชิญค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อย่ารีรอเลย ไปอ่านกันต่อเลยดีกว่า
อัศวินขี่ม้าขาว

เช้าวันนี้แผนการเที่ยวของเราก็หลวมๆ แบบเมื่อวานค่ะ และก็คงเที่ยวกันแค่บ่ายๆ ก็คงกลับเข้าที่พักไปพักผ่อน เตรียมข้าวของก่อนที่จะเช็คเอาท์ออกจากที่พักราวหกโมงเย็นตามที่นัดหมายไว้กับ Host ผู้อารี เนื่องจากเธอไม่มีแขกเข้าพักต่อและเห็นว่าไฟล์ทของพวกเราจะบินกันก็ปาไปห้าทุ่มกว่า Host คำนวณเวลาให้เสร็จสรรพเลยว่า ออกเดินทางจากที่พักราวหกโมงเย็นไปยังสนามบินน่าจะเป็นเวลาที่สบายๆ กำลังดี ไม่เร่งรีบเกินไป จึงให้เราอยู่ใช้ที่พักได้จนถึงหกโมงเย็นจึงจะมารับกุญแจห้องคืน

เมื่อจัดการกับตัวเองกันเรียบร้อย เราก็ออกไปอำลามอสโคว์กันด้วยการเดินทางไปยังสิ่งก่อสร้างสำคัญอีกแห่งของรัสเซียค่ะ นั่นคือ ประตูชัย (Triumphal Arch) เราออกเดินทางจากที่พักโดยเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟใต้ดินที่สถานี Belorusskaya (Белору́сская) บ้าง
เดินทางสู่สถานีรถไฟใต้ดิน Belorusskaya (Белору́сская)
สถานี Belorusskaya (Белору́сская)
สถานีนี้ตั้งชื่อสถานีตาม Belorussky Rail Terminal ที่ตั้งอยู่ด้านบนซึ่งเป็นสถานีรถไฟสำหรับเดินทางสู่ภาคตะวันตกมุ่งหน้าไปเบลารุส
จุดเด่นคือภาพโมเสคในกรอบแปดเหลี่ยมเกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวเบลารุส ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย

เรานั่งสายสีน้ำตาลไปต่อสายสีน้ำเงินเข้มที่สถานี Kiyevskaya (Киевская) ซึ่งสถานีนี้ก็ตั้งชื่อตาม Kiyevsky Railway Station ที่เชื่อมถึงกัน การตกแต่งในสถานีเป็นเรื่องราวมิตรภาพระหว่างรัสเซียกับยูเครน

หลังจากเก็บภาพสถานีรถไฟใต้ดินเป็นที่ระลึกกันเรียบร้อย เรานั่งรถไฟใต้ดินสายสีน้ำเงินเข้มไปลงยังสถานีเป้าหมาย นั่นคือ สถานี Park Pobedy (Парк Победы) หรือจริงๆ ก็คือ Victory Park นั่นเอง
สถานี Park Pobedy เป็นสถานีที่เรียบแสนเรียบ ไม่มีดีไซน์อะไรเก๋ไก๋แบบที่ได้เห็นตลอดหลายวันที่ผ่านมา ทำให้แอบผิดหวังนิดๆ

แต่ต้องบอกว่าเขาก็มีดีของเขาเหมือนกัน เพราะมีจุดขายโดดเด่นตรงที่ว่าตัวสถานีทำด้วยหินอ่อนสีขาวและเป็นสถานีที่ลึกที่สุดในมอสโคว์และยังลึกเป็นอันดับที่สี่ของโลก นั่นคือ มีความลึกมากถึง 97 เมตรหรือ 318 ฟุต ดังนั้น บันไดเลื่อนของที่นี่จึงเป็นบันไดเลื่อนที่ยาวที่สุดในยุโรปคือ 126 เมตร มีขั้นบันไดทั้งสิ้น 740 ขั้น เมื่อลองจับเวลาจะพบว่าการเดินทางจากใต้ดินสู่ตัวสถานีด้านบนต้องใช้เวลาประมาณ 3 นาที เลยทีเดียว
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

จากสถานีเราเดินออกมาเรื่อยๆ ตามป้ายที่เขียนว่า Triumphal Arch ได้เลย ระหว่างทางจะมีภาพเกี่ยวกับการฉลองชัยชนะ

เมื่อโผล่ขึ้นมา เราก็จะพบว่า เรามาอยู่ตรงกลางถนน Kutuzovsky Prospekt ที่บริเวณ Ploschad Pobedy หรือ Victory Square ประตูชัยนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองชัยชนะแก่กองทัพรัสเซียปกป้องมาตุภูมิจากกองทัพนโปเลียน ซึ่งเดิมสร้างขึ้นด้วยไม้เมื่อปี ค.ศ.1814 บริเวณ Tverskaya Zastava ก่อนจะปรับเปลี่ยนมาเป็นหินอย่างที่เห็นในปัจจุบันใน 12 ปีให้หลัง

ไม่ไกลกันจะมองไปเห็นลานโล่งกว้างของ Park Pobedy (Парк Победы) แต่เราต้องมุดใต้ดินกลับไปใหม่ เพื่อข้ามถนนไป เมื่อไปโผล่ด้านบนบริเวณนี้คือ Victory Park เป็นเนินเขาสูงของมอสโคว์ที่เรียกว่า Poklonnaya Gora (Покло́нная гора́) ด้านซ้ายจะเจอนาฬิกาดอกไม้ขนาดใหญ่ที่สดของโลก หน้าปัทม์กว้าง 10 เมตร บอกเวลาท้องถิ่น ตรงนี้จะมีสิ่งก่อสร้างหลายอย่าง แต่ละอย่างมีความหมายเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่สอง

สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงวีรกรรมของทหารโซเวียตในโอกาสครบรอบ 50 ปีของสงครามโลกครั้งที่สอง ด้านขวาเป็นน้ำพุเรียงแถวอยู่ด้านหน้าของ Monument Petry Velikomu (Monument to Peter the Great) หรือ Victory Monument และ Central Museum of the Great Patriotic War ตอนกลางคืนตรงน้ำพุจะเปิดไฟสีแดง เป็นสัญลักษณ์ของเลือดที่หลั่งไหลในช่วงสงคราม

มีเสาหิน obelisk สูง 141.8 เมตร ตั้งเด่นสูงอยู่ด้านหน้าความสูงของเสาแสดงถึงจำนวน 1,418 วัน 1,418 คืนในช่วงสงครามอันยาวนาน

ที่ฐานของเสามีรูปปั้น Saint George Slaying the Dragon สังหารมังกรบนแท่นหินแกรนิต สไตล์โหดสลัดรัสเซียคือฟันคอขาดเป็นท่อนๆ ด้านบนเป็นเทพไนกี้ เทพแห่งชัยชนะ ตัวพื้นเสาเป็นภาพสลักเล่าเรื่องราวของสงคราม

ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่บนเนินเขา Poklonnaya ดังนั้น เมื่อยืนที่ลานกว้างแห่งนี้สามารถมองวิวได้โดยรอบ และยังเห็นไกลไปถึง Moscow International Business Center เลยทีเดียว


ในบริเวณนี้ยังมีศาสนสถานอีกด้วย นั่นคือ วิหารเซนต์จอร์จ (St. George Church) ซึ่งเป็นโบสถ์ออร์โธดอกซ์แห่งเดียวบนเนินเขา Poklonnaya Gora แห่งนี้ โบสถ์แห่งนี้เป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบรัสเซียยุคเก่าและยุคใหม่เข้าด้วยกัน สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกสำหรับวีรบุรุษและเหยื่อจากสงคราม Patriotic ระหว่างปี ค.ศ.1941-1945


เนื่องจากมีสวนหย่อมเล็กๆ ให้นั่งพักผ่อนหย่อนใจได้ มีร้านขายอาหารว่าง และมีบริการให้เช่าจักรยานด้วย เราจึงเดินเล่นชมบรรยากาศบริเวณนี้กันสักพัก เห็นว่าใช้เวลากันนาน แดดก็เริ่มแรงก็เลยเดินทางกลับออกมา


เหลือบตาดูนาฬิกาเห็นว่าใกล้เที่ยงแล้ว จากสถานี Park Pobedy เลยจะแวะลงสถานี Smolenskaya (Смоленская) ลองเปลี่ยนบรรยากาศดูว่าแถวสถานีนี้มีอะไรให้เป็นอาหารกลางวันได้บ้าง

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

ขาลงสู่สถานี Park Pobedy

เมื่อมาถึงสถานี Smolenskaya เราก็อดไม่ได้ที่จะขอแวะเก็บภาพสถานีอีกเป็นการทิ้งทวน สถานีนี้อลังการด้วยเสาที่ทำด้วยหินอ่อนสีขาว เดิมเป็นสถานีที่ลึกที่สุดของสายสีน้ำเงินเข้มนี้ แต่พอสถานี Park Pobedy เปิดใช้งาน สถานีนี้ก็เลยตกอันดับไป ความลึกของสถานี 50 เมตร หรือ 160 ฟุต ลึกไม่ใช่น้อยเลย


ความสนุกในการมาเที่ยวมอสโคว์ แค่เดินทางเก็บภาพสถานีรถไฟใต้ดินก็เป็นเรื่องสนุกแล้วจริงๆ แต่ละแห่งมีเอกลักษณ์ของตัวเอง ไม่แค่ศิลปะการตกแต่งตามผนังที่น่าสนใจ การใช้วัสดุชั้นดี ราวการสร้างงานสถาปัตยกรรมชั้นยอด ยังมี Chandelier (โคมระย้า) ของแต่ละสถานีที่สวยงาม และไม่เหมือนกันเลยสักที่ ไม่รู้จะอลังการไปไหน ต้องเสียเวลากับแต่ละสถานีแบบนี้ทุกที


เมื่อบันทึกภาพสถานีกันเสร็จ ปรากฏว่า พอก้าวเท้าออกจากสถานีเห็นร้านบริการตัวเอง My My อยู่หน้าสถานีเลย เช่นนั้นจะรออะไร

เพี้ยนกิน
ชื่อสินค้า:   ประเทศรัสเซีย
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่