จริงๆ เปลี่ยนไปตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว ที่ตั้งกระทู้เรื่องเบรคติดแล้วล่ะ แล้วก็พาไปเที่ยวดอยทางเหนือ พาไปวิ่งเล่นนครศรี เบ็ดเสร็จร่วม 5 พันกม.ละ เบรคเข้าที่ เข้าทางเรียบร้อย เลยขอจับอาการมาฝากกันครับ
ผ้าเบรคเดิม เป็น Dixcel TYPE X ซึ่งใช้งานมา 70,000 กม. จนเหลือสภาพเท่านี้
รถที่ใส่
-- ผมใส่เหมือนกันทั้ง 2 คัน คือ จาน Dixcel Type SD หน้า / หลัง, ผ้าเบรค Dixcel Type M หน้า / หลัง
1. HONDA CR-V G3 2.0
2. NISSAN PULSAR DIG TURBO
นิสัยผ้าเบรค
-- สำหรับ CRV .. ใส่มาทีแรก ต้องปรับตัวระดับหนึ่งครับ แบบขับแล้วต้องบอกตัวเองว่า "ไม่ใช่ X นะเฟ้ย" คือ ต้องบอกว่า X เนี่ย เป็นอะไรที่ประทับใจมาก เบรคไวมาก ระยะฟรีแทบไม่มี สะกิดแป้นเป็นจับ แล้วจับตามน้ำหนักเท้าแบบเต็มๆ จะเบา จะหนัก ยังไง ตามเท้าตลอด แถมทนต่อการเฟดมากมาย
-- แซงยาวๆมา 160 - 170 มีรถออกจากซอยข้างหน้ามากระทันหัน ต้องหักหลบเข้าซ้าย และลดความเร็วเหลือเท่าคันหน้า ที่วิ่งแค่ 80 กม./ช.ม. มันเอาอยู่ครับ ลงแบบมีแรงกระชากมหาศาล ดูดรถลงทั้งคัน แบบไม่ต้องลุ้นครับ และแน่นอนว่า ถ้าคนที่ไม่เคยขับรถคันนี้ มาขับ ก็จะบ่นว่า "รถบ้าอะไร เบรคแล้วหัวทิ่ม คันหลังจะชนท้ายเอา"
-- ทีนี้ พอมาเป็น M อันนี้ อาการจะเหมือนกันทั้ง 2 คัน คือ
1. ระยะฟรี ช่วงแรก .. สำหรับเตรียมเบรค เอาเท้าวางได้ เพื่อเตรียมเบรค
2. เริ่มจับ ... จับแบบนุ่มนวล นุ่มๆ ยังไม่รุนแรง สำหรับการเบรคแบบปกติในชีวิตประจำวัน
3. ดึง ดูด ... จากสเต็ปสอง เน้นเท้าลงไปอีกนิด .. อ่าาาา Dixcel ผมมาแล้ว จะเอาหนัก เอาเบา เท่าไหร่ บอกมัน มันจัดให้ตามนั้น แรงดึงดี แรงดูดดี แม้จะไม่แรงเท่าตอนใช้ X แต่ก็เหลือๆ และดีกว่าอีกหลายค่ายที่ผ่านเท้ามา
- EBC Yellow .. มีระยะฟรี ช่วงแรกเหมือนกัน แต่จะน้อยกว่า แล้วก็มาสเต็ป 2 + 3 คือ เริ่มจับ และ ดูด แต่เจ้านี่ จะมาแบบนุ่มๆ หลายครั้งก็แอบลุ้นว่า เฮ้ยๆๆๆ อยู่ป่าว แต่มันก็อยู่ (เหมือนแรงดึง ยังไม่มากเท่า แต่มันก็อยู่แหละ)
- Project mu NS .. อันนี้ใส่ใน CRV G4 2.4 .. เจ้านี่ มีสเต็ปเดียว กดแล้วเหมือนเหยียบบนโฟมหนาๆแน่นๆ มันไม่นุ่ม มันไม่ดูด แต่มันก็อยู่ พูดอีกที เจ้านี่ จะคล้าย Nsport mu spec แต่ไม่มีระยะฟรี (CRV G4 ที่บริษัท คันนึงใส่ mu spec อีกคันใส่ project mu ได้ขับทั้งสองคันครับ) แต่จับดีกว่า แน่นกว่า
แถมให้รูปนึง อันนี้ project mu NS ผ่านการใช้งานมาประมาณ 6 หมื่นกม. เรื่องบางผมเฉยๆ แต่แปลกใจ ตรงมันร้าวนี่แหละ ซึ่งเท่าที่ทราบ เจ้าของรถไม่เคยเอาไปไต่เขา ไต่ดอยแบบผมด้วยนะ แต่ขับเร็ว เท้าหนัก ครับ(เจ้าของรถ เค้าเปลี่ยนใหม่ ก็สั่งตัวเดิมนะ .. แฟนใคร แฟนมัน)
คุย Dixcel ดีๆ ไป Project mu ซะงั้น
-- ในการใช้งานจริง ต้องบอกว่า เหลือเฟือแหละ สำหรับคนขับเท้าหนัก ขับเร็วบ้าง เบรคแรงบ้าง มันเอาอยู่สบายๆ แรงดึงตอนเบรคกระทันหันเหลือๆ ขับมา 5 พันกม. เบรคกระทันหันอยู่ 2 - 3 ครั้ง ยังไม่รู้สึกว่า น่ากลัว หรือ เอาไม่อยู่ครับ เพียงแต่ ก็ต้องรู้ limit มันว่า คงไปเล่นแบบสมัยก่อน ซัด 160 - 170 แล้วกระทืบทีเดียว ลงมาเหลือ 80 แบบจ่อๆคันหน้าไม่ได้ละ (ถึงจะเป็น M แต่ยังไง ลองแล้วลองอีก ก็ชอบมากกว่า project mu NS นะ)
-- สำหรับ Pulsar .. แปลกนะ ขนาดจานของ CRV กับ Pulsar ใกล้เคียงกันคือ 300 มม. กับ 290 มม. กับน้ำหนักรถที่ห่างกัน 300 ก.ก. แต่ฟิลลิ่งเบรคต่างกันมาก หรือเพราะ หม้อลมเบรค CRV มันใหญ่กว่าก็ไม่รู้สิ ..
-- นิสัยผ้าเนี่ย เหมือนกัน แต่ Pulsar ต้องออกแรงมากกว่าพอสมควรครับ อาการดึง อาการดูดมันน้อยกว่า อาศัยว่า Pulsar มันมาจากผ้าเบรคศูนย์ไง ยังไงเจ้านี่ก็ดีกว่า เลยไม่รู้สึกอะไร เพราะพอสลับมาขับ Pulsar ก็จะบอกตัวเองว่า "มันก็ได้แค่นี้แหละ" ยกเว้นมานั่งคิดแบบข้างบนแหละ จานก็พอกัน ตัวก็เบากว่า ทำไมเบรคมันไม่ได้ดั่งใจหว่า (โทษเบรครถนะ ไม่ได้โทษผ้าเบรค เพราะผ้าเบรค ใส่อีกคันแล้วมันดี)
ฝุ่นเบรค
-- ถ้าให้เป็นคะแนน
EBC Yellow = 100 ดำมาก
Dixcel X = 90 ดำน้อยกว่านี้ดเดียวว
Project mu NS = 85 น้อยกว่า X นี้ดนึง
Dixcel M = 30 ... เพราะ ฝุ่นมันเป็นสีเทา กลืนกับล้อ และ ที่สังเกต อย่างทริปขึ้นเหนือ ไต่เขา ปีนเขา ใช้เบรคเยอะ หลังใช้งาน เอานิ้วรูดล้อ ก็มีฝุ่นค่อนข้างน้อยครับ เรียกว่า ระดับเดียวกับผ้าเบรคศูนย์เลยล่ะ
การสึกหรอของจาน
-- อีกจุดเด่นของเค้าแหละ อันนี้ สังเกตจากใน pulsar เพราะ CRV ตอนเปลี่ยนผ้า ผมไม่ได้เจียร์จาน ของเดิม เจ้า X ไม่ต้องห่วง กินกระจุยแหละ .. ใน pulsar ผ่านการใช้งานมา 1.5 หมื่นกม. ระยะเวลา 1 ปี 6 เดือน จานแทบไม่สึก แทบไม่มีรอยครับ อันนี้ถือว่า เยี่ยม กินน้อยพอๆกับ Nsport mu spec / project mu NS ครับ
-- ส่วน EBC Yellow ไม่ต้องห่วงครับ มันกินจานติดรถ จนบางหมดไซส์ ภายใน 5 หมื่นกม. (ไม่เคยเจียร์นะ)
สนนราคา
-- 4 ล้อ แถวๆ 13,000 บาท ครับ
คร่าวๆก็ประมาณนี้ เผื่อเป็นข้อมูลในการเลือกผ้าเบรคแล้วกันครับ อ้อ และ ถ้าเทียบกับ ES ที่ราคาเบากว่านิดนึง ผมเชียร์ M นะครับ ES ผมเคยใช้ใน Mazda 2 DE ผมชอบ M มากกว่า มันนุ่มกว่า ดูดกว่า ฝุ่นน้อยกว่า ล้อไม่ดำด้วยครับ
[CR] * * * รีวิว ผ้าเบรค Dixcel Type M * * *
ผ้าเบรคเดิม เป็น Dixcel TYPE X ซึ่งใช้งานมา 70,000 กม. จนเหลือสภาพเท่านี้
รถที่ใส่
-- ผมใส่เหมือนกันทั้ง 2 คัน คือ จาน Dixcel Type SD หน้า / หลัง, ผ้าเบรค Dixcel Type M หน้า / หลัง
1. HONDA CR-V G3 2.0
2. NISSAN PULSAR DIG TURBO
นิสัยผ้าเบรค
-- สำหรับ CRV .. ใส่มาทีแรก ต้องปรับตัวระดับหนึ่งครับ แบบขับแล้วต้องบอกตัวเองว่า "ไม่ใช่ X นะเฟ้ย" คือ ต้องบอกว่า X เนี่ย เป็นอะไรที่ประทับใจมาก เบรคไวมาก ระยะฟรีแทบไม่มี สะกิดแป้นเป็นจับ แล้วจับตามน้ำหนักเท้าแบบเต็มๆ จะเบา จะหนัก ยังไง ตามเท้าตลอด แถมทนต่อการเฟดมากมาย
-- แซงยาวๆมา 160 - 170 มีรถออกจากซอยข้างหน้ามากระทันหัน ต้องหักหลบเข้าซ้าย และลดความเร็วเหลือเท่าคันหน้า ที่วิ่งแค่ 80 กม./ช.ม. มันเอาอยู่ครับ ลงแบบมีแรงกระชากมหาศาล ดูดรถลงทั้งคัน แบบไม่ต้องลุ้นครับ และแน่นอนว่า ถ้าคนที่ไม่เคยขับรถคันนี้ มาขับ ก็จะบ่นว่า "รถบ้าอะไร เบรคแล้วหัวทิ่ม คันหลังจะชนท้ายเอา"
-- ทีนี้ พอมาเป็น M อันนี้ อาการจะเหมือนกันทั้ง 2 คัน คือ
1. ระยะฟรี ช่วงแรก .. สำหรับเตรียมเบรค เอาเท้าวางได้ เพื่อเตรียมเบรค
2. เริ่มจับ ... จับแบบนุ่มนวล นุ่มๆ ยังไม่รุนแรง สำหรับการเบรคแบบปกติในชีวิตประจำวัน
3. ดึง ดูด ... จากสเต็ปสอง เน้นเท้าลงไปอีกนิด .. อ่าาาา Dixcel ผมมาแล้ว จะเอาหนัก เอาเบา เท่าไหร่ บอกมัน มันจัดให้ตามนั้น แรงดึงดี แรงดูดดี แม้จะไม่แรงเท่าตอนใช้ X แต่ก็เหลือๆ และดีกว่าอีกหลายค่ายที่ผ่านเท้ามา
- EBC Yellow .. มีระยะฟรี ช่วงแรกเหมือนกัน แต่จะน้อยกว่า แล้วก็มาสเต็ป 2 + 3 คือ เริ่มจับ และ ดูด แต่เจ้านี่ จะมาแบบนุ่มๆ หลายครั้งก็แอบลุ้นว่า เฮ้ยๆๆๆ อยู่ป่าว แต่มันก็อยู่ (เหมือนแรงดึง ยังไม่มากเท่า แต่มันก็อยู่แหละ)
- Project mu NS .. อันนี้ใส่ใน CRV G4 2.4 .. เจ้านี่ มีสเต็ปเดียว กดแล้วเหมือนเหยียบบนโฟมหนาๆแน่นๆ มันไม่นุ่ม มันไม่ดูด แต่มันก็อยู่ พูดอีกที เจ้านี่ จะคล้าย Nsport mu spec แต่ไม่มีระยะฟรี (CRV G4 ที่บริษัท คันนึงใส่ mu spec อีกคันใส่ project mu ได้ขับทั้งสองคันครับ) แต่จับดีกว่า แน่นกว่า
แถมให้รูปนึง อันนี้ project mu NS ผ่านการใช้งานมาประมาณ 6 หมื่นกม. เรื่องบางผมเฉยๆ แต่แปลกใจ ตรงมันร้าวนี่แหละ ซึ่งเท่าที่ทราบ เจ้าของรถไม่เคยเอาไปไต่เขา ไต่ดอยแบบผมด้วยนะ แต่ขับเร็ว เท้าหนัก ครับ(เจ้าของรถ เค้าเปลี่ยนใหม่ ก็สั่งตัวเดิมนะ .. แฟนใคร แฟนมัน)
คุย Dixcel ดีๆ ไป Project mu ซะงั้น
-- ในการใช้งานจริง ต้องบอกว่า เหลือเฟือแหละ สำหรับคนขับเท้าหนัก ขับเร็วบ้าง เบรคแรงบ้าง มันเอาอยู่สบายๆ แรงดึงตอนเบรคกระทันหันเหลือๆ ขับมา 5 พันกม. เบรคกระทันหันอยู่ 2 - 3 ครั้ง ยังไม่รู้สึกว่า น่ากลัว หรือ เอาไม่อยู่ครับ เพียงแต่ ก็ต้องรู้ limit มันว่า คงไปเล่นแบบสมัยก่อน ซัด 160 - 170 แล้วกระทืบทีเดียว ลงมาเหลือ 80 แบบจ่อๆคันหน้าไม่ได้ละ (ถึงจะเป็น M แต่ยังไง ลองแล้วลองอีก ก็ชอบมากกว่า project mu NS นะ)
-- สำหรับ Pulsar .. แปลกนะ ขนาดจานของ CRV กับ Pulsar ใกล้เคียงกันคือ 300 มม. กับ 290 มม. กับน้ำหนักรถที่ห่างกัน 300 ก.ก. แต่ฟิลลิ่งเบรคต่างกันมาก หรือเพราะ หม้อลมเบรค CRV มันใหญ่กว่าก็ไม่รู้สิ ..
-- นิสัยผ้าเนี่ย เหมือนกัน แต่ Pulsar ต้องออกแรงมากกว่าพอสมควรครับ อาการดึง อาการดูดมันน้อยกว่า อาศัยว่า Pulsar มันมาจากผ้าเบรคศูนย์ไง ยังไงเจ้านี่ก็ดีกว่า เลยไม่รู้สึกอะไร เพราะพอสลับมาขับ Pulsar ก็จะบอกตัวเองว่า "มันก็ได้แค่นี้แหละ" ยกเว้นมานั่งคิดแบบข้างบนแหละ จานก็พอกัน ตัวก็เบากว่า ทำไมเบรคมันไม่ได้ดั่งใจหว่า (โทษเบรครถนะ ไม่ได้โทษผ้าเบรค เพราะผ้าเบรค ใส่อีกคันแล้วมันดี)
ฝุ่นเบรค
-- ถ้าให้เป็นคะแนน
EBC Yellow = 100 ดำมาก
Dixcel X = 90 ดำน้อยกว่านี้ดเดียวว
Project mu NS = 85 น้อยกว่า X นี้ดนึง
Dixcel M = 30 ... เพราะ ฝุ่นมันเป็นสีเทา กลืนกับล้อ และ ที่สังเกต อย่างทริปขึ้นเหนือ ไต่เขา ปีนเขา ใช้เบรคเยอะ หลังใช้งาน เอานิ้วรูดล้อ ก็มีฝุ่นค่อนข้างน้อยครับ เรียกว่า ระดับเดียวกับผ้าเบรคศูนย์เลยล่ะ
การสึกหรอของจาน
-- อีกจุดเด่นของเค้าแหละ อันนี้ สังเกตจากใน pulsar เพราะ CRV ตอนเปลี่ยนผ้า ผมไม่ได้เจียร์จาน ของเดิม เจ้า X ไม่ต้องห่วง กินกระจุยแหละ .. ใน pulsar ผ่านการใช้งานมา 1.5 หมื่นกม. ระยะเวลา 1 ปี 6 เดือน จานแทบไม่สึก แทบไม่มีรอยครับ อันนี้ถือว่า เยี่ยม กินน้อยพอๆกับ Nsport mu spec / project mu NS ครับ
-- ส่วน EBC Yellow ไม่ต้องห่วงครับ มันกินจานติดรถ จนบางหมดไซส์ ภายใน 5 หมื่นกม. (ไม่เคยเจียร์นะ)
สนนราคา
-- 4 ล้อ แถวๆ 13,000 บาท ครับ
คร่าวๆก็ประมาณนี้ เผื่อเป็นข้อมูลในการเลือกผ้าเบรคแล้วกันครับ อ้อ และ ถ้าเทียบกับ ES ที่ราคาเบากว่านิดนึง ผมเชียร์ M นะครับ ES ผมเคยใช้ใน Mazda 2 DE ผมชอบ M มากกว่า มันนุ่มกว่า ดูดกว่า ฝุ่นน้อยกว่า ล้อไม่ดำด้วยครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้