สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมาแชร์ประสบการณ์หลังจากอัพเกรดชุดเบรคจาก 1 พอตเป็น 2 พอตนะครับ ว่ามันจะเบรคดีขึ้นไหม และถ้าดีขึ้นดีขึ้นยังไงบ้าง รวมถึงข้อดีเทียบกับข้อเสียหรือข้อจำกัดหลังจากที่เราเปลี่ยนชุดเบรคเป็น 2 พอร์ตครับ
ข้อมูลเกี่ยวกับรถ
1. ยี่ห้อ/รุ่น Toyota Corolla Altis 2004
2. เครื่องยนต์ 2ZZ-GE 1.8 เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ตามสเปค 190 แรงม้า
3. ชุดเบรคเดิม Corolla RunX ญี่ปุ่น 1 พอตใหญ่ (ตรงรุ่น) <--- อัพตัวนี้เป็น 2 พอต
เบรคเดิมที่ผมใช้อยู่ก็ไม่ใช่เบรคเดิมติดรถ Altis แต่มีการอัพมาครั้งนึงก่อนหน้านี้แล้ว พร้อมตอนวางเครื่อง 2ZZ ครับ ซึ่งตัวปั๊มเบรคเดิมนั้นเป็นตัวเดียวกับ Celica 1 พอต เจ็นที่เป็นเครื่อง 2ZZ แต่เท่าที่ถามเพื่อนถ้ายกชุดของ Celica มาดุมล้อจะต่างกัน แต่ถ้ายกมาจาก RunX ดุมจะตรงรุ่น Altis โฉมหน้าหมู (2003-2007) บ้านเราเลยครับ
ส่วนเบรค 2 พอตที่ยมเอามาใส่เป็นของรถ Toyota Caldina ST215 ซึ่งเป็นรถที่หนัก 1440 กก. ใช้เครื่อง 3S-GTE (ตามสเปค 260 แรงม้า) เทียบกับรถผมหนักราวๆ 1300 กก. กับความแรงตามสเปค 190 แรงม้า น่าจะเอาอยู่ได้สบายครับ เท่าที่ทราบยังมีเบรคของ Levin อีกตัวที่เป็นเบรคแบบ 2 พอต แต่ขนาดจาน ขนาดปั๊ม และขนาดผ้าเบรคเล็กกว่าของ Caldina เล็กน้อย ประสิทธิภาพการเบรคก็ด้อยกว่ากันนิดหน่อยครับ
ก่อนใส่รถก็เอาเบรคทั้งชุดมาลองชั่ง เปรียบเทียบน้ำหนักเล่นๆครับ (จานเบรคผ่านการใช้งานมาแล้ว อาจคลาดเคลื่อนจากของใหม่นิดหน่อยนะครับ)..
- RunX Disk = 5.8 กก.
- RunX Caliper = 0.8 กก. (เบาไปไหมอะ กิโลเพี้ยนรึเปล่า)
- Caldina Disk = 4.9 กก. (จาน 2 พอต เบากว่า 1 พอต ตั้งกิโลนึง!)
- Caldina Caliper = 5.4 กก.
ประสิทธิภาพหลังการใช้งาน
ผมใช้ผ้าเบรครุ่นเดียวกันทั้งชุดเบรคเก่าและใหม่ นั่นคือ Advics Premium (Made in Japan) ตัวกล่องสีน้ำเงินนะครับ จะได้ไม่มีแต้มต่อเรื่องผ้าเบรค แต่เป็นการรีวิวสมรรถนะเบรคเปรียบเทียบระหว่างชุดเบรค 1 พอตกับ 2 พอต จริงๆ
1.
Initial Bite - ฟีลลิ่งหลังจากแตะเบรค เบรค 2 พอต จะชะลอเบรคทันทีแบบนุ่มนวล มีดีเลย์หลังการแตะน้อยลง เทียบกับตอนที่ใช้เบรค 1 พอต มันจะมีความทื่อๆ ดีเลย์ๆเล็กน้อย ก่อนจะชะลอเบรคได้เต็มที่ ก็คือ หลังแตะเบรค มันจะชะลอน้อยในจังหวะแรก แล้วค่อยๆชะลอมากขึ้นทีละนิดๆครับ
2.
Friction Level - การดลความเร็วโดยรวมถือว่าดีถึงดีมากสำหรับการขับขี่ทั่วไปจนถึงขับขี่แบบเร่งรีบแบบระมัดระวังครับ กระทืบแบรคแล้วชะลอความเร็วได้ดีและเร็ว แถมอาการหน้าทิ่มก็ลดลง เทียบกับตอนที่ใช้พอตเดียว ถ้าเบรคเต็มแรงยังพอมีอาการไถลอยู่ มีอาการหน้าทิ่มมากกว่านี้ และหากขับแบบเร่งรีบแล้วมีการเบรคแบบฉุกเฉิน จะต้องลุ้นแทบทุกครั้งครับ
3.
Fade Resistance - เท่าที่ลองใช้งานมาน่าจะเกือบๆพัน กม. ทั้งขับในเมือง และขับกลับบ้าน ตจว ไกล้ๆ กทม. ผมยังไม่เจออาการเฟดหลังจากใช้เบรค 2 พอตแบบที่ออกอาการชัดเจนเลยครับ ใช้ความเร็วไม่เกินกฎหมาย เร่งๆเบรคๆตามการจราจรก็ไม่มีอาการเฟดให้ผมจับได้ หรือมีก็น้อยจนมันยังไม่ชัด ขับออก ตจว ใช้ความเร็วแล้วเบรคแรงๆก็ไม่มีอาการเฟดแบบรู้สึกชัดเช่นกัน ต่างจากตัวพอตเดียว ที่ถ้าใช้ความเร็วตามกฎหมายแล้วต้องเบรคฉุกเฉินแรงๆ มักจะลื่นจะเฟดจะไถลไปข้างหน้าแบบต้องภาวนาช่วยเลยครับ เพราะงั้นตอนผมใช้เบรคพอตเดียว กับผ้าเบรคเกรด oem ผมจะพยายามขับเว้นระยะและเผื่อจังหวะฉุกเฉินพอประมาณเลยครับ แต่พอเป็นเบรค 2 พอต กับผ้าเบรคยี่ห้อเดียวกัน มันเอาอยู่แทบจะครอบคลุมการขับขี่ของผมทั้งหมดเลย
4.
Lower Noise - ทั้งเบรค 1 และ 2 พอร์ต ที่ใช้ผ้าเบรค Advics นั้นแทบจะไม่มีเสียงรบกวนเลย เทียบกับผ้าเบรคเกรดซิ่งๆครับ ผมเคยใช้ผ้าเบรคซิ่งยี่ห้อหนึ่ง ผ้ามันแข็ง หากใช้งานใหม่ๆผ้าเบรคยังเย็น เวลาขับออกจากลานจอดรถมันจะดังเพราะสีกับจานเบรคเป็นรอบๆ แต่ถ้าเบรคจนผ้าเบรคอุ่นขึ้นนิดนึงก็จะหายดัง และเสียงตอนที่กดเบรคก็ไม่ดังนะครับ แปลกดี ส่วนของ Advics นี้ เงียบทั้งตอนเย็นและตอนอุ่นเลยครับ
5.
Lower Dust - เท่าที่ใช้มา เบรค 2 พอร์ต ฝุ่นก็ไม่ได้เยอะกว่า 1 พอร์ตสักเท่าไรครับ จำได้ว่าตอนใช้ 1 พอตกับผ้าเบรคซิ่ง เยอะกว่านี้มาก ขับรถ 2-3 ครั้งล้อก็เริ่มดำแล้ว
6.
Long Life - เพิ่งลองใช้ได้ไม่นานอาจจะยังสรุปอายุการใช้งานไม่ได้ครับ แต่ปกติ Advics ตัวนี้ อายุการใช้งานก็ค่อนข้างนานกว่าผ้าเบรคซิ่ง อย่างน้อยก็เท่าตัวครับ (ผมเคยใช้ Advics ได้ 4 หมื่นโล ในขณะที่ผ้าเบรคซิ่งใช้ได้ 1.7 หมื่นโล) และหวังว่าเบค 2 พอต น่าจะมีอายุการใช้งานที่นานกว่าพอตเดียวครับ
7.
ข้อจำกัดและปัญหาที่เจอ
- มีความรู้สึกว่ารถหน้าดื้อขึ้นนิดๆตอนจะเลี้ยว ไม่คล่องแคล่วว่องไวเหมือนเบรคเดิม ทั้งๆที่หนักกว่ากันแค่ 3-4 โล
- พวงมาลัยสั่นที่ความเร็ว 140 ขึ้นไป ไม่แน่ใจว่าเพราะจานเดิมเป็นแบบ 5 รู แล้วต้องเอามาเจาะรูเพิ่มเพื่อให้ใส่กับล้อ 4 รู ทำให้น้ำหนักวงจานมันไม่สมดุลย์เลยมีอาการสั่นหรือเปล่า เดี๋ยวจะลองไปถ่วงล้อใหม่ เผื่ออาการจะดีขึ้นครับ
- จานตรงรุ่นเป็น 5 รู ต้องเจาะรูเพื่อใส่กับกับดุมล้อ 4 รู ของรถเสมอ
- ผ้าเบรคมีให้เลือกหลายยี่ห้อ แต่ไม่หลากหลายเท่ารถตลาดแบบ Altis Civic อาจต้องค่อยๆไล่หากว่าจะเจอผ้าที่ยี่ห้อ/รุ่นเดียวกันทั้งหน้าและหลัง
- ราคาผ้าเบรคและจานเบรค น่าจะแพงกว่า Altis เดิมๆอยู่นิดหน่อยครับ
สรุปผลการใช้งาน
จากการใช้งานมาประมาณพันกว่า กม. ขับทั้งในเมือง นอกเมือง เจอทั้งรถเยอะๆและทางโล่งๆ ประสิทธิภาพในการโดยรวมถือว่าดีขึ้นมากครับ และรู้สึกเพียงพอไปจนถึงเกินพอเลยด้วยซ้ำ (ถ้าไม่ได้ทำรถเพิ่มให้แรงไปกว่านี้นะครับ) ส่วนปัญหาที่เจอมีข้อเดียวตอนนี้ คือมีอาการพวงมาลัยสั่นที่ความเร็วเกิน 140 ขึ้นไปครับ
สรุปอีกที History การใช้เบรคมาทั้งหมด
1. เบรคเดิม Altis + ผ้าเบรค เกรด OEM = ลดความเร็วโอเคแบบสแตนดาร์ด ขับสุภาพ เว้นระยะห่าง ขับเร็วได้แต่ต้องเว้นระยะมากๆ เฟดง่าย ไถลไกล
2. อัพเบรค RunX (พอตใหญ่ขึ้น) + ผ้าเดิมติดเบรค = เบรคดีขึ้นนิดหน่อยแบบพอรู้สึกได้ เพราะผ้าแข็งแล้ว เบรคนุ่มขึ้น หัวทิ่มลดลง แต่ยังไถลและเฟด
3. เบรค RunX + เปลี่ยนผ้าเบรค Advics = เบรคดีขึ้นกว่า (2) เบรคนุ่ม ทื่อ หัวทิ่มน้อยลง แต่มี delay (response ช้า) หลังกดเบรค ยังคงลื่นไถลและเฟด
4. เบรค RunX + ผ้าเบรค Nexzter MuSpec = เบรคดีขึ้นชัดมาก คม ไม่มีดีเลย์ แตะเบรคแล้วดูดติดเท้าเลย กระทืบแรงก็อยู่ แตะเบาก็ดูดดี แทบไม่ต้องกังวลเลยหากขับตามคันหน้าแล้วคันหน้าเบรคแรงๆ เราหยุดทันแน่นอน (แต่คันหน้าต้องใช้เบรคแสตนดาร์ดนะ) แต่ข้อเสีย ฝุ่นเยอะ กินจาน และเสียงดัง
5. เบรค Caldina 2 พอต + ผ้าเบรค Advics = ประสิทธิภาพการเบรคดีพอๆกับ (4) แต่ไม่คมเท่า (4) แต่ก็มี response ไว เบรคนุ่มกว่า หัวไม่ทิ่มเท่า เท่าใช้มายังสัมผัสไม่ได้ถึงความเฟดเลย โดยส่วนตัวขับรีบ ขับไว แต่ไม่ได้ขับโหดร้ายครับ ไม่มีเสียง ไม่กินจาน ฝุ่นน้อย และเดาว่าผ้าน่าจะใช้ได้นานครับ
คะแนนความถึงพอใจ - เบรค Caldina 2 พอต + ผ้าเบรค Advics:
ประสิทธิภาพเบรค: 7.5/10
เสียงรบกวนน้อย: 9/10
เกิดเขม่าฝุ่นน้อย: 7/10
อายุการใช้งานคุ้มค่า: -
ฝากติดตามผลงานที่เพจ Need For Slow ด้วยครับ:
https://www.facebook.com/Needforslow247/
[CR] รีวิวสามัญชน: อัพเบรคเป็น 2 พอต เบรคดีขึ้นจริงเหรอ?
ข้อมูลเกี่ยวกับรถ
1. ยี่ห้อ/รุ่น Toyota Corolla Altis 2004
2. เครื่องยนต์ 2ZZ-GE 1.8 เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ตามสเปค 190 แรงม้า
3. ชุดเบรคเดิม Corolla RunX ญี่ปุ่น 1 พอตใหญ่ (ตรงรุ่น) <--- อัพตัวนี้เป็น 2 พอต
เบรคเดิมที่ผมใช้อยู่ก็ไม่ใช่เบรคเดิมติดรถ Altis แต่มีการอัพมาครั้งนึงก่อนหน้านี้แล้ว พร้อมตอนวางเครื่อง 2ZZ ครับ ซึ่งตัวปั๊มเบรคเดิมนั้นเป็นตัวเดียวกับ Celica 1 พอต เจ็นที่เป็นเครื่อง 2ZZ แต่เท่าที่ถามเพื่อนถ้ายกชุดของ Celica มาดุมล้อจะต่างกัน แต่ถ้ายกมาจาก RunX ดุมจะตรงรุ่น Altis โฉมหน้าหมู (2003-2007) บ้านเราเลยครับ
ส่วนเบรค 2 พอตที่ยมเอามาใส่เป็นของรถ Toyota Caldina ST215 ซึ่งเป็นรถที่หนัก 1440 กก. ใช้เครื่อง 3S-GTE (ตามสเปค 260 แรงม้า) เทียบกับรถผมหนักราวๆ 1300 กก. กับความแรงตามสเปค 190 แรงม้า น่าจะเอาอยู่ได้สบายครับ เท่าที่ทราบยังมีเบรคของ Levin อีกตัวที่เป็นเบรคแบบ 2 พอต แต่ขนาดจาน ขนาดปั๊ม และขนาดผ้าเบรคเล็กกว่าของ Caldina เล็กน้อย ประสิทธิภาพการเบรคก็ด้อยกว่ากันนิดหน่อยครับ
ก่อนใส่รถก็เอาเบรคทั้งชุดมาลองชั่ง เปรียบเทียบน้ำหนักเล่นๆครับ (จานเบรคผ่านการใช้งานมาแล้ว อาจคลาดเคลื่อนจากของใหม่นิดหน่อยนะครับ)..
- RunX Disk = 5.8 กก.
- RunX Caliper = 0.8 กก. (เบาไปไหมอะ กิโลเพี้ยนรึเปล่า)
- Caldina Disk = 4.9 กก. (จาน 2 พอต เบากว่า 1 พอต ตั้งกิโลนึง!)
- Caldina Caliper = 5.4 กก.
ประสิทธิภาพหลังการใช้งาน
ผมใช้ผ้าเบรครุ่นเดียวกันทั้งชุดเบรคเก่าและใหม่ นั่นคือ Advics Premium (Made in Japan) ตัวกล่องสีน้ำเงินนะครับ จะได้ไม่มีแต้มต่อเรื่องผ้าเบรค แต่เป็นการรีวิวสมรรถนะเบรคเปรียบเทียบระหว่างชุดเบรค 1 พอตกับ 2 พอต จริงๆ
1. Initial Bite - ฟีลลิ่งหลังจากแตะเบรค เบรค 2 พอต จะชะลอเบรคทันทีแบบนุ่มนวล มีดีเลย์หลังการแตะน้อยลง เทียบกับตอนที่ใช้เบรค 1 พอต มันจะมีความทื่อๆ ดีเลย์ๆเล็กน้อย ก่อนจะชะลอเบรคได้เต็มที่ ก็คือ หลังแตะเบรค มันจะชะลอน้อยในจังหวะแรก แล้วค่อยๆชะลอมากขึ้นทีละนิดๆครับ
2. Friction Level - การดลความเร็วโดยรวมถือว่าดีถึงดีมากสำหรับการขับขี่ทั่วไปจนถึงขับขี่แบบเร่งรีบแบบระมัดระวังครับ กระทืบแบรคแล้วชะลอความเร็วได้ดีและเร็ว แถมอาการหน้าทิ่มก็ลดลง เทียบกับตอนที่ใช้พอตเดียว ถ้าเบรคเต็มแรงยังพอมีอาการไถลอยู่ มีอาการหน้าทิ่มมากกว่านี้ และหากขับแบบเร่งรีบแล้วมีการเบรคแบบฉุกเฉิน จะต้องลุ้นแทบทุกครั้งครับ
3. Fade Resistance - เท่าที่ลองใช้งานมาน่าจะเกือบๆพัน กม. ทั้งขับในเมือง และขับกลับบ้าน ตจว ไกล้ๆ กทม. ผมยังไม่เจออาการเฟดหลังจากใช้เบรค 2 พอตแบบที่ออกอาการชัดเจนเลยครับ ใช้ความเร็วไม่เกินกฎหมาย เร่งๆเบรคๆตามการจราจรก็ไม่มีอาการเฟดให้ผมจับได้ หรือมีก็น้อยจนมันยังไม่ชัด ขับออก ตจว ใช้ความเร็วแล้วเบรคแรงๆก็ไม่มีอาการเฟดแบบรู้สึกชัดเช่นกัน ต่างจากตัวพอตเดียว ที่ถ้าใช้ความเร็วตามกฎหมายแล้วต้องเบรคฉุกเฉินแรงๆ มักจะลื่นจะเฟดจะไถลไปข้างหน้าแบบต้องภาวนาช่วยเลยครับ เพราะงั้นตอนผมใช้เบรคพอตเดียว กับผ้าเบรคเกรด oem ผมจะพยายามขับเว้นระยะและเผื่อจังหวะฉุกเฉินพอประมาณเลยครับ แต่พอเป็นเบรค 2 พอต กับผ้าเบรคยี่ห้อเดียวกัน มันเอาอยู่แทบจะครอบคลุมการขับขี่ของผมทั้งหมดเลย
4. Lower Noise - ทั้งเบรค 1 และ 2 พอร์ต ที่ใช้ผ้าเบรค Advics นั้นแทบจะไม่มีเสียงรบกวนเลย เทียบกับผ้าเบรคเกรดซิ่งๆครับ ผมเคยใช้ผ้าเบรคซิ่งยี่ห้อหนึ่ง ผ้ามันแข็ง หากใช้งานใหม่ๆผ้าเบรคยังเย็น เวลาขับออกจากลานจอดรถมันจะดังเพราะสีกับจานเบรคเป็นรอบๆ แต่ถ้าเบรคจนผ้าเบรคอุ่นขึ้นนิดนึงก็จะหายดัง และเสียงตอนที่กดเบรคก็ไม่ดังนะครับ แปลกดี ส่วนของ Advics นี้ เงียบทั้งตอนเย็นและตอนอุ่นเลยครับ
5. Lower Dust - เท่าที่ใช้มา เบรค 2 พอร์ต ฝุ่นก็ไม่ได้เยอะกว่า 1 พอร์ตสักเท่าไรครับ จำได้ว่าตอนใช้ 1 พอตกับผ้าเบรคซิ่ง เยอะกว่านี้มาก ขับรถ 2-3 ครั้งล้อก็เริ่มดำแล้ว
6. Long Life - เพิ่งลองใช้ได้ไม่นานอาจจะยังสรุปอายุการใช้งานไม่ได้ครับ แต่ปกติ Advics ตัวนี้ อายุการใช้งานก็ค่อนข้างนานกว่าผ้าเบรคซิ่ง อย่างน้อยก็เท่าตัวครับ (ผมเคยใช้ Advics ได้ 4 หมื่นโล ในขณะที่ผ้าเบรคซิ่งใช้ได้ 1.7 หมื่นโล) และหวังว่าเบค 2 พอต น่าจะมีอายุการใช้งานที่นานกว่าพอตเดียวครับ
7. ข้อจำกัดและปัญหาที่เจอ
- มีความรู้สึกว่ารถหน้าดื้อขึ้นนิดๆตอนจะเลี้ยว ไม่คล่องแคล่วว่องไวเหมือนเบรคเดิม ทั้งๆที่หนักกว่ากันแค่ 3-4 โล
- พวงมาลัยสั่นที่ความเร็ว 140 ขึ้นไป ไม่แน่ใจว่าเพราะจานเดิมเป็นแบบ 5 รู แล้วต้องเอามาเจาะรูเพิ่มเพื่อให้ใส่กับล้อ 4 รู ทำให้น้ำหนักวงจานมันไม่สมดุลย์เลยมีอาการสั่นหรือเปล่า เดี๋ยวจะลองไปถ่วงล้อใหม่ เผื่ออาการจะดีขึ้นครับ
- จานตรงรุ่นเป็น 5 รู ต้องเจาะรูเพื่อใส่กับกับดุมล้อ 4 รู ของรถเสมอ
- ผ้าเบรคมีให้เลือกหลายยี่ห้อ แต่ไม่หลากหลายเท่ารถตลาดแบบ Altis Civic อาจต้องค่อยๆไล่หากว่าจะเจอผ้าที่ยี่ห้อ/รุ่นเดียวกันทั้งหน้าและหลัง
- ราคาผ้าเบรคและจานเบรค น่าจะแพงกว่า Altis เดิมๆอยู่นิดหน่อยครับ
สรุปผลการใช้งาน
จากการใช้งานมาประมาณพันกว่า กม. ขับทั้งในเมือง นอกเมือง เจอทั้งรถเยอะๆและทางโล่งๆ ประสิทธิภาพในการโดยรวมถือว่าดีขึ้นมากครับ และรู้สึกเพียงพอไปจนถึงเกินพอเลยด้วยซ้ำ (ถ้าไม่ได้ทำรถเพิ่มให้แรงไปกว่านี้นะครับ) ส่วนปัญหาที่เจอมีข้อเดียวตอนนี้ คือมีอาการพวงมาลัยสั่นที่ความเร็วเกิน 140 ขึ้นไปครับ
สรุปอีกที History การใช้เบรคมาทั้งหมด
1. เบรคเดิม Altis + ผ้าเบรค เกรด OEM = ลดความเร็วโอเคแบบสแตนดาร์ด ขับสุภาพ เว้นระยะห่าง ขับเร็วได้แต่ต้องเว้นระยะมากๆ เฟดง่าย ไถลไกล
2. อัพเบรค RunX (พอตใหญ่ขึ้น) + ผ้าเดิมติดเบรค = เบรคดีขึ้นนิดหน่อยแบบพอรู้สึกได้ เพราะผ้าแข็งแล้ว เบรคนุ่มขึ้น หัวทิ่มลดลง แต่ยังไถลและเฟด
3. เบรค RunX + เปลี่ยนผ้าเบรค Advics = เบรคดีขึ้นกว่า (2) เบรคนุ่ม ทื่อ หัวทิ่มน้อยลง แต่มี delay (response ช้า) หลังกดเบรค ยังคงลื่นไถลและเฟด
4. เบรค RunX + ผ้าเบรค Nexzter MuSpec = เบรคดีขึ้นชัดมาก คม ไม่มีดีเลย์ แตะเบรคแล้วดูดติดเท้าเลย กระทืบแรงก็อยู่ แตะเบาก็ดูดดี แทบไม่ต้องกังวลเลยหากขับตามคันหน้าแล้วคันหน้าเบรคแรงๆ เราหยุดทันแน่นอน (แต่คันหน้าต้องใช้เบรคแสตนดาร์ดนะ) แต่ข้อเสีย ฝุ่นเยอะ กินจาน และเสียงดัง
5. เบรค Caldina 2 พอต + ผ้าเบรค Advics = ประสิทธิภาพการเบรคดีพอๆกับ (4) แต่ไม่คมเท่า (4) แต่ก็มี response ไว เบรคนุ่มกว่า หัวไม่ทิ่มเท่า เท่าใช้มายังสัมผัสไม่ได้ถึงความเฟดเลย โดยส่วนตัวขับรีบ ขับไว แต่ไม่ได้ขับโหดร้ายครับ ไม่มีเสียง ไม่กินจาน ฝุ่นน้อย และเดาว่าผ้าน่าจะใช้ได้นานครับ
คะแนนความถึงพอใจ - เบรค Caldina 2 พอต + ผ้าเบรค Advics:
ประสิทธิภาพเบรค: 7.5/10
เสียงรบกวนน้อย: 9/10
เกิดเขม่าฝุ่นน้อย: 7/10
อายุการใช้งานคุ้มค่า: -
ฝากติดตามผลงานที่เพจ Need For Slow ด้วยครับ:
https://www.facebook.com/Needforslow247/
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้